Mari Mari Cultural Village หมู่บ้านที่รวบรวมชนเผ่าดั้งเดิมของเกาะบอร์เนียว เป็นที่เที่ยวโคตาคินาบาลู ที่เที่ยวซาบาห์ยอดนิยมที่ต้องไปสัมผัส วางแผนเที่ยวมาเลเซีย เมื่อไรต้องไม่พลาด
ชวนไปเที่ยว Mari Mari Cultural Village หมู่บ้านชนเผ่าดั้งเดิมของเกาะบอร์เนียว ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโคตาคินาบาลู (Kota Kinabalu) รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย เรียนรู้วิถีชีวิตของ 5 ชนเผ่า ผ่านประเพณีวัฒนธรรมการอยู่ การกิน ซึ่งมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และยังมีบางชนเผ่าที่มีการร่ำลือกันว่ากินมนุษย์จัดแสดงให้ชมด้วย
ก่อนที่เราจะเข้าไปเที่ยวชม Mari Mari Cultural Village ขอให้ข้อมูลพื้นฐานเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับหมู่บ้านแห่งนี้กันสักนิดค่ะ หมู่บ้าน Mari Mari Cultural Village ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองโคตาคินาบาลูประมาณ 40 นาที ตั้งอยู่ริมเชิงเขา รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ เป็นหมู่บ้านที่จำลองขึ้นเพื่อจัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิตของ 5 ชนเผ่า ได้แก่
1. Kadazan-Dusun ชนเผ่าที่โดดเด่นด้านการทำนาปลูกข้าว
2. Rungus ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ร่วมกันหลายครอบครัว
3. Lundayeh ชนเผ่าที่ถนัดด้านการล่าสัตว์และประมง
4. Bajau มีลักษณะคล้ายกับคาวบอยและยิปซี
5. Murut นักล่าหัวคน หรือนักรบนั่นเอง
โดยคำว่า Mari ในภาษามาเลเซีย จะแปลว่า มานี่ ๆ
เหมือนเป็นการเรียกให้มาทางนี้หรือตามมาทางนี้
ภายในหมู่บ้านจะมีบ้านจำลองของทั้ง 5 เผ่า
มีซุ้มที่จัดแสดงอาหารพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้ลองชิม
และปิดท้ายด้วยการแสดงสุดสนุกสนาน
พอรู้จักกับหมู่บ้านนี้กันคร่าว
ๆ แล้ว
ถ้าอย่างนั้นเราไปตะลุยหมู่บ้านนี้พร้อมกับค้นหาคำตอบที่ว่าพวกเขากินเนื้อมนุษย์จริงหรือไม่กันเลย
ก่อนเข้าไปในหมู่บ้าน ก็ขอถ่ายรูปหมูสักนิด
เอ๊ย...รูปหมู่ค่ะ ครั้งนี้เราเดินทางมากับการท่องเที่ยวมาเลเซีย
ภายใต้อีเว้นท์ ASEAN Celebrities Explore Quest Malaysia 2016 (ACEQM 2016)
ซึ่งมีเซเลบริตี้และสื่อมวลชนจาก 10 ประเทศทั่วเอเชียมาเข้าร่วม
โดยประเทศไทยมีน้อง ๆ นักแสดงแก๊งฮอร์โมนมาร่วมทริปนี้ ได้แก่ ไมเคิล
ศิรชัช เจียรถาวร, แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ และ ฟรัง นรีกุล
เกตุประภากร ใครสวยหล่อมากที่สุดก็ดูจากรูปนี้ได้เลยค่ะ ^^
ทางเดินก่อนเข้าหมู่บ้าน
จากทางเข้าหมู่บ้าน นักท่องเที่ยวจะต้องเดินข้ามสะพานแขวนเล็ก ๆ ที่ทอดข้ามผ่านลำธาร เพื่อข้ามไปยังหมู่บ้าน
ลำธารเล็ก ๆ น้ำเย็นมาก
พอเดินข้ามสะพานมาแล้ว มองกลับไปจะได้วิวแบบนี้
บ้านของชนเผ่า Rungus
บ้านของชนเผ่า Rungus
บ้านของชนเผ่า Rungus
บ้านหลังแรกที่เราไปเยี่ยมชมกันเป็นบ้านของชนเผ่า Rungus ค่ะ เอกลักษณ์ของเผ่านี้คือจะอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ในบ้านหลังเดียว ภายในบ้านก็จะมีการสาธิตการก่อไฟจากเยื่อไม้พื้นเมืองให้ดูค่ะ
ถ้าสังเกตให้ดีบ้านที่ชนเผ่า Rungus
เรียกว่า Longhouse จะมีประตู 3 บานเท่านั้น คือบานซ้าย ขวา และตรงกลาง
ทั้ง 2 บานซ้ายและขวาจะเป็นทางเข้า-ออกปกติ
แต่ประตูตรงกลางนั้นเอาไว้สำหรับเป็นทางเคลื่อนศพออกเท่านั้น
บ้านของชนเผ่า Rungus
บ้านของชนเผ่า Rungus
พอเดินออกมาจากบ้าน Rungus ก็จะเจอกับซุ้มของสาวน้อยคนนี้ เป็นซุ้มให้ชิมน้ำผึ้งป่าแบบดั้งเดิมค่ะ
เดินย้อนกลับมานิดหนึ่งจะเจอกับซุ้มทำไวน์ข้าวพื้นเมืองค่ะ
ทุกคนจดจ่อรอชิมไวน์ข้าว
ไกด์อธิบายถึงกระบวนการทำไวน์ข้าว
ทุกคนจดจ่อรอชิมไวน์ข้าว
บ้านหลังต่อไปคือบ้านของชนเผ่า Dusun เป็นชนเผ่าที่มีความเชี่ยวชาญในการทำนาข้าว
ยุ้งข้าวโบราณ ไกด์อธิบายว่าถ้าใครมาขโมยข้าว แล้วโดนจับได้ ก็จะต้องโดนตัดหัวแล้วแขวนประจานไว้ข้างบน บรื๋อ...
บ้านของชนเผ่า Dusun
บ้านของชนเผ่า Dusun
บ้านของชนเผ่า Dusun
บ้านของชนเผ่า Dusun
บ้านของชนเผ่า Dusun
ครัวของบ้านชนเผ่า Dusun
ครัวของบ้านชนเผ่า Dusun
เดินลงมาจากบ้านชนเผ่า Dusun ก็จะเป็นการสาธิตการทำอาหารพื้นเมืองค่ะ
ระหว่างทางเดินไปยังบ้านของอีกชนเผ่า ก็จะเจอกับไหแบบนี้ ไกด์บอกว่าเอาไว้ใส่หัวของบรรพบุรุษ เพื่อให้ปกป้องคุ้มครองลูกหลาน
ชนเผ่าต่อมา เป็นบ้านของชนเผ่า Lundayeh ที่เห็นอยู่นี้เป็นสุสานเอาไว้ปักหัวศัตรูประจานค่ะ
ตรงนี้จะมีการสาธิตการทำอาวุธต่อสู้และเสื้อขนสัตว์
สาวงามชนเผ่า Lundayeh
ภายในบ้านของชนเผ่า Lundayeh
ภายในบ้านของชนเผ่า Lundayeh
ลำธารข้าง ๆ บ้านของชนเผ่า Lundayeh
ต่อมาไปชมบ้านของชนเผ่า Bajau หลังนี้จะจัดบ้านให้ชมประเพณีแต่งงานค่ะ
บ้านของชนเผ่า Bajau
ลงมาจากบ้านชนเผ่า Bajau มากินน้ำอ้อยผสมสมุนไพรเย็น ๆ กันต่อ :)
ลำธารข้าง ๆ บ้านของชนเผ่า Lundayeh
ต่อมาไปชมบ้านของชนเผ่า Bajau หลังนี้จะจัดบ้านให้ชมประเพณีแต่งงานค่ะ
บ้านของชนเผ่า Bajau
ลงมาจากบ้านชนเผ่า Bajau มากินน้ำอ้อยผสมสมุนไพรเย็น ๆ กันต่อ :)
ข้าง ๆ กันก็มีขนมอร่อย ๆ ให้กินค่ะ อิ่มมาก :)
มา ๆ มาต่อกันที่บ้านของชนเผ่าหลังสุดท้ายค่ะ เป็นบ้านของชนเผ่า Murut ขอบอกว่าชนเผ่านี้เลื่องลือมากในเรื่องของการตัดหัวศัตรู เขาเรียกกันว่า headhunter การจะเข้าไปชมบ้านหลังนี้ก็จะตื่นเต้นกว่าหลังอื่น ๆ ไกด์ขออาสาสมัครในการคุยกับผู้คุมประตูหมู่บ้าน งานนี้ก็เลยตกเป็นของหนุ่มหล่ออย่างน้องไมเคิลค่ะ ^^
พอผ่านเข้ามาได้แล้ว ก็จะมีตัวแทนชนเผ่าคอยโปรยข้าวสารและปัดเป่าสิ่งไม่ดีค่ะ
โฉมหน้าของผู้เฝ้าประตูค่ะ
อันนี้เป็นเสาเสียบหัวศัตรูค่ะ เขาบอกกันว่าหัวศัตรูนี่แหละที่เป็นตัววัดว่าเผ่าไหนแข็งแกร่ง
โฉมหน้าของผู้เฝ้าประตูค่ะ
อันนี้เป็นเสาเสียบหัวศัตรูค่ะ เขาบอกกันว่าหัวศัตรูนี่แหละที่เป็นตัววัดว่าเผ่าไหนแข็งแกร่ง
มีลูกดอกให้ลองเป่าวัดความแม่นกันด้วย
บ้านของชนเผ่า Marut
บ้านของชนเผ่า Marut
ภายในบ้านของชนเผ่า Marut จะมีแผ่นสปริงบอร์ดไม้ เอาไว้ให้กระโดดเพื่อแตะหรือหยิบของในพิธีสำคัญ ๆ ของเผ่า
มีการให้นักท่องเที่ยวลองกระโดดด้วยค่ะ
แผ่นสปริงบอร์ดไม้
ภายในบ้านของเผ่า Marut จะมีการสาธิตการทำยาเส้นจากสมุนไพรในป่า
และก็มีการเขียนลายตามแบบชนเผ่าด้วย น้องฟรังขอประเดิมคนแรก
บ้านของชนเผ่า Marut
บ้านของชนเผ่า Marut
ภายในบ้านของชนเผ่า Marut จะมีแผ่นสปริงบอร์ดไม้ เอาไว้ให้กระโดดเพื่อแตะหรือหยิบของในพิธีสำคัญ ๆ ของเผ่า
มีการให้นักท่องเที่ยวลองกระโดดด้วยค่ะ
แผ่นสปริงบอร์ดไม้
ภายในบ้านของเผ่า Marut จะมีการสาธิตการทำยาเส้นจากสมุนไพรในป่า
และก็มีการเขียนลายตามแบบชนเผ่าด้วย น้องฟรังขอประเดิมคนแรก
เซเลบริตี้ของเวียดนามขอลองเขียนลายแบบเท่ ๆ ที่คอค่ะ
ปิดท้ายการเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้ด้วยการแสดงจากเผ่าต่าง ๆ
และแล้วการเยี่ยมหมู่บ้านแห่งนี้ก็สิ้นสุดลงค่ะ เป็นการเที่ยวเมืองโคตาคินาบาลู และประเทศมาเลเซียที่ประทับใจมาก ๆ สุดท้ายก็ได้ถามไกด์ว่าจริง ๆ แล้วเขาคือเผ่ากินคนหรือเปล่า เราก็ได้คำตอบว่าจริง ๆ นั้นเป็นเพียงการตัดหัวศัตรูหรือผู้บุกรุกเฉย ๆ ไม่ได้มีการกินเนื้อมนุษย์ เพราะฉะนั้นใครไปเที่ยวที่นี่ก็อย่าทำให้เขาคิดว่าคุณเป็นศัตรูนะคะ ^^ปิดท้ายการเยี่ยมชมหมู่บ้านนี้ด้วยการแสดงจากเผ่าต่าง ๆ
ใครที่สนใจอยากเข้าเยี่ยมชมหมู่บ้านแห่งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่การท่องเที่ยวมาเลเซีย ประจำประเทศไทย โทรศัพท์ 0 2636 3380
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
การท่องเที่ยวมาเลเซีย
marimariculturalvillage.com