![จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2016/panadda/travel08/sisaketfirst_1.jpg)
"แดนปราสาทขอม ข้าวหอมกระเทียมดี มีสวนสมเด็จ เขตดงลำดวน หลากล้วนวัฒนธรรม เลิศล้ำสามัคคี"
จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ทิศเหนือติดกับจังหวัดร้อยเอ็ด ทิศใต้ติดกับประเทศกัมพูชา ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดอุบลราชธานี และทิศตะวันตกติดกับจังหวัดสุรินทร์ มีเนื้อที่ทั้งหมด 8,839.97 ตารางกิโลเมตร ประชากรใช้ภาษาลาว เขมร ส่วย เยอ
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-1.jpg)
ที่นี่เลื่อง ชื่อในด้านการเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิ หอมแดง กระเทียม และยางพารา ทั้งยังเป็นแหล่งปลูกผลไม้ที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นเงาะ ส้มโอ ชมพู่ ทุเรียน กล้วยหอม กล้วยน้ำหว้า และเป็นจังหวัดเดียวที่มีต้นลำดวนมากกว่า 50,000 ต้น ที่จะพร้อมใจกันบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งผู้มาเยือนสามารถเข้าชมความงามของดงดอกลำดวนได้ตลอดทั้งปี ภายในบริเวณสวนสมเด็จศรีนครินทร์แห่งแรกของประเทศไทย
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-2.jpg)
จังหวัดศรีสะเกษ ยังเป็นเส้นทางอารยธรรมขอมโบราณที่เชื่อมโยงมาจากจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือ ผามออีแดง และปราสาทหินต่าง ๆ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ภูเขา น้ำตก อันเกิดจากความอุดมสมบูรณ์ของเทือกเขาพนมดงรัก และเนื่องจากดินแดนแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานแต่ครั้งโบราณกาล ทำให้มีกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่ถึง 4 กลุ่ม ได้แก่ ส่วย เขมร ลาว เยอ ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มชาติพันธุ์นี้ได้สร้างศิลปวัฒนธรรมอันหลากหลาย ฝากไว้บนแผ่นดินศรีสะเกษมาอย่างช้านาน ร่องรอยแห่งการรังสรรค์ศิลปวัฒนธรรมดังกล่าวนับเป็นมนตร์เสน่ห์แห่งวิถี ชีวิตของชาวศรีสะเกษ มนตร์เสน่ห์หลากหลายเหล่านี้ล้วนสามารถสร้างความสุขให้กับผู้มาเยือนเมือง ศรีสะเกษได้ทุกคราที่มีโอกาสมาเยี่ยมชม
ปราสาทหิน วัดสระกำแพงใหญ่
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-3.jpg)
ปราสาทสระกำแพงใหญ่ (ศรีพฤทเธศวร) เป็นเทวาลัยเขมรในพื้นที่แถบปลายลำน้ำมูล ที่อาจจะมีลำดับความสำคัญรองลงมาจากปราสาทเขาพระวิหาร (ศรีศิขรีศวร) ตามหลักฐานที่พบในจารึกใบลานที่เกี่ยวกับประวัติราชวงศ์กษัตริย์กัมพูชา รวมทั้งประวัติของเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ที่บันทึกเกี่ยวกับองค์กรราชการต่าง ๆ ไว้ที่ปราสาทเขาพระวิหารและปราสาทสระกำแพงใหญ่
เทวาลัย แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปหรือศิวลึงค์จารึกภาษาเขมร ศาสนาฮินดูถือว่าเทวาลัยเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้า ประติมากรรมภาพสลักที่ปรากฏตามทับหลังและหน้าบัน เป็นสื่อกลางถ่ายทอดเรื่องราวตามคัมภีร์ในลัทธิศาสนาต่าง ๆ
ภายในบริเวณวัดเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อนาคปรก พระพุทธรูปโบราณปางขัดสมาธิ ขุดพบเมื่อปี พ.ศ. 2490 ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่เคารพนับถือของชาวศรีสะเกษ นอกจากนี้บริเวณปราสาทสระกำแพงใหญ่ยังเป็นที่จัดงานแสดงแสงสีเสียง "ศิวะราตรีแห่งศรีพฤทเธศวร" ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำในวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 5 ของทุกปี
วัดมหาพุทธาราม (วัดหลวงพ่อโต)
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-4.jpg)
หลวงพ่อโต พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดศรีสะเกษ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีความสูงจากฐานถึงยอดเกศ 6.5 เมตร หน้าตักกว้าง 3.5 เมตร ประดิษฐาน ณ วัดมหาพุทธาราม ภายในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวัดที่สร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2328 โดยพระยาวิเศษภักดี (ชม) เจ้าเมืองศรีสะเกษคนแรก
พระธาตุเรืองรอง
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-5.jpg)
ตั้งอยู่ที่วัดบ้านสร้างเรือน ห่างจากเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 2373 สายศรีสะเกษ-ยางชุมน้อย ประมาณ 7.5 กม.เป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นโดยผสมศิลปะอีสานใต้ สี่เผ่าไทย ได้แก่ ลาว ส่วย เขมร เยอ มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์อย่างลงตัว พระธาตุมีความสูง 49 เมตร แบ่งออกเป็น 6 ชั้น ชั้นล่างสุดใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา ชั้นที่สองและสามเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านสี่เผ่าไทย ชั้นที่สี่เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ ชั้นที่ห้าใช้สำหรับการทำสมาธิ และชั้นที่หกเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและจุดชมทัศนียภาพของพื้นที่โดย รอบ
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-6.jpg)
มีเนื้อที่ 237 ไร่ ลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง-ต่ำตามธรรมชาติ มีลำห้วย 2 สาย คือ ห้วยปูนใหญ่และห้วยปูนน้อยมาบรรจบกันตรงด้านทิศเหนือของสวนฯ เหมาะแก่การทัศนศึกษาเชิงพฤกษาศาสตร์ ภายในสวนมีต้นลำดวนขึ้นอยู่หนาแน่น ซึ่งจะผลิดอกหอมอบอวลไปทั่วในราวเดือนมีนาคมของทุกปี และเนื่องจากต้นไม้ชนิดนี้มีความเกี่ยวพันกับชื่อศรีนครลำดวนในอดีต จึงได้นำเอาต้นลำดวนมาเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด นอกจากนี้ในพื้นที่ยังมีสวนสัตว์และสวนสาธารณะตกแต่งสวยงามร่มรื่นเป็นแหล่ง พักผ่อนของประชาชนทั่วไป
ศรีสะเกษอควอเรียม
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-7.jpg)
ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ศรีสะเกษอควอเรียม ตั้งอยู่ในสวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะห้วยน้ำคำ) เป็นอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำในการดูแลของเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ภายในอาคารได้จัดโซนปลาทะเล 22 ชนิด และปลาน้ำจืด 79 ชนิด จำนวนรวมกว่า 4,000 ตัว ตกแต่งในบรรยากาศโลกล้านปีที่แปลกใหม่ ทั้งยังมีอุโมงค์แก้วใต้น้ำที่มีความยาวถึง 24 เมตร ให้ผู้ชมได้สัมผัสกับฝูงปลาได้อย่างใกล้ชิด
ศรีสะเกษอควอเรียมเปิดให้เข้าชมในวันอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. อัตราค่าเข้าชม เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 30 บาท
ตึกขุนอำไพพาณิชย์
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-8.jpg)
ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ เป็นตึกเก่าของขุนอำไพพาณิชย์ คหบดีชาวศรีสะเกษ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2468 โดยช่างชาวจีนและชาวมอญ ตัวอาคารมีรูปทรงและลวดลายปูนปั้นที่งดงามตามคติความเชื่อของชาวจีน ปัจจุบันตึกขุนอำไพพาณิชย์ได้รับการบูรณะและอนุลักษณ์ไว้เป็นอย่างดี และกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน และเป็นศูนย์แสดงผลงานผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP ที่สามารถมาชื่นชมความงามของตึกและเลือกซื้อสินค้าคุณภาพของจังหวัด ศรีสะเกษ
วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว (วัดล้านขวด)
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-9.jpg)
วัดป่ามหาเจดีย์แก้ว หรือวัดล้านขวด อยู่ในอำเภอขุนหาญ สถานที่ต่าง ๆ ภายในวัดล้วนต่างถูกประดับประดาด้วยขวดแก้วหลากสีหลายแบบรวมกันกว่า 1.5 ล้านใบ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "วัดล้านขวด" โดยพระครูวิเวกธรรมาจารย์ หรือ "หลวงปู่ลอด" ที่สร้างวัดขึ้นบนพื้นที่ป่าช้าหนองใหญ่ที่ท่านได้เข้ามาพักปักกลด และในบริเวณใกล้เคียงมีขยะจำพวกขวดอยู่มาก ซึ่งมีสีต่าง ๆ ท่านก็เห็นว่าสามารถนำขวดเหล่านี้ไปตกแต่งอาคารได้และยังช่วยประหยัดงบ ประมาณค่ากระเบื้องได้อีก หลวงปู่จึงรวบรวมขวดจากหมู่บ้านในละแวกวัด และใกล้เคียงมาสร้างเป็นกุฏิหลังแรก ต่อมาวัดเริ่มเป็นที่รู้จักทั่วไปคนในจังหวัดใกล้เคียงก็หลั่งไหลกันมาที่ วัด โดยต่างก็นำขวดมาบริจาคด้วย จากนั้นอาคารต่าง ๆ ก็ได้ทยอยสร้างขึ้นจนกระทั่งกลายเป็นวัดล้านขวดดังเช่นในปัจจุบัน
น้ำตกห้วยจันทร์
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-10.jpg)
เหตุที่ได้ชื่อว่า "น้ำตกห้วยจันทร์" เนื่องจากแต่เดิมบริเวณน้ำตกมีต้นจันทน์แดงและจันทร์ขาวอยู่หนาแน่น น้ำตกห้วยจันทร์มีต้นกำเนิดจากภูเสลาบนเทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่แม่น้ำมูลที่อำเภอเมืองศรีสะเกษ เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีน้ำตลอดทั้งปี แต่ขอแนะนำให้มาในช่วงเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ ท่านจะได้สัมผัสกับสายน้ำอย่างจุใจบริเวณ โดยรอบน้ำตกร่มรื่นด้วยพรรณไม้ป่านานาชนิด มีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา จึงเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ
ผามออีแดง
![เที่ยวศรีสะเกษ เที่ยวศรีสะเกษ](http://img.kapook.com/u/2015/panadda/Travel1/%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A9%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9-11.jpg)
ตั้งอยู่ปลายสุดของทางหลวงหมายเลข 221 ห่างจากอำเภอกันทรลักษ์ลงไปทางใต้ 36 กิโลเมตร บริเวณนี้มีลักษณะเป็นลานหินธรรมชาติริมหน้าผาสูง ติดเขตแดนไทย-กัมพูชา เป็นจุดชมทัศนียภาพทิวเขาพนมดงรัก แผ่นดินเขมรต่ำ และสามารถมองเห็นปราสาทเขาพระวิหารซึ่งอยู่ห่างออกไป 1 กิโลเมตร บริเวณผามออีแดงมีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปนาคปรก และทางด้านทิศใต้ซึ่งเป็นหน้าผาที่อยู่ต่ำลงไปมีภาพสลักหินนูนต่ำศิลปะเขมร อายุราวพุทธศตวรรษที่ 15 สันนิษฐานว่าเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
การเดินทาง
ศรีสะเกษอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 540 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดศรีสะเกษได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง และรถไฟ
โดยรถไฟ
การรถไฟแห่งประเทศไทย มีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ไปยังจังหวัดศรีสะเกษทุกวัน ทั้งรถเร็ว รถด่วน และรถด่วนพิเศษ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9-11 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ www.railway.co.th
โดยรถยนต์
จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ
1. ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จนถึงจังหวัดสระบุรี แยกขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ไปจนถึงจังหวัดนครราชสีมา จากนั้นแยกใช้ทางหลวงหมายเลข 226 ผ่านจังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์ ถึงจังหวัดศรีสะเกษ
2. ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จนถึงจังหวัดสระบุรี แยกขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) ไปจนถึงอำเภอสีคิ้ว แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 24 (โชคชัย-เดชอุดม) ผ่านอำเภอโชคชัย อำเภอนางรอง อำเภอสังขะ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวเมืองศรีสะเกษ โดยใช้เส้นทางหมายเลข 220 หรือ 221 ก็ได้
โดยรถประจำทาง
มีรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-ศรีสะเกษ ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-9 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th