แนะนำวิธีเตรียมตัว ก่อนไปเจอด่าน ตม. เกาหลี ทำอย่างไรให้ผ่าน

วิธีผ่าน ตม. เกาหลี แบบเตรียมพร้อม เอาไว้เป็นทริกง่าย ๆ เมื่อต้องเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้ เพื่อไปเที่ยวได้อย่างราบรื่น

จากกระแสข่าวในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับคนไทยไปเที่ยวเกาหลีใต้ มักจะมีข่าวการติด ตม. บ้าง เข้าห้องเย็นบ้าง หรือกรณีเลวร้ายสุดคือการส่งตัวกลับไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม. เกาหลี ก็ทำหน้าที่คัดกรองคนที่เดินทางเข้ามาในประเทศอย่างเข้มงวด เหล่านี้ทำให้เกิดข้อกังวลสำหรับคนที่อยากเดินทางเพื่อไปเที่ยวเกาหลี เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุแบบนี้กับตนเองด้วยไหม ? วันนี้เราเลยมีข้อแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับวิธีผ่าน ตม. เกาหลี เอาไว้เป็นแนวทางเพื่อประยุกต์ใช้ของแต่ละคนมาบอกกัน

*** ขอหมายเหตุเอาไว้นิดหนึ่งว่า วิธีผ่าน ตม. เกาหลี ที่แนะนำนี้ ไม่รับประกันว่าถ้าทำทั้งหมดแล้วจะผ่าน เป็นเพียงเทคนิคเบื้องต้นเท่านั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการพิจารณาของ ตม. เกาหลี แต่ละคนเป็นส่วนประกอบ

จากแต่ก่อนเวลาเดินทางไปเที่ยวเกาหลี ต่อให้เดินทางไปคนเดียวหรือไปเป็นกรุ๊ปทัวร์ ก็สามารถเดินทางไปได้เลย แต่หลังจากผ่านช่วงโควิด 19 เป็นต้นมา ภาครัฐมีมาตรการรัดกุมมากยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนที่เดินทางไปเกาหลี โดยจะต้องลงทะเบียน K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) หรือใบอนุญาตเข้าเกาหลีสำหรับคนต่างชาติ 

เราสามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเองที่เว็บไซต์ k-eta.go.kr หรือผ่านแอปฯ K-ETA ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนประมาณ 300 บาท

ภายในเว็บไซต์จะมีรายละเอียดวิธีในการกรอกต่าง ๆ ไว้เรียบร้อย รวมถึงยังมีคลิปวิดีโอประกอบทุกขั้นตอน ซึ่งมีเอกสารที่ต้องใช้เพื่อเตรียมตัวก่อนลงทะเบียน ได้แก่

• รูปหน้าแรกของ Passport ที่ไม่หมดอายุ เป็นไฟล์ .jpeg .jpg .pdf หรือ .bmp ขนาดไม่เกิน 300kb 
• รูปถ่ายหน้าตรงแนวตั้ง เห็นหน้าชัดเจน ไม่สวมหมวก แว่นตา
• ข้อมูลที่พักในเกาหลีใต้ ชื่อที่พัก ที่อยู่ของที่พัก และเบอร์ติดต่อ
• บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตสำหรับจ่ายค่าธรรมเนียม

เมื่อลงทะเบียน K-ETA (รอทำการอนุมัติ) แล้ว ต่อมาในส่วนของลงทะเบียน Q-Code (ก่อนเดินทางไม่เกิน 3 วัน และกรอกทุกครั้งที่ไปเกาหลี) เป็นการลงทะเบียนเพื่อขอยกเว้นการกักตัวที่ประเทศเกาหลี ซึ่งถ้าใครไม่สะดวกจะไปกรอกแบบฟอร์มบนเครื่องบินก็ได้เช่นกัน สามารถลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ cov19ent.kdca.go.kr โดยใช้เอกสารลงทะเบียน Q-Code ได้แก่ 

• ข้อมูล Passport ของคนที่เดินทาง
• Email และเบอร์ติดต่อของคนที่เดินทาง
• ข้อมูลที่พักในเกาหลีใต้ ชื่อที่พัก ที่อยู่ของที่พัก และเบอร์ติดต่อ

สำหรับคนที่ลงล่วงหน้ามาแล้ว เมื่อถึงก็สามารถยื่น QR code ให้เจ้าหน้าที่ได้เลย เป็นการประหยัดเวลาไปในตัว

การกรอก K-ETA นับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชาวต่างชาติ โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพราะถ้าระบบ K-ETA ผ่าน สามารถบินด้วย K-ETA ได้เลย (สามารถใช้ได้ยาวถึง 2 ปี) และถ้าระบบไม่อนุมัติก็จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าแทน ทั้งนี้ ระยะเวลาในการพิจารณาจะอยู่ประมาณ 72 ชั่วโมง หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงเวลานั้น ๆ ดังนั้นในทุก ๆ หน้าของการกรอกจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ควรตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ให้ถูกต้องว่าสะกดถูกไหม ห้ามใส่ข้อมูลเท็จ และรูปภาพต่าง ๆ เหล่านี้มีผลต่อการพิจารณาทั้งสิ้น 

การเดินทางเข้าเกาหลี ใช่ว่าจะสิ้นสุดแค่ผลการอนุมัติ K-ETA เท่านั้น เราควรเตรียมเอกสารต่าง ๆ ไปด้วย เพราะเป็นหลักฐานยืนยันว่าเรามาเกาหลีด้วยวัตถุประสงค์นั้น ๆ ตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็น 

• หลักฐานการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เพื่อให้ ตม. เกาหลี มั่นใจว่าเรามาแล้วกลับจริง ๆ 
• เอกสารการจองโรงแรมหรือที่พัก เพื่อยืนยันให้เห็นว่าเรามีที่พักเป็นหลักแหล่ง มีการจ่ายจริง จองจริง 
• แพลนการท่องเที่ยว ไม่ต้องทำละเอียดมากก็ได้ เอาให้รู้ว่าแต่ละวันเรามีแผนไปไหน ทำอะไร อย่างน้อย ๆ ก็ให้รู้ว่าเรามาเที่ยวจริง ๆ 
• เอกสารรับรองการทำงาน เป็นการยืนยันว่าแค่มาเที่ยว และมีงานทำที่ประเทศต้นทางที่มา หรือถ้าเป็นฟรีแลนซ์ก็ควรจะมีนามบัตรเพื่อแสดงว่าคุณเป็นใคร ทำอะไร ให้เจ้าหน้าที่ได้ทราบ
• เอกสารประกันการเดินทางและสุขภาพ เป็นหลักประกันว่าเราสามารถรับผิดชอบตัวเองได้ ถ้าต้องเจอกับอุบัติเหตุหรือเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้น 
• หนังสือเดินทาง (Passport) ใครที่เพิ่งทำเล่มใหม่มาควรเอาหนังสือเดินทางเล่มเก่ามาเผื่อด้วย เพื่อยืนยันว่าเราเคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างแล้ว

แต่สำหรับใครที่ไปกับทัวร์ ส่วนใหญ่แล้วเขาจะจัดการเอกสารต่าง ๆ ให้เสร็จสรรพ ไม่ใช่แค่แผนเที่ยว แต่รวมไปถึงโรงแรม ร้านอาหาร หน้าที่ของเราคือเที่ยวตามแผนที่ทางทัวร์จัดไว้ให้ บางคนที่ไม่อยากยุ่งยากกับการเตรียมเอกสารต่าง ๆ ก็จะเลือกการไปเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ เมื่อลองครั้งแรกคล่องตัวแล้ว เกิดติดใจอยากไปเที่ยวด้วยตัวเองดูก็จะได้ไม่ยาก 

การแต่งกายให้สุภาพที่ว่านี้ ไม่ใช่ว่าใส่สูทผูกไทมาเลยแต่ไกล แต่เป็นความเหมาะสมและสุภาพที่สอดคล้องกับจุดประสงค์ที่เราไป ทั้งนี้ ดูด้วยว่าสภาพอากาศช่วงนั้นของเกาหลีเป็นยังไง เน้นแต่งด้วยชุดเรียบง่าย ผู้หญิงก็ไม่ควรแต่งโป๊จนเกินไป ผู้ชายก็แต่งสุภาพปกติ ใส่รองเท้าผ้าใบ พูดง่าย ๆ ว่าในเมื่อเราไปเที่ยว ก็ควรแต่งให้ดูเป็นนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะการแต่งกายจะเป็นเหมือนปราการด่านแรกที่เจ้าหน้าที่ ตม. เกาหลี เห็นและพิจารณาตามขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไป 

อย่างหนึ่งที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เมื่อเข้าเกาหลี นั่นคือ การตอบคำถาม ตม. เราอาจจะเคยได้ยินว่าบางคน ตม. เกาหลี ไม่ถามเลยสักคำถามก็สามารถผ่านเข้าได้ปกติ หรือบางคนก็โดนซักจนเข้าห้องเย็นเป็นชั่วโมง ๆ ก็มีมาแล้ว แต่จะเป็นกรณีไหนก็แล้วแต่ การเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมสำหรับการตอบคำถามก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ

 ส่วนใหญ่ ตม. เกาหลี จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง ถ้ามั่นใจในการสื่อสารภาษาอังกฤษของตัวเองก็พยายามสื่อสารไปเลย แต่จำไว้ว่าถ้าพูดภาษาเกาหลีไม่ได้ไม่ควรพูด เพราะถ้า ตม. เกาหลี เกิดยิงคำถามอื่น ๆ มาอีก เดี๋ยวจะเกิดอาการอึ้งแล้วไปต่อไม่ถูก จะเสี่ยงต่อการติด ตม. เปล่า ๆ 

ซึ่งคำถามส่วนใหญ่ที่ ตม. เกาหลี ถาม ก็มักเป็นคำถามทั่ว ๆ ไป เช่น Why visit Korea ? (ทำไมคุณถึงมาเกาหลี), How long will you stay ? (คุณจะอยู่ที่เกาหลีกี่วัน), Come with who ? (มากับใคร), Do you have hotel reservation ? (โรงแรงที่เข้าพักที่ไหน) จำไว้ว่าตอบให้ตรงกับที่กรอกไว้ใน K-ETA  สำคัญคือเราต้องไม่ทำตัวล่อกแล่ก ตอบคำถามต่าง ๆ ด้วยความมั่นใจ สบตาเวลาตอบ โดยสรุปคือ ถ้าเรามาเที่ยวจริง มีเอกสารพร้อม ยังไงเจ้าหน้าที่ก็ดูออก ต่อให้เรียกไปถามต่อก็ตาม 

สัมภาระก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญ โดยสัมภาระควรมีขนาดพอเหมาะ ไม่มากไปหรือน้อยเกินไป ว่าง่าย ๆ คือสอดคล้องกับจำนวนวันที่เราพำนักในเกาหลี ไม่ใช่ว่ามาอาทิตย์นึงแต่มีกระเป๋าสะพายมาแค่ใบเดียว รวมถึงแลกเงินวอนติดตัวไปด้วยก็ดี อย่าไปกองรวมไว้ที่คนใดคนหนึ่ง (ในกรณีที่ไปด้วยกันหลายคน) เผื่อในกรณีที่ ตม. เกาหลี ถามว่ามีเงินติดตัวมาเท่าไรจะได้ชี้แจงได้ถูก รวมถึงบัตรเครดิต บัตรเดบิตต่าง ๆ ก็เตรียมไปให้พร้อมด้วยเช่นกัน 

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะคิดว่าการมาเที่ยวเกาหลีแล้วต้องผ่าน ตม. เกาหลี อาจจะเป็นเรื่องของดวง แต่จริง ๆ แล้วอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดเสียทีเดียว บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่แต่ละคนที่เป็นคนตัดสิน ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำให้ดีที่สุดคือการเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อม รวมถึงข้อมูลท่องเที่ยวต่าง ๆ ถ้าไปกันหลายคนก็ตกลงแผนกันให้ดี ๆ เพื่อพิสูจน์ให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเราไปเกาหลีตรงตามวัตถุประสงค์นั้นจริง ๆ เอาจริง ๆ บางคนไม่โดนคำถามอะไรด้วยซ้ำแต่ก็ผ่านด่านไปได้ ยังไงใครที่เตรียมตัวจะไปเที่ยวเกาหลี ลองศึกษาข้อมูลจากโซเชียลต่าง ๆ ประกอบด้วย น่าจะช่วยทำให้คลายกังวลไปได้เยอะ ขอให้เที่ยวเกาหลีอย่างสนุกกันทุกคนนะ ^ ^

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

• เที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง แจก 20 พิกัดที่กิน เที่ยว และกิจกรรมต่าง ๆ
• แบกเป้เที่ยวเกาหลีด้วย 16 มุมมองใหม่ ๆ ที่ต้องไปโดน
• 7 ย่านน่าเที่ยวโซล เกาหลีใต้ แหล่งอัพเดทเทรนด์วัยรุ่นเกาหลีสุดชิค
• พยากรณ์ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2023 วางแผนเที่ยวเกาหลีในฤดูใบไม้ร่วง

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เว็บไซต์ cov19ent.kdca.go.kr, เว็บไซต์ k-eta.go.kr