หนึ่งไฮไลท์ในช่วงสิ้นปี อันเป็นเวลาของการเฉลิมฉลองการเข้าสู่ปีใหม่ เทศกาลแห่งความสุขและความสนุกสนาน หลายคนที่ไม่ได้ไปต่างจังหวัดต่างก็หาสถานที่เดินเล่นดูไฟชิล ๆ ซึ่งกรุงเทพฯ มีจุดแสดงซุ้มไฟให้ชมอยู่หลายจุด เช่น ถนนราชดำเนิน ที่มีการจุดซุ้มไฟประดับเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม รอบถนนราชดำเนิน หรือจะเป็นที่บริเวณลานคนเมือง แต่จะดูไฟให้สวยก็ต้องดูตอนกลางคืนจริงไหม ? อ๊ะ ๆ แต่ช่วงกลางวันรอบ ๆ บริเวณดังกล่าวก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน วันนี้เราเลยอยากแนะนำที่เที่ยวรอบ ๆ ลานคนเมืองและทั่วถนนราชดำเนิน เผื่อใครอยากที่จะมาเดินเล่นชิล ๆ ก่อนตั้งแต่เช้าก็ไม่ว่ากัน
เข้าวัดสร้างกุศลให้กับชีวิต
ชาวพุทธอย่างเรา บวกกับเป็นช่วงสิ้นปีแบบนี้ การเข้าวัด ทำบุญ ดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมที่ทุกคนต่างน้อมนำมาปฏิบัติ เพื่อนำความสิริมงคลมาสู่ชีวิต และเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดี แถมยังได้ดูสถาปัตยกรรมสวย ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดวาอารามบริเวณถนนราชดำเนินและใกล้เคียง แต่ละแห่งล้วนมีสง่างาม และมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็น...
"วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร" ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและรู้จักดีของนักท่องเที่ยว อีกทั้งตั้งอยู่บริเวณเดียวกับ "เสาชิงช้า" ที่เปรียบเสมือนจุดแลนด์มาร์กของกรุงเทพฯ ในแต่ละวันเราจึงเห็นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด และแวะถ่ายรูปเสาชิงช้าสีแดงที่ตั้งตั้งตระหง่านอยู่ทางด้านหน้าของวัด
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะในบริเวณเดียวกันยังมี "ศาลเจ้าพ่อเสือ" ที่ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาต้องแวะเข้ามากราบไหว้บูชา ซึ่งศาลเจ้าพ่อเสือขึ้นชื่อในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ บันดาลโชคลาภ หลายคนเดินทางมาที่ศาลเจ้าพ่อเสือด้วยวัตถุประสงค์แตกต่างกัน ทั้งขอพร สะเดาะเคราะห์ และเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัว และเป็นเรื่องน่าแปลกที่หลายคนบอกว่าปัญหาขุ่นข้องหมองใจเหล่านั้นกลับคลี่คลายและลดลงไปอย่างไม่น่าเชื่อ
ถัดเข้ามาในเส้นบริเวณถนนบพิตรริมคลองมหานาค เป็นที่ตั้งของพระอารามนามว่า "วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร" นอกจากการเดินทางเพื่อไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดแล้ว นักท่องเที่ยวยังนิยมเดินทางขึ้นไปยังพระบรมบรรพต (ภูเขาทอง) เพื่อชื่นชมทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ในมุมมอง 360 องศา เมื่อกวาดสายตามองไปข้างหน้า เราจะเห็นตึกสูงระฟ้าตั้งตระหง่านที่สอดแซมด้วยบ้านเรือนชุมนหลังเล็กหลังน้อยอยู่เต็มไปหมด
พลาดไม่ได้กับวัดคู่บ้านคู่เมือง "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" หรือ "วัดพระแก้ว" บริเวณถนนหน้าพระลาน ความสวยงามของวัดแห่งนี้เป็นที่เลื่องลือจนติดอันดับโลก เสร็จจากการแวะสักการะพระแก้วมรกต ต่อด้วยการเยี่ยมชมความงดงามบรรดาปราสาทพระที่นั่งที่อยู่รายล้อมบริเวณวัดพระแก้ว ซึ่งมีความงดงามตระการตาไม่แพ้กัน การที่เราเสียสละเวลาตื่นเช้ากว่าทุกวันเพื่อมาทำบุญสร้างกุศลให้กับชีวิต ก็เป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
เดิน ๆ กิน ๆ ย่านสามแพร่ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สามแพร่ง facestreet
ย่านสามแพร่งในที่นี่หมายถึง "แพร่งสรรพศาสตร์" ... "แพร่งนรา" และ "แพร่งภูธร" หรือพื้นที่บริเวณศาลเจ้าพ่อเสือกับกระทรงมหาดไทยนั่นเอง เป็นย่านที่อยู่ของชุมชนเก่าแก่ ที่ยังคงรักษารูปแบบของตึกในสไตล์ชิโนโปรตุกีส น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าบรรดาคนที่ชอบถ่ายรูป เพราะมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ มากมาย ตลอดเส้นทางเดินของสามแพร่งมีร้านค้าเรียงราย
เริ่มต้นที่ "แพร่งภูธร" ถือเป็นแพร่งที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด เพราะไม่ว่าจะเดินไปในซอกมุมไหนก็มีร้านอาหารชื่อดังอยู่รายลอมมากมาย รับรองว่าอิ่มอร่อยถูกใจไปตลอดทาง
"แพร่งนรา" แพร่งนี้เรื่องอาหารการกินก็ไม่เป็นสองรองใคร แถมยังมีพื้นที่ให้เดินเล่นชมบรรยากาศและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม รวมถึงวิถีชุมชุมอีกด้วย
สุดท้าย "แพร่งสรรพศาสตร์" แหล่งสถาปัตยกรรมประวัติศาสตร์ที่ในอดีตเคยถูกไฟไห้สองครั้งสองคราว คงเหลือไว้เพียงซุ้มประตูวังเก่าที่ตั้งเด่นไง้ดูต่างหน้า อ๊ะ ๆ แต่ถ้าเดินจนท้องเริ่มร้องแล้วก็ไปหาที่เติมพลังได้ที่ "รวมเด็ดรสอร่อย 16 ร้านดังย่านเสาชิงช้า"
เที่ยวเพลินเดินชมพิพิธภัณฑ์
ช่วงบ่าย ๆ ระหว่างรอเวลาดูไฟประดับยามค่ำคืน เราอยากให้คุณมีโอกาสเข้าไปสัมผัสเรื่องราวของศิลปะกันบ้าง เพราะโดยรอบบริเวณถนนราชดำเนินและใกล้เคียง มีพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์มากมายที่เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชม เช่น
"มิวเซียมสยาม" แถวถนนสนามไชย บริเวณท่าเตียน เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งใหม่ที่ได้รับความสนใจทั้งผู้ใหญ่และเยาวชน ที่ที่คุณจะได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของชาติไทยผ่านสื่อการนำเสนอใหม่ ซึ่งกระตุ้นต่อมชวนคิด ชวนให้ค้นหาคำตอบ เสมือนเป็นห้องเรียนประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตนอกเหนือจากตำราหนังสือ
เลาะเข้าถนนพระพระอาทิตย์ ที่นี่พิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจอยู่แห่งหนึ่ง "พิพิธบางลำพู" เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ไว้ใช้จัดแสดงความสำคัญของคูเมือง ประตูเมือง วิถีชุมชนในพื้นที่บางลำพูตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการนำเสนอข้อมูลอย่างน่าสนใจ
แวะเติมพลังหาของอร่อยรองท้อง
หลังเดินชมพิพิธภัณฑ์อย่างชุ่มฉ่ำปอดแล้ว ถึงเวลาที่ต้องหาของอร่อยเสิร์ฟตรงเข้ากระเพาะบ้าง เส้นถนนมหาราชมีจุดนัดพบแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
"ท่ามหาราช" ช้อปปิ้งมอลล์ที่กำลังได้รับความนิยมจากคนกรุงเทพฯ เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารและมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้คนกรุงมาสัมผัสบรรยากาศดี ๆ เพื่อเติมความสดชื่นให้กับชีวิต และยังไม่ลืมผสมผสานกลิ่นอายสมัยใหม่ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน
หรือถ้าใครอยากสัมผัสกับบรรยากาศร้านอร่อยร้านดัง และสำคัญที่ราคาไม่แพง เดินเลยท่ามหาราชมาไม่ไกล คุณก็จะได้แวะทานของอร่อย ๆ ที่ "ท่าพระจันทร์" ที่มีอาหารครบครันทั้งของคาวและของหวาน หรือจะลัดเลาะเข้าตามตรอกซอกซอยเล็ก ๆ ก็อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารหลากหลายประเภท ทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวเจ้าเด็ด ข้าวราดแกง หรือจะเป็นร้านรถเข็นข้างทาง มีทั้งลูกชิ้นปิ้ง ปลาหมึกย่าง หมูย่าง บาร์บีคิว ที่เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มรสเด็ด อร่อยสะเด็ดอย่าบอกใคร (ดูเพิ่มเติมได้ที่ เลาะเลียบริมเจ้าพระยา ชิมของอร่อยท่าพระจันทร์-ท่าช้าง)
ถนนข้าวสาร ตามรอยสวรรค์ของนักเที่ยว
อ๊ะ ๆ แต่ถ้าใครยังไม่อิ่มหนำกับแสงสีจากบรรดาซุ้มไฟยามค่ำบริเวณถนนราชดำเนินแล้วละก็ เราขอแนะนำให้คุณมาเดินทอดน่องชิลกันต่อที่ถนนข้าวสาร ที่นี่เต็มไปด้วยความสนุกทุกรูปแบบ ทั้งอาหารการกิน ร้านค้า และสถานบันเทิง ที่จะทำให้ราตรีของคุณในค่ำคืนนั้นเต็มไปด้วยความสุขและความสนุกสนาน ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่เรียกว่าไม่เคยหลับใหล มีสารพัดสิ่งที่ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจ ใครเดินดูไฟจนเหนื่อย และอยากที่จะนึกสนุกแบบเบา ๆ เน้นพูดคุยกับเพื่อนฝูงพร้อมฟังเพลงจังหวะสบาย ๆ ต้องลองแวะมาที่ถนนข้าวสารกันดูค่ะ
ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นไอเดียที่เพื่อน ๆ นำไปใช้ได้ก่อนแวะชมไฟที่บริเวณลานคนเมือง-ถนนราชดำเนิน เพื่อให้คุ้มค่าวันหยุดพักผ่อน ทั้งยังได้รับสาระ ความบันเทิง และเรื่องราวดี ๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วย ถือเป็นการเติมเต็มความสุขให้กับชีวิต ถ้าพร้อมแล้วไม่รอช้า หาวันว่างสักหนึ่งวันแล้วออกไปตะลุยกรุงเทพฯ ด้วยกันเลยดีกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
, เฟซบุ๊ก วัดสุทัศนเทพวราราม (Wat Suthattepwararam), เฟซบุ๊ก วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, เฟซบุ๊ก Museum Siam, เฟซบุ๊ก พิพิธบางลำพู และ เฟซบุ๊ก Tha Maharaj