เที่ยวน่าน 2 วัน 1 คืน ฉบับอัปเดต พาตะลุยไปไหว้พระขอพรตามสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมเรียนรู้ที่มาของนครน่าน ผ่านพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น และกินอาหารพื้นเมืองต่าง ๆ
หากเอ่ยถึง น่าน จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของภาคเหนือ หลาย ๆ คนคงนึกถึงภาพของภูเขาสลับซับซ้อนคลอเคลียกับสายหมอก ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม วันนี้ขอเอาใจคนที่มีเวลาน้อย แต่ก็อยากไปสัมผัสเมืองน่าน ด้วยการแนะนำโปรแกรมที่เที่ยวน่าน 2 วัน 1 คืน กับ 10 ที่เที่ยว 4 ที่กิน ฉบับอัปเดต ได้ทั้งไหว้พระ ชมวิถีชีวิต และลิ้มลองอาหารเหนือสไตล์น่าน เอาเป็นว่าไปดูสิว่ามีที่ไหนบ้าง
เที่ยวน่าน 2 วัน 1 คืน
โปรแกรมเที่ยวน่าน วันที่ 1
นั่งรถรางชมเมืองน่าน พร้อมไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคล
เริ่มต้นวันแรกด้วยการนั่งรถรางชมเมืองน่าน จุดบริการจะอยู่ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน ตรงข้ามกับวัดภูมินทร์ โดยรถรางจะค่อย ๆ พาเราลัดเลาะไปตามเส้นทางรอบเมืองเก่า พร้อมกับมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นคอยบรรยายเล่าเรื่องสองฟากฝั่งให้ฟังเพลิน ๆ ตลอดทาง
ก่อนจะไปจอดที่จุดหมายแรกก็คือ วัดมิ่งเมือง และ เสาหลักเมืองน่าน ตั้งอยู่บริเวณถนนสุริยพงษ์ (ตรงข้ามโรงเรียนราชานุบาล) ห่างจากวัดภูมินทร์และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ประมาณ 500 เมตร ภาพที่เห็นคือความงดงามของโบสถ์ วิหาร และศาลาจตุรมุข (ด้านหน้าพระอุโบสถ) สถานที่ประดิษฐานศาลพระหลักเมืองน่าน โดยมีลักษณะแบบล้านนาร่วมสมัย สีขาวสว่าง โดดเด่นด้วยลายปูนปั้นที่ผนังด้านนอก ฝีมือตระกูลช่างเชียงแสน มีความวิจิตรงดงาม ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างวัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย ด้วย แต่วัดมิ่งเมืองเป็นวัดร้างมาก่อน ต่อมาเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองนครน่าน สถาปนาขึ้นมาใหม่
สำหรับ เสาหลักเมืองน่าน สร้างขึ้นโดย สมเด็จเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ 57 เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2333 มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 60 เซนติเมตร สูงประมาณ 3 เมตร ทรงกลม ฐานประดับด้วยไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์ ชื่อ เมตตา (ท่านท้าวเวสสุวรรณ) กรุณา (ท่านท้าวธตรฐ) มุทิตา (ท่านท้าววิรุฬหก) และอุเบกขา (ท่านท้าววิรูปักษ์) พร้อมทั้งคำอธิบายการขึ้นถวายสักการะต่าง ๆ
แนะนำนิดหนึ่งว่า หลังจากสักการะเสาหลักเมืองน่านเรียบร้อยแล้ว ให้ไปขอพรหลวงพ่อพระพุทธสิงห์ชัยมหาลาภมิ่งมงคล พร้อมกับเดินเวียนขวาลอดท้องช้างเผือกแก้วพ่องาทอง 3 รอบ เพื่อขอพรเสริมดวงกันได้
จากนั้นก็ขึ้นรถรางไปยังจุดหมายที่ 2 ก็คือ วัดศรีพันต้น วัดสวยที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกวัดศรีพันต้น ถนนเจ้าฟ้า ห่างจากวัดมิ่งเมืองไม่เกิน 500 เมตร จะพบกับพระวิหารและพระอุโบสถสีทองอร่าม ส่องแสงระยิบระยับยามเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์งามตระการตา สร้างโดย พญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน แห่งราชวงศ์ภูคา (ครองนครน่านระหว่าง พ.ศ. 1960-1969) เด่นด้วยพญานาคเจ็ดเศียรเฝ้าบันไดหน้าวิหารวัด ซึ่งพญานาคถือเป็นหนึ่งในเทพศักดิ์สิทธิ์ในศาสตร์เทวะมันตรา พยากรณ์ ภายในมีภาพเขียนลายเส้นประวัติของพระพุทธเจ้าและพงศาวดารเมืองน่าน บริเวณด้านหน้าวิหารคือโรงเก็บเรือเลิศเกียรติศักดิ์ (พญาฆึ) ของชุมชนบ้านศรีพันต้น ปัจจุบันเป็นเรือโชว์เปิดสนามประเพณีแข่งเรือเมืองน่าน และเรืออัญเชิญถ้วยพระราชทานในนัดปิดสนาม
ใกล้ ๆ กันเป็นที่ตั้งของ วิหารพระมหากัจจายนะ องค์ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในน่าน มีอายุกว่า 600 ปี สันนิษฐานว่าพญาพันต้นเป็นผู้สร้างขึ้น หลังจากสร้างพระวิหารแล้วเสร็จ มีหลักฐานสำคัญคือหลักศิลาจารึกด้านหลังพระมหากัจจายนะ เชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้จะเสริมเรื่องโชคลาภและเงินทอง
ก่อนจะขึ้นรถรางไปยัง วัดสวนตาล วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนถนนมหายศ ห่างจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน ประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมมาวดี เมื่อ พ.ศ. 1770 ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น วิหารที่ประดิษฐาน พระเจ้าทองทิพย์ (หลวงพ่อทองทิพย์) พระคู่บ้านคู่เมือง เป็นพระพุทธรูปทองสำริดองค์ใหญ่ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3 เมตร สูง 4.11 เมตร พระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1992 เพื่อแสดงถึงชัยชนะ ทั้งยังเชื่อกันว่าสร้างสำเร็จด้วยอำนาจทิพย์แห่งเทพเทวา
พระธาตุสวนตาลหลวง เจดีย์ฐานสี่เหลี่ยม องค์พระเจดีย์เป็นทรงดอกบัวตูม (ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์) สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลศิลปะสมัยสุโขทัย ชั้นล่างมีซุ้มประตูทั้งสี่ทิศ พระศรีอริยเมตไตรยปางนั่งพับเพียบ ศิลปกรรมที่สำคัญและมีอยู่หนึ่งเดียวในล้านนาที่มีอายุเก่าแก่ และมีพระเจ้า 5 พระองค์ ประดิษฐานอยู่ในที่เดียวกัน ภายในวิหารหลังเล็กข้าง ๆ พระธาตุ และ บ่อน้ำทิพย์ ตั้งอยู่หน้าวิหารวัด เป็นตาน้ำผุดมาจากใต้ดิน สถานที่ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก เนื่องในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ไหว้พระเสร็จเราก็ไปต่อกันที่ โฮงเจ้าฟองคำ ตั้งอยู่บนถนนสุมนเทวราช ซอย 2 เรือนไม้เก่าที่บอกเล่าเรื่องราว วิถีชีวิต ภูมิปัญญาของคนน่านไว้ได้อย่างดี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2368 เพื่อเป็นบ้านพักของเจ้าศรีตุมมากับเจ้ามะโน แต่เมื่อต้องยกที่ดินให้ราชการ เจ้าบุญยืนซึ่งเป็นธิดาจึงได้ย้ายมาสร้างใหม่ที่บ้านพระเกิด ในปี พ.ศ. 2454 จนตกทอดมาถึง เจ้าฟองคำ ธิดาของเจ้าบุญยืน ต่อมาจึงตั้งชื่อเรือนมาถึงปัจจุบัน คุณภัทราภรณ์ ปราบริปู บุตรีของเจ้าฟองคำ ทายาทรุ่นที่ 4 ก็รับหน้าที่ดูแลเรือนหลังนี้ต่อเป็นอย่างดี จนกลายเป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต และได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย
เรือนหลังนี้เป็นแบบล้านนาโบราณ ยกใต้ถุนสูง มีเจ้าหน้าที่คอยพาชมในส่วนต่าง ๆ ชั้นบนจัดแสดงเป็นที่พักอาศัยและพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น แบ่งเป็นห้อง ๆ ทั้งห้องนอน ห้องรับแขก และห้องครัว ส่วนใต้ถุนมีการสาธิตการปั่นฝ้าย ทอผ้า เล่นพิณ ปักหมอน เป็นต้น เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์-อังคาร) ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 30 บาท
- ช่วงเวลาการให้บริการรถราง
เส้นทางที่ 1 สายเทศบาล 1 รอบปกติ เวลา 09.30 น. และ 10.30 น. รอบเหมา เวลา 08.30 น.
เส้นทางที่ 2 สายเทศบาล 2 รอบปกติ เวลา 13.30 น. และ 15.30 น. รอบเหมา เวลา 14.30 น.
* ตารางเวลาและเส้นทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม
- ค่าบริการรถราง ประชาชนทั่วไป ราคา 30 บาท เด็ก (อายุไม่เกิน 12 ปี) ราคา 15 บาท ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) ราคา 15 บาท และรอบเหมาบริการ ราคา 1,000 บาท
เดินลัดเลาะไหว้พระวัดภูมินทร์ วัดพระธาตุช้างค้ำ แวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน
รถรางกลับมาส่งเราที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน เราเลยพาสองเท้าก้าวข้ามถนนไปยัง วัดภูมินทร์ วัดหลวงที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตามพงศาวดารของเมืองน่านกล่าวว่า พระเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เจ้าผู้ครองนครน่าน ได้สร้างวัดภูมินทร์เมื่อ พ.ศ. 2139 หลังจากที่ครองนครน่านได้ 6 ปี จุดเด่นของวัดคือ เป็นวัดที่สร้างทรงจตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทย ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว อาคารเป็นทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร และพระเจดีย์ประธาน โดยใช้อาคารในแนวตะวันออก-ตะวันตกเป็นพระวิหาร และอาคารแนวเหนือ-ใต้เป็นพระอุโบสถ อีกทั้งยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่เรียกว่า ฮูปแต้ม โดยมีรูปของ ปู่ม่านย่าม่าน (ภาพกระซิบรักบันลือโลก) และโมนาลิซ่าเมืองน่าน นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ทั้ง 4 ทิศ เชื่อกันว่าให้เดินวนก่อน 1 รอบ สังเกตว่าพระพุทธรูปองค์ไหนยิ้มให้เราก็ให้ขอพรกับองค์นั้น
จากนั้นก็ค่อย ๆ เดินลัดเลาะไปตรงสี่แยกถนนสุริยพงษ์ตัดกับถนนผากอง เพื่อไป วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกัน สร้างขึ้นในสมัยเจ้าปู่แข็ง พ.ศ. 1949 เป็นวัดหลวงสำหรับเจ้าผู้ครองนครใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางพุทธศาสนา และพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา ซึ่งลักษณะสถาปัตยกรรมของวัดนี้สะท้อนให้เห็นอิทธิพลศิลปะสุโขทัย เช่น เจดีย์ช้างค้ำ เจดีย์ทรงลังกา รอบฐานองค์พระเจดีย์ก่ออิฐถือปูนและปั้นเป็นรูปช้างครึ่งตัว ด้านละ 5 เชือก และที่มุมทั้งสี่อีก 4 เชือก วิหารหลวงประดิษฐาน หลวงพ่อพระเจ้าหลวง พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 4.50 เมตร สูง 6 เมตร พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง และมีกิมมิกเล็ก ๆ ให้ค้นหา หากได้ไปเยือนอย่าลืมดูกันนะ
หลังไหว้พระเสร็จเราก็เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามวัด เพื่อไปชม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน หรือเดิมที่ส่วนนี้ก็คือ คุ้มของเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช อดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ภายในพิพิธภัณฑ์มีการเก็บรักษาโบราณวัตถุและสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองน่านและถิ่นล้านนา สิ่งสำคัญภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ งาช้างดำ ซึ่งเป็นปูชนียวัตถุคู่เมืองน่านมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของอาคารยังมีอุโมงค์ลีลาวดีให้นักท่องเที่ยวได้ไปถ่ายรูปสวย ๆ กันด้วย ก่อนจะไปหามื้อเย็นกิน พร้อมพักผ่อนเพื่อเที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้
โปรแกรมเที่ยวน่าน วันที่ 2
เยือนหออัตลักษณ์นครน่าน ชมวิวเมือง ณ วัดพระธาตุเขาน้อย สักการะพระธาตุแช่แห้ง
เริ่มวันที่ 2 ด้วยการเจาะลึก ไปทำความรู้จักกับเมืองน่านกันที่ หออัตลักษณ์นครน่าน ถนนยันตรกิจโกศล (เยื้องโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร) แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่เราสามารถย้อนกาลเวลาไปยังแรกเริ่ม ผ่านนิทรรศการที่บอกเล่าที่มาของน่านได้เป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่ห้องน่านนิทัศน์ จัดแสดงวีดิทัศน์เกี่ยวกับเมืองน่าน ห้องในตำนานน่านนคร ห้องนครน่าน กาลเวลาแห่งการสะสมวัฒนธรรม ประวัติของเจ้าฟ้าอัตถวรปัญโญ และเจ้าผู้ครองนครน่าน ห้องสืบศิลป์เมืองสร้างสรรค์ ศิลปหัตถกรรมพื้นถิ่นน่าน และซุ้มจำลองวิถีชีวิตน่าน เป็นต้น
เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ปิดวันพุธและนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-16.00 น. ประชาชนทั่วไป 30 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท และประชาชนชาวไทยที่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป/ผู้พิการ/เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี/นักบวช/นักเรียน/นักศึกษา ฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก หออัตลักษณ์นครน่าน
เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ปิดวันพุธและนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-16.00 น. ประชาชนทั่วไป 30 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท และประชาชนชาวไทยที่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป/ผู้พิการ/เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี/นักบวช/นักเรียน/นักศึกษา ฟรี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก หออัตลักษณ์นครน่าน
ไปถึงน่านจะไม่เช็กอินมุมภาพมหาชนอย่าง วัดพระธาตุเขาน้อย ได้อย่างไร ออกจากหออัตลักษณ์นครน่าน เราก็มุ่งหน้าไปยังยอดดอยเขาน้อย ทางด้านตะวันตกของตัวเมืองน่าน เพื่อชมวิวเมืองน่านจากมุมสูง ลานปูนหลัง พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน พระพุทธรูปปางประทานพร บนฐานดอกบัวสูง 9 เมตร บนยอดพระเกศาทำจากทองคำหนัก 27 บาท สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ใกล้ ๆ กันยังเป็นที่ตั้งขององค์พระธาตุ เจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ ศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปิดท้ายทริปด้วยการไปสักการะปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์อย่าง พระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ภายใน วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง บนเนินทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน สร้างในสมัยเจ้าพระยาการเมือง (เจ้าผู้ครองนครน่านระหว่าง พ.ศ. 1869-1902) เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระมหาชินธาตุเจ้า 7 พระองค์ พระพิมพ์เงินและพระพิมพ์ทอง เป็นพระธาตุประจำปีเถาะ ชาวล้านนาเชื่อว่าหากได้เดินทางไป "ชุธาตุ" หรือนมัสการพระธาตุประจำปีเกิด จะได้รับอานิสงส์อย่างยิ่ง (ณ วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2566 มีการซ่อมสร้างองค์พระธาตุ)
พาชิมของกินเมืองน่าน อาหารคาวหวานครบ
นอกจากที่เที่ยวน่านแล้ว เรายังมีร้านอาหารและร้านขนมมาแนะนำกันด้วย เพื่อจะลองไปลิ้มรสอาหารเหนือในแบบฉบับชาวน่าน ไม่ว่าจะเป็น
ร้านเฮือนฮอม อาหารสไตล์พื้นเมืองแท้ ๆ อยู่ใจกลางเมืองน่าน เมนูแนะนำ เช่น ออร์เดิร์ฟเฮือนฮอม ปลาทอดเฮือนฮอม เห็ด 3 อย่างผัดฉ่า ปีกไก่ทอดมะแขว่น ตำลูกชิดกุ้งสด และที่ขาดไม่ได้กับข้าวซอยน่องไก่รสจัดจ้าน
ร้านเฮือนฮอม อาหารสไตล์พื้นเมืองแท้ ๆ อยู่ใจกลางเมืองน่าน เมนูแนะนำ เช่น ออร์เดิร์ฟเฮือนฮอม ปลาทอดเฮือนฮอม เห็ด 3 อย่างผัดฉ่า ปีกไก่ทอดมะแขว่น ตำลูกชิดกุ้งสด และที่ขาดไม่ได้กับข้าวซอยน่องไก่รสจัดจ้าน
- ที่ตั้ง : ถนนสุริยพงษ์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
- เฟซบุ๊ก : เฮือนฮอม
ร้านเฮือนภูคา อาหารพื้นเมืองเก่าแก่ ตกแต่งสไตล์ล้านนา บรรยากาศสบาย ๆ เมนูแนะนำ เช่น ปลานิลภูกามยาว ซี่โครงหมูทอดมะแขว่น ลาบหมูคั่ว และเชียงดาคั่วไข่ เป็นต้น
- ที่ตั้ง : ถนนข้าหลวง ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00-21.00 น.
- เฟซบุ๊ก : เฮือนภูคา น่าน - HuanPhuka Nan อาหารเหนือเบอร์ 1 ในน่าน
ร้านบ้านขนมยายภรณ์ บ้านไม้ที่ถูกรีโนเวทเป็นร้านขนมหวานสูตรคุณยาย บรรยากาศน่านั่ง ขนมถูกเสิร์ฟมาในถาดดอกไม้น่ารัก ๆ เมนูแนะนำ เช่น บัวลอย ขนมโค ทับทิมกรอบ ข้าวฟ่าง สาคูต้น เต้าส่วน กินคู่กับไอศกรีมกะทิโฮมเมดเข้ากันดี
- ที่ตั้ง : ถนนราษฎร์ประสงค์ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน (ปิดวันพฤหัสบดี) เวลา 10.30-21.00 น.
- เฟซบุ๊ก : ขนมบ้านยายภรณ์
ร้านของหวานป้านิ่ม ร้านขนมเจ้าดังในเมืองน่าน มีขนมหวานให้เลือกหลากหลาย เมนูแนะนำ เช่น บัวลอย ไอศกรีมบัวลอยไข่ เต้าส่วน สาคู ข้าวเหนียวดำ ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวฟ่าง และไอศกรีมซ่าหริ่มทับทิมกรอบ เป็นต้น
- ที่ตั้ง : หมู่บ้านมงคลนิมิตร ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันพฤหัสบดี-จันทร์ (ปิดวันอังคาร-พุธ) เวลา 11.30-21.30 น.
นี่เป็นเพียงโปรแกรมเที่ยวน่าน 2 วัน 1 คืน แบบฉบับตามรอยได้ไม่ยาก ที่เรานำมาฝากกัน ใครวางแพลนเที่ยวน่านในเมือง แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดี ลองปักหมุดไว้สักที่แล้วไปเช็กอินกันดูนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยวน่าน ที่พัก ไหว้พระน่าน อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- ไหว้พระ 9 วัด จังหวัดน่าน ทำบุญพร้อมชมสถาปัตยกรรมที่งดงาม
- วัดถ้ำเชตวัน วัดสวยท่ามกลางหุบเขา ณ อำเภอนาน้อย จ.น่าน
- ชวนเที่ยวบ้านเปียงซ้อ จ.น่าน เสพธรรมชาติบริสุทธิ์ อลังการวิวภูเขาและสายหมอก
- 20 ที่พักปัว จ.น่าน พักกายพักใจไปกับธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์แบบสโลว์ไลฟ์
- อุทยานแห่งชาติศรีน่าน พิกัดชมทะเลหมอก นอนในอ้อมกอดของหมู่ดาว
ขอบคุณข้อมูลจาก : thai.tourismthailand.org และ nantourism.go.th