
นอกจาก "ภูชี้ฟ้า" แล้วจังหวัดเชียงรายยังมีขุนเขาอีกมากมายให้ได้ไปพิชิตและผจญภัย หลายครั้งที่เรามักจะไปแออัดยัดเยียดกันอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต จนลืมคิดกันไปเลยว่าความงดงามของธรรมชาติไม่ได้มีเพียงแค่นั้น "ดอยมด" หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ภายในหมู่บ้านห้วยน้ำกืน ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวเปิดใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้จัก แต่มีความสวยงามไม่แพ้กับยอดดอยอื่น ๆ ในจังหวัดเชียงราย การันตีความงดงามจากรีวิวของเว็บไซต์เชียงรายโฟกัส ที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่เส้นทางยอดดอยมดที่สูงสง่าเสียดฟ้าเท่านั้น แต่นักท่องเที่ยวยังสามารถไปนอนพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบกับโฮมสเตย์คุณภาพดีเยี่ยมภายในหมู่บ้านห้วยน้ำกืนได้อีกด้วย การเดินทางสู่ดอยมดจะเป็นเช่นไร ที่นี่จะสวยงามดั่งคำร่ำลือจริงหรือไม่...ไปติดตามกันได้เลยค่ะ
















ดอยมด อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนแจ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ทริปนี้ผมเดินทางไปวันที่ 4-5 ธันวาคม 2558 ดอยมดอยู่ในบริเวณพื้นที่หมู่บ้านห้วยน้ำกืน อำเภอแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า กดไมล์หน้าปัดรถวัดระยะทางจากห้าแยกพ่อขุนฯ-หมู่บ้านห้วยน้ำกืน 145 กิโลเมตร พอดี
ข้อมูลทั่วไป : หมู่บ้านห้วยน้ำกืน เป็นหมู่บ้านในโครงการหมู่บ้านสะอาดที่น่าอยู่มาก ๆ มีบ้าน 170 กว่าหลังคาเรือน ประชากรในหมู่บ้าน 300 กว่าคน เป็นคนเมืองทั้งหมด ดังนั้นการใช้ภาษาในการสื่อสารกับชาวบ้านจึงไม่เป็นปัญหา ทุกคนมีอัธยาศัยไมตรี ทักทาย ยิ้มแย้ม ตลอดเวลาที่เดินผ่าน แม้กระทั่งขับรถสวนทางกันยังจอดทักทาย ยังเป็นธรรมชาติหมู่บ้านชนบทที่แท้จริง ลักษณะเหมือนหมู่บ้านในนิทาน เป็นหมู่บ้านเชิงนิเวศที่อยู่กลางหุบเขา อากาศหนาวตลอดทั้งปี เป็นแหล่งต้นน้ำ มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี อาชีพของชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกชา ปลูกพืชผลโครงการหลวง
ภายในหมู่บ้านมีโฮมสเตย์ให้บริการประมาณ 7-8 หลัง รับรองมาตรฐานโดยการท่องเที่ยว ใครสนใจไปเที่ยวไม่อยากเดินขึ้นยอดดอยก็พาครอบครัวไปสัมผัสเดินเที่ยวดูกิจกรรมของชาวบ้าน พักที่โฮมสเตย์ได้ครับ
ข้อมูลโฮมสเตย์
thairoyalprojecttour.com
"ดอยหมด" ฟังแล้วชื่อนี้ไม่อยากไป เหมือนว่าเป็นดอยหรือภูเขาหัวโล้น จึงเรียกชื่อผันกันมาเป็น "ดอยมด" ซึ่งทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอเวียงป่าเป้า ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติขุนแจ เป็นเป้าหมายใหม่ของนักเดินทางนักท่องเที่ยว นักเดินป่า ที่ต้องการเสาะแสวงหาแหล่งท่องเที่ยวประเภทกิจกรรมเดินป่า การพิชิตยอดเขา หรือการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ด้วยความหนาแน่นของป่าดิบชื้นระหว่างทางเดินขึ้นสู่ยอดดอยมด ทำให้เกิดสังคมพืชหลากหลายชนิดปกคลุมแอ่งน้ำใสสะอาดเต็มไปด้วยพืชชั้นล่างมากมายรวมทั้งพืชชั้นต่ำ เช่น กล้วยไม้ดิน เฟิร์น มอสส์ และพืชอื่น ๆ ร่มรื่นและชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา บนยอดดอยที่ระดับความสูง 1,700 เมตร รายรอบด้วยสภาพภูมิประเทศแปลกตาและป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่ทางทิศตะวันตก ตัวเมืองเชียงรายทางทิศตะวันออก ยอดดอยลังกาทางทิศใต้ และยอดดอยปางกอมทางทิศเหนือ นอกจากนี้บริเวณใกล้กับดอยมดยังมียอดดอยหลวงและดอยผาช้าง ซึ่งเป็นสันปันน้ำที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายอีกด้วย
การเดินทาง : จากตัวเมืองเชียงราย มุ่งสู่อำเภอเวียงป่าเป้า ผ่านบ่อน้ำพุร้อนแม่ขะจาน ตรงไปทางเชียงใหม่ สังเกตจะเห็นอุทยานแห่งชาติขุนแจอยู่ด้านซ้ายมือ ให้ขับรถไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงทางแยกขวาเข้าหมู่บ้านขุนลาว ทางเส้นนี้แหละให้ขับรถเข้าไปอีก 14 กิโลเมตร จะถึงหมู่บ้านห้วยน้ำกืน (ตรงปากทางจะมีป้ายบอกอยู่ครับ)
สภาพถนนลาดคอนกรีตไปจนถึงหมู่บ้านขุนลาว จากนั้นก็จะเป็นคอนกรีตสลับกับดินแดงเป็นช่วง ๆ แต่ประมาณ 90% ก็ถือว่าถนนยังค่อนข้างดี ถ้าฝนไม่ตกรถกระบะทุกชนิดไปได้หมด ยกเว้นรถเก๋ง อาจจะไม่เหมาะกับเส้นทางนี้ หรือหากท่านใดสนใจเดินทางตามทริปนี้ หากไม่มีรถสามารถแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านมารับหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนแจก็ได้
การขึ้นสู่ยอดดอยมดต้องเดินเท้าขึ้นไปราว ๆ 3-4 ชั่วโมง ระยะทางน่าจะประมาณ 6-8 กิโลเมตร จะให้ดีแนะนำให้ขึ้นนอนชมทะเลหมอกก่อน จะได้พักผ่อนด้วยแล้วเช้าอีกวันค่อยกลับดีกว่า หากเดินกลับวันเดียว คาดว่าจะเพลียซะก่อน
ขอขอบคุณผู้ใหญ่บ้านห้วยน้ำกืน นายเสถียร ชัยนาม และ ลุงหนานคำ ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทางครั้งนี้
ข้อมูลติดต่อการขึ้นไปเที่ยวดอยมด
ผู้ใหญ่บ้านนายเสถียร ชัยนาม โทรศัพท์/ไลน์ 09 2719 9558 ** ติดต่อไม่ได้แสดงว่าไม่มีสัญญาณ
น้องชายพ่อหลวงบ้าน โทรศัพท์ 09 9848 5395
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติขุนแจ นายพิชิต ปิยะโชติ โทรศัพท์ 08 1021 5115

รูปค่อนข้างเยอะนะครับ ผมถ่ายเริ่มจากทางเข้าหมู่บ้าน เริ่มจากอุทยานแห่งชาติขุนแจไปทางดอยสะเก็ดประมาณ 1 กิโลเมตร จะเจอป้ายบ้านซุ้มบ้านขุนลาวอยู่ขวามือ จะมีป้ายเล็ก ๆ บอกระยะทางจากจุดนี้ไปห้วยน้ำกืน 14 กิโลเมตร เดินทางประมาณ 40 นาที
จะต้องผ่านหมู่บ้านขุนลาว ห้วยคุณพระ ปางมะกาด และก็จะถึงบ้านห้วยน้ำกืนหมู่บ้านสุดท้าย ถนนลาดคอนกรีตสลับกับดินแดงเป็นช่วง ๆ



ผมออกจากเชียงรายตอน 09.00 น. ถึงบ้านห้วยน้ำกืนเกือบ ๆ บ่ายโมง และนี่คือบรรยากาศหมู่บ้านสะอาด บ้านห้วยน้ำกืน ใครสนใจไปเที่ยวมีโฮมสเตย์ด้วยนะครับ





เรานัดเจอกับผู้ใหญ่บ้านไว้ที่บ้านของผู้ใหญ่เอง ที่นี่คือศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยวและโฮมสเตย์ ข้างบนกระทู้จะมีเบอร์โทรอยู่หากใครสนใจไปเที่ยว ตัวผู้ใหญ่เองก็อัธยาศัยทักทายต้อนรับดี บ้านก็น่าอยู่ ที่หน้าบ้านมีร้านค้าเล็ก ๆ แวะซื้อขนมเครื่องดื่มจากตรงนี้ก็ได้










เพียงไม่กี่นาทีผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่บ้านให้นำพาพวกเราขึ้นไปบนยอดดอยก็มาถึง ผู้ใหญ่ก็ให้ลูกชายขับรถขึ้นไปส่งพวกเรา ไม่งั้นต้องเดินไปอีก 2 กิโลเมตร เมื่อถึงจุดที่ต้องเดินเท้าขึ้นไป ลงรถสะพายเป้เสร็จไม่รอช้า เดี๋ยวจะถึงที่หมายมืด ไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางเสร็จก็ออกเดินทาง ผมเริ่มจับเวลาดู 13.16 นาที





เดินทางยังไม่ถึง 5 นาที เริ่มบู๊กันแล้ว ต้องแหวกกอหญ้าเดินฝ่าออกไป พกกระทิงแดงไปด้วย ดันเอาไว้ในกระเป่าลืมเอาออกมาอีก ประมาณ 15 นาที เรายืนพักหายใจกันสักครู่




พักไม่ถึง 5 นาที แข่งกับเวลา เริ่มลุยยกสอง ฝ่าดงผักกูดป่า





มาถึงตรงนี้เหงื่อเปียกชุ่มไปทั้งตัว ขาเริ่มอ่อนแรง ถามผู้นำทางเกือบถึงหรือยัง คำตอบคือยังไม่ถึงครึ่งทาง





เดินผ่านป่าหญ้าสูงมาเมื่อสักครู่ก็เริ่มเข้าสู่ป่าไผ่ ช่วงนี้มีต้นไม้ใหญ่มาก เริ่มหมอกลง อากาศเย็น จากเหตุที่มีฝนตกเมื่อคืนวันก่อนเดินทาง





ช่วงนี้เป็นทางเดินขึ้นเขาเรื่อย ๆ ไม่มีลง หน้าขากับน่องเริ่มแข็งเกร็งขึ้นมา ยังดีที่วันนี้ไม่มีแดด อากาศจึงไม่ค่อยร้อนจากแสงแดด ระหว่างทางคนนำทางก็อธิบายเล่าอะไรต่าง ๆ ตามประสาคนเดินป่าให้เราฟังไปเรื่อย ๆ ดอยมดแห่งนี้ยังเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ถ้าโชคดีสามารถพบเห็นสัตว์ป่า เช่น อีเก้ง หมูป่า ไก่ป่า ไก่ฟ้า ที่หากินอยู่ตามเส้นทางที่เราเดินผ่าน






ระหว่างนั้นก็ชื่นชมต้นไม้ วิวภูเขาไป ถ่ายรูปเล่นไปมั่ว ๆ บางครั้งไม่รู้จะถ่ายมาทำไม แต่เมื่อไปแล้วก็อยากเก็บภาพไว้ในความทรงจำ





เดินขึ้นดอยมาตลอดสามชั่วโมง เวลาเกือบสี่โมงเราก็ได้มาถึงเนินสุดท้ายก่อนจะข้ามไปบนยอดดอยมด




จุดไฮไลท์ของดอยมดอยู่นี่แหละครับ ต้องข้ามไปเขาอีกลูกหนึ่ง ที่เขาเรียกว่า "ดอยมด" แต่จริง ๆ มันใหญ่กว่าช้างอีก การข้ามไปต้องปีนลงไปข้างล่างโดยจับราวบันไดนี้ไว้ แล้วก็ปีนขึ้นไปบนยอดอีกครั้ง วันนั้นมีฝนตกด้วยทำให้ลื่นเป็นพิเศษกว่าทุกวัน ตอนปีนลงนี่ไม่เท่าไร...ชิล ๆ แต่ปีนขึ้นแทบยกขาไม่ขึ้น





แล้วหลังจากนั้นช่วงปีนขึ้นภาพก็ขาดหายไป เพราะผมก็เสียวเหมือนกัน ไม่มีมือจับกล้อง...ระยะทางจับราวเหล็กนี้ไปอีกยอดดอยน่าจะประมาณ 200 เมตรได้ เมื่อข้ามไปได้แล้วก็ต้องเดินขึ้นไปสู่ยอดดอยอีกประมาณ 100 เมตร เพื่อจะไปพักกันที่นั่น ดูนาฬิกาแล้วถึงที่หมายห้าโมงเย็นพอดี เราใช้เวลาเดินทางถึงยอดดอยนี้ทั้งหมดเกือบ ๆ 4 ชั่วโมงเต็ม ถึงที่หมายก็เกือบมืด ลมแรง ท้องฟ้ามืดครึ้ม ต้องรีบกางเต็นท์




เหมือนฝนจะรอให้เรากางเต็นท์ ทุกอย่างเสร็จปุ๊บ ก่อกองไฟกำลังเอาห่อข้าวออกมานั่งล้อมวงสนทนากัน ทันใดนั้นน้องฝนก็ไม่รอช้า กระหน่ำลงมาตั้งแต่ค่ำยันเช้าอีกวัน ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งนั่งกินข้าวด้วยกัน ไม่ให้ออกนอกเต็นท์ไปทำธุระอะไรเลย อากาศหนาวอุณหภูมิวัดในเต็นท์ 4 องศา ยังไม่พอ ข้างนอกลมแรง และฝนตกลงมาแบบไม่เกรงใจเลย ก็เลยอดได้ภาพบรรยากาศตอนกลางคืนที่ดอยมด พอตอนเช้าได้ยินเสียงฝนเงียบ เห็นทะเลหมอกเริ่มออกมาให้เห็น หยิบขาตั้งกล้องมาจะออกไปเก็บแสงแรกสักหน่อย ฝนก็ตกลงมาอีก T__T มีบางช่วงที่หยุด คิดในใจต้องรีบวิ่งออกไปถ่าย ไม่งั้นเดิน 4 ชั่วโมง ไม่ได้อะไรกลับมาแน่ ๆ





บรรยากาศยามเช้าบนยอดดอยมดในวันฝนฉ่ำ





หมอกหลังฝน





ไม่ต้องห่วงเรื่องหม้อต้มมาม่า นักท่องเที่ยวท่านไหนไม่รู้เอาขึ้นมาแล้วไม่เอากลับ สิ่งที่ท่านทิ้งไว้เป็นประโยชน์มาก ๆ ต่อคนรุ่นหลัง ขอถ่ายรูปไว้เผื่อเจ้าของมาเห็นบ้าง

เพื่อให้เข้าบรรยากาศ เอามาม่ามาจัดฉากโฆษณาให้เขาหน่อย กินมาม่าที่ไหนไม่อร่อยเท่ากับกินบนดอย


ลุงหนานคำ เนวิเกเตอร์ของทริปนี้ ขอบคุณมาก ๆ ครับ กระเป๋าเป้ของลุงเขาเท่มาก ไม่ต้องซื้อใบเป็นพัน ๆ ก็นำพาให้ถึงจุดหมายได้เหมือนกัน


วันนี้ไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดดอย เนื่องจากบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ในอีกมุมก็ได้เห็นบรรยากาศฟ้าหลังฝนที่ชุ่มฉ่ำบนสันเขา




ธรรมชาติวาดภาพ แต่งเติมสีสันภูเขาให้ ถ้าเป็นช่วงปกติบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยทะเลหมอก





ลานกางเต็นท์กว้าง เลือกทำเลได้ตามสะดวก แต่ทำเลที่ดีที่สุดก็ตรงใต้ต้นสนสองต้นนี่แหละ เพราะเช้ามาพระอาทิตย์จะส่องเข้าหน้าเต็นท์พอดี





เกือบ 9 โมงเช้า ที่เรายืนชมความงดงามของป่าดอยมด เมื่อแสงพระอาทิตย์ส่องลงมาก็ได้เวลาเดินทางกลับ เก็บความทรงจำและความประทับใจดี ๆ ไว้ที่นี่



จากยอดดอยมดสามารถลงได้หลายทาง เชื่อมไปหาหลายหมู่บ้าน แต่เราต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นที่เรามา จึงต้องใช้เส้นทางเดิม





เราต้องมาลงตรงราวเหล็กเส้นทางเดิม สองข้างเป็นเหว บางช่วงทางเดินมีความกว้างไม่ถึง 30 เซนติเมตร





วันที่มาภาพช่วงนี้จะหายไป เพราะฟ้าปิด มาวันนี้ฟ้าโล่งโปร่งใสก็เลยได้เห็นวิวชัดเจน





ช่วงราวเหล็กเรียกกันว่าเนินเสียก้น คนไหนจับไม่ดีก็ลื่นก้นยองพื้น ถ้าเป็นผู้หญิงก็โดนจับก้นนั่นแหละครับ เพราะขึ้นไม่ไหวก็จะต้องมีคนข้างหลังคอยดันก้นให้ ดังนั้นถ้าเป็นผู้หญิงผ่านช่วงนี้ก็ต้องดูให้ดีจะให้ใครอยู่ข้างหลัง





ช่วงสุดท้ายเดินกันจนน้ำลายเหนียวเลยแหละกว่าจะถึง แต่ก็สนุกดีครับ ระหว่างทางเดินก็ได้เห็นหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะพวกมอสส์ เฟิร์น ดอกเอื้อง




ขึ้นมาได้ต้องหยุดพักหายใจกันสักครู่





พักสูดอากาศประมาณ 5 นาที ก็ออกเดินทางกันต่อ





ตอนกลับไม่ค่อยเหนื่อยเหมือนตอนขึ้น แต่ต้องใช้กำลังขายันตอนลงตลอด





เห็นอะไรสองข้างทางก็ถ่ายไปเรื่อยครับ ส่วนมากก็เป็นบรรยากาศการเดินทาง





ช่วงกลับไม่มีรถมารับครับ ลืมนัดแนะไว้ ต้องเดินลงมาหมู่บ้านเอง





เดินลงไปหมู่บ้าน ช่วงนี้เดินกินลม ชมวิวไปเรื่อย ๆ





ช่วงสุดท้ายก่อนถึงหมู่บ้าน





ในที่สุดพวกเราก็เดินทางกลับมาถึงจุดเริ่มต้นที่หมู่บ้านห้วยน้ำกืนได้สำเร็จ ด้วยเวลาราว ๆ 4 ชั่วโมง เหมือนตอนขาขึ้นไป หมดแล้วครับกับทริปการเดินทางขึ้นไปเยี่ยมชมบรรยากาศบนยอดดอยมด แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เปิดตัวเตรียมรอรับการเดินทางขึ้นไปเยือนของนักท่องเที่ยว หากเดินทางเป็นครอบครัวไม่ต้องการเดินป่า ที่นี่ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ที่ได้มาตรฐาน มีกิจกรรมอื่นให้กับนักท่องเที่ยว ติดต่อที่พ่อหลวงบ้านห้วยน้ำกืนได้เลย โทรศัพท์ 09 2719 9558 หากติดต่อไม่ได้ก็ติดต่อเบอร์น้องชายพ่อหลวงบ้าน โทรศัพท์ 09 9848 5395 หรือหัวหน้าอุทยานแห่งชาติขุนแจ โทรศัพท์ 08 1021 5115
************************************************************
ขอบคุณเฮียเอ๋ กลุ่มชมรมจักรยานเวียงป่าเป้า ที่แนะให้ขึ้นไปเยือนบนยอดดอยมด
ขอบคุณพ่อหลวงบ้านห้วยน้ำกืน ที่อำนวยความสะดวกในการเดินทาง
ขอบคุณเนวิเกเตอร์แห่งบ้านห้วยน้ำกืน "ลุงหนานคำ" เป็นอย่างมากที่ให้ข้อมูลตลอดการเดินทาง




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
chiangraifocus.com