งานรักดอก ราชบุรี มหัศจรรย์แดนมาลี กับโลกแห่งเทพนิยาย

          ชวนเที่ยวงานนิทรรศการ RakDok Floral Destination | มหัศจรรย์แดนมาลี ณ The Blooms Orchid Park ตำบลวัดแก้ว อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ชมสวนป่าอุทยานกล้วยไม้และตื่นตาตื่นใจกับฉากนิทานดอกไม้กว่า 20 ฉากสร้างสรรค์ ราวกับหลุดไปในโลกแห่งเทพนิยาย

          หน้าหนาวปีนี้ มีเทศกาลและกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจให้ไปเช็กอินไม่น้อยเลย โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับดอกไม้ มีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด งานดอกไม้ในกรุงเทพฯ ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก เช่น RakDok Floral Destination | Hidden ณ บึงไมตรีจิต คลองสามวา รังสรรค์ขึ้นโดย Rainforest Thailand เป็นงานที่อลังการไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ ได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม ล่าสุดทาง Rainforest Thailand ก็ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการสวนกล้วยไม้ จัดงาน RakDok Floral Destination | มหัศจรรย์แดนมาลี ณ The Blooms Orchid Park ขึ้นมาอีก เพื่อให้คนรักดอกไม้และสายแชะ สายเที่ยว ได้ตามไปเช็กอินถ่ายรูปสวย ๆ กันรัว ๆ

          งานนิทรรศการ RakDok Floral Destination | มหัศจรรย์แดนมาลี จัดขึ้น ณ The Blooms Orchid Park  ตำบลวัดแก้ว อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ

1. สวนป่าอุทยานกล้วยไม้

          จัดแสดงดอกกล้วยไม้ที่ผลิตในเชิงพาณิชย์นานาชนิด และมีกล้วยไม้ป่าและกล้วยไม้หายาก แหล่งปลูกอุดรซันไฌน์และกล้วยไม้สกุลช้าง ทยอยออกดอกตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 - เดือนกุมภาพันธ์ 2564

2. นิทรรศการ RakDok Floral Destination | มหัศจรรย์แดนมาลี

          จัดนิทรรศการประกอบนิทานที่เขียนขึ้นโดย Joe Rainforest ตื่นตาตื่นใจกับฉากนิทานดอกไม้กว่า 20 ฉากสร้างสรรค์จากโครงสร้างดอกไม้สด ดอกไม้เสมือนจริง และไม้ดอกไม้ใบกระถาง โดยมีเรื่องราวดังนี้

Introduction Chapter | An Old Days

(Scene 1) An Old Book (หนังสือเล่มเก่า)

          เวลาที่ประสบปัญหาชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธุรกิจ การงาน สุขภาพ หรือความรัก คุณเลือกรับมือกับปัญหาด้วยวิธีไหน สำหรับผมแล้ว บ่อยครั้ง “การอ่านหนังสือ” มักถูกเลือกใช้เป็นอาวุธในการต่อสู้กับปัญหา อ่านเพื่อให้เกิดปัญญา และยังเชื่ออยู่เสมอว่า ‘สติและปัญญา’ คืออาวุธที่ดีที่สุด

          อีกครั้งที่ปัญหาพาผมกลับมาที่ชั้นวางหนังสือ ผมเก็บหนังสือเก่าไว้หลายเล่ม บางเล่มอ่านจบไปหลายรอบ ในขณะที่บางเล่มตั้งแต่ซื้อมายังไม่เคยเปิดอ่านแม้แต่หน้าเดียว หนังสือบางเล่มเคยถูกใช้เป็นกุญแจไขไปหาทางออกของปัญหา ในขณะที่บางเล่มก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังสือ แต่เป็นที่เก็บความทรงจำ ผมรื้อดูไปเรื่อยจนเจอหนังสือเก่าเก็บเล่มหนึ่ง เก่าขนาดที่นั่งจามน้ำหูน้ำตาไหลจากอาการแพ้ฝุ่นเมื่อคลี่หน้าหนังสือออกอ่าน

          หลังจากปัดฝุ่นออกอย่างเบามือ พลิกดูหนังสือเล่มนั้นไปเรื่อยจนไปถึงหน้าที่มีดอกไม้สดที่ผมเคยทับเก็บไว้คั่นอยู่ระหว่างหน้าหนังสือ สีน้ำตาลแห้งกรังคงแทนคำตอบที่ชัดเจนได้ว่ามันถูกทิ้งไว้นานแค่ไหน มันนานจนผมเองก็จำไม่ได้ว่านานแค่ไหน แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการที่มันทำให้ผมคิดได้ว่า ผมลืมการเก็บความสุขที่ยิ่งใหญ่จากดอกไม้ดอกเล็ก ๆ ลืมว่าความสุขของผมเคยเกิดขึ้นจากสิ่งที่เล็กมาก เล็กมากจริง ๆ

          วัยเด็กที่จากผมไปนานแล้วถูกแทนที่ด้วยภาระหน้าที่และความรับผิดชอบเยอะแยะมากมาย สวนดอกไม้หลังบ้านเก่าโทรมหลังหนึ่ง ผมเคยใช้ชีวิตและขลุกอยู่กับมันทั้งวัน ปลูกต้นไม้ที่พ่อแม่ซื้อมาให้ ดอกไม้ที่เกิดจากเมล็ดที่ปลูกเองกับมือ ถูกแทนที่ด้วยเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยค่าตอบแทนในรูปแบบความสุขที่น้อยนิด

          เรื่องราวในหนังสือไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้ แต่ความสุขความทรงจำที่แห้งตายอยู่ในหนังสือต่างหากคือความสุขที่ผมเก็บลืมในคลังความทรงจำของผม ที่ทำให้ผมยิ้ม (จบฉาก 1)

Chapter I | Waking Up in A Nightmare (ฝันร้าย)

(Scene 2) In The Middle of Nowhere (ดินแดนไร้ชื่อ)

          “มหัศจรรย์แดนมาลีเป็นโลกของเด็กน้อย แต่เป็นเด็กน้อยที่ซ่อนอยู่ในตัวผู้ใหญ่หลาย ๆ คน”

          บ่อยครั้งการลืมตาขึ้นในความฝัน เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเราอยู่ที่ไหนบนโลก หรือมันอาจจะเป็นสถานที่ที่ไม่มีอยู่จริงบนโลกก็ได้

          การลืมตาตื่นขึ้นมาในที่ที่เราไม่คุ้นตามันคงไม่ใช่เรื่องผิดปกติหากเกิดขึ้นในความฝัน และ ณ ขณะเวลาที่เราเผชิญหน้ากับโลกที่ไม่คุ้นเคยอยู่นั้น เรื่องราวที่ไร้ซึ่งแบบแผน เกินจริง มักจะเกิดขึ้นในเวลาเช่นนี้ เตียงนอนตั้งอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้งคือเรื่องผิดปกติสำหรับชีวิตปกติ ทุ่งดอกไม้เบาแห้งโอบรอบ และกลีบดอกไม้ดอกเล็กร่วงปะปนกันอยู่กับซากปีกผีเสื้อ ในขณะที่ยังมีผีเสื้อขยับปีกบินไปมา ใช้ชีวิตอยู่เพื่อเหตุผลบางอย่างที่มันเองก็อาจจะไม่เข้าใจ

(Scene 3) The Gate (ซุ้มประตู)
          ผีเสื้อไม่เคยรู้ว่าชีวิตเกิดมาเพื่ออะไร แต่ผีเสื้อรู้ว่าที่ไหนมีดอกไม้ น้ำหวานจากดอกไม้คือสิ่งที่มันแสวงหา เด็กน้อยได้แต่เดินตามผีเสื้อบอบบาง บินผ่านทุ่งแล้งดอกไม้แห้ง จนมาหยุดอยู่หน้าซุ้มกลางสวนร้าง จุดที่ผีเสื้อน้อยขยับปีกครั้งสุดท้ายก่อนปล่อยร่างปลิวร่วงลงที่หน้าซุ้มดอกไม้ที่หลงเหลือเป็นซากเหี่ยวแห้งไร้ชีวิตติดคาอยู่ที่โครงเหล็ก
(Scene 4) Forgotten Town (เมืองที่ถูกลืม)
          เมื่อหมดผู้นำทาง การเดินสำรวจเมืองร้าง เป็นทางเลือกเดียวที่พอจะทำได้ สภาพเมืองที่ถูกทิ้งลืมยังมีร่องรอยเค้าโครงความสวยงาม ซึ่งมากพอจะนึกภาพได้ว่าที่นี่เคยสวยงามแค่ไหน ผู้คนในเมืองนี้หายไปไหนหมด เกิดอะไรขึ้นในเมืองนี้
(Scene 5) No Food Dining (มื้ออาหารที่ไร้อาหาร)
          โต๊ะอาหารที่เห็นเพียงร่องรอยของความอุดมสมบูรณ์ ความสวยงาม วันนี้ไร้อาหาร ไร้ผู้คน ไร้เสียงหัวเราะ สิ่งที่หลงเหลือชวนให้ใจหดหู่เงียบเหงา ใต้เงาต้นไม้ใหญ่ที่ยืนให้ร่มเงามานานดูเซื่องซึม ลำแสงที่เล็ดลอดทอดลงพื้นดิน ไม่เพียงพอที่จะให้ดอกไม้ต้นเล็ก ๆ เติบโตไปจนถึงวันที่จะผลิดอกออกเมล็ด

Chapter II | Butterfly Kingdom

(Scene 6) A Familiar Face (ใบหน้าที่คุ้นเคย)

          เด็กน้อยย่างก้าวตามทางเดินไปเรื่อยจนถึงลำธาร แล้วนั่งลงปนครุ่นคิดอยู่ริมน้ำ คำถามมากมายในความงุนงงเริ่มกวนใจ สักครู่เด็กน้อยก็ยืดคอยื่นหน้าเพื่อมองหาอะไรบางอย่างในลำธารแทนการตอบคำถามในหัวของตัวเอง ใช่แล้ว เราเคยสนุกกับการมองหาปลาในที่ที่มีน้ำใส แต่สิ่งที่เด็กน้อยเห็นกลับไม่ใช่ปลา แต่เป็นภาพใครบางคนสะท้อนเป็นเงาอยู่ที่ผิวน้ำ คนที่เด็กน้อยน่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี
(Scene 7) Flying in Swirl (ปลิวไปใต้สายน้ำ)
          ใบหน้าในน้ำทำให้ลืมระวังตัว เด็กน้อยพลัดลื่นตกลงไปในลำธาร พร้อมกับเหตุการณ์ไม่คาดคิด น้ำหมุนมาพร้อมกับเกลียวคลื่นที่ไม่สามารถบอกได้ว่ามาจากไหน ได้สะบัดเกลียวเกรี้ยวกราดหมุนเหวี่ยงร่างเด็กน้อยไปมาอย่างไร้ทิศทาง
(Scene 8) Streaming (ตามน้ำ)
          เด็กน้อยถูกเกลียวน้ำส่งเข้าไปติดอยู่ในทุ่งสาหร่าย มันช่วยหยุดร่างเด็กน้อยไม่ให้ไหลลอยไปตามกระแสน้ำ เด็กน้อยพยุงตัวไม่ให้จมน้ำ และพยายามตะเกียกตะกายเข้าหาฝั่ง เมื่อปีนขึ้นฝั่งได้ เด็กน้อยทิ้งร่างเปียกโชกนอนหงายลงบนลานแห้งใต้ต้นไม้ใหญ่ หลับตาตั้งสติรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
(Scene 9) The Cocoon (ดักแด้)

          ตาที่หลับอยู่ค่อยๆ ลืมขึ้น เมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งที่ขยับบินไปมาอยู่ใกล้ตัว ถึงแม้ว่าลมใต้ปีกจะเบาบางมาก แต่ก็พอจะเดาได้ว่า สิ่งที่บินอยู่รอบๆ มีจำนวนเยอะมากจนรู้สึกได้ถึงสัมผัสของลม

          ภาพที่เห็นคือฝูงผีเสื้อ และที่อยู่ไม่ห่างตัวมันก็คือดักแด้รังใหญ่ เด็กน้อยถูกน้ำพัดมาที่แดนดินที่ผีเสื้อนับร้อยนับพันบินโฉบไปมาอย่างไร้เหตุผล หรือมันกำลังดีใจ อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ผีเสื้อเหล่านี้ร่าเริงผิดปกติ

(Scene 10) Birth of Hope (กำเนิดความหวัง)
          พลันรังดักแด้ก็ค่อย ๆ ฉีกออก กลีบปีกแทรกช่องว่างของรังที่ฉีกเป็นแนว ก่อนที่จะคลี่ปีกออกอวดทุกสายตา หลังจากขยับปีกได้ไม่นาน ผีเสื้อยักษ์ผิดขนาดก็กระพือปีกโบยบิน ไม่ทันตั้งตัว มันก็บินเข้าไปตะปบจับร่างเด็กน้อยด้วยขาทั้งหมดไว้แน่น ก่อนจะบินทะยานพุ่งไปข้างหน้าโดยที่เด็กน้อยไม่รู้จุดหมาย
(Scene 11) Petalless Flowers (ดอกไม้ไร้กลีบ)
          ผีเสื้อยักษ์อุ้มเด็กน้อยบินผ่านทุ่งดอกไม้ที่ไร้กลีบ เหลือเพียงเกสรสวยที่ฝ่อแห้งตามกาลเวลา ดอกไม้บางชนิดมีอาหารให้แมลง ในขณะที่บางชนิดดักแมลงเป็นอาหาร ผีเสื้อตัวที่แข็งแรงที่สุดเท่านั้นที่จะบินพาเด็กน้อยไปส่งถึงแดนมาลี

Chapter III | Seeds of Hope (เมล็ดพันธ์ุแห่งความหวัง)

(Scene 12) Arriving The Kingdom of Flowers (เขตแดนมาลี)

          ผีเสื้อปล่อยเด็กน้อยลงที่กลุ่มเกสรหนานุ่มที่แดนมาลี จากนั้นก็บินจากไป ภาระหน้าที่ของมันเสร็จสิ้นแล้ว ความหวังหลังจากนี้คือการรอคอยว่าวันหนึ่งมันจะพาฝูงผีเสื้อครอบครัวของมัน จะได้มีโอกาสกลับมาโบยบินอยู่ในแดนมาลีที่อุดมสมบูรณ์อย่างมีความสุขอีกครั้ง
(Scene 13) The Key (ปริศนา)

          “ยินดีต้อนรับสู่แดนมาลี” เสียงแว่วมาจากพุ่มดอกไม้

          “ไปเอาเมล็ดพันธุ์ที่เจ้าเก็บไว้กลับไปสร้างแดนมาลี” เสียงเบาแผ่วแต่ชัดถ้อยชัดคำ น้ำเสียงที่คุ้นมาก มากจนเหมือนเด็กน้อยพูดประโยคนั้นออกมาเอง เสียงนั้นดลใจให้เด็กน้อยปรายตามองไปบนเนินเขาสูงอย่างไม่รู้ตัว กระท่อมน้อยถูกห่อหุ้มด้วยหิมะขาวโพลน

(Scene 14) The Seeds (เมล็ดพันธุ์)

          เด็กน้อยรีบเดินขึ้นเขาสูงไปเรื่อยเหมือนรู้ว่าอะไรถูกเก็บไว้ที่นั่น อะไรที่ว่าถูกเก็บลืม แต่สิ่งที่ถูกลืมไม่เคยจะหมดกำลังใจที่จะรอ ทันทีที่ประตูกระท่อมถูกเปิดออก เมล็ดดอกไม้นานาพันธุ์ก็ไหลทะลักออกมาจากช่องประตูอย่างมากมาย

          เด็กน้อยโกยเมล็ดดอกไม้เท่าที่จะทำได้ ก่อนจะนำเมล็ดดอกไม้หว่านโปรยลงดินเหมือนที่เคยทำ ใช่ เหมือนที่เคยทำเมื่อนานมาแล้ว และมันนานมากจนความทรงจำเกือบจะถูกเวลาลบเลือน

(Scene 15) First Spring (สัมผัสแรกแห่งฤดู)
          เพียงเมล็ดพันธุ์ที่นอนนิ่งบนผืนดินสัมผัสละอองน้ำและแดดอ่อน ดินแดนที่เคยว่างเปล่าก็เริ่มถูกแทนที่ด้วยสีเขียวของใบไม้ ชั่วพริบตาดอกไม้สารพัดสีก็แย่งกันอวดกลีบสวยเต็มท้องทุ่งปะปนผสมอยู่กับทุ่งหญ้าเขียว ผีเสื้อหลากสีสันบินโฉบบินแวะดอกไม้ไปมา ช่วยให้ดอกไม้พร้อมที่จะสร้างเมล็ดพันธุ์ในรุ่นต่อไป
(Scene 16) The Kingdom of Flowers (แดนมาลี)
          แดนมาลีคือดินแดนแห่งความฝันและเต็มไปด้วยความสุข วันนี้เด็กน้อยเดินเข้าไปในสวน แล้วบรรจงเก็บเมล็ดพันธ์ุดอกไม้ที่ตัวเองชอบที่เริ่มแก่จัดเต็มสองกำมือ

Ending Chapter l Conclusion by Doing (บทสรุปต่างบท)

          เสียงใครบางคนเรียกชื่อเด็กน้อย เป็นเสียงเรียกที่ปลุกให้ตื่นจากความฝันในแดนมาลี ตื่นขึ้นมาในขณะที่มือทั้งสองยังกำบางสิ่งบางอย่างไว้แน่น

          เมล็ดดอกไม้ เมล็ดพันธุ์ที่เก็บจากแดนมาลี ยังคงคาอยู่ในกำมือ มันช่างเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ใครจะเชื่อ ผมรีบลุกจากเตียงเพื่อนำเมล็ดดอกไม้ทั้งหมดไปหว่านลงดิน ก่อนที่จะลืมมันอีก ผมลงมือปลูกและดูการเจริญเติบโตของดอกไม้เหล่านั้น วันแล้ววันเล่าผมปลูกดอกไม้มากมาย มากพอที่จะแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขไปให้ใครต่อใคร

          บางคนได้รับเมล็ดดอกไม้ แต่ก็ไม่ได้นำมันกลับไปปลูกในทันที รอวันว่างที่ไม่เคยมาถึง เมล็ดดอกไม้อยากกลับสู่ทุ่งดอกไม้ แต่เมล็ดบางเมล็ดก็ไม่สามารถรอได้นานขนาดนั้น เมื่อไม่ได้รับน้ำ ไม่ได้นอนในดินอุ่น และไม่มีแสงแดดคอยปลุกให้ตื่นและเติบโต ไม่นานพวกมันก็จะกลายเป็นฝุ่นผงกลับไปสู่แดนดินที่ถูกลืมอีกครั้ง

(Scene 17) Weed Flowers (วัชพืช)
          เมล็ดดอกไม้บางส่วนถูกหว่านทิ้งอย่างไร้ค่า จะเกิดหรือตาย ขึ้นอยู่กับการหยิบยื่นโอกาสจากธรรมชาติ หากเมล็ดตกไปอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ก็พอจะมีโอกาสเกิดอีกครั้ง หากเกิดอยู่บนดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์ ดอกไม้ก็ทำได้เพียงรอวันที่ผีเสื้อจะโบยบินพาละอองเกสรของมันเดินทางไปหาความหวังใหม่
(Scene 18) Flower Field (ทุ่งดอกไม้)
          เมล็ดดอกไม้ที่สมบูรณ์แข็งแรงจำนวนมาก อาจถูกสายลมพัดปลิวไปร่วงหล่นลงบนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ ถึงแม้ไร้การเหลียวแล แต่เมื่อฤดูกาลที่เหมาะสมมาถึง มันจะเริ่มต้นชีวิตผลิใบอ่อน และเติบโตสวยงามเป็นดอกไม้เบ่งบานท่ามกลางทุ่งดอกไม้นานา
(Scene 19) Flowers are Treasures (ดอกไม้ในแปลงปลูก)
          เมล็ดพันธุ์บางส่วนถูกนำไปปลูกอย่างตั้งใจ ปรับปรุงพันธุ์ดอกไม้ผ่านนวัตกรรม เพิ่มสีสัน สร้างคุณสมบัติใหม่และรูปทรง ออกมายั่วยวนตาชาวโลก จนสุดท้ายกลายเป็นดอกไม้สวยที่นำประโยชน์มาสู่เหล่าผู้ที่มองเห็นประโยชน์ และนำไปใช้ประโยชน์สารพัน สร้างรายได้และอนาคต
(Scene 20) Wall or Way (กำแพงหรือทางไป)

          สุดท้ายดอกไม้จะมีประโยชน์หรือไม่ อยู่ที่มุมมอง เมื่อมองเห็นประโยชน์ มันจะถูกพัฒนาต่อยอดอย่างสร้างสรรค์ และจะกลายเป็นเรื่องเล่าถ่ายทอดผ่านนิทรรศการ รักดอก RakDok วันแล้ววันเล่า เล่าแล้วเล่าอีกอย่างไม่รู้จบสิ้น

          ความจริงแล้ว ใครก็สามารถเล่าเรื่องจากดอกไม้ได้ เรื่องใหม่รอการมาเล่า อีกครั้งที่ผมเดินไปเด็ดดอกไม้ในสวน แล้วนำไปทับเก็บไว้ใน ‘มหัศจรรย์แดนมาลี’ เผื่อวันหนึ่งผมลืมความสุขในสวนดอกไม้เล็ก ๆ หลังบ้าน ดอกไม้ที่ผมทับเก็บความทรงจำไว้ อาจจะร่วงออกมาทักทาย และพาผมกลับไปหาเมล็ดแห่งความฝันอีกครั้งในแดนมาลี

          (Ended Scene) Butterflies (จบบริบูรณ์ กับ ฝูงผีเสื้อ)

         ว่ากันว่าผีเสื้อสื่อถึงสัญลักษณ์ของชีวิตที่ไม่มีวันตาย ตราบใดที่ยังเห็นผีเสื้อโบยบิน ถึงแม้ที่สถานที่แห่งนั้นจะไม่มีดอกไม้ให้เห็น แต่ให้เชื่อเถอะว่า ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งไม่ไกลจากสถานที่แห่งนั้น จะมีดอกไม้เบ่งบานอยู่อย่างแน่นอน

         Joe Rainforest

         01.12.2020

แผนที่ภายในงาน

          งานนิทรรศการ RakDok Floral Destination | มหัศจรรย์แดนมาลี จัดขึ้น ณ The Blooms Orchid Park

          ระยะเวลาการจัดงาน : วันนี้ - 28 กุมภาพันธ์ 2564 วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. วันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. (สามารถอยู่ถ่ายภาพได้ถึงเวลา 17.30 น. หรือจนกว่าแสงจะหมด)

          สถานที่จัดงาน : The Blooms Orchid Park ตำบลวัดแก้ว อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี

          พิกัด : goo.gl/maps

          ค่าเข้าชมนิทรรศการ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 120 บาท (เด็กสูงไม่เกิน 110 เซนติเมตร) หมายเหตุ* บัตรเข้าชมงานเป็นประเภท One Day Pass ใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : 06 1899 7893

          งานดี ๆ แบบนี้ไม่อยากให้พลาดเลย เพราะนอกจากสถานที่จะสวยมากแล้ว ก็ยังอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ แถมจังหวัดราชบุรีก็มีสถานที่ท่องเที่ยวราชบุรี ที่น่าสนใจอื่น ๆ ให้ไปเที่ยวชมด้วย ไว้หาเวลาไปเที่ยวกันนะ :)

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
เเทน ฮอปปิ้ง : Tan Hopping, รักดอก RakDok, rakdok.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
งานรักดอก ราชบุรี มหัศจรรย์แดนมาลี กับโลกแห่งเทพนิยาย อัปเดตล่าสุด 9 ธันวาคม 2563 เวลา 23:06:19 19,614 อ่าน
TOP
x close