ตื่นตาตื่นใจกับนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้สุดอลังการ กับการจัดแสดงหุ่นทหารดินเผาของจริง พร้อมโบราณวัตถุอายุกว่า 2,200 ปี จากสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ประเทศจีน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ
ถ้าเอ่ยถึงมรดกโลกอันยิ่งใหญ่ของจีน นอกจาก
“กำแพงเมืองจีน” สุดอลังการแล้ว ชื่อของ
“สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้” มรดกโลกทางวัฒนธรรมอันน่าทึ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งใน My Dream Destination ที่หลาย ๆ คนอยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง แต่วันนี้ขอบอกว่าไม่ต้องไปไกลถึงเมืองซีอาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ก็สามารถชื่นชมความมหัศจรรย์ของกองทัพทหารดินเผาจากสุสานจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่และเกรียงไกร กันได้แล้ว กับ
นิทรรศการพิเศษ เรื่อง จิ๋นซีฮ่องเต้ : จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนกับกองทัพทหารดินเผา (Qin Shi Huang: The First Emperor of China and Terracotta Warriors)
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ประเทศไทย โดยการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และความร่วมมือจากสำนักงานบริหารมรดกวัฒนธรรมมณฑลส่านซี ศูนย์ส่งเสริมมรดกวัฒนธรรมมณฑลส่านซี พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซี และพิพิธภัณฑ์สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รวบรวมโบราณวัตถุสำคัญจำนวน 86 รายการ (133 ชิ้น) มีอายุกว่า 2,200 ปี จากพิพิธภัณฑ์ชั้นนำ 14 แห่ง ในสาธารณรัฐประชาชนจีน มาจัดแสดงนิทรรศการพิเศษ ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562
ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ชาวไทยจะได้ชื่นชมกองทัพทหารดินเผาจากสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้อย่างใกล้ชิด แหม...วัตถุโบราณล้ำค่ามาเยือนถึงถิ่นจะไม่ไปชมได้อย่างไร ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ตามเราไปชมนิทรรศการแห่งนี้กันดีกว่า
เราไปถึงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในช่วงสายของวันธรรมดา มีผู้คนรอต่อคิวเพื่อเข้าชมนิทรรศการกันหนาตา เดินเลี้ยวซ้ายเข้าไปที่ช่องจำหน่ายบัตร ซื้อบัตรเข้าชมในราคา 30 บาท (คนไทย 30 บาท ต่างชาติ 200 บาท) จากนั้นก็ไปเข้าคิวเพื่อรอรับสติ๊กเกอร์จากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากการเข้าชมจะแบ่งเป็นรอบ รอบละ 80 คน สามารถชมนิทรรศการได้ 45 นาที เมื่อได้รับสติ๊กเกอร์ก็รอเข้าคิวไม่นานมากนัก เสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนเรียกว่าถึงคิวของเราแล้ว ผู้คนรอบกายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ก็ทยอยเดินเข้าไปเรื่อย ๆ
ทันทีที่ก้าวข้ามประตูสู่ดินแดนมังกรในยุคของโลกโบราณอันยิ่งใหญ่ ไอเย็นของเครื่องปรับอากาศปะทะเข้าใบหน้าเรียกความสดชื่นได้มากโข เท้าค่อย ๆ ขยับไปข้างหน้า ภาพของโปสเตอร์นิทรรศการตั้งตระหง่านสูงใหญ่อยู่บริเวณทางเข้า แหงนหน้ามองจนสุดสายตา เรียกความตื่นตาอยากเห็นกองทัพทหารดินเผาเร็ว ๆ แต่ด้วยผู้คนที่เข้ามาชมนิทรรศการมีจำนวนไม่น้อย ทั้งเด็กนักเรียนมัธยม นักศึกษาหน้าตาจิ้มลิ้ม คุณลุง คุณป้าที่ควงแขนแก๊งเพื่อนวัยเกษียณมาชมความอลังการของนิทรรศการนี้ จึงทำได้เพียงขยับไปทีละนิด ค่อย ๆ เสพบรรยากาศรอบ ๆ
ผ่านเข้าประตูเลี้ยวซ้ายไปตามทางเดินจะมีหุ่นจำลองทหารยืนรอต้อนรับด้วยใบหน้าถมึงทึง เคร่งขรึม ภาพแรกที่เห็นคือการบอกเล่าเรื่องราวของแผ่นดินจีนในสมัยต่าง ๆ สอดแทรกด้วยเสียงบรรยายความเป็นมาเป็นไปเป็นระยะ ๆ มีตู้กระจกที่ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุให้เราได้ยืนเมียงมอง บางคนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายเพื่อเก็บภาพเป็นที่ระลึก บางคนพูดคุยกับคนใกล้ตัวถามไถ่ถึงวัตถุที่อยู่ตรงหน้า
โดยตู้จัดแสดงแต่ละตู้จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามประเภทของวัตถุโบราณล้ำค่าที่จัดแสดง ซึ่งนิทรรศการแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 : พัฒนาการก่อนการรวมชาติ ยุคราชวงศ์โจวตะวันออก
โซนนี้จะเริ่มเล่าถึงที่มาที่ไปก่อนเข้าสู่ยุคจักรพรรดิจิ๋นซี โดยเป็นเรื่องราวสมัยราชวงศ์โจว สมัยชุนชิว (สมัยฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง) และสมัยจ้านกว๋อ (สมัยสงครามรัฐศึก) ตั้งแต่ประเทศจีนโบราณที่ประกอบไปด้วยแคว้นเล็กแคว้นน้อย มีการแบ่งแยกการปกครองเป็นเอกเทศ ยุคนี้มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการหล่อสำริด เช่น การผลิตอาวุธ เครื่องดนตรี ภาชนะ และเงินตรา รวมถึงความก้าวหน้าทางการทหาร ซึ่งเป็นปัจจัยส่งเสริมให้ “แคว้นฉิน” ที่เป็นแคว้นเล็กในเขตชายแดนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนโบราณ กลายเป็นจักรวรรดิที่แข็งแกร่งในเวลาต่อมา
เกอ - ดาบ (เจี้่ยน) - มีด - ใบหอก
ภายในโซนนี้มีการจัดแสดงโบราณวัตถุที่ทำให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางด้านโลหกรรม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ภาชนะสำริด อาวุธ และเงินตรา โดยถูกจัดแสดงไว้ในตู้จัดแสดงที่มีคำอธิบายประกอบ เช่น ตราประจำตำแหน่ง ม้าและรถม้า ภาชนะมีพวยกา (เหอ) ที่จับประตูรูปสิงโตคาบห่วง ภาชนะในพิธีกรรม (ฝู) ระฆัง (จง) ภาชนะในพิธีกรรม (กุ่ย) เป็นต้น
ติ่ง ภาชนะในพิธีกรรม ใช้สำหรับบรรจุอาหารเพื่อใช้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ
จาง (แผ่นหยกในพิธีกรรม) - เกอ จำลองมาจากอาวุธจริงที่ทำจากสำริด - หยกรูปปลา
ภาชนะในพิธีกรรมสำหรับบรรจุเหล้า (หู)
โซนที่ 2 : จิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกของจีน ผู้ผนวกโลกมนุษย์และสวรรค์
เดินตรงมาเรื่อย ๆ ก็จะพบโซนที่ 2 ที่บอกเล่าเรื่องราวของ “จิ๋นซีฮ่องเต้” จักรพรรดิองค์แรกของแผ่นดินจีนที่โลกต้องจารึก โดยมีวีดิทัศน์เล่าเรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องเต้ตั้งแต่ประสูติจนถึงขึ้นปกครองแคว้นฉิน พร้อมพระราชกรณียกิจของพระองค์ที่ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จีน เช่น การสถาปนาราชวงศ์ฉิน การผนวกแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น การปฏิรูประบบการปกครองแบบรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง
กำหนดมาตรฐานหน่วยชั่ง ตวง วัด ระบบเงินตรา ภาษาเขียน และการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น การสร้างถนนหลวง ที่มีความยาว 6,000 กิโลเมตร การขุดคลองเชื่อมแม่น้ำ สร้างสะพาน สร้างระบบทำนบกั้นน้ำเพื่อขยายพื้นที่การเกษตร รวมถึงการก่อสร้างและเชื่อมต่อแนวกำแพงดินอัดของแคว้นต่าง ๆ เพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึกศัตรู จนกลายเป็น “กำแพงเมืองจีน” สิ่งมหัศจรรย์สุดยิ่งใหญ่ของโลก
ภายในห้องนี้จะมีโบราณวัตถุล้ำค่าที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการอันยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นไกหน้าไม้ ลูกชั่งน้ำหนัก 30 จิน ยุ้งฉางจำลอง ลูกธนู
มีด (สำริด) ที่มีด้ามจับเป็นรูปห่วง-หัวธนู
โซนที่ 3 : สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี มหาอาณาจักรใต้พิภพ
มาถึงโซนที่ 3 ที่ถือเป็นไฮไลต์ของนิทรรศการก็ว่าได้ เพราะจัดแสดงโบราณวัตถุสำคัญจากสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี แวบแรกที่เห็นห้องนี้ บอกเลยว่าต้องมนตร์ขลังของหุ่นดินเผาทหารขนาดใหญ่ที่ส่งตรงมาจากสุสานจิ๋นซี ไม่ว่าจะเป็นรถม้าสำริดจำลอง หุ่นทหารดินเผา ชุดเกราะหิน และหมวกหิน
ในอดีตจิ๋นซีฮ่องเต้เฝ้าค้นหาความเป็นอมตะ เสาะแสวงหายาอายุวัฒนะตลอดชีวิต ดำริให้มีการสร้างสุสานเมื่อพระชนมายุ 13 พรรษา เรื่องราวของจิ๋นซีฮ่องเต้ได้รับการบันทึกไว้โดยอาลักษณ์สมัยราชวงศ์ฮั่น ซือหม่าเฉียน พรรณนารายละเอียดอันน่าทึ่งของมหาสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี
ปริศนานี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2517 หลังจากชาวนาคนหนึ่งได้ขุดพบหุ่นทหารดินเผา นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีครั้งสำคัญแห่งศตวรรษที่ 20 องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ประกาศให้สุสานจักรพรรดิจิ๋นซีเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเมื่อพุทธศักราช 2530
ความมหัศจรรย์ของสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี คือการใช้แรงงานคนจำนวนมหาศาลเพื่อดำเนินการก่อสร้างสุสานในระยะเวลาเกือบ 40 ปี มหาอาณาจักรแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 60 ตารางกิโลเมตร โดยเป็นการจำลองนครเสียงหยาง เมืองหลวงแห่งสุดท้ายในสมัยราชวงศ์ฉินไว้ในสุสาน รัฐบาลจีนได้ดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดีแล้วกว่า 900 หลุม พบทหารดินเผาและรถม้ากว่า 8,000 ตัว พบสุสานบริวารของเจ้าชาย เจ้าหญิง นางสนม ข้าราชการ คนงานสร้างสุสาน คอกสัตว์ และรถม้าสำริด
หุ่นทหาร ตั้งอยู่เคียงคู่ หุ่นม้า (ม้าเทียมรถ)
หุ่นทหาร ตั้งอยู่เคียงคู่ หุ่นม้า (ม้าเทียมรถ)
หุ่นทหาร (พลธนู) หุ่นทหาร (แม่ทัพ) หุ่นทหาร
ใบหอก และส่วนประกอบของบังเหียนม้า-รถม้า
โซนที่ 4 : สืบสานความรุ่งโรจน์ ยุคราชวงศ์ฮั่น
และก็มาถึงโซนสุดท้ายที่บอกเล่ามรดกทางวัฒนธรรมจากจักรพรรดิจิ๋นซีและราชวงศ์ฉิน ส่งต่อสู่ราชวงศ์ฮั่น ที่จัดแสดงโบราณวัตถุจากสุสานในสมัยราชวงศ์ฮั่น และโบราณวัตถุที่บอกเล่าเรื่องราวประเพณี วิถีชีวิต ความรุ่งเรืองทางด้านวัฒนธรรม การเมือง การปกครอง สังคม เกษตรกรรม และเทคโนโลยีทางการทหาร ตลอดจนการค้าและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างชาวจีนโบราณกับชาวต่างชาติบนเส้นทางสายแพรไหม สะท้อนให้เห็นถึงความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ นับเป็นยุคทองของงานศิลปกรรมและอารยธรรมจีนอย่างแท้จริง
ภายในมีการจัดแสดงโบราณวัตถุ ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาหญิงรับใช้ พลทหารม้า ตุ๊กตาดินเผาทหาร ภาชนะสำริด (หู) ประตูสุสาน
ตราประทับ ที่จับเป็นรูปเต่า พร้อมตัวอักษรภาษาจีนอ่านว่า "หวัง จิง"
สถาปัตยกรรมจำลองจากสุสาน-เครื่องมือการเกษตร-ตุ๊กตารูปสัตว์จำลองจากสุสาน
ที่เคาะประตู ทำเป็นรูปหน้าสัตว์
เดินมาถึงโซนจัดแสดงสุดท้าย หันหลังกลับไปมองผู้คนรอบกายที่กำลังดื่มด่ำกับโบราณวัตถุอันทรงคุณค่าที่วางอยู่ตรงหน้าชั่วอึดใจ ก่อนจะหันกลับมาหยุดยืนอยู่ตรงประตูทางออกที่มีข้อความชวนคิดที่ประดับว่า
สรรพสิ่งในโลกหล้า เมื่อถึงที่สุดย่อมย้อนกลับ
นิ่งคิดอยู่สักพัก แล้วค่อย ๆ ก้าวผ่านประตูทางออกไปพบกับหุ่นทหารจำลองให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก รวมถึงมีโซนให้เลือกซื้อหุ่นทหารจำลองหลากหลายขนาดและราคาติดไม้ติดมือกลับบ้านกันด้วย
อิ่มเอมกับนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้กันไปแล้ว ใครที่พอมีเวลาก็อย่าลืมเข้าไปเที่ยวชมภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กันนะ เพราะบัตรเข้าชมนิทรรศการสามารถใช้เป็นบัตรเข้าชมความอลังการอันทรงคุณค่าของไทยได้เช่นกัน
ระเบียบและข้อปฏิบัติในการชมนิทรรศการ
- นิทรรศการพิเศษฯ จัดแสดง ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ 16 กันยายน - 15 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.00-18.00 น. ทุกวันพุธ-อาทิตย์ (ปิดทำการเฉพาะวันจันทร์-อังคาร) วันหยุดนักขัตฤกษ์หากตรงกับวันพุธ-อาทิตย์ เปิดทำการตามปกติ
- บัตรเข้าชมผู้ถือสัญชาติไทย 30 บาท ต่างชาติ 200 บาท จำหน่ายบัตรระหว่างเวลา 08.30-17.00 น. พระภิกษุ สามเณร นักบวช ผู้พิการ นักเรียน/นักศึกษาในเครื่องแบบ ไม่เสียค่าเข้าชม สำหรับผู้สูงอายุเกิน 60 ปี แสดงบัตรประชาชนเข้าชมฟรี
- การเข้าชมจัดเป็นรอบ รอบละ 80 คน แต่ละรอบเวลาห่างกันไม่เกิน 15 นาที ทั้งนี้ แต่ละรอบสามารถชมนิทรรศการได้ 45 นาที
- สิ่งดังต่อไปนี้ห้ามนำเข้าห้องจัดแสดง กระเป๋าขนาดใหญ่, กล้องถ่ายภาพ (Compact, SLR, DSLR, Mirrorless, Action) ไม้เซลฟี่ และขาตั้งกล้อง, ร่ม, ไฟแช็กและวัตถุที่ก่อให้เกิดประกายไฟ, มีดพกและวัตถุมีคม, อาหารและเครื่องดื่ม
- กระเป๋าใบเล็กสามารถนำติดตัวเข้าไปได้ แต่ต้องผ่านการตรวจทุกใบ
- ผู้เข้าชมสามารถถ่ายภาพนิ่งได้จากกล้องมือถือ (หรือ iPad) เท่านั้น ห้ามถ่ายภาพเคลื่อนไหวทุกชนิด และงดใช้แฟลช
- ห้ามจับหรือสัมผัสตู้จัดแสดง
- ผู้เข้าชมต้องผ่านการตรวจอาวุธและพึงรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่
- กรุณาเข้าชมตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ให้เกียรติสถานที่ และผู้เข้าชมท่านอื่น งดวิ่งหรือส่งเสียงรบกวน เด็กเล็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองตลอดเวลา
- สื่อมวลชน และสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ โปรดประสานการเข้าพื้นที่นิทรรศการผ่านกลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง กรมศิลปากร (โทรศัพท์ 0 2224 2050, 0 2222 3569) เท่านั้น
สอบถามรายละเอียดอื่น ๆ ได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โทรศัพท์ 0 2224 1333 และ 0 2224 1402 หรือติดตามรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่
เฟซบุ๊ก National Museum Bangkok : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร