ที่เที่ยวหน้าหนาว 2568 อากาศเย็นสบายกำลังดี เหมาะกับการออกเดินทางสัมผัสหมอกยามเช้าและวิวสวยทั่วไทย ไม่ว่าจะขึ้นเหนือ ชมทะเลหมอก หรือไปใต้รับลมทะเล
ลมหนาวปลายปีเริ่มพัดมาอีกครั้ง ชวนให้อยากออกเดินทางไปสัมผัสอากาศเย็น ทะเลหมอก และบรรยากาศสุดโรแมนติกที่มีเพียงฤดูกาลนี้เท่านั้นจะมอบให้ หน้าหนาว 2568 นี้ เตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อม แล้วออกไปค้นหาความสวยงามของธรรมชาติ วิวหลักล้าน และเสน่ห์ของเมืองไทยในมุมที่คุณอาจยังไม่เคยเห็นกันเถอะ ว่าแต่จะมีที่เที่ยวหน้าหนาว 2568 ที่ไหนน่าสนใจและอยากแนะนำบ้างนั้น รวมรวมลิสต์ไว้ให้แล้ว
1. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
ดอยอินทนนท์ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศหนาวจัด โดยเฉพาะบนยอดดอยที่อุณหภูมิอาจลดลงจนเกิดเหมยขาบ (น้ำค้างแข็ง) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมความงามของธรรมชาติยามเช้าตรู่ และไม่ควรพลาดการเดินศึกษาธรรมชาติที่ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ที่มักจะเปิดให้เข้าชมในช่วงนี้ หรือจะสักการะ พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ซึ่งมีสวนดอกไม้เมืองหนาวที่บานสะพรั่งรอบบริเวณ พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาจากจุดสูงสุดของประเทศ ก็ประทับใจไม่แพ้กัน
2. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่
หนึ่งในจุดหมายยอดฮิตของนักท่องเที่ยวในช่วงหน้าหนาว ที่อยากสัมผัสทะเลหมอกและอากาศเย็นแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ไฮไลต์อยู่ที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม ซึ่งสามารถมองเห็นทะเลหมอกขาวโอบล้อมเทือกเขาและยอดดอยเชียงดาวได้อย่างสวยงามในยามเช้า ส่วนตอนกลางวันก็เหมาะแก่การเดินชมสวนไม้ดอกเมืองหนาว หรือนั่งจิบกาแฟชมวิวในโซนกางเต็นท์ที่มองเห็นวิวภูเขาสุดอลังการ ใครที่อยากหนีความวุ่นวาย มาสูดอากาศบริสุทธิ์และเก็บภาพความประทับใจของฤดูหนาวเหนือ แนะนำให้ปักหมุดห้วยน้ำดังไว้ในลิสต์ทริปปีนี้ได้เลย
3. ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย
อยากสัมผัสเสน่ห์ของขุนเขาและวัฒนธรรมจีนยูนนานท่ามกลางอากาศเย็นสบาย แนะนำให้มาเที่ยวดอยแม่สลอง ฟินกับทะเลหมอกยามเช้าที่โอบล้อมหมู่บ้านสันติคีรี ชมไร่ชาที่ปลูกเรียงลดหลั่นตามไหล่เขา และลิ้มรสชาอู่หลงรสละมุนชื่อดังของดอยแม่สลอง พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองสไตล์จีนยูนนานแท้ ๆ เช่น ขาหมูหมั่นโถว และเกี๊ยวน้ำ นอกจากนี้ยังมีที่พักบรรยากาศสงบพร้อมวิวภูเขาสุดโรแมนติก เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและหมอกหนาวในฤดูกาลที่สวยที่สุดของปี
4. อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง
ชวนเที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนช่วงหน้าหนาว เติมฟีลกับไฮไลต์บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ไอร้อนที่ลอยขึ้นกระทบกับอากาศเย็นในช่วงเช้าตรู่ จะก่อให้เกิดภาพหมอกขาวนวลปกคลุมทั่วบริเวณ ต้มไข่ออนเซ็น ท่ามกลางธรรมชาติ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกผ่อนคลายด้วยการอาบน้ำแร่ เพื่อสุขภาพในห้องอาบน้ำส่วนตัวหรือบ่อรวม หรือจะเดินเล่นตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ไปยังน้ำตกแจ้ซ้อน ที่มีน้ำใสไหลเย็นตลอดปี ท่ามกลางป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้แจ้ซ้อนเป็นแหล่งพักผ่อนที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความสดชื่น ผ่อนคลาย และหลีกหนีความวุ่นวายในช่วงฤดูหนาว
5. แพะเมืองผี จังหวัดแพร่
ที่เที่ยวธรรมชาติชวนอันซีน บอกเลยว่าหน้าหนาวนี่แหละ ช่วยให้การเดินสำรวจพื้นที่เป็นไปอย่างเพลิดเพลินยิ่งขึ้น ตื่นตาตื่นใจกับความมหัศจรรย์ของเสาดินทรายรูปร่างแปลกตา ที่ถูกกัดเซาะโดยธรรมชาติมานานนับล้านปี จนเกิดเป็นแท่งและรูปร่างคล้ายสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ตามจินตนาการ ซึ่งเป็นฉากหลังที่ยิ่งใหญ่สำหรับการถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ให้เดินชมความงามของป่าที่รายรอบ และขึ้นไปชมทัศนียภาพอันกว้างไกลของบริเวณแพะเมืองผีได้จาก จุดชมวิวผาผ่อแล ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่น่าค้นหา และควรค่าแก่การมาเยือนในช่วงที่อากาศดีที่สุดของปี
6. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
สำหรับช่วงหน้าหนาวปี 2568 ปางอุ๋ง ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกที่ได้รับฉายาว่า "สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย" ซึ่งเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับอากาศหนาวเย็นจัดจนอุณหภูมิอาจลดลงต่ำมาก โดยมีไฮไลท์คือภาพอันงดงามของไอหมอกที่ลอยเหนือผิวน้ำในอ่างเก็บน้ำยามเช้าตรู่ตัดกับทิวสนสวยงามที่เรียงรายอยู่รอบ ๆ ซึ่งกิจกรรมยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดคือการล่องแพไม้ไผ่เพื่อชมบรรยากาศในยามเช้า และการกางเต็นท์นอนรับลมหนาว ชมดาวในยามค่ำคืน ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง (*** ปางอุ๋งเปิดให้ท่องเที่ยวพักแรมในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 30 เมษายน โดยจะ ปิดรับการท่องเที่ยวและพักแรมเป็นประจำทุกปี)
7. อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
อำเภอหล่มสัก ในช่วงหน้าหนาวปี 2568 เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศเย็นสบายโดยเฉพาะการเดินทางต่อไปยังสถานที่ยอดนิยมอย่างภูทับเบิกและเขาค้อที่อยู่ไม่ไกล แต่ตัวอำเภอหล่มสักเองก็มีเสน่ห์ที่ไม่ควรพลาดคือการเดินเล่นที่ถนนคนเดินไทหล่ม สัมผัสกับวิถีชีวิตดั้งเดิม ชิมอาหารพื้นเมืองที่หลากหลาย และชมการแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นในบรรยากาศหนาวเย็นยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปชมน้ำตกธารทิพย์ ซึ่งมีน้ำใสไหลเย็นตลอดช่วงฤดูหนาว หรือสายถ่ายภาพและชมวิว สามารถขับรถไปตามเส้นทางหล่มสัก-น้ำหนาว เพื่อแวะชมภูผาแดง ซึ่งเป็นจุดชมวิวอีนซีนริมทาง ก็เป็นอีกประสบการณ์ท่องเที่ยวหน้าหนาวน่าจดจำของอำเภอแห่งนี้
- ที่อยู่ : อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
8. ภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเพชรบูณ์
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สวรรค์ของนักเดินทางสายลมหนาวและคนรักธรรมชาติ ในช่วงหน้าหนาวแบบนี้มีไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้คือการไปชมทะเลหมอกยามเช้าตรู่พร้อมกับพระอาทิตย์ขึ้นที่ ผาชูธง และการเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง ลานหินปุ่ม และลานหินแตก ที่ธรรมชาติสรรค์สร้างอย่างน่าอัศจรรย์ นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีถึงต้นปีจะมีการออกดอกบานสะพรั่งของ ทุ่งดอกกระดาษ สีสันสดใส และชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโล (แม้ว่าภูลมโลจะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า แต่ตั้งอยู่ฝั่งจังหวัดเลยและพิษณุโลก) เหล่านี้ทำให้ภูหินร่องกล้าเป็นจุดหมายปลายทางที่มอบประสบการณ์ความหนาวเย็น ประวัติศาสตร์ และความงามของดอกไม้ป่าที่ไม่เหมือนใคร
9. อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
อำเภอสังขละบุรี ในช่วงหน้าหนาวถือเป็นจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมเสน่ห์ เพราะอากาศจะเย็นสบายกำลังดี ตื่นเช้าไปสัมผัสทะเลหมอกเหนือแม่น้ำบนสะพานอุตตมานุสรณ์ และร่วมตักบาตรยามเช้า กับพระสงฆ์และชาวบ้านในชุดมอญพื้นเมือง พร้อมชมวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวไทยและชาวมอญสองฝั่งแม่น้ำซองกาเลีย นอกจากนี้ ยังสามารถล่องเรือชมวัดใต้น้ำ (วัดวังก์วิเวการามเดิม) ซึ่งจะโผล่พ้นน้ำให้เห็นได้ชัดเจนในช่วงฤดูแล้ง/หน้าหนาว และเดินทางต่อไปยังเจดีย์พุทธคยาจำลอง เพื่อความเป็นสิริมงคล ถือเป็นทริปที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสอากาศหนาว ชมวิวธรรมชาติที่งดงาม และซึมซับวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของดินแดนสามวัฒนธรรม
- ที่อยู่ : อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
10. เขาแผงม้า จังหวัดกาญจนบุรี
ตั้งอยู่ในอำเภอวังน้ำเขียว ด้ยความที่ตั้งอยู่บนที่สูง ทำให้ช่วงฤดูหนาวอากาศจะเย็นสบายถึงหนาวจัด พลาดไม่ได้กับการตื่นเช้ามาชมทะเลหมอก ที่ปกคลุมทิวเขายามเช้า สามารถชมวิวได้จากจุดกางเต็นท์ของจุดสกัดเขาสูง หรือที่พักสไตล์รีสอร์ตโดยรอบ ที่สำคัญเป็นแหล่งชมฝูงกระทิงป่า ฝูงใหญ่ที่มักออกมาหากินในทุ่งหญ้าโล่งในช่วงเย็นถึงค่ำได้อย่างใกล้ชิดในระยะที่ปลอดภัยภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ ดังนั้น เขาแผงม้าจึงมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ผสมผสานความฟินของการนอนกางเต็นท์รับลมหนาว การชมวิวทะเลหมอกสวยงาม และการชมสัตว์ป่าหายากไว้ในทริปเดียว
11. เกาะกูด จังหวัดตราด
เกาะกูด สวรรค์แห่งทะเลตะวันออก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น ที่น้ำทะเลจะใสราวกับกระจก มีสีฟ้าครามงดงาม หาดทรายขาวละเอียดบริสุทธิ์ และคลื่นลมสงบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อน พลาดไม่ได้กับการเที่ยวชมชายหาดต่าง ๆ เช่น หาดคลองเจ้า และ อ่าวบางเบ้า เพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินอันโรแมนติก รวมถึงกิจกรรมทางน้ำอย่างดำน้ำชมปะการังที่หมู่เกาะรัง นอกจากนี้ ธรรมชาติบนเกาะก็ยังคงความเขียวขจีและสมบูรณ์ ทำให้น้ำตกกลางเกาะ เช่น น้ำตกคลองเจ้า และน้ำตกคลองยายกี๋ มีน้ำไหลให้ลงเล่นได้อย่างชื่นใจ ทำให้เกาะกูดเป็นจุดหมายปลายทางที่รวมความงามของทะเล ป่าเขา และความสงบไว้ได้อย่างลงตัวในช่วงฤดูหนาว
12. ภูหลวง จังหวัดเลย
ด้วยเพราะพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงเป็นที่ราบสูงและมีอากาศหนาวเย็นจัดตลอดฤดู โดยเฉพาะในช่วงเช้ามืดอุณหภูมิสามารถลดลงใกล้จุดเยือกแข็งได้เกือบทุกปี ทำให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามคือการเปลี่ยนสีของใบเมเปิล (ก่วมแดง) ให้เป็นสีแดงสดใสทั่วผืนป่าสนและทุ่งหญ้าบริเวณโคกนกกระบา ซึ่งเป็นภาพที่หาชมได้ยาก การไปเที่ยวภูหลวงจึงไม่ใช่แค่การเยี่ยมชมสถานที่ แต่เป็นการเข้าไปสัมผัสบรรยากาศอันบริสุทธิ์ของ "มรกตแห่งอีสาน" แนะนำว่านักศึกษาธรรมชาติโปรดปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และไม่อนุญาตให้นำ “รถจักรยาน” เข้าศึกษาธรรมชาติ (*** เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง เปิดให้เข้าศึกษาธรรมชาติ ในระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 - 30 เมษายน 2569)
13. เขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
อีกหนึ่งจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับอากาศเย็นสบายริมทะเลและธรรมชาติ มีไฮไลท์คือการผจญภัยในมิติแสงและเงาที่ถ้ำพระยานคร ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีปล่องให้แสงอาทิตย์สาดส่องลงมากระทบกับพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ (แนะนำช่วงเวลา 10.30-12.30 น.) ซึ่งต้องเดินเท้าปีนป่ายขึ้น-ลงเขาแดงและหาดแหลมศาลาเพื่อเข้าชม หรือสำหรับสายชิล สามารถเลือกล่องเรือชมทิวทัศน์คลองเขาแดง ชมทัศนียภาพของเทือกเขาหินปูน หรือจะเยือนบึงบัว (ศูนย์ศึกษาธรรมชาติ) เพื่อเดินบนสะพานไม้ชมดอกบัวและภูเขาสลับซับซ้อน หรือจะเลือกเดินขึ้นจุดชมวิวเขาแดง เพื่อชมวิวทะเล นากุ้ง และภูเขาสามร้อยยอดแบบพาโนราม่าท่ามกลางลมหนาวที่พัดผ่านอย่างสดชื่น
14. ภูเขาหญ้า จังหวัดระนอง
หน้าหนาวปีนี้ ที่อยากสัมผัสความงามของธรรมชาติแบบเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ไม่ซ้ำใคร ควรมาเช็กอินที่ภูเขาหญ้า โดดเด่นด้วยภูเขาลูกน้อยใหญ่ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าสีทองอร่ามในฤดูหนาว มองดูคล้ายทุ่งสะวันนาในต่างประเทศ เหมาะสำหรับการเดินเล่น ถ่ายภาพ หรือปิกนิกชมวิวในช่วงอากาศเย็นสบาย ยามเย็นยังสามารถชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางแสงสีทองที่ส่องกระทบเนินหญ้าได้อย่างงดงาม บรรยากาศสงบและลมหนาวพัดเบา ๆ ทำให้ภูเขาหญ้าเป็นอีกมุมพักผ่อนที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของธรรมชาติในฤดูหนาวภาคใต้
- ที่อยู่ : ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
15. หาดเขาหลัก จังหวัดพังงา
หนาวนี้ใครอยากเที่ยวทะเล แนะนำที่หาดเขาหลัก เพราะในช่วงเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ พื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น อากาศจะดีเป็นพิเศษ ท้องฟ้าสดใส น้ำทะเลสีคราม ไม่มีมรสุม ทำให้เป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับการทำกิจกรรมทางน้ำและการพักผ่อน โดยเฉพาะหาดเขาหลักที่มีบรรยากาศเงียบสงบไม่พลุกพล่าน ชายหาดทรายขาวละเอียดตัดกับโขดหินและต้นสนร่มรื่น และยังสามารถเดินทางไปดำน้ำที่หมู่เกาะสิมิลันและหมู่เกาะสุรินทร์ ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะช่วงนี้เท่านั้น ทำให้การมาเที่ยวเขาหลักในหน้าหนาวจึงเป็นการผสมผสานระหว่างการพักผ่อนริมหาดที่ผ่อนคลายและการผจญภัยในโลกใต้ทะเลที่สวยงามที่สุด
หน้าหนาว 2568 นี้ อย่าปล่อยให้ความเย็นผ่านไปเฉย ๆ ชวนคนรู้ใจหรือครอบครัวออกเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติ วิวสวย และอากาศดีทั่วไทย เติมพลังใจให้เต็มก่อนเริ่มปีใหม่กันเถอะ ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยวหน้าหนาว ที่เที่ยวธรรมชาติ อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง