ชี้เป้า 10 ประเทศสวย ไม่ต้องง้อวีซ่า ใช้พาสปอร์ตไทยใบเดียวก็เข้าไปเที่ยวได้แล้ว ซึ่งแต่ละประเทศก็เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามระดับโลก ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต
6. ประเทศปานามา
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
ภาพจาก SL-Photography / Shutterstock.com
ประเทศปานามา มีลักษณะภูมิประเทศที่น่าสนใจมาก ด้วยเป็นประเทศที่อยู่ตรงคอคอดปานามา ซึ่งถูกขนาบข้างด้วยทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิก ได้กลายมาเป็นประเทศที่มีความสำคัญทางด้านการค้า เพราะมีคลองปานามา ซึ่งตัดผ่านประเทศเพื่อให้เรือเดินสินค้าสามารถแล่นผ่านไปมาระหว่างทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิกได้โดยไม่ต้องไปอ้อมทางใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เที่ยวได้หลากหลายรสชาติจริง ๆ
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
- คลองปานามา (Panama Canal) คลองเดินเรือสมุทรความยาว 77 กิโลเมตร มีกิจกรรมให้ล่องเรือชมความสวยงามของธรรมชาติทั้งสองฝั่งคลอง
- เกาะ Coiba เกาะสวยมหาสมุทรแปซิฟิก งดงามด้วยหาดทรายและทะเลที่อุดมสมบูรณ์
- หมู่เกาะ San Blas ตั้งอยู่ทางทะเลแคริบเบียน ซึ่งมีหาดทรายขาวสะอาดตา น้ำทะเลเป็นสีฟ้าคริสตัลใส เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง
- The Biomuseo พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ธรรมชาติของปานามา และมีสถาปัตยกรรมอาคารสวยงามแปลกตา ซึ่งออกแบบโดยแฟรงก์ เกห์รี สถาปนิกชื่อดังของโลก
ที่เที่ยวปานามาที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Amador Causeway, Pearl Islands, Playa Las Lajas, Santa Catalina, Sendero Los Quetzales, Bocas Town, The F&F Tower, Iglesia del Carmen, Panama Viejo เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 180 วัน
7. ประเทศเปรู
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
ประเทศเปรู ดินแดนแห่งอาณาจักรอินคา ตั้งอยู่ทางตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ และถึงแม้ว่าความเจริญต่าง ๆ จะเข้ามายังเปรูมากขึ้น แต่ที่นี่ก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม สถานที่ท่องเที่ยวก็มีทั้ง หาดทรายขาวสะอาด ภูเขาสูงใหญ่ตระการตา เมืองเก่าแก่ เมืองโบราณ ไปจนถึงเมืองสุดทันสมัย เป็นประเทศที่จะทำให้ผู้มาเยือนได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนที่ไหนในโลกแน่นอน
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
- มาชูปิกชู (Machu Picchu) เมืองโบราณสุดยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอินคา ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสูงตระหง่าน ไม่สามารถมองเห็นได้จากพื้นดิน จนได้ฉายาว่าเมืองสาบสูญแห่งอินคา
- เมืองกุสโก (Cusco) เมืองมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเทือกเขาแอนดีส สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 3,300 เมตร
- เกาะอูรอส (Uros Islands) เกาะลอยน้ำที่สร้างขึ้นจากต้นกก ตั้งอยู่ในทะเลสาบติติกากา อันเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของชาว Uru-Chipaya, Uru-Murato และ Uru-Iruito
- เมืองลิมา (Lima) เมืองหลวง ที่สามารถผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว
- ลายเส้นนาสกา (Nasca Lines) ลายเส้นที่ถูกลากขึ้นบริเวณที่ราบรวมพื้นที่กว่า 450 ตารางกิโลเมตร มีรูปร่างต่าง ๆ อันเป็นปริศนาที่น่าพิศวง
ที่เที่ยวเปรูที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Trujillo, Mancora, Puno, Sacred Valley, Arequipa, Huacachina, Ballestas Islands, Sacsaywaman เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 90 วัน
8. ประเทศรัสเซีย
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
ประเทศรัสเซีย ประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมแบบโซเวียตและยุโรปเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างละมุนละไม มีหลากหลายเมืองที่น่าเที่ยวชม โดยเฉพาะเมืองมอสโก และเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากมาย และถ้าหากใครอยากชมแสงเหนือ ที่รัสเซียก็มีให้ชมได้เหมือนกัน ซึ่งสวยงามไม่แพ้กับทางฝั่งยุโรปเหนือเลยทีเดียว
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศรัสเซีย
- จัตุรัสแดง (Red Square) จุดที่มีงานสถาปัตยกรรมสวยงามตระการตา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำตาลแดง บริเวณนี้จึงถูกเรียกว่าจัตุรัสแดง
- มหาวิหารเซนต์บาซิล (Saint Basil\'s Cathedral) มหาวิหารรูปทรงโดม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะเหนือมองโกล ทั้งภายนอกและภายในตกแต่งประดับประดาอย่างละเมียดละไม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ไหนในโลก
- พระราชวังเปเตียร์กอฟ (Peterhof Palace) พระราชวังฤดูร้อนของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช งดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่หรูหรา รายล้อมไปด้วยสวนสวยสุดอลังการ
- พิพิธภัณฑ์แอร์มิทาช (The Hermitage) และพระราชวังฤดูหนาว เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผลงานศิลปะรวมแล้วกว่า 3 ล้านชิ้น และยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม หรูหรา อลังการ สมกับเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2
ที่เที่ยวรัสเซียที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Church of the Savior on Spilled Blood, GUM Department Store, Gorky Central Park of Culture and Leisure, St.Isaac’s Cathedral, Kremlin Palace, Alexandrovsky Garden, Catherine Palace, Trans-Siberian Railway, Lake Baikal, State Historical Museum เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
9. ประเทศแอฟริกาใต้
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
ประเทศแอฟริกาใต้ อีกหนึ่งประเทศที่มีเมืองหลวงสวยงามอย่างเคปทาวน์ ซึ่งติดอันดับเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอยู่ตลอด นอกจากนี้ก็ยังเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นป่าแบบซาฟารี หุบผาแบบแกรนด์แคนยอน ไร่องุ่นเพื่อการผลิตไวน์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ชายหาดยาวหลายกิโลเมตรริมฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ภูเขาสูงใหญ่รูปทรงสวยงามแปลกตา คุ้มค่าแก่การมาเยือนแน่นอน
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศแอฟริกาใต้
- อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ (Kruger National Park) อุทยานแบบซาฟารี ซึ่งมีทั้งป่าเขาและสัตว์ป่าที่หายากมากมาย โดยเฉพาะ Big Five สามารถขับรถเที่ยวชมเองได้
- ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) ภูเขาสูงใหญ่ด้านหลังเมืองเคปทาวน์ มีรูปทรงสวยเป็นเอกลักษณ์ ที่ด้านบนยอดเขาเป็นพื้นที่ราบเรียบ คล้ายกับโต๊ะ สูงราว ๆ 1,086 เมตร
- เมืองเคปทาวน์ เมืองหลวง ซึ่งตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลมหาสมุทรอินเดีย แหล่งศูนย์รวมความทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ บรรยากาศรอบเมืองสวยงามไปด้วยธรรมชาติ จึงได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอยู่บ่อยครั้ง
- ชายหาดเดอร์บัน (Durban Beaches) ชายหาดสีทองที่ทอดยาวไปกับมหาสมุทรอินเดีย บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาทำกิจกรรมชายทะเลต่าง ๆ
- เมืองโจฮันเนสเบิร์ก (Johannesburg) เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศแอฟริกาใต้ โดดเด่นด้วยความเป็นเมืองที่เงียบสงบ ร่มรื่น และเป็นเมืองที่มีหิมะตกด้วย
ที่เที่ยวแอฟริกาใต้ที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Knysna, Victoria and Alfred Waterfront, Cape Winelands, Blyde River Canyon, Drakensberg, The Garden Route, Stellenbosch, iSimangaliso Wetland Park เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
10. ประเทศตุรกี
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
ประเทศตุรกี ประเทศที่ได้ชื่อว่าสองทวีป เพราะมีพื้นที่อยู่ทั้งทางฝั่งทวีปเอเชียและยุโรป การไปเยือนตุรกีจึงเหมือนได้เที่ยวชมทั้งวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเอเชีย และวัฒนธรรมแบบสมัยใหม่ของชาวยุโรป นอกจากนี้สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ยังสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งเมืองหลวงสุดศิวิไลซ์ เมืองโบราณอายุนับพันปี ภูเขาหินปูนสีขาวสวยสะดุดตา และศาสนสถานซึ่งมีสถาปัตยกรรมสวยงามจับตา
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
- เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เป็นเมืองสุดชิค ซึ่งมีบรรยากาศของทั้งแบบยุโรปและแบบเอเชีย มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น Hippodrome, The Hagia Sophia Museum and Church, Dolmabahce Palace, Yerebatan Sarnici, Suleymaniye Camii เป็นต้น
- เมืองแคปพาโดเชีย (Cappadocia) เมืองโบราณท่ามกลางหุบเขารูปร่างสวยแปลกตา กิจกรรมห้ามพลาด ก็คือ การนั่งบอลลูนชมเมือง
- ปามุกกาเล (Pamukkale) ภูเขาหินปูนสีขาวสวยงามโดดเด่น ยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูงกว่า 160 เมตร ซึ่งเกิดจากการตกตะกอนของน้ำพุร้อน
- Hierapolis โรงละครโบราณ อายุนับพันปี ในเมืองปามุกกาเล
- Mount Erciyes ภูเขาไฟรูปทรงสวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศตุรกี สูงกว่า 3,916 เมตร มีกิจกรรมสนุกสนานให้ทำมากมาย โดยเฉพาะหน้าหนาว ที่นี่จะกลายเป็นสถานที่เล่นสกีและสโนบอร์ดยอดฮิตของตุรกี
ที่เที่ยวตุรกีที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Topkapi Palace, Grand Bazaar, Ephesus, Mount Nemrut, Bodrum, The Mausoleum at Halicarnassus, Antalya, Maiden’s Tower เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
โอ้โห แต่ละประเทศสวยน่าเที่ยวมาก ๆ เลยนะคะ บางประเทศก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกอยู่ด้วย ควรค่าแก่การไปเที่ยวสักครั้งในชีวิตจริง ๆ แถมยังไม่ต้องทำวีซ่าด้วยนะ มีพาสปอร์ตใบเดียวก็บินไปเที่ยวได้เลย ดีงามสุด ๆ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
unesco.org, brazil.org.za, country.southafrica.net
สำหรับผู้ที่ถือพาสปอร์ตไทย
ปัจจุบันเราสามารถเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้มากถึง 32
ประเทศและดินแดนด้วยกัน
ซึ่งก็ไม่ได้มีเพียงแค่ประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้นนะคะ
ยังมีประเทศทางฝั่งยุโรป อเมริกา และแอฟริกาด้วย
วันนี้ก็เลยอยากจะมาแนะนำประเทศที่น่าเที่ยว
ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกอยู่ด้วย จะมีประเทศไหนบ้างนั้น
ไปดูกันเลยค่ะ
1. ประเทศอาร์เจนตินา
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
ประเทศอาร์เจนตินา เป็นประเทศที่น่าเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอันน่าทึ่ง ทั้งธารน้ำแข็งขนาดใหญ่มหึมายาวกว่า 160 กิโลเมตร น้ำตกขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก ภูเขาสูงใหญ่วิวสุดอลังการ และชายหาดสวยงามสะกดใจ เมืองหลวงอย่างบัวโนสไอเรสก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสวยเก๋มากมาย พร้อมกับแหล่งช้อปปิ้งสุดสนุกสนาน เรียกได้ว่ามีให้เที่ยวชมครบทุกรสชาติจริง ๆ
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของอาร์เจนตินา
- น้ำตกอีกวาซู (Iguazu Falls) ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศอาร์เจนตินา มีแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต ใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการาถึง 30 เท่า
- อุทยานแห่งชาติ ลอส กลาเซียเรส (Los Glaciares National Park) มีธารน้ำแข็งกว้างใหญ่ชื่อ Perito Moreno Glacier ที่มีพื้นที่กว้างมากถึง 600,000 เฮกตาร์ มีระยะทางยาวกว่า 160 กิโลเมตร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1981
- เมืองบัวโนสไอเรส (Buenos Aires) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอาร์เจนตินา ซึ่งมีบรรยากาศเมืองแบบยุโรป และเต็มไปด้วยงานสถาปัตยกรรมอันน่าประทับใจมากมาย
- ลา โบคา (La Boca) ชุมชนแห่งศิลปะใกล้เมืองบัวโนสไอเรส โดดเด่นด้วยบ้านเรือนสีสันสดใส พร้อมด้วยผลงานสตรีตอาร์ตที่อยู่รอบ ๆ
- เมืองอูซัวยา (Ushuaia) เมืองใต้สุดของโลก สถานที่ชมแสงใต้ (Aurora Australis) ที่สวยงามมากที่สุดของโลก
ที่เที่ยวอาร์เจนตินาที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Road of the Seven Lakes, Mendoza, Puerto Madryn, Cordoba, Monte Fitz Roy, Ibera Wetlands, Mar del Plata, Cerro Catedral, Quebrada de Cafayate เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 90 วัน
2. ประเทศบราซิล
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
ภาพจาก marchello74 / Shutterstock.com
ประเทศบราซิล ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีสีสันมากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ เพราะนอกจากจะโด่งดังในเรื่องของทีมฟุตบอลแล้ว ที่นี่ยังมีเมืองใหญ่ และสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย เพียงแค่ในเมืองท่องเที่ยวอย่างริโอ เดอ จาเนโร ก็มีแหล่งท่องเที่ยวให้ไปพิชิตจนจุใจแล้ว และด้วยความที่ประเทศบราซิลเป็นประเทศที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่ ด้านตะวันออกก็ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ จึงทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ อยากจะเที่ยวภูเขาหรือท้องทะเล ก็มีให้ไปชื่นชมไม่รู้เบื่อ
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศบราซิล
- เมืองริโอ เดอ จาเนโร (Rio de Janeiro) เมืองสวยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่ตั้งของหาดโคปาคาบานา (Copacabana Beach) และกริชตูเรเดงโตร์ รูปปั้นพระเยซูสูงใหญ่บนยอดเขากอร์โกวาดู อีกทั้งยังเคยเป็นสถานที่จัดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 31 ประจำปี 2016 ด้วย
- เมืองเซาเปาลู (Sao Paulo) เมืองใหญ่ที่สุดในโลก เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า และสถานที่ท่องเที่ยวสนุกสนานมากมาย
- ป่าอเมซอน (The Amazon Rainforest) ป่าดิบชื้นที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยวิถีชีวิตของชนเผ่าดั้งเดิม
- เมืองบราซิเลีย (Brasilia) เมืองหลวงของประเทศ มีความน่าสนใจตรงที่ผลงานสถาปัตยกรรมต่าง ๆ
ที่เที่ยวบราซิลที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ เกาะเฟร์นันดูจีนอโรนยา, Sugarloaf Mountain, Lencois Maranhenses National Park, Salvador, Ilha Grande, Rio Carnival, Olinda, Bonito, Ouro Preto เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 90 วัน
3. ประเทศชิลี
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
ประเทศชิลี เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความน่าสนใจ ด้วยภูมิประเทศที่มีลักษณะยาวทอดขนานไปกับมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ อีกด้านหนึ่งก็ทอดขนานไปกับเทือกเขาแอนดีส แน่นอนว่าประเทศแห่งนี้จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ไปเยือนเพียบ ไม่ว่าจะเป็นความศิวิไลซ์จากเมืองหลวงอย่างแซนดีเอโก (San Diego) หรือจะเป็นที่เที่ยวธรรมชาติอันโด่งดังหลากหลายแห่ง ชิลีก็พร้อมเสิร์ฟความสนุกสนานให้ผู้มาเยือนได้ตลอดทั้งปี
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศชิลี
- เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) เกาะสุดมหัศจรรย์อันเป็นที่ตั้งของรูปปั้นโมไอมากกว่า 600 ตัว ซึ่งเป็นรูปสลักหินขนาดยักษ์ มีลักษณะเป็นใบหน้าคน
- Torres Del Paine National Park อุทยานแห่งชาติอันเป็นที่ตั้งของภูเขาสูงใหญ่และธารน้ำแข็งขนาดยักษ์
- Valle de la Luna หุบเขาโลกพระจันทร์ ซึ่งมีภูมิประเทศคล้ายกับพื้นผิวดวงจันทร์
- เมืองแซนดีเอโก (San Diego) เมืองหลวงสุดรุ่งเรืองของชิลี ศูนย์กลางความสนุกสนานและบันเทิงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกาใต้
- San Rafael Glacier ธารน้ำแข็งสุดอลังการทางตอนใต้ของประเทศชิลี
ที่เที่ยวชิลีที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Los Pinguinos Natural Monument, Lauca National Park, Valparaiso, Pumalin Park, Cerro San Cristobal เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 90 วัน
4. ประเทศมองโกเลีย
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
ประเทศมองโกเลีย อีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อว่าสวยอันดับต้น ๆ ของโลก ถึงแม้ว่าจะไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ก็สวยงามด้วยวิวทิวทัศน์ที่สุดตระการตาของภูเขาสูงใหญ่ ทุ่งหญ้ากว้าง ทะเลสาบสวยงามจับตา และทะเลทรายผืนใหญ่ไกลสุดลูกหูลูกตา และผู้มาเยือนยังจะได้ประทับใจไปกับรอยยิ้มและวัฒนธรรมอันงดงามของคนพื้นเมือง ได้ลองนอนในกระโจมที่เรียกว่า เกอร์ (Ger) ของชาวมองโกเลีย ที่ตื่นเช้ามาก็พบกับวิวเทือกเขาสูงใหญ่ ไม่ว่าใครได้ลองมาสัมผัส ก็ตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศมองโกเลีย
- เมืองอูลานบาตาร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงอันงดงาม ซึ่งผสมผสานระหว่างความเก่าและความทันสมัยไว้ได้อย่างลงตัว
- ทะเลทรายโกบี (Gobi Desert) ทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เป็นทะเลทรายที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวก็จะเต็มไปด้วยหิมะ
- ทะเลสาบฮุฟสกุล (Lake Khovsgol) ทะเลสาบที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,645 เมตร ด้านหนึ่งของทะเลสาบจะเห็นเป็นวิวของเทือกเขาสูงใหญ่ สวยงามน่าประทับใจมาก
- เทือกเขาอัลไต (Altai Tavan Bogd National Park) เทือกเขาที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันสวยงามอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยธารน้ำแข็งสวยสะกดใจ
ที่เที่ยวมองโกเลียที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Amarbayasgalant Monastery, Erdene Zuu Monastery, Gorkhi-Terelj National Park, Dornod Mongolia Steppe, Orkhon Valley Cultural Landscape เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
5. มณฑลไหหลำ ประเทศจีน
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
เกาะไหหลำ หรือ ไหหนาน ประเทศจีน เป็นพื้นที่ที่เพิ่งเปิดให้ผู้ที่ถือพาสปอร์ตไทยสามารถเดินทางไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า ความน่าสนใจของเกาะแห่งนี้อยู่ตรงที่สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติอันงดงาม โดยเฉพาะหาดทรายชายทะเล ที่ได้ชื่อว่าเป็นฮาวายของประเทศจีนเลยทีเดียว นอกจากนี้เกาะไหหลำยังมีความทันสมัยไม่แพ้เมืองใหญ่ ๆ ของจีน เป็นเมืองที่ถูกจับตาว่าจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในไม่ช้านี้ด้วย
![ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า]( "ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า")
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของเกาะไหหลำ
- วัดหนานซาน (Nanshan Temple) ที่ตั้งของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่กลางทะเล ซึ่งสูงถึง 108 เมตร
- ถนนเมืองโบราณ Qi Lou Old เมืองไหโขว่ ถนนที่เต็มไปด้วยอาคารพาณิชย์เก่าแก่ทั้งสองฟากฝั่งถนน บรรยากาศเหมือนย้อนกลับไปในยุคศตวรรษที่ 19-20
- ยาลอง เบย์ (Yalong Bay) เมืองซานย่า ชายหาดรูปเสี้ยวพระจันทร์ ยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร งดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส
- Phoenix Island เกาะเทียมที่ประกอบไปด้วยโรงแรมสุดหรูหรา ศูนย์การค้าที่ทันสมัย ถนนช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลก และสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย
ที่เที่ยวเกาะไหหลำที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Yahu Terrace Field, Xiangshui Bay, Shishan Crater Cluster National Geological Park, Binglanggu Li & Miao Cultural Heritage Park, Dadonghai Beach เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
- น้ำตกอีกวาซู (Iguazu Falls) ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศอาร์เจนตินา มีแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต ใหญ่กว่าน้ำตกไนแองการาถึง 30 เท่า
- อุทยานแห่งชาติ ลอส กลาเซียเรส (Los Glaciares National Park) มีธารน้ำแข็งกว้างใหญ่ชื่อ Perito Moreno Glacier ที่มีพื้นที่กว้างมากถึง 600,000 เฮกตาร์ มีระยะทางยาวกว่า 160 กิโลเมตร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1981
- เมืองบัวโนสไอเรส (Buenos Aires) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอาร์เจนตินา ซึ่งมีบรรยากาศเมืองแบบยุโรป และเต็มไปด้วยงานสถาปัตยกรรมอันน่าประทับใจมากมาย
- ลา โบคา (La Boca) ชุมชนแห่งศิลปะใกล้เมืองบัวโนสไอเรส โดดเด่นด้วยบ้านเรือนสีสันสดใส พร้อมด้วยผลงานสตรีตอาร์ตที่อยู่รอบ ๆ
- เมืองอูซัวยา (Ushuaia) เมืองใต้สุดของโลก สถานที่ชมแสงใต้ (Aurora Australis) ที่สวยงามมากที่สุดของโลก
ที่เที่ยวอาร์เจนตินาที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Road of the Seven Lakes, Mendoza, Puerto Madryn, Cordoba, Monte Fitz Roy, Ibera Wetlands, Mar del Plata, Cerro Catedral, Quebrada de Cafayate เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 90 วัน
2. ประเทศบราซิล
ภาพจาก marchello74 / Shutterstock.com
ประเทศบราซิล ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีสีสันมากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ เพราะนอกจากจะโด่งดังในเรื่องของทีมฟุตบอลแล้ว ที่นี่ยังมีเมืองใหญ่ และสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย เพียงแค่ในเมืองท่องเที่ยวอย่างริโอ เดอ จาเนโร ก็มีแหล่งท่องเที่ยวให้ไปพิชิตจนจุใจแล้ว และด้วยความที่ประเทศบราซิลเป็นประเทศที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่ ด้านตะวันออกก็ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ จึงทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ อยากจะเที่ยวภูเขาหรือท้องทะเล ก็มีให้ไปชื่นชมไม่รู้เบื่อ
- เมืองริโอ เดอ จาเนโร (Rio de Janeiro) เมืองสวยมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่ตั้งของหาดโคปาคาบานา (Copacabana Beach) และกริชตูเรเดงโตร์ รูปปั้นพระเยซูสูงใหญ่บนยอดเขากอร์โกวาดู อีกทั้งยังเคยเป็นสถานที่จัดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ครั้งที่ 31 ประจำปี 2016 ด้วย
- เมืองเซาเปาลู (Sao Paulo) เมืองใหญ่ที่สุดในโลก เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า และสถานที่ท่องเที่ยวสนุกสนานมากมาย
- ป่าอเมซอน (The Amazon Rainforest) ป่าดิบชื้นที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยวิถีชีวิตของชนเผ่าดั้งเดิม
- เมืองบราซิเลีย (Brasilia) เมืองหลวงของประเทศ มีความน่าสนใจตรงที่ผลงานสถาปัตยกรรมต่าง ๆ
ที่เที่ยวบราซิลที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ เกาะเฟร์นันดูจีนอโรนยา, Sugarloaf Mountain, Lencois Maranhenses National Park, Salvador, Ilha Grande, Rio Carnival, Olinda, Bonito, Ouro Preto เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 90 วัน
3. ประเทศชิลี
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศชิลี
- เกาะอีสเตอร์ (Easter Island) เกาะสุดมหัศจรรย์อันเป็นที่ตั้งของรูปปั้นโมไอมากกว่า 600 ตัว ซึ่งเป็นรูปสลักหินขนาดยักษ์ มีลักษณะเป็นใบหน้าคน
- Torres Del Paine National Park อุทยานแห่งชาติอันเป็นที่ตั้งของภูเขาสูงใหญ่และธารน้ำแข็งขนาดยักษ์
- Valle de la Luna หุบเขาโลกพระจันทร์ ซึ่งมีภูมิประเทศคล้ายกับพื้นผิวดวงจันทร์
- เมืองแซนดีเอโก (San Diego) เมืองหลวงสุดรุ่งเรืองของชิลี ศูนย์กลางความสนุกสนานและบันเทิงที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกาใต้
- San Rafael Glacier ธารน้ำแข็งสุดอลังการทางตอนใต้ของประเทศชิลี
ที่เที่ยวชิลีที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Los Pinguinos Natural Monument, Lauca National Park, Valparaiso, Pumalin Park, Cerro San Cristobal เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 90 วัน
4. ประเทศมองโกเลีย
- เมืองอูลานบาตาร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงอันงดงาม ซึ่งผสมผสานระหว่างความเก่าและความทันสมัยไว้ได้อย่างลงตัว
- ทะเลทรายโกบี (Gobi Desert) ทะเลทรายที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เป็นทะเลทรายที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ในฤดูหนาวก็จะเต็มไปด้วยหิมะ
- ทะเลสาบฮุฟสกุล (Lake Khovsgol) ทะเลสาบที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,645 เมตร ด้านหนึ่งของทะเลสาบจะเห็นเป็นวิวของเทือกเขาสูงใหญ่ สวยงามน่าประทับใจมาก
- เทือกเขาอัลไต (Altai Tavan Bogd National Park) เทือกเขาที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอันสวยงามอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยธารน้ำแข็งสวยสะกดใจ
ที่เที่ยวมองโกเลียที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Amarbayasgalant Monastery, Erdene Zuu Monastery, Gorkhi-Terelj National Park, Dornod Mongolia Steppe, Orkhon Valley Cultural Landscape เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
5. มณฑลไหหลำ ประเทศจีน
- วัดหนานซาน (Nanshan Temple) ที่ตั้งของรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่กลางทะเล ซึ่งสูงถึง 108 เมตร
- ถนนเมืองโบราณ Qi Lou Old เมืองไหโขว่ ถนนที่เต็มไปด้วยอาคารพาณิชย์เก่าแก่ทั้งสองฟากฝั่งถนน บรรยากาศเหมือนย้อนกลับไปในยุคศตวรรษที่ 19-20
- ยาลอง เบย์ (Yalong Bay) เมืองซานย่า ชายหาดรูปเสี้ยวพระจันทร์ ยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร งดงามด้วยหาดทรายขาว น้ำทะเลใส
- Phoenix Island เกาะเทียมที่ประกอบไปด้วยโรงแรมสุดหรูหรา ศูนย์การค้าที่ทันสมัย ถนนช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลก และสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย
ที่เที่ยวเกาะไหหลำที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Yahu Terrace Field, Xiangshui Bay, Shishan Crater Cluster National Geological Park, Binglanggu Li & Miao Cultural Heritage Park, Dadonghai Beach เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
6. ประเทศปานามา
ภาพจาก SL-Photography / Shutterstock.com
ประเทศปานามา มีลักษณะภูมิประเทศที่น่าสนใจมาก ด้วยเป็นประเทศที่อยู่ตรงคอคอดปานามา ซึ่งถูกขนาบข้างด้วยทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิก ได้กลายมาเป็นประเทศที่มีความสำคัญทางด้านการค้า เพราะมีคลองปานามา ซึ่งตัดผ่านประเทศเพื่อให้เรือเดินสินค้าสามารถแล่นผ่านไปมาระหว่างทะเลแคริบเบียนและมหาสมุทรแปซิฟิกได้โดยไม่ต้องไปอ้อมทางใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เที่ยวได้หลากหลายรสชาติจริง ๆ
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศปานามา
- เกาะ Coiba เกาะสวยมหาสมุทรแปซิฟิก งดงามด้วยหาดทรายและทะเลที่อุดมสมบูรณ์
- หมู่เกาะ San Blas ตั้งอยู่ทางทะเลแคริบเบียน ซึ่งมีหาดทรายขาวสะอาดตา น้ำทะเลเป็นสีฟ้าคริสตัลใส เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง
- The Biomuseo พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ธรรมชาติของปานามา และมีสถาปัตยกรรมอาคารสวยงามแปลกตา ซึ่งออกแบบโดยแฟรงก์ เกห์รี สถาปนิกชื่อดังของโลก
ที่เที่ยวปานามาที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Amador Causeway, Pearl Islands, Playa Las Lajas, Santa Catalina, Sendero Los Quetzales, Bocas Town, The F&F Tower, Iglesia del Carmen, Panama Viejo เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 180 วัน
7. ประเทศเปรู
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศเปรู
- เมืองกุสโก (Cusco) เมืองมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเทือกเขาแอนดีส สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 3,300 เมตร
- เกาะอูรอส (Uros Islands) เกาะลอยน้ำที่สร้างขึ้นจากต้นกก ตั้งอยู่ในทะเลสาบติติกากา อันเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของชาว Uru-Chipaya, Uru-Murato และ Uru-Iruito
- เมืองลิมา (Lima) เมืองหลวง ที่สามารถผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว
- ลายเส้นนาสกา (Nasca Lines) ลายเส้นที่ถูกลากขึ้นบริเวณที่ราบรวมพื้นที่กว่า 450 ตารางกิโลเมตร มีรูปร่างต่าง ๆ อันเป็นปริศนาที่น่าพิศวง
ที่เที่ยวเปรูที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Trujillo, Mancora, Puno, Sacred Valley, Arequipa, Huacachina, Ballestas Islands, Sacsaywaman เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 90 วัน
8. ประเทศรัสเซีย
- จัตุรัสแดง (Red Square) จุดที่มีงานสถาปัตยกรรมสวยงามตระการตา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำตาลแดง บริเวณนี้จึงถูกเรียกว่าจัตุรัสแดง
- มหาวิหารเซนต์บาซิล (Saint Basil\'s Cathedral) มหาวิหารรูปทรงโดม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะเหนือมองโกล ทั้งภายนอกและภายในตกแต่งประดับประดาอย่างละเมียดละไม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนที่ไหนในโลก
- พระราชวังเปเตียร์กอฟ (Peterhof Palace) พระราชวังฤดูร้อนของพระเจ้าปีเตอร์มหาราช งดงามไปด้วยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งที่หรูหรา รายล้อมไปด้วยสวนสวยสุดอลังการ
- พิพิธภัณฑ์แอร์มิทาช (The Hermitage) และพระราชวังฤดูหนาว เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผลงานศิลปะรวมแล้วกว่า 3 ล้านชิ้น และยังมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม หรูหรา อลังการ สมกับเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2
ที่เที่ยวรัสเซียที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Church of the Savior on Spilled Blood, GUM Department Store, Gorky Central Park of Culture and Leisure, St.Isaac’s Cathedral, Kremlin Palace, Alexandrovsky Garden, Catherine Palace, Trans-Siberian Railway, Lake Baikal, State Historical Museum เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
9. ประเทศแอฟริกาใต้
- อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ (Kruger National Park) อุทยานแบบซาฟารี ซึ่งมีทั้งป่าเขาและสัตว์ป่าที่หายากมากมาย โดยเฉพาะ Big Five สามารถขับรถเที่ยวชมเองได้
- ภูเขาโต๊ะ (Table Mountain) ภูเขาสูงใหญ่ด้านหลังเมืองเคปทาวน์ มีรูปทรงสวยเป็นเอกลักษณ์ ที่ด้านบนยอดเขาเป็นพื้นที่ราบเรียบ คล้ายกับโต๊ะ สูงราว ๆ 1,086 เมตร
- เมืองเคปทาวน์ เมืองหลวง ซึ่งตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลมหาสมุทรอินเดีย แหล่งศูนย์รวมความทันสมัย สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ บรรยากาศรอบเมืองสวยงามไปด้วยธรรมชาติ จึงได้รับคัดเลือกให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกอยู่บ่อยครั้ง
- ชายหาดเดอร์บัน (Durban Beaches) ชายหาดสีทองที่ทอดยาวไปกับมหาสมุทรอินเดีย บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาทำกิจกรรมชายทะเลต่าง ๆ
- เมืองโจฮันเนสเบิร์ก (Johannesburg) เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศแอฟริกาใต้ โดดเด่นด้วยความเป็นเมืองที่เงียบสงบ ร่มรื่น และเป็นเมืองที่มีหิมะตกด้วย
ที่เที่ยวแอฟริกาใต้ที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Knysna, Victoria and Alfred Waterfront, Cape Winelands, Blyde River Canyon, Drakensberg, The Garden Route, Stellenbosch, iSimangaliso Wetland Park เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
10. ประเทศตุรกี
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กของประเทศตุรกี
- เมืองแคปพาโดเชีย (Cappadocia) เมืองโบราณท่ามกลางหุบเขารูปร่างสวยแปลกตา กิจกรรมห้ามพลาด ก็คือ การนั่งบอลลูนชมเมือง
- ปามุกกาเล (Pamukkale) ภูเขาหินปูนสีขาวสวยงามโดดเด่น ยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูงกว่า 160 เมตร ซึ่งเกิดจากการตกตะกอนของน้ำพุร้อน
- Hierapolis โรงละครโบราณ อายุนับพันปี ในเมืองปามุกกาเล
- Mount Erciyes ภูเขาไฟรูปทรงสวยงาม ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศตุรกี สูงกว่า 3,916 เมตร มีกิจกรรมสนุกสนานให้ทำมากมาย โดยเฉพาะหน้าหนาว ที่นี่จะกลายเป็นสถานที่เล่นสกีและสโนบอร์ดยอดฮิตของตุรกี
ที่เที่ยวตุรกีที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ Topkapi Palace, Grand Bazaar, Ephesus, Mount Nemrut, Bodrum, The Mausoleum at Halicarnassus, Antalya, Maiden’s Tower เป็นต้น
ระยะเวลาที่สามารถพำนักได้ : 30 วัน
โอ้โห แต่ละประเทศสวยน่าเที่ยวมาก ๆ เลยนะคะ บางประเทศก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกอยู่ด้วย ควรค่าแก่การไปเที่ยวสักครั้งในชีวิตจริง ๆ แถมยังไม่ต้องทำวีซ่าด้วยนะ มีพาสปอร์ตใบเดียวก็บินไปเที่ยวได้เลย ดีงามสุด ๆ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
unesco.org, brazil.org.za, country.southafrica.net
