เมื่อพูดถึงการเดินทางเที่ยวน่าน เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึงบรรยากาศความชิล ความเนิบช้า ของวิถีชีวิตผู้คน บวกกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใคร ๆ ต่างก็ฝากใจไว้ที่น่านกันเป็นแถว และด้วยความที่น่านมีที่เที่ยวเยอะ แต่ครั้งนี้เราจะพาไปที่เที่ยวน่าน (โซนเหนือ) แบบ 3 วัน 2 คืน กัน ไปดูว่าจะมีที่ไหนบ้าง
เที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน
น่าน (โซนเหนือ) มีอะไรน่าสนใจ
เที่ยวน่านโซนเหนือสำหรับทริปนี้นั้น จะประกอบด้วยพื้นที่ของปัว ท่าวังผา และเชียงกลาง พื้นที่นี้จัดว่าเป็นพื้นที่เกษตรกรรมโดยเฉพาะนาข้าว ด้วยเพราะลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ลุ่มแอ่งกระทะ และยังกลายเป็นไฮไลต์สำหรับการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นทั้งที่กิน ที่เที่ยว และที่พัก มักจะเอาวิวทุ่งนามาเป็นจุดขาย ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็มีความงดงามแตกต่างกัน
การเดินทางไปเที่ยวน่าน (โซนเหนือ)
การเดินทางไปยังจังหวัดน่านสามารถไปได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นขับรถส่วนตัวหรือจะนั่งเครื่องบินมาลงสนามบิน ส่วนการเดินทางภายในจังหวัดก็สามารถติดต่อเช่ารถตู้ หากใครสะดวกก็เช่ารถยนต์ขับได้เช่นเดียวกัน โดยขับรถจากตัวเมืองน่านแค่ประมาณ 50-70 กิโลเมตรเท่านั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากขับรถเล่น เน้นเสพวิวธรรมชาติสวย ๆ ก็สามารถไปเช้า-เย็นกลับได้ แต่ถ้าจะให้ดีไม่อยากเที่ยวแบบรีบร้อนเกินไป ลองนอนค้างสัก 1-2 คืนก็จะยิ่งประทับใจมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว
เที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน : Day 1
เริ่มต้นการเที่ยวน่านกับความชิลสุดปังที่ “บ้านกาแฟไทลื้อ” ร้านกาแฟโด่งดังประจำอำเภอปัว ว่ากันว่าวิวดีจนแทบหยุดหายใจ หากไปเที่ยวช่วงหน้าหนาวอาจมีโอกาสชมหมอกขาวบาง ๆ ลอยอวดโฉมอยู่ตรงหน้า บวกกับการตกแต่งภายในร้านสไตล์ล้านนา ยิ่งทำให้ผู้มาเยือนหลงใหลกับเสน่ห์ของเมืองน่านได้อย่างไม่ยากเย็น ที่นี่จึงเหมาะอย่างยิ่งกับการนั่งจิบกาแฟอุ่น ๆ มองวิวภูเขา ชิลกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
เติมคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายให้กระปรี้กระเปร่าแล้ว คราวนี้ก็มีแรงออกเดินทางกันต่อ มาถึงน่านทั้งทีก็ขอไหว้พระรับสิริมงคลกันเสียหน่อย ณ “วัดศรีมงคล (ก๋ง)” วัดเก่าแก่ของชาวบ้านท่าวังผา เมื่อเข้ากราบไหว้ขอพรกันเป็นที่เรียบร้อย แนะนำว่าให้ออกมาเดินเล่นสำรวจบริเวณรอบวัด เชื่อว่าต้องประทับใจกับวิวทุ่งนาข้าว เคล้าบรรยากาศความสดชื่น ที่สำคัญภายในวัดยังมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก คล้ายกับว่าไม่ได้รู้สึกไปเที่ยววัดเสียอย่างนั้นเลย
ก่อนที่จะวกรถเข้าที่พักในคืนแรก โดยเราจะพักกันในโซนบ่อเกลือ แนะนำว่าให้ขับมายังถนนลอยฟ้าดอยภูคา 1256 ซึ่งเป็นถนนลอยฟ้าที่นำทางไปยังบ่อเกลือ อีกทั้งยังเป็นถนนที่มีนักท่องเที่ยวไปเช็กอินเก็บความสวยตลอดสองข้างทาง แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลินจนเผลอไผลไม่ทันระวังก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
หรือหากใครอยากเห็นวิวทิวทัศน์ของถนนชื่อดังของน่านอีกหนึ่งเส้น “ถนนโค้งหมายเลข 3” ก็สามารถเดินทางจากวัดศรีมงคลได้เช่นกัน อยู่บนทางหลวงหมายเลข 1081 ตัวถนนมีลักษณะลัดเลาะตามแนวธรรมชาติ สองข้างทางปกคลุมด้วยต้นไม้ ทำให้เมื่อขับรถมาถึงบริเวณจุดดังกล่าวจะมองเห็นเส้นถนนที่โค้งดูคล้ายกับเลข 3 และเราจะเห็นว่าถนนสายนี้มีนักท่องเที่ยวจอดแวะถ่ายรูปไม่น้อยเลยเช่นกัน ยิ่งถ้าวันไหนอากาศดี ท้องฟ้าเป็นใจ ภาพถ่ายที่ได้ออกมานั้นจะสวยเบอร์แรงเรียกยอดไลก์กระจาย
เที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน : Day 2
ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความสดใส พร้อมลุยเก็บเกี่ยวประสบการณ์เที่ยวน่านกันต่อที่ “บ่อเกลือสินเธาว์” ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของอำเภอบ่อเกลือ ที่นี่เป็นบ่อเกลือโบราณ และยังเป็นบ่อเกลือธรรมชาติบนภูเขา แน่นอนว่าคุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำบ่อเกลือ เหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงภูมิปัญญา ท่ามกลางความสงบเช่นนี้ หากสังเกตให้ดีจะเห็นความเรียบง่ายของวิถีชีวิตผู้คนท้องถิ่น ที่ก่อรัดร้อยเรียงเป็นเรื่องเล่าและยังคงสืบทอดนับจากอดีตส่งต่อมาถึงปัจจุบัน
หลังจากนั้นเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวแนวธรรมชาติกันที่ “น้ำตกสะปัน” น้ำตกขนาดเล็กที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี โดยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติขุนน่าน ว่ากันว่าเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่ไม่ควรพลาด ร้อยทั้งร้อยไม่ว่าใครก็ตามที่มาที่นี่เป็นต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า...สวยงามมาก เอาแค่บรรยากาศรอบ ๆ น้ำตกก็พัดพาเอาความสดชื่น เคล้ากับเสียงน้ำตกไหลเย็นที่ไหลเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เหมาะเป็นที่สำหรับการพักผ่อนสุด ๆ
สำหรับคนที่ยังไม่เต็มอิ่มกับธรรมชาติ แนะนำว่าให้ไปกันต่อที่ “จุดชมวิวดอยภูคา 1715” ขอบอกว่าฟีลดีไม่แพ้กัน อลังการด้วยวิวทะเลหมอกสวย ๆ พร้อมกับวิวภูเขาเป็นฉากประกอบหลัง ตั้งตระหง่านสลับซับซ้อนไปมาราวกับเป็นสวรรค์บนดิน ที่นี่คุณสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้แบบเต็มปอด เอาเป็นว่ายิ่งอยู่นานก็ยิ่งหลงรักน่านมากขึ้นเท่านั้นเลย
และที่พักน่านโซนนี้ยังถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์เด็ด ด้วยเพราะส่วนใหญ่จะเป็นการเข้าพักพร้อมกับเห็นวิวทุ่งนา เรียกได้ว่าถูกใจคนรักธรรมชาติแบบเต็ม ๆ เช่น
แนะนำนิดหนึ่งว่าถ้าอยากไปพักแล้วเห็นทุ่งนาเขียว ๆ ให้ไปพักตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมจนถึงช่วงเดือนธันวาคม เรียกว่าสวยกำลังดี จนอยากสะกิดให้คนข้าง ๆ นอนค้างคืนอีกนาน ๆ
เที่ยวน่าน 3 วัน 2 คืน : Day 3
สำหรับวันสุดท้ายของการเที่ยวน่าน ยังมีของเด็ดซ่อนอยู่ ไปต่อที่ตำบลศิลาแลง เพราะมีที่เที่ยวที่ชื่อว่า “แกรนด์แคนยอนเมืองปัว” หรือ “วังศิลาแลง” เป็นความงดงามของซอกหินที่ลำน้ำกูนไหลผ่าน และกัดเซาะจนเกิดเป็นริ้วร่องตามกาลเวลา ในแต่ละช่วงฤดูก็จะมีเสน่ห์แตกต่างกันไป ถ้าเป็นช่วงแล้งจะมองเห็นวังน้ำและโตรกผาอย่างชัดเจน ซึ่งเหมาะกับการถ่ายรูปสุด ๆ หรือถ้าเป็นช่วงหน้าหนาวจะอลังการด้วยสายน้ำ แต่ก็ไม่ถึงกับเชี่ยวมาก พอให้เราได้เก็บเกี่ยวความชื่นใจเคล้าลมเย็น ๆ
จบที่เที่ยวสุดท้ายสำหรับการเที่ยวน่าน (โซนเหนือ) ที่ “ดอยเสมอจันทร์” ที่นี่นอกจากจะมีวิวสวย ๆ รอให้คุณได้ชื่นชม ยังมีกาแฟอร่อย ๆ รอให้ลิ้มลอง ท่ามกลางบรรยากาศแสนอบอุ่นและเป็นกันเอง มองเห็นวิวแบบพาโนรามา ทั้งดอยสกาด ดอยภูคา และอุทยานแห่งชาตินันทบุรี ได้มองเห็นวิวสวย ๆ ก่อนปิดทริปแบบนี้ เชื่อเลยว่ามีแรงเหลือเฟือสำหรับการเดินทางกลับแน่นอน
จบกับการปิดทริปเที่ยวน่าน (โซนเหนือ) แบบฉบับ 3 วัน 2 คืน อย่างสวยงาม เอาจริง ๆ นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างทริปเท่านั้น โซนนี้ยังมีที่เที่ยวทั้งเด็ดและดีอีกเพียบ แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีไอเดียก็ลองเอาตัวอย่างของเราไปลองปรับใช้ดูได้นะ ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่กิน ที่พัก ที่เที่ยวน่าน อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- วัดพระธาตุแช่แห้ง ไหว้พระธาตุประจำคนเกิดปีเถาะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองน่าน
- 20 ที่พักปัว จ.น่าน พักกายพักใจไปกับธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์แบบสโลว์ไลฟ์
- 40 ที่เที่ยวน่าน เมืองแห่งขุนเขาอันมากเสน่ห์
- 12 ที่เที่ยวน่านหน้าฝน สัมผัสความสุขมุมใหม่ในช่วงกรีนซีซั่น
- ชวนเที่ยวบ้านเปียงซ้อ จ.น่าน เสพธรรมชาติบริสุทธิ์ อลังการวิวภูเขาและสายหมอก
- 10 คาเฟ่น่าน บรรยากาศละมุน เครื่องดื่มดี เช็กอินสักทีแล้วจะหลงรัก