
แบ็คแพ็กพิชิต เขาช้างเผือก ด้วยเงิน 1,000 บาท สุดมันส์
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Mi palapilii สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Palapilii Thailand
เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี หนึ่งในลิสต์รายชื่อยอดเขาที่เหล่านักเดินทางต้องไปเยือนสักครั้ง...(จริงไหม) เพราะด้วยทัศนียภาพที่งดงามบวกกับเส้นทางที่ตื่นเต้นท้าทายตลอดการเดินทางกว่าจะไปถึงยอดเขาช้างเผือก โดยเฉพาะสันคมมีดอันเลืองชื่อลือนาม ที่ทำเอาหลาย ๆ คนยุติการเดินทางไว้เพียงแค่กลางทางเท่านั้น แต่วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ตามบันทึกการเดินทางของ คุณ Mi palapilii สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ไปพิชิตเขาช้างเผือก พร้อมกับนำข้อมูลดี ๆ มาบอกเล่าให้เราได้ทราบกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง ค่าใช้จ่าย รวมถึงการเตรียมตัวไปเขาช้างเผือก ฯลฯ เอาล่ะ...ถ้าพร้อมแล้วก็ไปตะลุยเขาช้างเผือกกันเลย





ถ้าจะให้ผมจัดอับดับทางเดินสู่ยอดเขาในประเทศไทยที่สวยงามและเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นมากที่สุด ผมคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นที่นี่ "เขาช้างเผือก" อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ครับ
reviewed by : https://www.facebook.com/PalapiliiThailand
ผลงานที่ผ่านมา
:: Backpack ภูชี้ฟ้า-ดอยแม่สลอง-ไร่ชาฉุยฟง ด้วยเงิน 3,000 บาท
:: Backpack สิมิลัน-ตาชัย-หมู่เกาะสุรินทร์-เขาตาปู-ภูเก็ต ด้วยเงิน 10,000 บาท

ถนนเส้นนี้ : http://pantip.com/topic/32878781/comment4
บ้านปิล๊อก : http://pantip.com/topic/32878781/comment5
เขาช้างเผือก : http://pantip.com/topic/32878781/comment7
หลังช้าง : http://pantip.com/topic/32878781/comment9
การเดินทางครั้งนี้ : http://pantip.com/topic/32878781/comment11
10 ข้อควรรู้ก่อนไปเขาช้างเผือก : http://pantip.com/topic/32878781/comment12

จริง ๆ แล้วการเดินทางไปเขาช้างเผือกมีหลายวิธีมาก ๆ เลยนะครับ แต่ถ้าจะให้ผมแนะนำคือการขับรถมาเอง แล้วพาเพื่อน ๆ ขึ้นรถมาด้วยสักสามสี่คนจะดีไม่ใช่น้อย เพราะพวกเขาคือคนที่จะมาช่วยเฉลี่ยค่าใช้จ่ายตั้งแต่ต้นจนจบทริปให้เรานั่นเอง 555 แต่ถ้าจะให้ดีสุด ๆ โบกรถเลย ถูกแน่นอน ถูกถีบอะ ! หลอก ๆ โบกเลยครับ คนไทยน้ำใจงามจะตายยยยยย 55555

ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงหมู่บ้านปิล๊อก (จุด Start การเดินเท้า) มีระยะทางเกือบ 400 กิโลเมตร เพื่อน ๆ สามารถเสิร์ชหาข้อมูลการเดินทางได้ทั่วไป ผลัดกันขับกับเพื่อน ๆ ก็ได้ ใช้เวลาราว ๆ 5-6 ชั่วโมง ก็ถึงอย่างสบาย ๆ แต่ถ้าใครขาโหด 4 ชั่วโมง ก็ได้ไม่ว่ากัน อย่างไรก็ตามขอให้อยู่ในความไม่ประมาทด้วย

หนทางจากกรุงเทพฯ จนถึงอำเภอทองผาภูมิสบายมากครับ ลาดยางมาชิล ๆ ใครเติมแก็สก็ให้เติมตุนไว้ที่นี่เลย เพราะข้างบนไม่มีปั๊มแก๊สแล้ว หลังจากนี้ถนนจะเต็มไปด้วยความทรหดคดโค้ง ผมไปมาล่าสุดทาง... มาก ๆ ถนนขรุขระโคตร ๆ บางช่วงถนนแตกข้างทาง หล่นลงไปคือเหวกับเหว ถนนจะลื่นซะส่วนใหญ่เพราะป่ายังดูอุดมสมบูรณ์จนต้นไม้ใบหญ้าข้างทางล้ำถนนเข้ามาเกินงามเลยล่ะ เอาเป็นว่าระยะทางจากอำเภอทองผาภูมิไปหมู่บ้านปิล๊อกแค่ 60 กิโลเมตร แต่จะต้องใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมง หรือถ้าใครรักรถคงจะสองชั่วโมงอย่างแน่นอน

ก่อนเข้าหมู่บ้านจะต้องจอดที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิก่อน เพื่อไปรับรู้เงื่อนไขและจ่ายค่าผ่านทางต่าง ๆ (เราจะต้องจองมาก่อนล่วงหน้า 7 วัน ตามที่อุทยานฯ กำหนด) ไม่ว่าจะเป็นค่าขึ้นเขา ค่าเข้าอุทยานฯ ค่ากางเต็นท์ข้างบน รวมไปถึงค่านำทางอีกด้วย โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ก็จะมีราคาประมาณนี้





สำหรับผมผมตัดค่าลูกหาบทิ้งไปเลย เพราะการขึ้นเขาช้างเผือกมันไม่ได้ยากเยนอะไรขนาดที่จะต้องให้ใครมาแบกของให้เรา แบกขึ้นไปเองภูมิใจกว่าเยอะ

เมื่อเห็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นแล้ว เพื่อน ๆ คิดว่าควรมาคนเดียวหรือลากเพื่อนขึ้นรถมาด้วยล่ะครับ ผมจะลองคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ก่อนที่จะขึ้นไปพิชิตเขาช้างเผือกให้เพื่อน ๆ ได้เห็นงบประมาณโดยคิดเงื่อนไขที่ 10 คน ตามที่อุทยานฯ ได้กำหนดมาให้







เมื่อเอาแต่ละรายการมารวมกัน เราก็จะเห็นตัวเลขสำหรับทริปสั้น ๆ ทริปนี้ เอาล่ะ...มาบวกให้เห็นกันไปเลยดีกว่าว่างบสำหรับการขึ้นเขาช้างเผือกจะมีราคาเท่าไรกัน :: 400 + 30 + 30 + 8 + 120 + 200 + 200 รวมเป็นเงิน 888 บาทถ้วน (แปดร้อยแปดสิบแปดบ้านถ้วน) หึหึ เป็นยังไงล่ะ อึ้งกันไปเลยละสิ !! (ต่อให้เปลี่ยนเป็นรถน้ำมันไม่ใช้แก็ส ราคาก็จะอยู่ที่บวกลบ 1,000 บาท ไม่หนีไปไหนแน่นอน
บ้านปิล๊อก
บ้านปิล๊อก

จากตัวอุทยานฯ มาถึงหมู่บ้านปิล๊อกก็ใช้เวลาไม่นานครับ เพราะระยะห่างกันเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น ก่อนถึงหมู่บ้านราว ๆ 2-3 กิโลเมตร จะมีจุดชมวิวสวย ๆ อยู่ที่หนึ่งชื่อเนินช้างศึก ยังไงถ้ามีเวลาแวะก็อยากให้แวะกันครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ถนนไม่โอเคเท่าไรครับ เพราะสมัยก่อนบริเวณนี้เป็นเหมืองหินมาก่อน ทางเลยมีแต่หินกับหิน หินที่ว่าคือหินจริง ๆ นะครับ ยังไงไปเดี๋ยวก็เห็น จากปากซอยจนไปถึงเนินช้างศึกราว ๆ 3 กิโลเมตรครับ

รถผมคงเก่ามันขึ้นไปไม่ถึงครับ จะมีจุด ๆ หนึ่งที่เป็นทางขึ้นดิ่งตรงยาวเลย รถผมเก่าแล้วขึ้นไปไม่ไหวจริง ๆ ต้องจอดไว้ข้างทางแล้วโบกรถคันอื่นขึ้นไปชมวิวข้างบน

วิวข้างบนจะเห็นตัวหมู่บ้านทั้งหมู่บ้านครับ จะเห็นทิวเขาที่สลับซับซ้อนสวยงามมาก สมัยก่อนตรงนี้เป็นป้อมปราการของทหารในช่วงที่ยังมีสงครามกันอยู่ ถือว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีมาก ๆ ช่วงที่ผมไปหมอกหนาไปหน่อย เลยเห็นวิวไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เท่าไร แต่ก็คุ้มค่าครับ ถือเป็นวิวแรกที่สวยงามของการเดินทางครั้งนี้

เดินทางมาถึงหมู่บ้านปิล๊อกก็หาที่จอดรถซะนะครับ เพราะทางเข้าหมู่บ้านไม่เหมาะที่จะเอารถไปจอดเท่าไร ผมแนะนำให้ขับเลยไปนิดหนึ่งแล้วไปจอดไว้หน้าโรงเรียน หรือถ้าไม่ซีเรียสก็จอดข้างทางไปเลยครับ แล้วรีบเก็บข้าวของสัมภาระเตรียมพร้อมที่จะขึ้นหลังช้างกันได้แล้ว

ในหมู่บ้านปิล๊อกมีร้านเก่าแก่อยู่ไม่กี่ร้านหรอกครับที่นักท่องเที่ยวจะไปใช้บริการอาหารเช้าหรือกาแฟร้อนกันก่อนขึ้นเขา ถ้าเป็นร้านอาหารก็ต้องเป็นร้านพี่หน่อย ถ้าเป็นร้านนั่งชิลก็ต้องเป็นร้านพี่แอ๊นท์ (Coffee in pilok) ยังไงก็ลองไปชิมกันดู รับรองจะไม่เสียใจ

เมื่อเราใช้เวลาส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงคราวที่เราจะต้องเตรียมพร้อมลุยเขากันจริง ๆ แล้วล่ะครับ ที่หมู่บ้านจะมีร้านค้าร้านใหญ่อยู่ร้านเดียว ร้านนั้นคือจุดรวมพลของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่อุทยานฯ รวมไปถึงเป็นสถานที่หาซื้อข้าวของ เสบียงอาหารก่อนขึ้นเขาอีกด้วย เมื่อทุกคนพร้อมก็ให้ไปหาเจ้าหน้าที่บริเวณนั้นเลย พร้อมเอาบัตรที่ได้จากตัวอุทยานฯ มาโชว์ให้เจ้าหน้าที่ดู ว่าถูกต้องตามเรื่องราวที่เราคุยกันไว้หรือเปล่า และเมื่อทุกอย่างพร้อมการเดินทางครั้งนี้ก็จะเริ่มขึ้น...

เขาช้างเผือก














หลังจากนี้จะเป็นบรรยากาศเส้นทางการเดินขึ้นเขาช้างเผือก ที่ผ่านสายตาและเลนส์จากกล้องของผมนะครับ ปล่อยให้ภาพบรรยายตัวของมันเองแล้วกัน
หลังช้าง

เวลามาตรฐานของการขึ้นเขาช้างเผือกอยู่ที่ 4 ชั่วโมง สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งมีระยะทางในช่วงแรกประมาณ 7 กิโลเมตร จุดแรกที่เราจะไปคือ Base Camp ครับ พอเราขึ้นไปถึง Base Camp ก็รีบหาที่กางเต็นท์ หา Location เหมาะ ๆ เลยนะครับ สำหรับผมผมแนะนำให้จองในที่ต่ำ ๆ เพราะตอนกลางคืนลมจะแรงมาก บางเดือนแรงจนกระทั่งไม่ต้องนอนกันเลย และก็ไม่ต้องกลัวว่าไปเขาช้างเผือกจะไม่เห็นหมอก 1,000 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการเห็นหมอกบนเขาช้างเผือกครับ

ระหว่างนี้เขาจะไม่ให้เราขึ้นไปต่อครับ เราต้องนอนรอเจ้าหน้าที่จนกว่าจะได้เวลาที่สมควร ซึ่งเวลานั่นคือ 4 โมงเย็น เป็นเวลาที่เจ้าหน้าที่จะพาเราขึ้นไปจุดหลักสำคัญอย่าง สันคมมีด หลังช้าง และยอดสุดของเขาช้างเผือก ซึ่งจุดนี้จะเป็นช่วงที่สองของการเดินทาง ซึ่งเป็นระยะทาง 1.5 กิโลเมตรสั้น ๆ ที่คุณจะไม่มีวันลืม...




"สันคมมีด"
"หลังช้าง"





การเดินทางครั้งนี้

อยากให้เตรียมไฟฉายไปด้วยคนละกระบอก เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่กลับจากช่วงที่สองช้ากว่าปกติ ฟ้าอาจจะมืดจนทำให้มองไม่เห็นทางลง อย่างไรก็ตามอยากให้ทำเวลากันให้ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง พอเราลงมาจากช่วงที่สอง (ช่วงสันคมมีด หลังช้าง ยอดเขาช้างเผือก) บางกลุ่มก็มาทานอาหารที่ตัวเองทำเตรียมไว้ หรือไม่ก็ช่วยกันทำอาหารกันสด ๆ ตรงนั้นเลย ตรงนี้ขอไม่แนะนำอะไรนะครับ ขึ้นอยู่กับความสามารถและแรงที่เหลือของแต่ละกลุ่ม แต่เอาเป็นว่าใช้เวลาข้างบนนั้นให้คุ้มค่าที่สุด ให้เหมือนกับว่ามันเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
ปกติแล้วเจ้าหน้าที่จะพาลงเขาตั้งแต่ช่วงเช้าครับ เจ็ดโมงเช้าเป็นเวลามาตรฐาน นักท่องเที่ยวทั่วไปจะใช้เวลาลงเขาประมาณ 3 ชั่วโมง เดินกลับทางเดิมเลย เมื่อเราเดินลงมาถึงหมู่บ้านปิล๊อกหากมีแรงเหลืออยากจะเที่ยวต่อ...ย่อมมีครับ และสถานที่เที่ยวสำคัญในเมืองแห่งนี้คงจะหนีไม่พ้น "เหมืองสมศักดิ์" และ "น้ำตกจ๊อกกระดิ่น" มาถึงตรงนี้แล้วอยากให้เพื่อน ๆ ทุกคนเที่ยวกันอย่างมีความสุข อยู่ในความไม่ประมาท และกลับบ้านกันอย่างปลอดภัยทุกคนนะครับ
ขอบคุณครับ
ภูวนาท ทานะ
ภูวนาท ทานะ
10 ข้อควรรู้ ก่อนขึ้นเขาช้างเผือก











reviewed by : Phuwanart Thana