x close

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ที่เที่ยวน่าน สัมผัสอากาศเย็น มองเห็นทะเลหมอก

          ชวนเที่ยวอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ที่เที่ยวน่าน ชมธรรมชาติให้เพลินตา ยลทะเลหมอกยามเช้า นอนดูทะเลดาวยามค่ำคืน 

          จังหวัดน่าน จังหวัดทางภาคเหนือที่ถูกโอบกอดด้วยขุนเขา และยังคงมีกลิ่นอายของวันวานให้ย้อนไปคิดถึง เป็นจังหวัดที่น่าไปสัมผัสกับวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ สัมผัสธรรมชาติ ให้สายลมห้อมล้อมตัว เพื่อเป็นการฮีลร่างกายและจิตใจ ซึ่งจังหวัดน่านก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และหนึ่งในนั้นที่เราอยากแนะนำคือ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน นั่นเอง ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน สถานที่ท่องเที่ยวน่านให้มากขึ้นกัน

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ตั้งอยู่ที่ไหน

           อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ตั้งอยู่ที่บ้านขุนสถาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ทางตอนใต้ของจังหวัดน่านติดกับแพร่ เป็นต้นกำเนิดลำธารสำคัญหลายสาย ได้แก่ ห้วยน้ำอูน ห้วยน้ำแหง ห้วยน้ำรี ซึ่งจะไหลลงไปรวมกับแม่น้ำน่านด้านล่างที่เป็นแนวแบ่งเขตระหว่างน่านกับอุตรดิตถ์ มีพื้นที่ 214,058 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอนาน้อย อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน และอำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2560 และเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 130 ของประเทศไทย
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ภูมิประเทศอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

            พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีความสูงชันทอดตัวจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ มีแนวสันเขาของดอยแปรเมืองเป็นแนวแบ่งเขตระหว่างจังหวัดแพร่กับจังหวัดน่าน ความสูงตั้งแต่ 120-1,726 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีแม่น้ำน่านเป็นแนวกั้นระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์กับจังหวัดน่าน มีลำธารและลำห้วยซึ่งเป็นต้นน้ำน่านอยู่หลายสาย เช่น ห้วยน้ำแหง ห้วยน้ำอูน ห้วยน้ำรี เป็นต้น ดอยที่สำคัญ เช่น ดอยจวงปราสาท สูง 1,193 เมตร ดอยแม่จอก สูง 1,469 เมตร ดอยกู่สถาน (ดอยธง) สูง 1,634 เมตร และดอยที่สูงที่สุดคือ ยอดดอยภูคา มีความสูง 1,726 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทั้งนี้ บริเวณที่ทำการอุทยานจะมีความสูงอยู่ที่ 1,365 เมตร
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

สภาพภูมิอากาศอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

           พื้นที่อุทยานตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง ทำให้สภาพอากาศค่อนข้างผันผวนและมีความชุ่มชื้นตลอดทั้งปี แบ่งเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อนช่วงสั้น ๆ เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม มีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 25-30 องศาเซลเซียส ฤดูฝน เริ่มเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ มีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 1.5-2 องศาเซลเซียส

พืชพรรณและสัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

           สภาพป่าโดยทั่วไปในอุทยานเป็นป่าปลูก ซึ่งปลูกขึ้นเพื่อทดแทนและฟื้นฟูผืนป่าที่เคยมีการบุกรุกทำลายตั้งแต่ครั้งอดีต บางพื้นที่เป็นป่าที่กำลังฟื้นตัวตามธรรมชาติ และมีความหลากหลายของชนิดพันธุ์สัตว์ป่าทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบน และนก อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง

          พื้นที่ส่วนใหญ่ในอุทยานถูกปกคลุมด้วยป่าไม้ชนิดต่าง ๆ คือ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าสนเขา ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง สัตว์ที่พบเห็นทั่วไป ได้แก่ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ นก ปลา และแมลงต่าง ๆ

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง

          คนรักธรรมชาติ ชิลกับวิวทิวทัศน์ ดูทะเลหมอกยามเช้า หยอกเย้ากับดอกไม้สวย ๆ น่าจะประทับใจกับอุทยานแห่งชาติขุนสถาน เพราะมีที่เที่ยวสวย ๆ มากมาย โดยเราจะขอยกตัวอย่างมาเป็นน้ำจิ้ม ได้แก่
 
  • สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน (Khunsathan Watershed Research Station) ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ในตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน โดยบริเวณสถานีนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,330 เมตร ทำให้เป็นจุดชมวิวทางธรรมชาติ สามารถมองเห็นทั้งขุนเขา ทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าได้อย่างสวยงาม น่าประทับใจ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของการดู ดอกนางพญาเสือโคร่งหรือดอกซากุระเมืองไทย เนื่องจากในบริเวณสถานีวิจัยแห่งนี้ได้ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งเอาไว้หลายร้อยต้น ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งเป็นสีชมพูเต็มไปทั่วทั้งบริเวณในช่วงเดือนมกราคมของทุกปี 

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ภาพจาก KIETSUDA KATKASEM / Shutterstock.com

           นอกจากดอกนางพญาเสือโคร่งแล้ว ที่สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถานยังมีดอกไม้หายากอย่าง ดอกชมพูภูคา ปลูกเอาไว้ด้วย โดยต้นชมพูภูคาจัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่หาได้ยากและใกล้สูญพันธุ์แล้ว ส่วนใหญ่มักจะขึ้นอยู่ในบริเวณป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 1,200-1,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล พบมากในบริเวณทางตอนใต้ของประเทศจีน ภาคเหนือของเวียดนาม ไต้หวัน และไทย โดยในประเทศไทยพบอยู่ 2 ที่ คือ ดอยภูคา และสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน นั่นเอง ทุก ๆ ปี ต้นชมพูภูคาจะออกดอกบานระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ซึ่งจะออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ตัวดอกมีสีชมพู เมื่อบานดอกจะชิดกันแน่น ทำให้ดูเป็นพุ่มสวยงาม
 
  • ดอยกู่สถาน เป็นดอยที่มีความสูงถึง 1,630 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม มองเห็นวิวสวย ๆ ได้กว้างไกล และมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นตลอดปี เป็นอีกหนึ่งจุดชมทะเลหมอกยอดฮิตเมื่อมาเที่ยวที่อุทยานเลยทีเดียว 
     

  • ดอยแม่จอก เป็นยอดดอยที่มีความสูง 1,424 เมตร จากระดับน้ำทะเล อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เป็นสถานที่ตากอากาศและจุดชมทิวทัศน์เทือกเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน สามารถมองเห็นความงดงามของดวงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและทะเลหมอกที่เป็นผืนขนาดใหญ่กว้างไกลสุดสายตา 
     

  • ถ้ำละโอ่ง เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 1.8 กิโลเมตร ภายในถ้ำมีลำธารไหลผ่านและมีหินงอกหินย้อยที่มีความสวยงาม
     

  • น้ำตกผาแดง ตั้งอยู่ใกล้กับถ้ำละโอ่ง ห่างจากบ้านเชตวัน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นน้ำตกหลายชั้น โดยชั้นที่มีขนาดใหญ่มีจำนวน 4 ชั้น และชั้นที่สูงที่สุดมีความสูงประมาณ 15 เมตร 
     

  • น้ำตกขุนลี ตั้งอยู่เชิงดอยกู่สถาน เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 100 เมตร จัดเป็นน้ำตกที่เหมาะสำหรับนักเดินป่า เพราะใช้เวลาเดินทางไป-กลับประมาณ 4 ชั่วโมง จึงจะถึงตัวน้ำตก
     

  • น้ำตกตาดหมอก ตั้งอยู่บริเวณดอยแม่จอก ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีจำนวน 3 ชั้น ความสูงรวมประมาณ 50 เมตร 
     

  • น้ำน่านตอนบนเขื่อนสิริกิติ์ ลักษณะคล้ายทะเลสาบที่มีทัศนียภาพที่สวยงามสองฝั่งแม่น้ำ ล้อมรอบด้วยทิวเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาว สามารถล่องเรือหรือล่องแพชมความงามของธรรมชาติได้ บรรยากาศโดยรอบร่มรื่นเหมาะกับการตั้งแคมป์และปิกนิกเป็นอย่างยิ่ง 
     
  • กาดวัว ในอดีตเคยเป็นที่ชุมนุมของวัวแดงและกระทิง ตั้งอยู่บนยอดดอยขุนห้วยย่าทาย ห่างจากหมู่บ้านนาก้า ประมาณ 5 กิโลเมตร ต้องเดินเท้าเข้าไป 6 ชั่วโมง จากจุดนี้สามารถมองเห็นทะเลหมอกในตอนเช้าช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว 
     

  • หมู่บ้านชาวม้ง สัมผัสวิถีชนชาติพันธุ์ เที่ยวหมู่บ้านม้งอันเงียบสงบที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิตชนเผ่าน่าสนใจ ชมความเป็นอยู่ เดินเล่นในหมู่บ้าน ซื้อผัก-ผลไม้สด ๆ ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี พริกหยวก องุ่น และสตรอว์เบอร์รี ที่เป็นผลผลิตของชาวม้ง อีกทั้งยังมีชุดชาวม้งให้เช่าถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ ซึ่งในช่วงใกล้สิ้นเดือนธันวาคมจะมีการจัดงานเทศกาลปีใหม่ม้ง ประมาณ 4-6 วัน แล้วแต่ปี นักท่องเที่ยวจะได้ชมความสวยงามของการแต่งกายที่มีสีสันและประเพณีที่งดงามของชาวม้งด้วย

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ไปเที่ยวช่วงไหนได้บ้าง

           อุทยานแห่งชาติขุนสถานสามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งในแต่ละช่วงเวลาก็จะมีความสวยงามทางธรรมชาติที่แตกต่างกันไป ดังนี้
 
  • ช่วงหน้าฝน (มิถุนายน-กันยายน) เป็นช่วงที่ป่าไม้เขียวชอุ่ม เพราะได้รับความชุ่มชื้นจากน้ำฝน สามารถเที่ยวชมธรรมชาติ ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ อาจจะได้เจอทะเลหมอกในตอนเช้า แต่ก็เสี่ยงกับการเจอหมอกฝนขาวโพลนเช่นกัน  
     

  • ช่วงปลายฝนต้นหนาว (ตุลาคม-พฤศจิกายน) เป็นช่วงที่สวยที่สุด ป่าไม้ยังเขียว อากาศแจ่มใส มีโอกาสเกิดทะเลหมอกมากที่สุด ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่ค่อยมีหมอกแดดปกคลุมท้องฟ้า อากาศเย็น ไม่หนาวมาก

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

  • ช่วงหน้าหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) เป็นช่วงที่เหมาะกับการมาดูดอกพญาเสือโคร่ง ซึ่งจะบานมากที่สุดช่วงกลางเดือนมกราคม ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศหนาวเย็น 
     

  • ช่วงหน้าร้อน (มีนาคม-พฤษภาคม) เป็นช่วงที่มีหมอกแดดหรือหมอกควันปกคลุมไปทั่ว ส่วนทะเลหมอกจะมีบ้าง แต่น้อยกว่าช่วงหน้าฝนและปลายฝนต้นหนาว อากาศจะเย็นแบบแห้ง ๆ ต้นไม้ส่วนใหญ่ออกเป็นสีเหลืองน้ำตาล และเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อยมาก

ที่พักในอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

            อุทยานแห่งชาติขุนสถานมีทั้งบ้านพักของกรมอุทยานและลานกางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว แต่ต้องจองล่วงหน้า โดยมีบ้านพักทั้งหมด 7 หลัง ได้แก่ บ้านแม่จอก (4 หลัง) และบ้านซากุระ (3 หลัง) นอกจากนี้ยังมีที่สำหรับลานกางเต็นท์อีก 6 ลาน
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ภาพจาก อุทยานแห่งชาติขุนสถาน จ.น่าน - Khun Sathan National Park

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ภาพจาก อุทยานแห่งชาติขุนสถาน จ.น่าน - Khun Sathan National Park

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

           ในบริเวณที่พักมีร้านค้าสวัสดิการเปิดให้บริการ มีของขายทั่ว ๆ ไป เช่น ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่าง ๆ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนม กาแฟ หรือโอวัลติน และในส่วนห้องน้ำและห้องอาบน้ำก็มีจำนวนเพียงพอไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วย

           นอกจากนี้ยังมีบ้านพักและรีสอร์ตอื่น ๆ ในละแวกใกล้เคียงเปิดให้บริการด้วย เช่น

ค่าธรรมเนียมในการเข้าชมอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

          ในการเข้าชมอุทยานแห่งชาติขุนสถานจะมีค่าธรรมเนียมดังนี้

  • ผู้ใหญ่ คนละ 20 บาท / เด็ก คนละ 10 บาท / ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป ฟรี 

  • รถยนต์ คันละ 30 บาท / มอเตอร์ไซค์ คันละ 20 บาท / จักรยาน ฟรี

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ภาพจาก เฟซบุ๊ก สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand

การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

           สำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ มีเส้นทางไปอุทยานแห่งชาติขุนสถาน 2 เส้นทาง คือ
 
  • จากจังหวัดแพร่ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 (ถนนยันตรกิจโกศล) ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านห้วยแก๊ต ตำบลไผ่โทน อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวง 1216 ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการชั่วคราวอุทยานแห่งชาติขุนสถาน 
     

  • จากจังหวัดน่าน ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 101 ถึงอำเภอเวียงสา เลี้ยวขวาไปตามถนนเจ้าฟ้า ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1026 สายอำเภอเวียงสา-อำเภอนาน้อย ระยะทางจากอำเภอเวียงสาถึงอำเภอนาน้อย ประมาณ 35 กิโลเมตร และจากอำเภอนาน้อย เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1216 ระยะทางประมาณ 31 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการชั่วคราวอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ช่องทางการติดต่ออุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

           อุทยานแห่งชาติขุนสถาน นับเป็นอีกหนึ่งอุทยานที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีความงดงามของดอกไม้ต้นไม้ แถมยังมีอากาศที่เย็นสบาย จึงเหมาะมากสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อน ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวก็ลองให้อุทยานแห่งชาติขุนสถานเป็นตัวเลือกดูนะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ที่เที่ยวน่าน สัมผัสอากาศเย็น มองเห็นทะเลหมอก อัปเดตล่าสุด 20 กรกฎาคม 2565 เวลา 14:20:24 58,911 อ่าน
TOP