1. นาขั้นบันไดแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
นักท่องเที่ยวสามารถที่จะไปเที่ยวชมนาข้าวขั้นบันได พร้อมกับชมโครงการหลวงแม่ลาน้อย และเที่ยวชมชุมชนรอบ ๆ ได้ด้วย อาทิ บ้านดง, บ้านละอูบ, บ้านห้วยห้า และบ้านห้วยห้อม ซึ่งในชุมชนใหญ่ ๆ เช่น บ้านห้วยห้อม ก็มีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว และยังเป็นแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าที่ดีที่สุดของไทย มีกาแฟอร่อย ๆ ให้ได้ชิมลิ้มลอง อากาศเย็นสบายสดชื่น ใครได้มาสัมผัสต่างก็หลงรัก
- ที่ตั้ง : โครงการหลวงแม่ลาน้อย ตำบลห้วยห้อม อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
2. บ้านผาหมอน จังหวัดเชียงใหม่
หากใครได้พักผ่อนที่นี่ก็จะได้ตื่นมาพร้อมกับภาพของหมอกสวย ๆ บาง ๆ ของหน้าฝน กลิ่นต้นข้าวกลิ่นดินหอมฟุ้ง มองเห็นพระอาทิตย์ค่อย ๆ ขึ้นหลังภูเขาด้านหลังแล้วค่อยสาดแสงส่องลงมาที่นาข้าวทีละน้อย ๆ ยิ่งถ้าวันไหนฝนตกกลางคืน หยุดตอนเช้า ก็จะมีแมลงปอบินวนไปมาในท้องทุ่งนาสีเขียวหยอกล้อกับแสงแดดยามเช้า อากาศเย็น ๆ สูดได้ลึกเต็มปอด จิบกาแฟอุ่น ๆ พร้อมกับอาหารเช้าง่าย ๆ แค่นี้ก็เติมพลังงานชีวิตได้เยอะเลยล่ะ
- ที่ตั้ง : ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
- เฟซบุ๊ก : บ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์
3. บ้านปางห้า จังหวัดเชียงราย
ชุมชนเล็ก ๆ ของชาวไทยลื้อที่มีสิ่งที่น่าสนใจรอนักท่องเที่ยวอยู่เพียบ ที่ตั้งของบ้านปางห้าตั้งอยู่เหนือสุดขอบของอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนที่นี่จะได้เที่ยวชมวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้าน พร้อมกับทำกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ลองลงมือทำสินค้าเด่นของชุมชนที่พลาดไม่ได้ก็คือ จินนาลักษณ์ มิลาเคิล ออฟ สา แหล่งเรียนรู้การทำกระดาษสาสมัยใหม่ ที่ต่อยอดกระดาษสาดั้งเดิมให้กลายเป็นสินค้าพรีเมียม ใช้ไหมมาทำกระดาษ และยังคิดลวดลายให้สวยงามน่าซื้อใช้ พร้อมกับเปิดโอกาสให้ลองทำด้วยตัวเอง นำดอกไม้พื้นบ้านมาตกแต่งกันได้ตามใจชอบ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมแช่เท้าสมุนไพร มาร์กหน้าใยไหมทองคำ และกิจกรรมอื่น ๆ ให้ร่วมสนุกมากมาย
ความสนุกของหมู่บ้านปางห้าไม่ได้มีเท่านั้น เพราะนักท่องเที่ยวยังจะได้เรียนรู้การทำมีด การทำเทียน ชิมลิ้มรสขนมล็อคนา ฝรั่งกิมจูเนื้อสีชมพูหวาน และอาหารพื้นบ้านไทลื้อ ได้เที่ยวชมโรงงานยาสูบเก่าแก่ เพื่อถ่ายรูปชิค ๆ ได้ไหว้พระทำบุญ พร้อมชมสถาปัตยกรรมงาม ๆ ที่วัดปางห้า ถ้าใครมีเวลาเยอะหน่อย แนะนำให้ลองนอนโฮมสเตย์ของชาวบ้าน ก็จะได้สัมผัสกับชุมชนน่ารัก ๆ แห่งนี้ได้อย่างเต็มรูปแบบ
- ที่ตั้ง : ตำบลเกาะช้าง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
- เฟซบุ๊ก : ท่องเที่ยวชุมชนปางห้าโฮมสเตย์ Pangha Homestay
4. ดอยสกาด จังหวัดน่าน
โดยเฉพาะวิวทิวทัศน์ของขุนเขาน้อยใหญ่ ยิ่งถ้าหลังฝนตกใหม่ ๆ กลิ่นฝนจะหอมยั่วยวน ถ้ามีแสงแดดจะเห็นสายรุ้งชัดเจน ใกล้จนแทบจะเอื้อมมือถึง วันไหนโชคดีก็มีสายหมอกไหลลอยเอื่อยมาทักทาย ยามค่ำคืนก็นอนมองทะเลดาวที่ส่องประกายแวววับทั่วทั้งท้องฟ้า นอกจากนี้อาหารพื้นบ้านของที่นี่ยังอร่อยกลมกล่อม ปลอดสารพิษ มีกาแฟเข้มข้นให้ชิมลิ้มลองทุกวัน
- ที่ตั้ง : ตำบลสกาด อำเภอปัว จังหวัดน่าน
- โทรศัพท์ : 0 5471 1217-8 (ททท. สำนักงานน่าน)
5. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก
กิจกรรมพระเอกของหน้าฝนที่นักท่องเที่ยวสายผจญภัยต่างเฝ้ารอคอย เป็นเส้นทางล่องแก่งที่มีระดับความยากง่ายตั้งแต่ 2-5 ซึ่งยากที่สุดอันดับต้น ๆ ของไทย ตลอดเส้นทางจะมีจุดวัดใจสนุก ๆ มากมาย พร้อมกับมีวิวทิวทัศน์สวย ๆ ของทั้งธรรมชาติและสวนผลไม้ของชาวบ้านให้ได้ชม และทางเจ้าหน้าที่จะแวะให้นักท่องเที่ยวกระโดดเล่นน้ำเย็นฉ่ำเป็นช่วง ๆ ด้วย โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่งลำน้ำเข็ก 2562 จะอยู่ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม-ปลายเดือนกันยายน ทั้งนี้ต้องดูระดับน้ำเป็นสำคัญ
- ที่ตั้ง : ตำบลแก่งโสภา และตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก
- โทรศัพท์ : 0 5525 2742 (ททท.สำนักงานพิษณุโลก)
- เฟซบุ๊ก : ททท.สำนักงานพิษณุโลก
6. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก
น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว ๆ 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ มีความกว้างมากถึง 500 เมตร และสูงถึง 300 เมตร แวดล้อมไปด้วยป่าดงดิบที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ ช่วงเวลาที่จะได้ยลโฉมความยิ่งใหญ่อลังการของทีลอซูจะอยู่ในช่วงหน้าฝน สายน้ำมหาศาลจะพากันไหล่บ่าลงสู่หน้าผาชัน 90 องศา เสียงดังกระหึ่มไปทั่วผืนป่า ละอองน้ำกระเซ็นไปไกลหลายร้อยเมตร
การเที่ยวชมน้ำตกทีลอซูในช่วงหน้าฝน จะต้องล่องแพยางเข้าไปเท่านั้น แล้วจากท่าเรือผาเลือดจะต้องเดินเท้าต่อไปอีกราว ๆ 11 กิโลเมตร จึงจะถึงตัวน้ำตก
- ที่ตั้ง : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
- โทรศัพท์ : 08 8427 5272 (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง)
- เฟซบุ๊ก : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง - Umphang Wildlife Sanctuary
7. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดพิษณุโลก
นอกจากนี้ภายในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทุ่งนางพญา, ทุ่งโนนสน, น้ำตกแก่งโสภา และแก่งวังน้ำเย็น เป็นต้น สามารถกางเต็นท์ได้ที่จุดต่าง ๆ ภายในอุทยาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง โทรศัพท์ 08 8756 4940
- ที่ตั้ง : ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ (ทุ่งแสลงหลวง)
- โทรศัพท์ : 08 8756 4940 อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
8. แก่งลำดวน จังหวัดอุบลราชธานี
ตั้งอยู่ภายในศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าอุบลราชธานี ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี มีลักษณะเป็นแก่งหินยาวประมาณ 200 เมตร ขวางกั้นลำน้ำคลองโดมใหญ่ แม้ว่าในช่วงเดือนกันยายนกระแสน้ำจะแรง ไม่สามารถลวเลล่นน้ำได้ แต่กลับมีปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หาดูได้เพียง 1 เดียวในไทย และครั้งเดียวใน 1 ปี เท่านั้น กับปรากฏการณ์ “กุ้งเดินขบวน” ที่กุ้งจำนวนมหาศาลจะพากันเดินทวนน้ำขึ้นไปวางไข่ที่แหล่งต้นน้ำบนเทือกเขาพนมดงรัก พอมาถึงช่วงแก่งลำดวนที่กระแสน้ำไหลแรง เพื่อให้ง่ายต่อการเดิน กุ้งก็จะพากันขึ้นมาบนแก่งหินน้อยใหญ่ ทำให้เราได้เห็นขบวนของกุ้งนับแสนตัวในยามค่ำคืน
- ที่ตั้ง : ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าอุบลราชธานี ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
- เฟซบุ๊ก : ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าอุบลราชธานี
9. ภูเขาหญ้า จังหวัดระนอง
เมื่อหันหลังกลับไปมองยังด้านหลัง ก็จะเห็นน้ำตกหงาวยิ่งใหญ่ตระการตา มีมุมให้ถ่ายรูปชิค ๆ เพียบ หรือถ้าใครมาเที่ยวช่วงบ่ายแก่ ๆ ก็สามารถมานั่งปิกนิกดินเนอร์ได้ด้วย ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือไม่ก่อกองไฟ เพราะอาจจะทำให้ทุ่งหญ้าเสียหายและเป็นประกายไฟจนเกิดไฟป่าได้
- ที่ตั้ง : ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง
- เฟซบุ๊ก : TATChumphonRanong
10. น้ำตกกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช
น้ำตกสวยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นบนคลองกรุงชิง ตัดไหลผ่านหุบเขาหินแกรนิต ลดระดับตามความลาดเอียงของภูเขากลายเป็นชั้นน้ำตกที่สวยงาม เปิดให้เข้าเที่ยวชมเพียง 7 ชั้น คือ หนานมัดแพ หนานปลิว หนานจน หนานโจน หนานต้นตอ หนานวังเรือบิน และหนานฝนเสน่หา มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้เดินเข้าไปเที่ยวชมด้านในสุด ระยะทางราว ๆ 3.7 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยาน
- ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช
- เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช
11. ล่องแก่งคลองน้้ำใส จังหวัดพัทลุง
การล่องแก่งในคลองน้ำใส จะเป็นนั่งเรือคายักล่องไปตามลำน้ำ ไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่พายไปด้วย สามารถพายกันเองได้ เพราะระดับน้ำไม่อันตราย แต่ต้องพายเป็นกรุ๊ป ซึ่งก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดทุกช่วง เที่ยวได้ทั้งปี
- ที่ตั้ง : ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง
- เฟซบุ๊ก : TAT Hatyai
12. เกาะเต่า เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะสวยอันดับต้น ๆ ของไทย โดยเฉพาะเกาะนางยวนที่เคยติดอันดับเกาะฮันนีมูนที่โรแมนติกที่สุดในโลก โดยทั้ง 2 เกาะตั้งอยู่ในทะเลอ่าวไทย ในพื้นที่ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นท้องทะเลที่สามารถเที่ยวได้ในฤดูฝน เพราะทะเลทางแถบนี้จะยังไม่ได้ร่องฝน ไม่มีพายุ คลื่นลมสงบ ท้องฟ้าสดใส น้ำทะเลก็นิ่งสวยใส มองเห็นใต้ท้องทะเลชัดเจน จะดำน้ำหรือนอนพักผ่อนริมชายหาดก็ดีทั้งนั้น อย่างไรก็ตามด้วยช่วงเดือนกันยายนยังเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของทั้ง 2 เกาะ แนะนำว่าให้จองที่พักและเรือโดยสารล่วงหน้า
- ที่ตั้ง : ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- เฟซบุ๊ก : ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี
อันที่จริงเมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ที่น่าไปเที่ยวในช่วงเดือนกันยายนอีกมากมาย เราจะนำมาอัปเดตให้เรื่อย ๆ หรือติดตามแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เส้นทางท่องเที่ยวที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ใน travel.kapook.com :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 19 สิงหาคม 2562
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
maehongson.go.t, ท่องเที่ยวชุมชนปางห้าโฮมสเตย์ Pangha Homestay, Skaddee homestay สกาดดีโฮมสเตย์, ททท.สำนักงานพิษณุโลก, TAT TAK, ททท., park.dnp.go.th, ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าอุบลราชธานี, thailandtourismdirectory.go.th, TAT Hatyai