x close

เกาะกลางและทิศทางของบางคน

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่
 
เกาะกลางและทิศทางของบางคน (อสท.)

ฐากูร โกมารกุล ณ นคร...เรื่อง
สาธิต บัวเทศ...ภาพ

          บน เกาะกลาง มากมายไปด้วยแง่มุมน่าสนใจและสวยงาม ทั้งวิถีชีวิตผู้คน ศรัทธาในศาสนาที่พวกเขายึดถือ หรือแม้แต่วิวทะเลกระจ่างตาทุกเช้าเย็น บางคนเชื่อในเรื่อง "ทิศทาง" และดำเนินชีวิตไปตามคืนวันด้วยแรงขับเคลื่อนจากสิ่งเหล่านั้น อาจหกล้ม เดินต่อ หรือพักวางลมหายใจ แต่ก็น่าประหลาดใจ ไม่มีใครหันหลังให้กับเส้นทางที่ทอดยาวออกไปไกลแสนไกล

          บนเกาะเล็ก ๆ หน้าเมืองกระบี่ อาจเพียงไม่กี่วัน แต่ผมได้มีโอกาสพบว่า ชีวิตของผู้คนที่นั่นล้วนหลากไหล เดินไปในทิศทางเดียวกันอย่างถึงที่สุด อาจคล้ายทะเล คลื่นลม ฤดูกาล รวมถึงศาสนา และวันเวลาที่ห่อหุ้มอยู่ ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนทำให้แผ่นดินผืนเล็ก กลางทะเลแห่งนี้มี "ระยะทาง" อันยาวไกล ศักดิ์สิทธิ์ และคงทนมากพอที่จะนำพา "นักเดินทาง" อย่างพวกเขาให้ก้าวต่อไปอย่างอบอุ่น

          1. เสียงอาซานกังวานปกคลุม เกาะกลาง ยามเที่ยงอย่างที่เคยเป็นมา เสียงซึ่งพาให้พี่น้องมุสลิมบ้านคลองประสงค์ และอีก 3 ตำบล รายรอบอาบน้ำชำระล้างร่างกาย พวกเขาทยอยมารวมตัวกันหน้า มัสยิดบ้านเกาะกลาง ห้วงยามนั้นดูสงบ บริสุทธิ์ และโลกใบอื่นช่างไร้ความหมาย แม้จะไม่ใช่มัสยิดใหญ่โตเหมือนบนฝั่ง แต่วันละหมาดใหญ่ทุกวันศุกร์ ก็ราวกับพวกเขารอคอย การงานหยุดพัก และคล้ายเกาะกลางจะงีบหลับไร้ความเคลื่อนไหวอื่นใด

          หน้ามัสยิดไม่เพียงเต็มไปด้วยผู้ชาย ทั้งเฒ่าชราไปจนถึงเด็กหนุ่ม การพบปะง่าย ๆ ไม่เคยเปลี่ยนรูปแบบ ไม่เพียงพิธีกรรมทางศาสนาที่พวกเขาแสนเคร่งครัด หากแต่ก่อนถึงเวลาละหมาด หน้ามัสยิดเต็มไปด้วยถ้อยสนทนาไถ่ถามทุกข์สุข พักผ่อนหย่อนใจ โต๊ะอิหม่ามส้าหนิ คลองรั้ว ผู้นำทางศาสนาของที่นี่ ไม่เพียงพาผมและเพื่อนเข้าไปในมัสยิด แต่รอยยิ้มบนแผ่นผิวยับย่นนั้น เปี่ยมด้วยไมตรีราวผู้เฒ่าเอ็นดูลูกหลาน

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

          "คนเกาะกลางวันธรรมดาก็ไปสุเหร่าตามแต่ละหมู่บ้าน แต่วันละหมาดใหญ่ ที่นี่คือศูนย์รวม" โต๊ะส้าหนิพูดเบา ๆ น้ำเสียงนิ่งเย็น รอบด้านเหล่าผู้เฒ่าภายใต้กะปิเยาะห์ขาวสะอ้าน พ่นควันใบจากพูดคุยสบายอารมณ์ น่าแปลกใจ สิ่งที่ดูเหมือนไกลตัว ยากจะสัมผัสและเข้าใจ นาทีนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

          สิ้นเสียงอาซานผู้คนนับร้อยค่อยทยอยเข้าสู่ข้างใน พวกเขาเอิยะติกัฟ-จัดแถวให้เป็นระเบียบ งดงาม ทุกอย่างเต็มไปด้วยความเคร่งครัด ต่างกับลมทะเลเย็นสบายด้านนอก หลังสิ้นคำสอนที่หนีไปพ้นเรื่องชุมชน ความดี และศรัทธาต่อพระอัลเลาะห์ เสียงละหมาดก็ก้องกังวานทุ้มต่ำไปยาวนาน พร้อมภาพอันเปี่ยมพลังในมัสยิดเล็ก ๆ บนเกาะแห่งหนึ่งของทะเลอันดามัน

          "นอกจากทะเล คนที่นี่อยู่ได้ด้วยศาสนา" ก่อนลาจากไปในบ่ายของวันศุกร์นั้น โต๊ะส้าหนิตอบคำถามผมในเรื่องอันเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลง ว่าบางอย่างนั้นจีรังยั่งยืน เช่นเดียวกับวันที่ผมนั่งคุยกับครูหนุ่มคนหนึ่ง ของโรงเรียนปอเนาะบ้านคลองกำ กลางร่มครึ้มของไม้ใหญ่และอาคารไม้สีน้ำตาลคร่ำคร่าข้างในนั้น เด็ก ๆ อ่านเขียนทั้งภาคศรัทธา ภาคปฏิบัติ ภาคจริยธรรม และภาคประวัติศาสตร์ อย่างน่าชื่นชม

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

          "เด็กมุสลิมเรียนหนักครับ นอกจากวิชาความรู้ ทุกคนต้องมาเรียนศาสนากันตอนค่ำ" เช่นนี้เอง ที่คัมภีร์อัลกุรอานไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ทำให้ผู้คนอ่านท่อง หากแต่คือ "หนทาง" ที่จะบ่มเพาะและพัดพาให้พวกเขาเติบใหญ่ และก้าวเดินไปใกล้เคียงดินแดนแห่งพระเจ้า อย่างที่เขาศรัทธาได้มากที่สุด

          กว่า 150 ปีมาแล้ว แผ่นดินเล็ก ๆ ตรงปากน้ำกระบี่ เป็นที่หยัดยืนของพี่น้องมุสลิมที่สมัยปู่ย่าว่ากันว่า บรรพบุรุษของพวกเขาเร่ร่อนมาจากกลันตัน มาเลเชีย ความสมบูรณ์ในอดีตของเมืองกระบี่ทั้งบนบกและใต้ทะเล คือจุดที่ดึงให้หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ เกิดขึ้นบน เกาะกลาง ผ่านพ้นมาเป็นร้อยปี หลายอย่างผันเปลี่ยน ทั้งจากน้ำมือของพวกเขาเอง ทั้งจากธรรมชาติอันไร้การควบคุม หรือแม้แต่สิ่งเร้าจากโลกบนฝั่งอันขับเคลื่อน หากภาพผู้คนหลายวัยในมัสยิดเล็ก ๆ ก็ยังคงยืนยันว่า เมื่อในใจยังเปี่ยมด้วยสิ่งที่เรียกว่าศรัทธา ทิศทางของพวกเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนผัน

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

          2. ทั้ง บ้านเกาะกลาง บ้านคลองประสงค์ บ้านคลองกำ และที่ไกลสุดคือ บ้านบางขนุน ห่มคลุมอยู่ด้วยทะเล งานประมง และเกษตรกรรม พวกเขายิ้มรับกับทุกฤดูกาลด้วยการงานเช่นนี้มาเป็นร้อยปี ทุกวันบนเส้นทางซีเมนต์เล็ก ๆ ที่ทอดยาวไล่ลึกไปตามแต่ละหมู่บ้านของ เกาะกลาง ผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่รายรอบล้วนบอกให้เรารู้ว่า การงานคือสิ่งที่แยกไม่ออกจากทางเดินชีวิต กว่า 47,500 ไร่ ของเกาะกลาง แผ่ขยายกลายเป็นที่ราบกลางผืนทะเลกระบี่อันไพศาล 4 หมู่บ้าน บางแห่งเป็นที่หยั่งรากลงดินของข้าว และชีวิตก็งอกงาม

          "ดินที่นี่เป็นดินเค็มครับ แต่ไม่ใช่ว่าข้าวจะไม่งาม" ปลายฤดูเก็บเกี่ยววันที่ "ข้าวสังข์หยด" ของพวกเขาพร้อมจะสุกหอมอยู่ในจานและเป็นสินค้า ประวัติ คลองรั้ว ประธานกลุ่มชาวนาตำบลคลองประสงค์ บอกว่าที่นาบนเกาะนั้นเคย "ล่ม" ด้วยน้ำเค็มมาก่อน

          "ข้าวพื้นเมืองใต้หายไปเยอะครับ ทั้งข้าวเล็บนก ข้าวดำปากหลาดข้าวลูกหมี" หลายคนคงประหลาดใจกับ "ข้าวในเล" ของพวกเขา แต่จริง ๆ แล้ว แผ่นดินกลางทะเลที่ดินมีสภาพเค็มหรือกร่อยนั้น กลับคล้ายกับดินแดนแห่งข้าวแถบทุ่งกุลาร้องไห้ของอีสาน ซึ่งข้าวที่ได้มักมีเนื้อนุ่มหอม จากที่นาล่ม ข้าวดั้งเดิมหายสูญ คนเกาะกลางทดลองปลูกพันธุ์ข้าวเลื่องชื่ออย่างข้าวสังข์หยด ด้วยดินอันอุดม การถ่ายเทของน้ำ ทั้งจืดและเค็ม ผืนนานับหมื่นไร่กลับหอมหวาน

          "กลายเป็นว่าชาวบ้านมีแรงใจจะทำนาต่อครับ ข้าวสังข์หยดส่งออกเป็นรายได้หลักของคนทำนา ข้าวพื้นเมืองก็ฟื้นฟู ปลูกกิน" ต่อหน้าเครื่องตีข้าวตัวเล็กริมนา ประวัติและพี่น้องชาวนาบอกต่อหน้าทุ่งกว้าง ที่ยามนี้ว่างโหวง กลายเป็นสีน้ำตาลด้วยเกี่ยวเก็บกันจนเกลี้ยง นาทีนั้นแม้แดดบ่ายร้อนร้าย หากความสุขคล้ายปกคลุมทั้งใจคนและนาข้าว

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

          บ่ายคล้อย นาข้าวเหลือควายไม่กี่ตัวเล็มหญ้าอยู่เพลิน ๆ ฝูงแพะกระจัดกระจายหากินร่วมกัน ผมขี่มอเตอร์ไซค์คันเก่า แวะเข้าไปเยี่ยมหญิงชราที่ยิ้มแย้มให้กันทุกวันบนเกาะกลาง ภายใต้ฮิญาบสีทีม รอยยิ้มของหญิงชราอย่าง ประจิม เล็กดำ สดใสไม่แตกต่างจากผ้าปาเต๊ะที่เธอ และผู้หญิงที่นี่ร่วมกันสร้างมันขึ้นมา "แรก ๆ มะไม่รู้หรอกว่า มันจะดีอย่างนี้" แกว่าในวันที่เริ่มจับงานผ้าเขียนลายแสนสวย อันมีที่มาจากอินโดนีเซีย ซึ่งคน เกาะกลาง โดยเฉพาะผู้หญิงได้รับการส่งเสริมจากงานกสิกรรม หรืองานประมงที่ต้องคอยแกะอวน หรือล้างและชำแหละปลาต่อจากผู้ชายที่รอนแรมไปในทะเล ผู้หญิงรุ่นต่อรุ่นของเกาะกลางหันมาจับ "จันติ่ง" อุปกรณ์เขียนเทียนลงบนผืนผ้า กลายเป็นงานเขียนลายและย้อมสีแสนสวย อันเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนใต้

          ผมเดินเข้าไปในโรงย้อมและห้องเขียนลาย หญิงสาวบางคนเขินอายที่ใบหน้า แต่มือที่ตวัดจันติ่งลากไปมานั้นไม่มีสั่นไหว ผ้าปาเต๊ะของบ้านเกาะกลางส่งขายไปทั้งเมืองหลวง และต่อยอดออเดอร์ไปทั้งญี่ปุ่นอินโดนีเซีย ซึ่งน่าดีใจว่ามันเกิดขึ้นง่าย ๆ ภายใต้โรงเรียนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งบนเกาะที่มากด้วยรอยยิ้มอันเป็นสุข นาน ๆ ทีมะประจิมจะลงไปดูในโรงเขียนหรือพิมพ์ลาย วัน ๆ แกนั่งยิ้มมอง "ภาพเปลี่ยนแปลง" ของคนรุ่นลูกหลานอยู่ที่เรือนจัดแสดงผ้าด้านหน้า ยิ้มหัวต้อนรับผู้มาเยือน หรือไม่ก็ทอดมองออกไปในผืนนาหน้าบ้าน "เดี๋ยวนี้เด็ก ๆ ทำกันเก่งแล้ว มันเป็นบ้านเรา มีงานการทำ กินอิ่ม นอนหลับดีกว่าจากไปไหน"

          ท่ามกลางโลกเคลื่อนไหลที่บนฝั่ง เมื่อชีวิตมีทางเดินมากขึ้น อาจทำให้ใครสักคนมีเวลาจะนั่งมอง "ระหว่างทาง" อย่างเป็นสุขและรื่นรมย์ ถนนสายเล็กพาเราไปเยี่ยมเยียนผู้คนของ เกาะกลาง อีกหลากหลายสวนมะพร้าว และมะม่วงหิมพานต์แทรกปนอยู่ตลอดพื้นที่ แม้จะรู้ว่ากรอบด้านล้วนคือทะเล หากบนเกาะก็ร่มรื่น เย็นตา เช่นเดียวกับที่ผมเข้ามานั่งในบ้านของสมบูรณ์ หมั่นค้า บ้านโบราณของเขาและ "งาน" ในมือล้วนทำให้ผมรู้สึกว่า ทุกสิ่งที่รายรอบและหล่อหลอมคนบ้านเกาะกลาง มันล้วนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับคนที่นี่ ไม่ว่าจะพลิกผันออกมาในรูปแบบใด

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

          "เราเห็นเรือหัวโทงมาแต่ลืมตา หาปลา โตใหญ่ หรือทำงาน ก็ด้วยเรือนี้" บังสมบูรณ์ว่า เรือหัวโทงเป็นส่วนหนึ่งของคนกระบี่มานานแล้ว "ไม่มีผู้ชายคนไหนขับเรือไม่เป็น" พ่อของบังคือช่างต่อเรือเลื่องชื่อ ทักษะรวมถึงเชิงช่างถูกส่งทอดมาสู่เขา แม้วันนี้จะร้างลางานออกทะเลไปนาน แต่ทุกอณูของลำเรือกลับมาอยู่ที่ "มือ" ของเขา เป็นเรือหัวโทงจำลองแสนสวย ที่เสริมอาชีพให้อยู่กินได้ในนาทีปัจจุบัน จากไม้ตะเคียน ไม้พะยอม ที่ใช้ทำเรือจริง

          เรือหัวโทงจำลองของบังสมบูรณ์ ลดทอนมาใช้ไม้เนื้อนิ่มอย่างไม้ตีนเป็ด ไม้ยอ "ดัดและแต่งง่ายกว่า" ทุกรายละเอียดถูกลดทอนลงสู่ลำเล็ก หากแต่แทบไม่ผิดรูปทรง มีที่พัฒนาเป็นเรือเมล์ เรือตังเก เรือประมง แต่ที่เหมือนกันทุกลำคือ "หัวโทง" ซึ่งว่ากันว่าหัวที่แหลมเชิดสู้แรงคลื่นนั้น มีที่มาจากปลากระโทงแทงอันมีปากแหลมยาว

          เรานั่งกันเพลิน ๆ กับเรือจำลองหลายลำ ที่ใต้ถุนบ้าน ท่อนไม้ที่ย่อยขนาดก่ายกองรอวันขึ้นรูป บังสมบูรณ์ดูใจเย็นในทุกขั้นตอน ทำไปเรื่อ ๆ ราวกับมันไม่มีที่สิ้นสุด "บางทีมันไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็นความรัก" ชายหน้าเข้มพูดถึงงานของเขาอย่างละมุนละไม ขณะที่รอบด้านล้วนเต็มไปด้วยความรื่นรมย์

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

          3. เรือหัวโทงของคน เกาะกลาง แทบทุกบ้านจะบ่ายหน้าออกทะเลกว้าง เราไปดูภาพสีส้มแดงของดวงอาทิตย์ ย้อมรูปทรงของพวกเขาเป็นเงาดำกันแทบทุกเช้า ชีวิตเริ่มต้นในทะเลมายาวนาน สั่งสมและขัดเกลาให้ลูกทะเลของบ้านเกาะกลางเจนจัด เข้าใจทั้งฟ้า ฝน คลื่น ลม และหมู่สัตว์น้ำ ไม่เพียงเท่านั้น พื้นที่ปากอ่าวอันมากมายด้วยธาตุอาหารของสัตว์น้ำ ที่ปนอยู่กับตะกอนในสันดอนเลนทราย รวมไปถึงป่าชายเลนอันอุดม ล้วนคือบ้านที่ทำให้คนเกาะกลางและคนกระบี่ยังรู้จักกับคำว่า "ความสมบูรณ์"

          ทุกเช้าที่ ปลายแหลมขาม หากไร้คลื่นลมกลางทะเล ก่อนตะวันจะพ้นตีนฟ้า วันที่ผมและเพื่อนลงเรือไป "ออกเล" ไปกับ สุริยา คลองรั้ว กลางแดดสายของวันน้ำตายนั้น ดูเหมือนกับว่าชีวิตประมงนั้นยิ่งใหญ่และมีค่าเสมอสำหรับคนที่นี่ ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปสักเท่าใด บ้านของบังขุดบ่อเลี้ยงปูดำตัวเขื่อง ปูที่หามาจากป่าชายเลน ถูกเลี้ยงให้โตด้วยปลาจากเลนอกที่ตัวเล็กเกินจะขาย แต่คืออาหารอันโอชะของปูดำพันธุ์ดี ทุกอย่างเกื้อกูลสัมพันธ์กันหมด โดยมีตัวกลางคืนคน เกาะกลาง เป็นผู้ร้อยเรื่องราวให้เป็นวิถีชีวิต เราผ่านป่าโกงกางร่มครึ้มอันบ่งบอกถึงสิ่งเชื่อมโยงระหว่างคน สัตว์น้ำ และผืนทะเล อันแสนสมบูรณ์ของพวกเขา รากโกงกางทั้งใบใหญ่และใบเล็กก่ายเกยกันแน่นทึบ ปนเปไปกับตะบูนดำที่แทงรากขึ้นมาจากพื้นดินเลนเป็นแท่ง ๆ

          บังสุริยา บอกชนิดของพืชโกงกางอีกมากที่ทำให้ผมต้องหันมองตามแทบไม่ทัน "เถากระเพาะปลา ตีนเป็ด เป้ง หงอนไก่ทะเล" มันสมบูรณ์หลากหลาย มากมายจนผมแยกไม่ออกท่ามกลางความหนาแน่นเขียวครึ้ม "เห็นอย่างนี้เถอะ เกือบสามสิบปีที่แล้วตัดกันไปมาก ถ่านไม้โกงกางมันขายดี" บังว่าถึงอดีตของเกาะกลางบางช่วง ซึ่งตรงกับราวปี พ.ศ. 1511 – 2426 ที่มีการตัดไม้ในป่าชายเลนเพื่อเผาถ่านส่งไปขายถึงสิงคโปร์ และปีนังอย่างมากมาย แทบทุกชายฝั่งของอันดามัน ไม่เฉพาะกระบี่มากมายไปด้วย "หลุมถ่าน" หรือโรงเผาถ่าน "ตอนนั้นไม่มีใครรู้หรอกว่ามันกระทบกับเรา" หมดยุคสัมปทาน ว่ากันว่า เราเสียป่าชายเลนไปกับการตัดไม้อย่าง "ถูกกฎหมาย" เกือบ 4,000 ไร่


เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

          สายตาของบังไม่ใช่คนอาวรณ์อดีต ทุกอย่างผ่านไปและล้วนได้รับการฟื้นฟู "เดี๋ยวนี้ใครก็รู้ว่ามันดี คนที่นี่ปลูกเพิ่มกันแทบทุกครัวเรือน" ไม่มีใครเข้าใจและพร้อมจะดูแลบ้านของตัวเอง มากไปกว่าเจ้าของบ้านที่ลืมตาหากินอยู่กับมัน คลองย่อยเปิดสู่มุมกว้าง แม่น้ำกระบี่เชื่อมต่อออกสู่ทะเลนอกลมทะเลเหนียวกาย แต่ตามสันดอนกระจัดกระจายด้วยชาวบ้าน ที่ไม่อยู่ในเรือ ก็จ่อมจมอยู่บนสันดอนที่ตื้นขอด

          "ช่วงนี้หัวน้ำขึ้น สัตว์น้ำจะตามมามาก" เมื่อเข้าไปใกล้จึงรู้ว่าในเรือของพวกเขาเพียบแปล้ด้วยหอยชนิดต่าง ๆ บางคนหาหอยหวานที่ฝังตัวอยู่ในเลนปนทราย บังว่าคนพวกนี้แสนชำนาญ ต้องคอยมองรูท่อน้ำของตัวหอยก่อนขุดลงไปเก็บ ไหนจะกลุ่มที่หาหอยปากหนา ที่ยืนตากแดดอยู่ในทะเลตื้น ๆ ใช้เท้าคล้ำหาเปลือกหอยลื่น ๆ ก่อนจะดำลงไปเก็บ "พวกนี้เปียกชุ่มตลอดเวลาครับ แต่คุ้ม มันมีมากตามปากอ่าว" บังจุดยาเส้นสูบ มองไปในความเวิ้งว้าง เร่งเครื่องโต้ลมไปอย่างคนเข้าใจทะเล

          เราลอยลำออกมาไม่ไกล แนวฝั่งเมืองยังเห็นได้ที่ปลายตา สักพักบังก็เทียบเรือเข้ากับโป๊ะของตน มันคือแนวไม้ที่ปักเป็นรูปตัววีกว้างใหญ่ หากขึ้นไปมองด้วยสายตาของนกรอบด้านขึงด้ายตาข่ายในลอนชั้นดี และคือ "กับดัก" อันชาญฉลาดของชาวประมง ที่ในนั้นมากไปด้วยปลา กุ้ง และสัตว์น้ำนานาที่เข้ามาติด

          "แนวใครแนวมัน เขาจะไม่สร้างโป๊ะทับแนวกัน มันน่าเกลียด เหมือนไปดักปลาอยู่ข้างหน้าคนอื่น" เช่นนั้นเองโป๊ะในทะเลกระบี่จึงแผ่กว้างไปตามผืนทะเล บังว่าปีหนึ่งลงทุนสร้างโป๊ะราว 15,000 บาท อยู่ได้ราว 6 เดือน และผุพังไปจริง ๆ ช่วงมรสุมมาเยือน "ระหว่างนั้นก็ซ่อมไปตักปลาไป คุ้มอยู่" เอาแค่วันที่ผมออกไปกับบัง แม้ไม่ใช่ช่วง "ปลาเข้า" แต่ปลาหลากหลายรวมไปถึงกุ้ง ก็ดูจะเพียงพอสำหรับชายในตลาดและเหลือเศษปลาไว้เลี้ยงปูดำ

          นาทีที่ล่องเรือกลับ ผมคิดเอาเองว่าสำหรับคนเกาะกลาง พวกเขาหวงแหนและดูแลวิถีประมงมาเนิ่นนาน ส่งทอดสู่ลูกหลาน และพยายามรักษาสิ่งรายรอบ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นความสมบูรณ์เอาไว้อย่างถึงที่สุด อาจเพราะชีวิตกลางผืนทะเลนั้น เปี่ยมค่าและดูเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด สำหรับคนที่ลืมตาและหายใจอยู่ด้วยเสียงคลื่น และจังหวะกระแสน้ำขึ้นลง

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

          4. ถนนบน เกาะกลาง ล้วนพาเราไปพบกับรอยยิ้มและมิตรภาพที่มีอยู่แทบทั้งเกาะ ตั้งแต่ขี่มอเตอร์ไซค์สวนกัน แวะเติมน้ำมัน หาน้ำดื่ม หรือนั่งเล่นอยู่ที่ท่าเรือ มันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะทิศทางการท่องเที่ยวหรือจริตแปลกปลอมใด ๆ หากเพราะที่นี่คือ "บ้านหลังเล็ก" กลางทะเลของพวกเขา และรอยยิ้มรวมถึงการอวยพรให้กันตามแนวทางของศาสนา ล้วนบ่มเพาะให้มิตรภาพของพวกเขาเป็นเช่นนี้

          ทุกเช้าและเย็นแถบท่าเลและท่าหิน ซึ่งเป็นท่าเรือข้ามฟากจาก เกาะกลาง ไปยังฝั่งเมืองกระบี่ จะจอแจอยู่ตามห้วงเวลา แถบท่าเลนั้นใกล้เมืองกว่าข้ามไม่นาน จึงมากไปด้วยเด็กนักเรียนและผู้คนในวัยทำงาน ที่ต่างก็เพิ่มชีวิตชีวาให้ยามเช้าและเย็น เต็มไปด้วยสีสันแห่งการพบปะพูดคุย ตรงแถบ ท่าหิน คือ ท่าเรือเก่า ที่หันหน้าลงสู่คลองน้ำกร่อยสายใหญ่ตลาดและร้านค้าเล็ก ๆ ล้วนมากมายชาวบ้าน

          โดยเฉพาะผู้หญิงที่มาจ่ายตลาด ส่วนผู้ชายมักรวมตัวกันอยู่ที่ร้านกาแฟแสงสลัวตรงใกล้ท่านา งานหนักกลางทะเล คลื่นลม และความเวิ่งว้าง ส่งผลให้พวกเขาหลงรักห้วงเวลาที่อยู่ "บนฝั่ง" ความรื่นเริงผ่อนคลายปะปนอยู่ในเสียงหัวเราะ ตลอดจนการพูดคุยสัพเพเหระ เหตุการณ์บ้านเมือง รวมไปถึงสารทุกข์สุกดิบของแต่ละคน ต่อหน้ากาแฟดำเข้มขม และใบจากที่พวกผู้ชายนิยมพ่นควันหอมควบคู่มาด้วย ส่วนพวกผู้หญิงและคนแก่ของคนเกาะกลาง ดูเหมือนพวกเธอจะรอคอยให้บ่ายวันอาทิตย์เวียนมาถึง


เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

          "ตลาดนัดผู้สูงอายุ" จะตั้งแผงกันตั้งแต่หัวบ่ายไปจนถึงใกล้เวลาละหมาดเย็น ขนมพื้นบ้าน อาหารประดา มีกลายเป็น "เรื่องสนุก" ง่าย ๆ ที่พาคนเกาะกลางออกมาจับจ่ายนอกบ้าน มากไปกว่าหันหน้าเข้าหาเตาของตัวเองอย่างทุกเมื่อเชื่อวัน หากไม่ติดเรือออกไปเที่ยวในทะเล รอถ่ายภาพอาทิตย์ตกตามหัวหาดหรือแวะเวียนไปพบใครสักคนตามบ้าน ผมและเพื่อร่วมทางมักใช้เวลาบนเกาะกลางแถบท่าเรือทั้ง 2 แห่ง มันปนเปไปด้วยความมีชีวิตชีวาอย่างเป็นตัวของตัวเองอย่างถึงที่สุด หากไม่นับชีวิตในทะเลที่ล่วงหน้าออกไปตั้งแต่เช้ามืด ท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะอันมีอยู่จริงของพวกเขา ที่ดูเหมือนว่ามันไม่เคยเลือนหายไป แม้ความแร้นแค้นหรือการผันเปลี่ยนจากภายนอก จะมาเยือนเป็นบางครั้งคราว

         วันนี้ที่ เกาะกลาง แผ่นดินอันเป็นบ้านกลางทะเลของพวกเขาไม่ได้ห่างไกลอีกต่อไป ใครต่อใครก็ข้ามมาสัมผัสรอยยิ้มและมิตรภาพของพวกเขาได้ และเช่นกันในทางตรงกันข้าม โลกเคลื่อนไหลที่ฝั่งเมือง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นและเกินกว่าที่คนที่นี่ จะทำความรู้จักและเข้าใจในแต่ละนิยามอันพร้อมจะเปลี่ยนแปลง หากแต่ต่อหน้าผืนทะเล คลื่นลม หรือแม้แต่สิ่งที่พวกเขาศรัทธา อันเป็น "ทิศทาง" ที่เก่าแก่และคงทน เปี่ยมค่าและน่าใส่ใจหวงแหน คล้ายบางหนทางก็เลือกเฟ้นผู้ก้าวเดิน และปลายทางอันเหมาะสมกับมันเอาไว้แล้วอย่างสมบูรณ์แบบ

เกาะกลาง

เกาะกลาง กระบี่

คู่มือนักเดินทาง

          เกาะกลางคือแผ่นดินกลางทะเลที่ปากน้ำกระบี่ ผู้คนที่นั่นใช้ชีวิตสุขสงบบนเกาะแห่งหนึ่ง ที่น่าสนใจทั้งเรื่องวิถีชีวิต และภาพวิวทะเลกระจ่างตาในยามเช้าและเย็น

          จากตัวเมืองกระบี่ สามารถข้ามเรือไปเที่ยวเกาะกลางได้ 2 ท่า คือ ท่าเรือสวนสาธารณะธารา-ท่าเล (ราคานักท่องเที่ยวคนละ 10 บาท) และท่าเรือเจ้าฟ้า-ท่าหิน (ราคานักท่องเที่ยวคนละ 30 บาท) บนเกาะมีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถสามล้อพ่วงข้างให้บริการ สามารถติดตามเหมาทั้งวันโดยตกลงราคากับเจ้าของรถได้

          อยากพักกับชาวบ้าน เที่ยวชมการประมงพื้นถิ่น การปลูกข้าวสังข์หยด การทำผ้าปาเต๊ะ ติดต่อกลุ่มโฮมสเตย์บ้านเกาะกลาง มีบ้านพักบริการ 10 หลัง รองรับหลังละไม่เกิน 3 คน ราคาคนละ 500 บาท ต่อคนรวมอาหาร 3มื้อ โทรศัพท์ 08 9475 0495 และ 08 1535 9091 เว็บไซต์ www.krabihomestay.com

          สามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อบต. คลองประสงค์ โทรศัพท์ 0 7561 8055

          เนื่องจากพี่น้องบนเกาะกลางนับถือศาสนาอิสลามเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ควรงดนำเนื้อหมูและสุรา รวมถึงของมึนเมาต่าง ๆ ขึ้นไปบนเกาะ อีกทั้งควรให้ความเคารพในความคิดความเชื่อและข้อปฏิบัติต่าง ๆ ของเจ้าบ้าน เพื่อมิตรภาพและการเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี


แนะนำที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรม เพียบ


คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก


ปีที่ 51 ฉบับที่ 8 มีนาคม 2554


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เกาะกลางและทิศทางของบางคน อัปเดตล่าสุด 18 เมษายน 2554 เวลา 14:22:19 7,068 อ่าน
TOP