ภูทับเบิก เพชรบูรณ์ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนรักธรรมชาติ เพลิดเพลินไปกับทะเลหมอกสีขาวโพลน และทัศนียภาพธรรมชาติรอบตัว
ช่วงสู่ช่วงปลายฤดูฝนแบบนี้ ภูทับเบิก ก็ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตอยู่เหมือนเดิม ด้วยความที่ภูทับเบิกเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวของที่นี่เย็นสบายกำลังดี ใครมีโอกาสมาเที่ยวภูทับเบิกช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ รับรองว่าจะได้ชื่นชมความสวยงามของทะเลหมอกและกลุ่มเมฆที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เช่นเดียวกับ คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ติดใจความสวยงามของภูทับเบิก จนต้องพาตัวเองกลับไปเที่ยวซ้ำรอยนับครั้งไม่ถ้วน นอกจากนี้ยังจะได้ตื่นตาไปกับทัศนียภาพธรรมชาติโดยรอบภูทับเบิกแบบ 360 องศา ใครที่คิดอยากจะไปเที่ยวภูทับเบิก ลองได้เข้ามายลโฉมความสวยงามนี้แล้ว อาจตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก็ได้นะ
++++++++++++++++++++++
# # ช า น ม ห นี เ ที่ ย ว # # ต า ม เ ก็ บ ห ม อ ก ที่ ภู ทั บ เ บิ ก
ถ้าให้นึกถึงสถานที่ที่มีภูเขาสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ มีวิวทะเลหมอกให้ได้ดู ผมก็มักจะนึกถึงจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นที่แรกเสมอ ภูเขาสวย ๆ หาได้จากที่นี่ บรรยากาศดี ๆ ก็อยู่ที่นั่น แถมมีทะเลหมอกให้ได้ลุ้นในทุก ๆ วัน พอคิดถึงตอนที่ได้ไปเพชรบูรณ์ครั้งแรกในตอนนั้น ผ่านมาถึงตอนนี้ ก็ไปมากกว่า 30 ครั้ง กับระยะทางไป-กลับราว ๆ 1,000 กิโลเมตร......
ความพิเศษแบบหนึ่งของ "ทะเลหมอก" มันเหมือนเป็นของขวัญที่มอบให้กับใครบางคนที่มีความพิเศษ เหมือนกับตัวของมันเอง มันเป็นของขวัญที่ผมอยากได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ผมมีความสุขหรือตอนที่ผมเศร้า ผมก็อยากจะเห็นมันเหมือนกับในรีวิวฉบับนี้ ภูทับเบิกฤดูฝนปี 2559
[อีกหนึ่งพื้นที่ของคนรักขุนเขา&สายหมอก เฟซบุ๊ก chanomworld]
และช่วงเวลาที่ลุ้นที่สุดคือ 30 นาที ก่อนถึงปลายทาง ที่รถค่อย ๆ ไต่ระดับความสูงเพื่อไปให้ถึงปลายทางในเช้าวันนี้ ผมรู้สึกได้เลยว่าบรรยากาศรอบตัวในตอนที่ขับรถผ่าน มันเหมือนกับความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นเหมือนกับวันที่ 6/9/57 และ 6/9/58 แต่เช้าวันนี้เป็นวันที่ 7/8/59 เท่านั้นเอง ตลอดเส้นทางมีร่องรอยของความชื้นและน้ำขังสะสมจากฝนตกของเมื่อวานเย็น และช่วงหลังเที่ยงคืนลมนิ่งและมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้า
ผมเริ่มขับรถปะทะสายหมอกก้อนเล็ก ๆ ในระหว่างทางขึ้นจนไปถึงการที่รถอยู่ภายใต้หมอกอันหนาทึบ ทำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้า แต่ไม่นานผมก็ขับรถทะลุหมอกชั้นนั้นขึ้นมา และมองเห็นดวงดาวอีกครั้ง และนั่นทำให้ผมมั่นใจว่าผมจะต้องได้เห็นอะไรบางอย่างที่ผมตามหาอย่างแน่นอน
แต่ดูเหมือนว่าความคาดหวังของผมถูกทดสอบอีกครั้ง เพราะรถกำลังเคลื่อนที่เข้าไปอยู่ใต้เงาหมอกอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นานกว่าครั้งแรกมาก แต่สุดท้ายผมก็ขับรถทะลุหมอกมาอีกครั้งได้สำเร็จ
ดูเหมือนว่าทุก ๆ อย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่สักพักหมอกได้ไหลและตีขึ้นมาบนจุดชมวิวทำให้ทุก ๆ อย่างฟุ้งกระจายจนมองไม่เห็นทะเลหมอก กับช่วงเวลาที่ต้องคิด เป็นช่วงเวลาที่ต้องวางแผนและใช้ประสบการณ์ สุดท้ายผมก็รอและรอ เพราะคิดว่าวันนี้จะต้องเป็นวันของผม !!!!
ข้อมูลที่ผมใช้ดูเป็นข้อมูลในเรื่องของการลุ้นทะเลหมอก คือข้อมูลทั่วไป สภาพอากาศล่วงหน้า 7-14 วัน ทำให้เราค่อย ๆ เลือกช่วงเวลาที่ดีได้ ส่วนตัวเลขที่ใช้นำมาดู เป็นตัวประเมินมีหลัก ๆ ประมาณนี้
.......
1. ฝนสะสมในช่วง 1-3 วันที่ผ่านมา และปริมาณน้ำฝนรอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งสำคัญสุด และโดยเฉพาะปริมาณน้ำฝนเย็น ๆ ถึงเที่ยงคืน จะดีกว่าฝนที่ตกในช่วงกลางวัน และที่สำคัญช่วงเช้ามืดถึงสายไม่ควรเป็นช่วงที่ฝนมีโอกาสตก
2. ความเร็วลมที่เหมาะสมจะต้องไม่แรงเกินไป โดยปกติถ้าไม่มีพายุหรือร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่าน ความเร็วลมจะอยู่ในภาวะปกติ แต่ถ้ามรสุมเข้าหรือร่องความกดอากาศต่ำพัดผ่านลมก็จะแรงขึ้นมาก
3. ความชื้นสัมพัทธ์ช่วง ตี 4 ตี 5 ควรเกิน 95% สำหรับภูทับเบิก และบนพื้นที่หล่มเก่าควรเกิน 85% ขึ้นไป
4. ถ้าอยากได้ฟ้าสวยแสงดี ฟ้าเปิด ควรดูวันที่ประเมินว่ามีเมฆปกคลุมต่ำกว่า 90% ตั้งแต่ช่วง ตี 5-7 โมงเช้า
5. อุณหภูมิช่วงตี 4 ตี 5 ยิ่งต่ำยิ่งดี ในหน้าฝนควรต่ำกว่า 18 องศา เพื่อคงความเป็นละอองน้ำได้ดีกว่าอุณหภูมิที่สูงกว่านี้
6. แนวทางการประเมินเพื่อน ๆ สามารถดูได้จากเว็บไทย เว็บต่างประเทศ และดูลงลึกเข้าไปในแต่ละที่ มีการประเมินล่วงหน้า 3-7 วัน บางเว็บดูล่วงหน้าได้หลายวัน แล้วก็เฝ้าติดตามจนตัดสินใจได้ว่าเป็นวันที่โอเคไหม ???
7. ปัจจุบันมีเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นทำให้ง่ายและสะดวกขึ้นมาก
โดยปัจจัยสำคัญที่สุดในการเกิดทะเลหมอกของภูทับเบิกคือความชื้น และไม่ใช่ความชื้นจากป่าเขา เนื่องจากจุดชมวิวทะเลหมอกที่นี่ไม่ได้เป็นที่ตั้งของป่าเขาต้นไม้ แต่มันเป็นพื้นที่ราบของเขตเกษตรกรรม และเป็นพื้นที่ราบของเขตที่อยู่อาศัย ดังนั้นต้องใช้ความชื้นสะสมที่มาจากปริมาณน้ำฝน เราถึงได้เห็นทะเลหมอกในช่วงหน้าฝนเป็นหลัก
พอเข้าสู่ฤดูหนาวความชื้นจะค่อย ๆ ลดลง โอกาสการเจอทะเลหมอกก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย ส่วนฤดูหนาวความชื้นในอากาศต่ำ บวกกับภูมิศาสตร์จุดชมวิวของภูทับเบิกเป็นที่โล่ง เปิดกว้าง ไม่ได้เป็นจุดชมวิวแบบแอ่งเขา แอ่งกระทะ ทำให้ปริมาตรที่ละอองน้ำเหล่านี้จะแปรผันตรงกับกระแสลม ซึ่งพอเข้าหน้าหนาวกระแสลมที่พัดมาจากจีนจะมีอย่างต่อเนื่อง และค่อนข้างแรงด้วยมวลความกดอากาศสูง ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นมวลละอองน้ำที่อัดกันแน่นจนมองเห็นเป็นทะเลหมอกเหมือนแบบที่เห็นในตอนหน้าฝน อาจมองเห็นเป็นแนวฝุ่นละอองน้ำตามเส้นขอบฟ้าเป็นสีจาง ๆ ตัดผ่านกับเส้นแสงของตะวันในยามเช้า เป็นแถบจาง ๆ ยิ่งลมแรงก็ทำให้หมอกฟุ้งกระจายจนมองอะไรไม่เห็นไปเลย
ดังนั้นถ้าคุณอยากเห็นทะเลหมอกที่สวย ๆ ของภูทับเบิกต้องหน้าฝนเท่านั้น โดยเฉพาะสองเดือนสุดท้ายคือสิงหาคม-กันยายน จะมีทะเลหมอกที่สวยที่สุด
ไม่เคยเบื่อหรอกที่ได้กลับมาที่เดิม ๆ ปีหนึ่งหลาย ๆ ครั้ง เพราะถ้าเบื่อคงไม่มา และถ้าเบื่อก็คงไม่ได้ทำ และก็คงนึกไม่ออกเหมือนกันว่าตอนนั้นทำอะไรอยู่ ?
เหนื่อยไหม ? มีเหนื่อยบ้างที่ต้องขับรถข้ามคืน ไป-กลับ 1,000 กิโลเมตร เพื่อมาให้ได้เห็นสิ่งนี้
ความรู้สึกอยากมา อยากเห็น มันเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีพลังมาก ๆ บอกไม่ถูกแต่รู้ว่าต้องมา อยากมา...ก็เลยมาซะคนเดียว...มาเพื่อให้เห็นว่าโอกาสแบบนี้อาจจะมีแค่เพียง 5 วัน หรือ 10 วัน ในฤดูกาลแบบนี้ หรืออาจจะไม่มีอีกเลยก็ได้
แค่ได้เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของมัน ... นั่นแหละความสุขของผม ความสุขที่บอกได้ไม่หมด แต่มันก็เป็นความหมายแบบนั้นจริง ๆ
บางทีความสุขก็ไม่รู้ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ เหมือนกับที่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะจากไปตอนไหน ?
ถ้าไม่คว้าไว้ตอนนี้ แล้วตอนสุดท้ายตอนที่ได้นึกถึง เดาไม่ถูกเหมือนกันว่าจะรู้สึกแบบไหนดี ?
ยิ่งสายทะเลหมอกก็ยิ่งฟู ยิ่งแน่นขึ้น
ไม่รู้จะบอกเล่ายังไงดี ?? เอาเป็นว่าผมพาเดินชมวิวต่อนะครับ
จากคนหลายสิบคนในตอนนั้น ตอนนี้เหลือไม่กี่คนในตอนนี้ กับเหตุผลของการได้วนกลับมายืนในจุดที่เคยยืน
ภูทับเบิกในมุมมองของผมก็ยังคงเป็นสถานที่สวยงามเสมอ
แม้อะไรจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่นั่นคือสิ่งที่เราต้องยอมรับ และเข้าใจมันให้มากขึ้น และสิ่งที่ผมทำคือพยายามเลือกไปอยู่ในช่วงเวลาและจังหวะที่ธรรมชาติของที่นี่สวยงามและลงตัวที่สุดเสมอ
ความรู้สึกตอนนี้หรือวันข้างหน้าอาจจะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ความทรงจำครั้งเก่าก่อนจะไม่มีวันเปลี่ยน และไม่เปลี่ยนแปลงไป
เฟซบุ๊ก chanomworld
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม, เฟซบุ๊ก chanomworld