ไหว้พระปีใหม่ 2566 รวบรวมวัดเด่นวัดดังทั่วฟ้าเมืองไทย มาเป็นข้อมูลให้คนอยากทำบุญได้ไปไหว้พระทำบุญในช่วงวันหยุดระหว่างปีใหม่ สามารถเที่ยวได้ทั้งครอบครัว
1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) กรุงเทพมหานคร
ความสำคัญ : วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2325 พร้อมกับการสร้างพระบรมมหาราชวัง และกรุงรัตนโกสินทร์ ตามราชประเพณีการสร้างพระอารามในพระราชฐานสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธรูปปางสมาธิทำด้วยมณีสีเขียวสดใสเนื้อเดียวกันทั้งองค์ ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยมาอย่างยาวนาน
ข้อควรรู้ : วัดพระแก้วเป็นพระราชฐาน ควรแต่งกายให้สุภาพ มิดชิด หากแต่งกายไม่เหมาะสมทางสำนักพระราชวังได้จัดเตรียมเสื้อผ้าให้ยืมฟรี แต่ต้องวางเงินประกันชิ้นละ 100 บาท พร้อมบัตรประชาชนและต้องนำมาคืนก่อนจะออกจากวัด
ที่ตั้ง : ถนนหน้าพระลาน เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น.
ค่าธรรมเนียม : คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติคนละ 200 บาท
2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ความสำคัญ : เป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่ก่อนการสร้างกรุงศรีอยุธยา ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่มีอายุมากที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีหน้าตักกว้างประมาณ 20.17 เมตร และสูงประมาณ 19 เมตร ในปี พ.ศ. 2397 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบูรณะใหม่ทั้งองค์ และถวายพระนามว่า "พระพุทธไตรรัตนนายก" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อโต" หรือ "หลวงพ่อพนัญเชิง"
ที่ตั้ง : หมู่ 2 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-18.00 น.
3. วัดใหญ่ชัยมงคล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ความสำคัญ : สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 1900 เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทำยุทธหัตถีได้ชัยชนะพระมหาอุปราชาแห่งพม่า ได้ทรงมีพระราชศรัทธาบูรณปฏิสังขรณ์วัดใหญ่ขึ้นเป็นงานใหญ่ พร้อมทั้งได้ทรงสร้างพระเจดีย์ชัยมงคลเป็นเครื่องเฉลิมพระเกียรติอีกด้วย ซึ่งเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ที่เราเห็นกันในปัจจุบัน
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-17.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3524 2640
4. วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง
ความสำคัญ : วัดม่วง เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกนามว่า "พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อใหญ่" โดยพระพุทธรูปมีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 62 เมตร และสูงประมาณ 93 เมตร นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ พระอุโบสถที่มีกำแพงเป็นกลีบดอกบัวสีชมพูสวยงาม, วิหารแก้ว, แดนนรก เป็นต้น
ข้อควรรู้ : ชาวบ้านเชื่อว่าหากใครได้ไปสัมผัสที่ฝ่าพระบาทพระนอน ท่านจะประทานพรให้มีอายุยืนยาว
ที่ตั้ง : บ้านหัวตะพาน หมู่ที่ 6 ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง
เวลาเปิด-ปิด : 07.00-19.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3563 1556
5. วัดขุนอินทประมูล จังหวัดอ่างทอง
ความสำคัญ : วัดขุนอินทประมูล เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ภายในวัดยังมีซากปรักหักพังของโบสถ์เก่าแก่ในสมัยนั้น พร้อมทั้งซากโบราณสถานวิหารหลวงพ่อขาว ที่หลงเหลือเพียงแค่ฐาน ผนังบางส่วน และองค์พระพุทธรูป ยิ่งไปกว่านั้นวัดขุนอินทประมูลยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย โดยพระนอนมีความยาวประมาณ 50 เมตร เดิมทีนั้นได้ประดิษฐานภายในวิหารหลังใหญ่ แต่ได้ถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหลัง เหลือไว้เพียงพระนอนที่ยังคงตากแดดตากฝนอยู่กลางแจ้งมาอย่างยาวนานมากกว่าร้อยปี
ข้อควรรู้ : ชาวบ้านเชื่อกันว่าหากใครได้มากราบไหว้สัมผัสปลายนิ้วเท้า จะได้รับพรให้เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน
ที่ตั้ง : ตำบลอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
6. วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม
ความสำคัญ : เป็นวัดอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระปฐมเจดีย์ขนาดใหญ่และงดงามแห่งหนึ่งของโลก พระปฐมเจดีย์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นองค์ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 ในปี พ.ศ. 2396 โดยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างครอบพระเจดีย์องค์เดิม ซึ่งพระเจดีย์องค์ใหม่มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลม รูประฆังคว่ำแบบลังกา สูงจากพื้นดินถึงยอดมงกุฎ ประมาณ 120.5 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และด้านทิศเหนือของพระเจดีย์เป็นที่ตั้งของพระร่วงโรจนฤทธิ์ พระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูงประมาณ 7.42 เมตร เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปะแบบสุโขทัย พุทธศาสนิกชนทั่วไปให้ความเคารพบูชามาก ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมากราบไหว้ไม่ขาดสาย
ข้อควรรู้ : ชาวนครปฐมจะทราบกันดีว่าพระร่วงโรจนฤทธิ์มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ชาวบ้านมักจะมาขอพรในเรื่องต่าง ๆ โดยจะใช้ไข่ต้มสีแดงนำมาถวาย
ที่ตั้ง : ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
เวลาเปิด-ปิด : 07.00-20.00 น.
7. วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
ความสำคัญ : วัดโสธรวรารามวรวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง เป็นวัดที่สำคัญของชาวฉะเชิงเทรา ด้วยเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อพุทธโสธร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ มีหน้าตักกว้าง 1.65 เมตร สูง 1.48 เมตร โดยมีเรื่องเล่าต่อกันมาว่าพระพุทธรูปองค์นี้ได้ลอยตามน้ำมาแล้วมีผู้อัญเชิญมาไว้ยังวัดแห่งนี้ ปัจจุบันได้มีการสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมทรงมณฑปแบบไทย เมื่อมองจากแม่น้ำจึงมีความโดดเด่นและงดงามมาก
ที่ตั้ง : ริมแม่น้ำบางปะกง ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00-16.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-17.00 น.
โทรศัพท์ : 08 1633 5857
8. วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี
ความสำคัญ : เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานของพระปางปาลิไลยกะ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อโต" มีอายุประมาณ 1,300 ปี เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่ มีความสูงถึง 23.47 เมตร จะมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้ทุกวัน ซึ่งนอกจากหลวงพ่อโตแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ซึ่งเกี่ยวข้องกับวรรณคดีไทย เรื่องเสภาขุนช้างขุนแผน นั่นจึงทำให้บริเวณรอบ ๆ วิหารมีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวของขุนช้าง-ขุนแผน อย่างสวยงาม
ที่ตั้ง : 249 ถนนมาลัยแมน ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี
โทรศัพท์ : 0 3554 5113
9. วัดถ้ำเสือ จังหวัดกาญจนบุรี
ความสำคัญ : วัดถ้ำเสือ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี นามว่า "หลวงพ่อชินประทานพร" โดยประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ด้านขวาเป็นพระอุโบสถอัฏมุข การจะขึ้นไปกราบไหว้หลวงพ่อชินประทานพรนั้น จะต้องเดินขึ้นบันไดไปประมาณ 157 ขั้น นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปยังพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท เพื่อชมวิวของวัดในมุมสูงได้อีกด้วย
ที่ตั้ง : ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-16.30 น.
10. วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร จังหวัดสระบุรี
ความสำคัญ : พระอารามหลวงชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร มีปูชนียสถานที่สำคัญคือ "รอยพระพุทธบาท" ที่ประทับไว้ในแผ่นหินเหนือไหล่เขาสุวรรณบรรพต รอยพระพุทธบาทกว้าง 21 นิ้ว ยาว 5 ฟุต ลึก 11 นิ้ว โดยรอยพระพุทธบาทนี้อยู่ภายในพระมณฑปประกอบเครื่องยอดรูปปราสาท 7 ชั้นสวยงาม
ข้อควรรู้ : ในช่วงออกพรรษาของทุกปี ที่วัดแห่งนี้จะจัดงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาอย่างยิ่งใหญ่ ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศจะนำดอกเข้าพรรษามาใส่บาตรพระภิกษุสงฆ์พร้อมกับข้าวปลาอาหารแห้ง ในระหว่างที่พระภิกษุสงฆ์เดินลงมาจากพระมณฑป ชาวบ้านก็นำน้ำมาล้างเท้าพระภิกษุสงฆ์ ซึ่งเหมือนกับการชำระบาปให้ตัวเองนั่นเอง
ที่ตั้ง : ตำบลขุนโขลน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
11. วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา
ความสำคัญ : เป็นอีกหนึ่งวัดที่สำคัญของชาวโคราช ด้วยเป็นสถานที่จำพรรษาของ "พระเทพวิทยาคม" หรือ "หลวงพ่อคูณ" พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้มากราบไหว้หลวงพ่อคูณแล้ว ยังได้เที่ยวชมวิหารเทพวิทยาคม ซึ่งเป็นวิหารที่ก่อสร้างขึ้นใหม่ อยู่กลางน้ำ มีความงดงามอย่างมาก
ที่ตั้ง : ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
โทรศัพท์ : 08 1203 7427
12. วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี
ความสำคัญ : วัดป่าบ้านตาด หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นวัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เคร่งครัด ไม่ว่าพระภิกษุสงฆ์ สามเณร หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไปที่จะมาปฏิบัติธรรม ต้องทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ตามคำสอนของหลวงตาที่สอนให้ใช้ชีวิตเรียบง่าย มักน้อยสันโดษ ภายในวัดจึงไม่มีสิ่งเจริญทางวัตถุใด ๆ เป็นอีกสถานที่ที่เงียบสงบ เหมาะแก่การเจริญภาวนาสติอย่างยิ่ง
ที่ตั้ง : หมู่บ้านบ้านตาด ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
13. วัดห้วยมงคล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ความสำคัญ : เป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก หล่อด้วยโลหะผสม มีหน้าตักกว้างถึง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร ตามตำนานเล่าว่าหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ภายในวัดยังมีโรงทาน ศาลาปาฏิหาริย์ตะเคียนทอง น้ำตก ศาลาริมน้ำ ทุ่งทานตะวันให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย
ที่ตั้ง : บ้านห้วยคต ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เวลาเปิด-ปิด : 08.00-16.00 น.
โทรศัพท์ : 0 3257 6187, 0 3257 6297
14. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม
ที่ตั้ง : ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
โทรศัพท์ : 0 5327 3703, 0 5380 5005
15. วัดไชยธาราราม จังหวัดภูเก็ต
ความสำคัญ : วัดไชยธาราราม หรือวัดฉลอง สร้างขึ้นศตวรรษที่ 19 เป็นวัดที่มีความสำคัญต่อชาวภูเก็ตมาก มีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้ หลวงพ่อแช่ม และหลวงพ่อช่วง ซึ่งเป็นผู้นำในการต่อสู้กับการก่อจลาจลของจีนในปี พ.ศ. 2418 จึงทำให้ชาวเมืองภูเก็ตเลื่อมใสและศรัทธาต่อท่านทั้งสองอย่างมาก
ที่ตั้ง : ถนนเจ้าฟ้า (ตะวันตก) ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
เวลาเปิด-ปิด : 07.00-15.00 น.
สำหรับเทศกาลปีใหม่เป็นอีกช่วงเวลาที่มีวันหยุดยาว ซึ่งเป็นอีกโอกาสที่จะได้ทำสิ่งดี ๆ เริ่มต้นตั้งใจกับสิ่งใหม่ ๆ และการไปทำบุญไหว้พระก็เป็นอีกหนึ่งจุดการเริ่มต้นที่ดีของชีวิต ลองหาเวลาพาคุณพ่อ คุณแม่ ไปทำบุญไหว้พระก็เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว นอกจากจะไม่ต้องนำเงินไปใช้สอยฟุ่มเฟือยแล้วยังได้มีเวลาอยู่กับครอบครัวอีกด้วย :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : thai.tourismthailand.org, lib.su, ayutthaya, watyaichaimongkol, watmuang, tatsuphan, nkppao, chachoengsao, watpasuphan, dhammathai, kanchanaburi, luangta, prachuaptown, เฟซบุ๊ก วัดห้วยมงคล, cm-mots, wat-chalong-phuket