
เกาะลอร์ด เฮฟเว่น ทะเลเมียนมาที่ถูกให้นิยามว่าราชาแห่งสวรรค์ จะงดงามตระการตาขนาดไหน...ไปชมพร้อม ๆ กันเลย
ใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเมียนมา ตามเรามาเลยค่ะ วันนี้เราขอแนะนำอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเมียนมาที่เผยโฉมความงดงามออกมาให้เราได้ชมกัน นั่นก็คือ "เกาะลอร์ด เฮฟเว่น" (Lord Heaven Island) ที่ที่ธรรมชาติยังคงสด ดิบ และบริสุทธิ์มาก ๆ ทั้งบนบกและใต้ท้องทะเล อ๊ะ ๆ จะสวยงามขนาดไหนตามบันทึกการเดินทางของ คุณ Mr Napat สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปเที่ยวเกาะลอร์ด เฮฟเว่น ทะเลเมียนมาที่หากมีโอกาสต้องไปสัมผัสสักครั้งกันดีกว่า เกาะลอร์ด เฮฟเว่น ทะเลเมียนมาที่ถูกให้นิยามว่าราชาแห่งสวรรค์ จะงดงามตระการตาขนาดไหน...ไปชมพร้อม ๆ กันเลย
+++++++++++++++++++++++++++++
การท่องเที่ยวก็สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เรื่องสภาพภูมิประเทศของประเทศพม่าที่มีหมู่เกาะน้อยใหญ่เรียงตัวกันเป็นกำแพงธรรมชาติ ที่เป็นเสมือนเกราะกำบังลมทะเลให้เราเวลาแล่นเรือออกไป จึงทำให้คลื่นไม่สูงมากนัก

วันนี้ผมมีภาพบรรยากาศของเกาะลอร์ด เฮฟเว่น ที่ถูกให้นิยามว่าราชาแห่งสวรรค์ ชายหาดที่สีขาวละเอียดทอดตัวเป็นแนวยาว

และถูกโอบล้อมด้วยกำแพงภูเขา ด้านหน้าปรากฏท้องทะเลที่สีฟ้าคราม


ด้านหลังเกาะมีอ่าวเล็ก ๆ ที่มีแนวหินรูปร่างคล้ายครีบฉลาม ผมเรียกอ่าวนี้ว่าอ่าวครีบฉลาม มีหาดทรายเล็ก ๆ และที่เป็นจุดเด่นคงจะหนีไม่พ้นหน้าผาและก้อนหินที่มีรูปร่างคล้ายครีบฉลามโผล่เหนือน้ำทะเลไว้ให้เราถ่ายรูปสวย ๆ

นี่คือบางส่วนของหมู่เกาะในท้องทะเลพม่าที่ถูกซ่อนเร้นไว้กว่า 200 ปี ธรรมชาติยังคงสด ดิบ และบริสุทธิ์มากทั้งบนบกและใต้ทะเล
การันตีได้ถึงความอลังการของปะการังที่กว้างใหญ่และหลากหลาย แต่เสียดายที่ช่วงผมไปอากาศและคลื่นลมไม่ค่อยเป็นใจให้ผมลง
ไปเอาภาพมาฝากทุกคน บอกได้เลยว่านี่เป็นเพียงแค่ 5% ของความงามที่ผมได้ไปสัมผัส
มาพูดเรื่องแรกกันเลยครับ นั่นคือการเดินทาง การเดินทางมายังจังหวัดระนอง
1. รถทัวร์ มีอยู่ด้วยกันหลายเจ้า หลัก ๆ จะมี สมบัติทัวร์ บขส. นิวมิตร โชคอนันต์ ถ้าจะให้แนะนำควรจองเป็นรถวีไอพีจะสบายที่สุด ค่าโดยสาร ไป-กลับอยู่ที่เที่ยวละ 627 บาท และ ป.1 เที่ยวละ 470 บาท ซึ่งการไประนองในครั้งนี้ผมใช้บริการรถทัวร์ ออกจากสายใต้ใหม่ช่วงค่ำ ๆ ถึงระนองประมาณ 6 โมง สามารถไปท่องทะเลพม่าต่อได้เลย ส่วนขากลับมีรอบหัวค่ำ เวลาประมาณ 2 ทุ่มเป็นต้นไป มาถึงสายใต้ใหม่ช่วงเช้าเช่นกัน วิธีนี้เป็นวิธีที่สบายที่สุดครับ รถทัวร์นั่งสบายเหมือนนอนเอาแรงเพื่อมาเที่ยวในวันรุ่งขึ้น
2. รถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาในการขับประมาณ 7-8 ชั่วโมง วิธีนี้เป็นวิธีที่ผมไม่แนะนำในช่วงนี้ครับ เนื่องจากมีการทำถนนระหว่างทาง เลยทำให้การขับรถไม่ค่อยสะดวก แต่ถ้าถนนสร้างเสร็จแล้วมากันเป็นครอบครัวน่าจะเป็นวิธีที่ดีอีกทางหนึ่งครับ
3. เครื่องบิน ขณะนี้มีเพียงสายการบินนกแอร์เพียงเจ้าเดียวที่ให้บริการในเส้นทางนี้ มีไฟล์ทเดินทาง 2 ไฟล์ทต่อวัน คือรอบเช้ากับหัวค่ำ ถือเป็นการเดินทางที่ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายก็สูงมากเช่นกันครับ
4. สามารถนั่งเครื่องบินมาลงที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเหมารถตู้มาที่จังหวัดระนองได้ ถ้ามากันเป็นกรุ๊ปใหญ่

การเดินทางจากจังหวัดระนองไปยังเกาะลอร์ด เฮฟเว่น
ขึ้นเรือที่ท่าเรือประภาคาร ใช้เอกสารเพียงบัตรประชาชนเพียงใบเดียวก็สามารถออกสู่ทะเลประเทศพม่าได้แล้วครับ ใช้บัตรประชาชนตัวจริงและเอกสารที่ทางเลิฟอันดามันเตรียมไว้ให้ ยื่นให้กับเจ้าหน้าที่ ตม. โดยท่าเรือห่างจากตัวเมืองเพียง 10 นาที ใช้เวลานั่งเรือไปยังเกาะประมาณ 1.30 ชม.
ในเมื่อทราบรายละเอียดคร่าว ๆ แล้วเราไปสัมผัสกับ ลอร์ด เอฟเว่น ราชาแห่งสรรค์ ที่ผมเฝ้าฝันมานานกันเลยดีกว่า

เมื่อประมาณ 6 ปีก่อน เป็นช่วงที่ผมเริ่มทำงานและพอที่จะมีเงินไปเที่ยว ด้วยความที่เป็นคนชอบทะเลมาก Destination ของผมในตอนนั้นคือหมู่เกาะสิมิลันและเกาะตาชัย พอได้ไปครั้งแรกรู้สึกเลยว่าหลงกับทรายสีขาว น้ำทะเลสีคราม ไปทุกปี บางปีไปถึง 2 ครั้ง จนหลัง ๆ ผมรู้สึกว่าอยากหาสถานที่ใหม่ ๆ ไปบ้าง และมีความฝันว่าอยากเป็นคนแรก ๆ ที่ไปสัมผัสกับความงามของท้องทะเลที่บริสุทธิ์ สด ดิบ ยังไม่เคยมีใครได้ไปมาก่อน


มันเหมือนเป็นความภาคภูมิใจของตัวเอง และในวันนี้ความฝันของผมก็ได้เป็นจริงขึ้นมา เมื่อมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับเกาะลอร์ด เฮฟเว่น ราชาแห่งสรวงสรรค์ ที่มีความงามทั้งชายหาด ทิวทัศน์ ธรรมชาติ รวมถึงปะการังใต้ท้องทะเล มันเป็นสิ่งอัศจรรย์มาก


เวลาเดินบนชายหาดทรายจะยวบลงไปมิดเท้า นุ่มละเอียดมาก เหมือนเดินอยู่บนฟองน้ำ ความขาวของทรายเมื่อถูกแสงแดดกระทบแสบตาระดับ 10

อ่าวนี้ผมขอเรียกว่า "อ่าวเฮฟเว่น" ละกันน่ะครับ ชายหาดที่นี่ทำให้ทุกคนที่มาเหมือนเด็กเลยครับ นอนกลิ้งทรายถ่ายรูป วิ่งเล่นกันบนหาดทรายอย่างสนุกสนาน หัวเราะกันแบบลืมแก่ไปเลย


แต่ละคนไม่ได้กลัวความร้อนของแสงแดดที่จะทำให้ผิวนั้นดำเลย ตอนนั่งเรือมาทุกคนพอกครีมกันแดดเต็มที่ แต่พอมาเจอความงามของอ่าวเฮฟเว่น ทุกคนลืมสวยกันไปเลยครับ



น้ำทะเลสีเขียวมรกต ไล่เฉดสีออกไปเรื่อยจนถึงสีฟ้าคราม มองทะเลที่นี่คิดถึงเกาะตาชัยเลยครับ สีของน้ำทะเลใกล้เคียงกันมาก จนมีพี่ท่านหนึ่งถึงกับเอ่ยปากว่านี่มันทวดตาชัยชัด ๆ



ใช่ครับฟังไม่ผิด ทะเลที่นี่คล้ายกันมาก ไม่ว่าในเรื่องของหาด สีของน้ำทะเล เส้นทางเดินชมธรรมชาติข้ามไปยังอีกอ่าวหนึ่ง ถ้าใครคิดถึงเกาะตาชัยผมว่านี่คือคำตอบที่สามารถทดแทนได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่องเลยครับ ความสวยกินกันไม่ลงจริง ๆ


ผมเดินถ่ายรูปกับอ่าวนี้นานมาก มันมีมุมให้เราได้เก็บภาพความงามของทะเลเยอะจริง ๆ ครับ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่ค่อยจะเป็นใจให้เราสักเท่าไร ท้องฟ้ามีเมฆมาก ถ้าได้มาช่วงไฮซีซั่นทะเลและหาดจะสวยกว่านี้อีก 2 เท่า แต่เอาจริง ๆ แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผมประทับใจแล้วครับ




หลังจากถ่ายรูปอยู่ที่อ่าวเฮฟเว่นได้สักพัก ทีมงานของเลิฟอันดามัน ได้ชวนผมไปอีกฝั่งหนึ่งของเกาะ

ทีมงานพาเดินลัดไปยังอีกฝั่งของเกาะ ผ่านป่าที่ยังสมบูรณ์มาก ไม่มีรอยทางเดินของมนุษย์ ยืนยันได้จากเศษใบไม้และกิ่งไม้ที่กองเต็มพื้นเส้นทาง ใช้เวลาเดินไปไม่ถึง 5 นาที ก็พบกับอ่าวครีบฉลาม

เป็นอ่าวเล็ก ๆ ด้านซ้ายมือเป็นหน้าผา ด้านหน้าจะพบกับอ่าวเล็ก ๆ ที่มีหินรูปร่างคล้ายกับครีบฉลามโผล่เหนือน้ำขึ้นมา ซึ่งเป็นที่มาของอ่าวนี้

ด้านขวามือจะเป็นหาดทรายเล็กใต้ต้นไม้ไว้ให้นั่งหลบแดด บริเวณนั้นจะพบกับปูเสฉวนตัวใหญ่มากอยู่บนชายหาดด้วยครับ

สักพักทีมงานของเลิฟอันดามันก็มาเรียกให้ขึ้นเรือเพื่อที่จะได้ไปอีกเกาะหนึ่งครับ ทำไมเวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน...ลาเกาะลอร์ด เฮฟเว่น ด้วยภาพบรรยากาศครับ







เกาะลัฟบาร่าหรือโลโบโร่ ถ้าจะเรียกง่าย ๆ คือเกาะมังกร ซึ่งมีรูปร่างคล้าย ๆ กับมังกรกำลังนอนหลับอยู่ครับ เรือแล่นเข้าไปจอดที่หน้าหาด มองลงไปเห็นทรายเป็นริ้ว ๆ ที่เกิดจากคลื่น น้ำทะเลสวยมากครับ ชายหาดเป็นอ่าวเล็ก ๆ สามารถเล่นน้ำ ถ่ายรูปสวย ๆ ได้เลยครับ


แต่ที่นี่มีจุดเด่นนั่นก็คือมีจุดชมวิวมุมสูง ที่สามารถเดินขึ้นไปได้แบบไม่ยากเย็น บอกเลยครับว่ามีเวลาให้น้อยไปหน่อย เสียดายมากเวลาไม่พอ ดูเวลาก็บ่าย 4 โมงแล้ว ถึงเวลาต้องกลับเข้าฝั่งแล้ว เสียดายจริง ๆ เกาะนี้ต้องมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่แน่นอนครับ




กลับมาถึงท่าเรือประภาคาร ประมาณ 6 โมงนิด ๆ รถตู้ของเลิฟอันดามันมารับ ไปทานอาหารเย็นกันที่ ร้านเคียงเล ด้วยความหิวของผมและคณะสำรวจเลยไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมาด้วย ขอบอกว่าส้มตำปูม้า รสเด็ดมาก และอีกเมนูผมจำไม่ได้จริง ๆ คือไก่ทอด ที่รสชาติไม่ธรรมดา มันกรอบ นุ่ม และหอมมากครับ


ทานอาหารกันสักพักก็แยกย้ายกันเข้าห้องพัก ที่พักของเราในคืนนี้อยู่ในส่วนของร้านเคียงเลเลยครับ



ช่วงเช้าเราไปทานอาหารเช้ากันที่ โรงแรมฟาร์มเฮาส์ ในตัวเมือง จุดเด่นของที่นี่คืออาหารเช้าครับ เป็นอาหารพื้นเมืองของชาวระนอง มีให้เลือกหลากหลายมากครับ ลักษณะเหมือนมาร้านข้าวแกงอาหารใต้ พิเศษตรงที่เราสามารถทานได้ทุกอย่าง เมนูเด็ด ๆ เลยไม่ควรพลาดคือไข่ลวกยำ ขนมจีน และลอดช่อง รับรองว่าอร่อยเด็ดจริง ๆ ครับ


ช่วงสาย ๆ เราไปพายเรือแคนูกันที่คลองบางริ้นครับ การพายก็พายแบบสโลว์ไลฟ์มาก ๆ ครับ พายไปเรื่อย โดยมีเบื้องหลังเป็นภูเขาที่มีไอหมอกพวยพุ่งออกมาหลังจากฝนตกใหม่ ๆ ใช้เวลาในการพายไม่นานครับ ประมาณ 30 นาที

หลังจากนั้นพวกเราก็ไปต่อกันที่บ่อน้ำร้อนพรรั้ง มีด้วยกันหลายบ่อเลยครับ ที่นี่มีไฮไลท์คือน้ำตกจากเทือกเขาไหลผ่านครับ มีทั้งน้ำเย็นและน้ำพุร้อนให้เล่น เสียดายตัวเปียกเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ชมกันเลย
เล่นน้ำกันจนหนำใจถึงเวลากินอีกแล้วครับ เราไปทานมื้อกลางวันกันที่ร้านคุ้นลิ้น ร้านนี้เป็นร้านดังของจังหวัดระนอง และเมนูเด็ดที่ผมกล้ารับประกันคือปลาทูทอดกะปิ แกงส้มไข่ปลาริวกิว และปลาตะลุมพุกลุยสวน เป็นเมนูที่หากินได้ยากมากครับ ถ้าแวะไปที่ร้านสามเมนูนี้ไม่ควรเด็ดขาด


อิ่มกันแล้วถึงเวลาย่อยอาหาร มาระนองยังไม่ได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เลย จุดหมายต่อไปคือวัดบ้านหงาว
ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปดีบุกที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นจุดไฮไลท์ ส่วนด้านนอกคือน้ำตกหงาวที่ไหลมาจากเทือกเขาตกลงสู่ด้านล่าง ยืนมองจากอุโบสถได้เลยครับ ณ จุดนี้ฟินมากครับ



ไม่ไกลจากวัดบ้านหงาวมีทุ้งหญ้าสองสีไว้ให้ถ่ายรูป ผมว่าคล้าย ๆ เนินเทเลทับบีส์เลยครับ

ช่วงเย็น ๆ แล้วเริ่มง่วงครับ ไปหาอะไรทานกันที่ จ่าจ๊ะ คอฟฟี่ ร้านนี้ขอบอกว่าเจ้าของร้านสวยมากครับ และข้าวคลุกกะปิยังอร่อยด้วยเช่นกัน ที่สำคัญราคาไม่แพงครับ
เสียดายมากครับเวลาของผมหมดแล้ว การมาเยือนระนอง 2 วัน 1 คืน แบบจัดเต็มอิ่มทั้งท้องอิ่มทั้งใจ ได้มีโอกาสมาสัมผัสเกาะราชาสวรรค์เป็นคนแรก ๆ รู้สึกประทับใจมากครับ และรู้เลยว่าเกาะนี้ยังมีอะไรให้ผมต้องกลับไปค้นหาอีกมากมาย มาอีกกี่ครั้งก็ไม่ซ้ำ เอาแล้วสิ ! จังหวัดระนองได้กลายมาเป็น Destination ของผม ที่ผมต้องปักหมุดมาได้ไม่เบื่อแน่นอน ครั้งหน้าผมจะให้เวลามากกว่านี้รู้สึกว่าผมยังไปไม่ทั่วเลยครับ แล้วผมจะกลับมารีวิวแบบจัดเต็มให้เพื่อน ๆ ที่ชอบในการท่องเที่ยวได้ดูกันครับ

ยังครับ ยังไม่จบ ในเมื่อดูภาพบนบกกันจนหนำใจแล้ว ผมมีภาพบางส่วนของโลกใต้น้ำที่นี่ บอกได้เลยว่าอภิมหึมาปะการังแน่นอนครับ เสียดายอีกครั้งที่กระแสน้ำไม่ค่อยเป็นใจให้ผมลงไปถ่ายรูปมาสักเท่าไร และจุดที่ผมดำยังไม่ได้แลนด์มาร์กของการดำ ผมรับปากครับว่ารีวิวหน้าผมจะเก็บบรรยากาศโลกใต้น้ำมาให้ชมแบบเต็มอิ่มไปเลย






ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาชมครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Mr Napat สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม