ABONZO Coffee ลมหายใจของชนเผ่าอาข่าบนดอยช้าง พลิกชีวิตชุมชนด้วยเมล็ดกาแฟ

          พาเที่ยวเชียงราย ไปทำความรู้จักกับ ABONZO Coffee ร้านกาแฟกลางขุนเขาดอยช้าง ที่ส่งออกกาแฟท้องถิ่นของชนเผ่าอาข่าให้มีชื่อเสียงระดับโลก พร้อมเรียนรู้ทุกขั้นตอนของการผลิตที่น่าสนใจ
          ถ้าเอ่ยถึงเชียงรายหลายคนจะนึกถึงไร่ชาอันกว้างไกล หรือยอดดอยที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม แต่คราวนี้เราจะพาไปเยือน “ดอยช้าง” แหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย ที่นี่นักท่องเที่ยวนิยมไปเพลิดเพลินกับการชมไร่กาแฟ ลิ้มลองรสชาติของกาแฟคุณภาพเยี่ยม ชมแปลงปลูกผลไม้เมืองหนาว สัมผัสกับวิถีชาวบ้านที่เรียบง่าย หรือดื่มด่ำกับบรรยากาศของธรรมชาติที่งดงาม
ABONZO Coffee เชียงราย

          ในมุมเล็ก ๆ ท่ามกลางขุนเขาที่สูงตระหง่านแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของ ABONZO Coffee ร้านกาแฟขนาดใหญ่ที่หลีกหนีความวุ่นวายในเมือง กลับมาเบ่งบานเสน่ห์อันน่าหลงใหล พร้อมกับชักชวนให้ผู้คนต่างถิ่นได้แวะไปเยือนสักครั้ง
ABONZO Coffee เชียงราย

          รถตู้พาเราเข้าสู่ถนนสายเล็ก ๆ เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาคดโค้งไปตามไหล่เขาดอยช้าง มีบ้างบางช่วงที่ไต่ขึ้นสูงจนมองเห็นวิวเบื้องล่างลิบ ๆ และมีบ้างบางตอนที่รถเคลื่อนผ่านป่าต้นสนขนาดใหญ่ สูงชะลูด เรียงรายเป็นทิวแถว สร้างร่มเงาให้กับขุนเขาได้ดีเยี่ยม จนมาถึงไฮไลต์หนึ่งคือรถต้องขับลุยสันฝายน้ำล้นของอ่างเก็บน้ำห้วยส้านพลับพลา สามารถเรียกความตื่นเต้นเล็ก ๆ ได้ไม่น้อย และก็ผ่านฉิวไปได้ด้วยดี
ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

          ก่อนจะค่อย ๆ เลาะเลี้ยวไปตามไหล่เขาอีกครั้ง จนมาพบกับ ABONZO Coffee ร้านกาแฟสไตล์ลอฟท์ขนาดใหญ่ เหมือนบ้านพักตากอากาศในต่างประเทศ สูง โปร่ง เน้นวัสดุจากไม้และปูนดิบ ๆ มาผสมผสานกันตั้งอยู่ในขุนเขาแห่งนี้
ABONZO Coffee เชียงราย

บุกต้นตอวัตถุดิบ ก่อนจะมาเป็นกาแฟพรีเมียม
          สัมผัสแรกเมื่อประตูรถเปิดออกคือลมเย็นปะทะเข้าใบหน้า และกลิ่นไอของพื้นดินหลังสายฝนโปรยปรายในยามเช้า คุณภัทร (ภัทรชัย มงคลกุลผ่องใส) ชายหนุ่มชนเผ่าอาข่า รูปร่างสันทัด สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์สบาย ๆ เจ้าของแบรนด์ ABONZO กาแฟชื่อดังที่หลายคนคุ้นหู ยืนรอต้อนรับเราด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ABONZO Coffee เชียงราย

          แนะนำตัวกันเล็กน้อยก่อนจะชักชวนให้เราเดินขึ้นไปดูต้นกาแฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ และเดินนำหน้าเราไปเรื่อย ๆ สองมือสองไม้ชี้ชวนให้ดูผลผลิตสองข้างทาง ที่สามารถนำมาต่อยอดเป็นอาหารเลิศรสขึ้นเสิร์ฟให้เราได้ลิ้มลองกันในมื้อกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นผักหอมชู, มะขามป้อม หรือเสาวรสลูกใหญ่
ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

          เสียงสูดลมหายใจถี่เบา ๆ ของเพื่อนร่วมทริปดังอยู่ข้างหู อาจเพราะทางที่เราเดินขึ้นมาเป็นเนินขึ้นเขาเล็ก ๆ สองเท้าค่อย ๆ ก้าวอย่างมั่นคงลงไปในพื้นดินชุ่มน้ำ หลังจากที่เมื่อเช้าสายฝนโปรยปรายลงมา ทำให้เกิดสายหมอกคลอเคลียไปตามขุนเขา ช่องว่างเล็ก ๆ ของเมฆหมอกทำให้เรามองเห็นวิวของต้นไม้น้อยใหญ่เบื้องล่าง สิ่งที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของดอยแห่งนี้
ABONZO Coffee เชียงราย

          ต้นกาแฟเกินร้อยทอดตัวไล่ระดับไปตามไหล่เขา บางต้นออกเมล็ดผลสีเขียวสลับแดง บางต้นยังเป็นสีเขียวผสมน้ำตาล มีต้นแมคคาเดเมียและเชอร์รีป่าคละบ้างประปราย โดยที่นี่จะมีการแปรรูปเมล็ดกาแฟหลังจากการเก็บเกี่ยวอยู่ 4 แบบ ได้แก่ Honey Process, Natural Dry Process, Wet Process และ Peaberry ซึ่งจะมีผลต่อรสชาติกาแฟอย่างชัดเจน คุณภัทรค่อย ๆ อธิบายถึงกรรมวิธีการแปรรูปกาแฟให้เราฟัง คอยตอบคำถามต่าง ๆ ที่ผุดขึ้นมาจากความอยากรู้อย่างใจเย็น
ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

          พูดคุยเรื่องราวของกาแฟกันพอสมควร คณะเราก็เดินย้อนกลับมายังบริเวณลานเล็ก ๆ ซึ่งเป็นจุดพักเหนื่อย และได้เจอกับ “ขี้ชะมด” นักเลงตัวจิ๋วที่อาศัยอยู่ในป่าใกล้ ๆ มักจะออกมากินเมล็ดกาแฟในยามวิกาลแล้วถ่ายมูลทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า แต่ช่วงที่เราไปเมล็ดกาแฟยังไม่สุกร่วงหล่นพื้น เราเลยไม่ได้เห็นกาแฟขี้ชะมดอันเลืองชื่อ
ABONZO Coffee เชียงราย

          หลังจากเสพบรรยากาศของไร่กาแฟ พืชผักเมืองหนาว และทัศนียภาพของขุนเขาอันอุดมสมบูรณ์จนหนำใจแล้ว เราก็เดินกลับลงมาที่ร้านอีกครั้ง ซึ่งร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรกจะเป็นร้านกาแฟนั่งชิลชมวิว ขยับไปอีกนิดจะเป็นโซนสำหรับคั่วเมล็ดกาแฟ แต่ก็สามารถนั่งชมกรรมวิธีการทำและผ่อนคลายกับธรรมชาติในบรรยากาศที่แสนอบอุ่นได้
ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

          กลิ่นหอมของกาแฟลอยอบอวลไปทั่วบริเวณ เสียงเครื่องชงกาแฟ เสียงน้ำร้อนไหลผ่าน เราจิบกาแฟรสเยี่ยม พร้อมกับฟังเรื่องราว...
จุดเริ่มต้นของ ABONZO Coffee
          “ที่บ้านปลูกกาแฟมาเกือบ 30 ปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ถือเป็นรุ่นแรกของอะบอนโซ สมัยก่อนบนดอยว่ากันว่าที่นี่คือแหล่งปลูกฝิ่นที่ดีที่สุดในเมืองไทย จากนั้นในหลวง ร.9 ได้พระราชทานต้นกล้าและสนับสนุนให้คนบนพื้นที่ปลูกกาแฟ แต่ปัญหาคือหลายคนไม่รู้ว่าจะปลูกกาแฟอย่างไรให้ทำเงิน จึงหันกลับไปปลูกฝิ่นเหมือนเคย มีคุณปู่อะบอนโซและอีกหลายคนที่ยังยืนหยัดในการปลูกกาแฟ และถ่ายทอดองค์ความรู้มาเรื่อย ๆ จนถึงรุ่นพ่อแม่ รุ่นผม ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 แต่ก็พบกับปัญหาอีก คือได้กาแฟมาแล้วก็ส่งให้กับบริษัทใหญ่ พอบวกลบคูณหารต้นทุนแล้วกลับได้กำไรไม่เยอะเท่าไร วิถีชีวิตก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก” คุณภัทร เล่าถึงที่ไปที่มาของการปลูกกาแฟ ณ ดอยช้าง
ABONZO Coffee เชียงราย

          ก่อนจะเล่าด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ต่อไปว่า “เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ผมกลับมาจากกรุงเทพฯ คือบนดอยมีโรงเรียนถึง ป.6 เท่านั้น ตอนผมอายุ 12 ปี ผมออกจากบ้านเข้าเมืองไปอยู่คนเดียว ทำงานหาเงินเรียน ทำทุกอย่างเอง ไม่ใช่เพราะเก่ง แต่ไม่มีทางเลือก และต้องทำยังไงก็ได้เพื่อเอาตัวรอด อยู่อย่างนั้นมาเรื่อย ๆ จนจบ ม.6 ก็ลงไปอยู่กรุงเทพฯ เรียนและทำงาน”
หวนคืนบ้านเกิด เรียนรู้ของดีท้องถิ่น
          แสงแดดค่อย ๆ ส่องผ่านกระจกตกกระทบลงบนพื้น เสียงพูดคุยเบา ๆ จากรอบข้าง ไม่ได้ทำให้ความน่าสนใจของเรื่องราวที่เรากำลังตั้งใจฟังลดน้อยลง น้ำเสียงโทนนุ่มทุ้มของชายในวัย 37 ปี กำลังเล่าถึงวันวานก่อนจะมาเป็น ABONZO Coffee อีกว่า “อยู่กรุงเทพฯ ผมทำงาน NGO ในชุมชนแออัด ที่นั่นเราทำบริษัทเพื่อดึงคนในชุมชนมาทำงาน แล้วชุมชนก็ดีขึ้น พออายุ 30 ปี ผมก็มาคิดว่าเราอยู่กรุงเทพฯ มานาน น่าจะถึงเวลากลับบ้านเพื่อมาพัฒนาอะไรต่าง ๆ จึงตัดสินใจกลับมา แต่ผมไม่มีเงินเก็บเลย จำได้ว่ามีเงินติดตัวมา 2,000 บาท อันนั้นคือจุดเริ่มต้น
ABONZO Coffee เชียงราย

          2-3 ปีแรกคือยากมาก เพราะผมไม่มีองค์ความรู้เรื่องกาแฟ และก็ไม่มีรายได้ด้วย เลยไปทำงานรับจ้างเก็บกาแฟ ได้เงินไม่ตายตัว บางวันก็ได้ 200 บาท บางวันได้ 250 บาท เพราะเวลาเก็บกาแฟขึ้นอยู่กับว่าเราเก็บได้เยอะขนาดไหน เขาจะคิดเป็นกิโลกรัม ตอนนั้นทักษะในการเก็บกาแฟยังไม่มีมาก จากนั้นก็มารับจ้างรับซื้อกาแฟให้กับคนที่ต้องการเมล็ดกาแฟเชอร์รี และก็ขยับมาขอแปรรูปให้กับคนที่รับซื้อ แต่ก็ยังไม่ดีเท่าไร ตอนนั้นรู้สึกว่าเราต้องทำอะไรสักอย่างที่เป็นอะไรของเรา เลยไปจ้างเพื่อนคั่วกาแฟและไปตระเวนขายตามร้านกาแฟที่กรุงเทพฯ ราคาไม่แพงแต่ไม่มีใครซื้อ
ABONZO Coffee เชียงราย

          ผมกลับมานั่งทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนอื่นขายได้ เราขายไม่ได้ ปรากฏว่าเราไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับกาแฟ เราไม่ดื่มกาแฟ ใครถามอะไรก็ตอบไม่ได้ ผมเลยใช้เวลาในการศึกษาเรื่องกาแฟ 1 ปีเต็ม ตั้งแต่ทำไร่ แปรรูป การคั่ว ชง ชิม ถึงไม่ 100% แต่ก็พอรู้ว่ากาแฟเป็นอย่างนี้นะ เลยลองแปรรูปแล้วติดต่อไปยังโรงคั่วกาแฟต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกา อยากจะนำกาแฟไปคั่ว คัปปิ้ง (Cupping) และเสนอดู มีหลายโรงคั่วให้ความสนใจ มีโรงคั่วหนึ่งที่รัฐโอไฮโอ เขาตกใจว่าเมืองไทยมีกาแฟดีขนาดนี้เลยเหรอ จนเขาบินมาดูไร่กาแฟและมาชิมกาแฟ
ABONZO Coffee เชียงราย

          ออร์เดอร์แรกที่เขาสั่งคือ 2 คอนเทนเนอร์ โอ้โห...ตกใจ เราไม่เคยเจอออร์เดอร์ใหญ่ขนาดนี้ กำไร 7 ล้านบาท ก็มาคิดว่ากาแฟในชุมชนเรามีมูลค่าดีมาก … อันนั้นคือจุดเริ่มต้น ผมเลยไปตามโรงคั่วต่าง ๆ เพราะมีออร์เดอร์ที่ญี่ปุ่น ที่สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น จากนั้นแต่ละบริษัทเขาอยากจะมาเห็นตัวตน อยากมาดูฐานการผลิตเราว่าเป็นยังไง หน้าบ้านเราเป็นยังไง ซึ่งตอนนั้นเรายังไม่มีอะไรเลย เช่าโรงแปรรูปเล็ก ๆ ของชาวบ้านที่เขาไม่ใช้ จึงนำเงินทั้งหมดที่เราหามาได้มาซื้อที่ตรงนี้ ก็เริ่มสร้างจากร้านกาแฟ มีโรงงาน โรงแปรรูปอยู่อีกที่หนึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ หมู่บ้าน ซึ่งยังไม่เรียบร้อย 100% แต่ก็ผลิตได้”
กระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพชีวิต
          หลังจากแบรนด์กาแฟเริ่มเป็นรูปร่างไปในทิศทางที่ดีขึ้น คุณภัทร หันกลับมามองรอบ ๆ ชุนชมตัวเองกลับพบว่า “วัยรุ่นในหมู่บ้านผมมีเป็นพันคน แต่ที่อยู่บนดอยจริงประมาณ 400-500 คน ปัญหาของชนเผ่าอาข่าเนื่องจากแบ็กกราวนด์เราไม่เหมือนคนในเมือง บางคนไม่มีโอกาสได้เรียน พอลงไปในเมืองพูดไทยไม่ชัด เบื้องหลังชีวิตก็ไม่เหมือนกัน ทีนี้บางทีก็ถูกเอาเปรียบ เลยอยู่ไม่ได้ อยู่ไม่ได้ก็กลับขึ้นมาบนดอย พอกลับขึ้นมาบนดอยเนื่องจากไม่ได้ทำงานหนักเหมือนคนสมัยก่อน ที่ทำไร่หรือทำงานเอาจริงเอาจัง เอาเป็นเอาตายเหมือนคนรุ่นก่อน ทำให้บางคนก็ไม่ไปทำงาน อยู่แต่ในบ้าน เล่นการพนัน ติดยาเสพติด
ABONZO Coffee เชียงราย

          ผมเลยคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเท่าที่สามารถทำได้ ก็เลยคิดว่าถ้าจะขยับช่วยชุมชนให้มากขึ้น เราต้องขยับสกิลของเราเพื่อให้น้อง ๆ สามารถมาทำงานได้ ตอนนี้เรามีทีมไร่กาแฟ ทีมโรงแปรรูป ทีมร้านกาแฟ ทีมคั่ว ประมาณ 23 คน ที่ทำอยู่ตรงนี้ แล้วก็มีพาร์ตไทม์ช่วงหน้าเก็บกาแฟประมาณ 30-40 คน”
เป้าหมายต่อไปของ ABONZO Coffee
          นอกจากสร้างแบรนด์กาแฟให้เป็นที่รู้จัก กลับมาพัฒนาชุมชนบ้านเกิดให้มีรายได้ พลิกชีวิตชนเผ่าอาข่าบนดอยช้างให้มีคุณภาพดีมากขึ้น ... สิ่งเหล่านี้ยังไม่ใช่ความตั้งใจทั้งหมด คุณภัทร ยังมี Goal ในใจที่วาดไว้อีกว่า

เป้าหมายของเราคืออยากจะส่งออกกาแฟของท้องถิ่นเราให้ไปสู่เวทีโลก ให้ได้รู้ว่ากาแฟของประเทศไทย ของชุมชนเล็ก ๆ บนดอย หรือชนเผ่าอาข่า สามารถไปยืนอยู่บนเวทีโลกได้

ภัทรชัย มงคลกุลผ่องใส เจ้าของแบรนด์ ABONZO Coffee

ABONZO Coffee เชียงราย

          นี่คืออีกหนึ่งความตั้งใจที่อยากจะทำให้สำเร็จ แต่จริง ๆ แล้ว คุณภัทร มีอีก 2 เป้าหมายที่วาดไว้ในใจว่า อยากคั่วกาแฟเพื่อขายตามร้านกาแฟในประเทศไทย ตามโรงแรม ตามร้านอาหาร และอยากขยับขยายร้านกาแฟลงไปในเมือง “สิ่งที่เราจะทำคือทุกคนที่ทำงานกับเรา ต่อไปเจ้าของจะไม่ใช่ผมคนเดียว ทุกคนที่ทำงานกับเราในร้านกาแฟจะเป็นเจ้าของร่วมกัน เช่น เราอาจจะมีเปอร์เซ็นต์ให้ 5% 10% แล้วมีเงินเดือน ฉะนั้นต่อไปคือน้อง ๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านเราจะผลัดกันเทรนที่นี่แล้วส่งไปร้านกาแฟที่เราเปิดใหม่ และเป็นเจ้าของร่วมกันกับเรา นั่นคือสิ่งที่วางแผนเอาไว้
ABONZO Coffee เชียงราย

          สิ่งหนึ่งที่เราตั้งใจมากคืออยากจะคงแบรนด์ตรงนี้ให้เป็นแบรนด์ของคนท้องถิ่น จริง ๆ มีหลายคนที่อยากจะมาร่วมทุน แต่เราบอกว่าอยากจะรักษาแบรนด์ตรงนี้ให้เป็นของคนอาข่าจริง ๆ ครับ” รอยยิ้มเล็ก ๆ จากชายหนุ่มเจ้าของแบรนด์กาแฟ ABONZO ปรากฏขึ้นมาบ่งบอกถึงความภูมิใจในสิ่งที่ตั้งใจทำ
เครื่องดื่มและอาหารที่ไม่ควรพลาด
          ได้รู้ที่ไปที่มาของ ABONZO Coffee กันพอสมควรแล้ว พระอาทิตย์ตั้งฉากตรงกับศีรษะ ก็ถึงเวลาที่จะได้ลิ้มลองรสชาติกาแฟและชิมอาหารกันแล้ว ที่นี่มีเมนูให้เลือกทั้งเครื่องดื่ม เบเกอรี่ และอาหารคาวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
          “ABONZO Signature” กาแฟดำรสเข้มที่มีเลมอนชิ้นบางตกแต่งไว้ด้านบน เพิ่มรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ ที่เข้ากันได้ดีกับกาแฟรสเข้ม ใครชอบหวานก็เพิ่มไซรัปสักนิด...บอกเลยว่าลงตัว
ABONZO Coffee เชียงราย

          “ABONZO Drip Coffee” กาแฟสดคั่วที่บดแล้วมากรองด้วยกระดาษในเวลาและอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่มีการปรุงแต่ง รสชาติเปรี้ยวนำก่อนจะโดนความขมแทรกผ่านลำคอกลายเป็นรสชาติหวานนิด ๆ
ABONZO Coffee เชียงราย

          “ลาเต้อาร์ต” ที่ถูกบรรจงทำอย่างประณีต รสชาติกลมกล่อมหวานมันกำลังดี นุ่มละมุนลิ้น
ABONZO Coffee เชียงราย

          จิบกาแฟพอเรียกน้ำย่อยก็ไปกินอาหารกลางวันในแบบฉบับชนเผ่าอาข่ากันต่อ จัดเสิร์ฟมาเต็มโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าตัวยาว มีทั้งไข่เจียวใส่ผักหอมชู, หมูรมควัน, ลาบหมูคั่วสไตล์อาข่า, ผัดยอดฟักแม้ว และน้ำพริกมะเขือเทศที่หากินไม่ได้ในเมืองกรุง กับข้าวอาข่าง่าย ๆ แต่รสชาติกลมกล่อม

ABONZO Coffee เชียงราย

          เสียงพุดคุยเจื้อยแจ้วถามไถ่ถึงส่วนประกอบต่าง ๆ เสียงช้อนกระทบจานกระเบื้องดังแกร๊ง ๆ เป็นระยะ มื้อนี้เป็นอีกหนึ่งมื้อที่เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้ไม่น้อย อ้อ...ก่อนกลับอย่าลืมหิ้วเมล็ดกาแฟคั่ว ABONZO หลากหลายแบบติดไม้ติดมือกลับบ้าน เป็นได้ทั้งของฝากหรือเครื่องดื่มยามเช้าแสนละมุนกันนะ หรือของที่ระลึกอื่น ๆ จากแบรนด์ ABONZO ก็มีเหมือนกัน
ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

กาแฟเป็นศิลปะและวิทยาศาสตร์ เรามั่วไม่ได้ว่ากาแฟของใครดีกว่าใคร กาแฟดีไม่ดีจะมีเวลาบ่งบอก คือต้องคั่วและคัปปิ้ง แล้วออกมาเป็นพอยต์ว่ากี่คะแนน ฉะนั้นเวลาเราเสนอกาแฟตามโรงคั่วต่าง ๆ แต่ละโรงคั่วจะมี Q Graders คนที่สามารถชิมแล้วบอกว่ากาแฟคุณภาพขนาดไหน
          … คำบอกเล่าที่ดูเหมือนจะธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วล้วนกลั่นกรองออกมาจากความมุ่งมั่นตั้งใจของชายหนุ่มชนเผ่าอาข่าบนดอยช้าง ที่อยากพัฒนาบ้านเกิดให้เป็นที่รู้จักและยอมรับ ผ่านเมล็ดกาแฟที่คัดสรรมาอย่างดี ผ่านร้อนผ่านหนาวจนกลายเป็น ABONZO Coffee อย่างทุกวันนี้
ABONZO Coffee เชียงราย

ABONZO Coffee เชียงราย

การเดินทาง

  • เส้นทางที่ 1 จากอำเภอเมืองเชียงราย มุ่งตรงไปทางถนนหมายเลข 1211 ระยะทาง 20 กิโลเมตร ถึงหมู่บ้านห้วยส้านพลับพลา เลี้ยวขวาขึ้นบ้านดอยช้าง ถึงหมู่บ้านดอยช้าง ระยะทาง 18 กิโลเมตร เดินทางต่อไปผ่านศูนย์วิจัยเกษตรที่สูงวาวี ระยะทาง 4 กิโลเมตร ถึงร้าน ABONZO Coffee
     
  • เส้นทางที่ 2 ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ระยะทาง 24 กิโลเมตร ถึงแยกปากทางแม่สรวย เลี้ยวขวาตามถนนหมายเลข 118 ระยะทาง 25 กิโลเมตร ถึงบ้านตีนดอย อำเภอแม่สรวย เลี้ยวขวาขึ้นบ้านดอยช้าง ระยะทาง 17 กิโลเมตร ถึงร้าน ABONZO Coffee
     
  • ถ้ากลัวหลงทางก็ขับไปตาม goo.gl/maps/7bASdpAGhWQ5g6GP7 ได้เลย
          ที่ตั้ง : หมู่บ้านดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
          เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
          เบอร์โทรศัพท์ : 09 1070 7272
          เฟซบุ๊ก : ABONZO Coffee
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ABONZO Coffee ลมหายใจของชนเผ่าอาข่าบนดอยช้าง พลิกชีวิตชุมชนด้วยเมล็ดกาแฟ อัปเดตล่าสุด 11 ตุลาคม 2562 เวลา 16:56:11 51,036 อ่าน
TOP
x close