เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณม่วงมหากาฬ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL
แข่งเรือลือเลื่อง เมืองงาช้างดำ จิตรกรรมวัดภูมินทร์ แดนดินส้มสีทอง เรืองรองพระธาตุแช่แห้ง...อ่านมาถึงตรงนี้เพื่อน ๆ คงนึกถึงภาพเสน่ห์ความงดงามของ "น่าน" จังหวัดเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมด้วยขุนเขา มากล้นประเพณีและวัฒนธรรมแบบล้านนาที่สอดแทรกวิถีชีวิตความเรียบง่ายได้อย่างลงตัว อีกทั้งที่นี่ยังสามารถเดินทางไปสัมผัสได้ทุกฤดูกาลอีกด้วย ^^ สำหรับหน้าหนาวนี้ใครที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า "หนาวนี้เที่ยวไหนดี" ก็ลองหยิบเอาจังหวัดน่านไว้พิจารณากันดูนะคะ และเพื่อเป็นการการันตีความสวยงามของจังหวัดน่าน เราได้นำบันทึกการเดินทางของ คุณม่วงมหากาฬ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ร้อยเรียงความงดงามผ่าน 40 ภาพ...กระซิบบอกรัก "น่าน" มาให้เราได้ชมกัน
+++++++++++++++
...ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีดินแดนในฝัน... ผมเองก็มีดินแดนในฝันอยู่ในใจเช่นกัน หากแต่ดินแดนแห่งนั้นคงเกินความเป็นจริงที่จะสัมผัส และถ้ามีสถานที่สักแห่งหนึ่งที่พอจะทดแทนกันได้...ผมคิดว่า "น่าน" อาจจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับผม...
อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางบนเส้นทางสายธรรมชาติในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL
เช้าตรู่ในปลายฝนต้นหนาว หมู่มวลหมอกและละอองฝนปลุกเร้าความรู้สึกสดชื่น บนยอดดอยสูงที่ประดับประดาไปด้วยเต็นท์หลากสีสัน และความสุขในการชื่นชมธรรมชาติของนักเดินทาง
ผมเริ่มบันทึกการเดินทางฉบับนี้บนดอยที่มีชื่อว่า "เสมอดาว" ซึ่งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน
ค่ำคืนล่วงผ่าน ไร้วี่แววของแสงดวงดาวสมกับชื่อดอย และเช้าวันใหม่ที่มองไม่เห็นแสงเรืองรอง ในวันนี้สายฝนนำพามวลหมอกและความหนาวเย็นมาทักทายผู้มาเยือนจากการเดินทางไกล
จากความฝันสู่อีกฝันหนึ่ง จากป่าคอนกรีตสู่ดอยสูง ไอหมอกยังคงทำหน้าที่เชื่อมโยงความฝันให้เป็นเรื่องจริง
ผมเคยมาเยือนดินแดนแห่งนี้แล้วครั้งหนึ่งในช่วงฤดูร้อน และถ้าเหรียญมีสองด้านความสดชื่นความสวยงามในวันนี้กับวันนั้น คงพลิกเหรียญจากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง
สายฝนทำให้ทุกอย่างเขียว สายฝนทำให้ผมรู้สึกสดชื่นด้วยไอหมอก ต่างจากฤดูร้อนในวันก่อนที่ดูแห้งและไร้ซึ่งสายหมอก
สำหรับผมแล้วการได้สูดอากาศที่แสนบริสุทธิ์ ยืนมองความเคลื่อนไหวของไอหมอกสีขาวนวลที่ดูอ่อนโยนแต่มีพลัง เป็นความสุขที่คุ้มค่ากับการเดินทาง
ธรรมชาติที่งดงามชวนให้สัมผัส เรื่องราวจากผู้คนที่พานพบ มิตรภาพ ความรัก และความผูกพัน หล่อหลอมให้บนดอยเสมอดาวยามนี้อบอวลไปด้วยความสุข
บางทีบางครั้งเราก็ไม่ต้องการห้องหรูหรา ไม่ต้องการเตียงนุ่ม เต็นท์หลังน้อยก็สามารถสร้างความประทับใจ ถ้าช่วงเวลาและสถานที่เอื้ออำนวยต่อความสุข
บ่ายคล้อยวันนั้นผมมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน “พระธาตุเขาน้อย” ตั้งตระหง่านอย่างโดดเด่นบนยอดเขา ประหนึ่งคอยปกป้องผู้คนให้อยู่กันอย่างสงบสุข
บางความรู้สึกเราก็อยากสัมผัสกับสถานที่ยอดฮิตในมุมมหาชนดูบ้าง ซุ้มลีลาวดีมุมเล็ก ๆ หน้าพิพิธภัณฑสถานน่าน สร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครต่อคิวกันเข้าไปสัมผัส กิ่งไม้ที่ไร้ซึ่งใบหล่อเลี้ยงดูแปลกตาและงดงาม
"ปัว" อำเภอเล็ก ๆ บนเส้นทางสายโรแมนติกซึ่งห่างจากเมืองน่านราว 60 กิโลเมตร ตึกรามบ้านช่อง ตลาด ร้านค้า คงไม่ต่างจากเมืองทั่วไปนัก หากแต่ความแตกต่างคงเป็นวัฒนธรรม วิถีชีวิต และอากาศบริสุทธิ์ที่รายล้อมด้วยขุนเขา
ผืนนาบางช่วงสีทองอร่าม บางช่วงเขียวขจี บ่งบอกอาชีพการทำเกษตรกรรมของชาวบ้านเป็นงานหลัก
ผมเคยเห็นนาขั้นบันไดที่เชียงใหม่ แต่ผมก็ยังสงสัยอยู่ดีว่าต้นข้าวที่นี่ทำไมถึงต้นสูงจัง คนละสายพันธุ์หรือวิธีการปลูกคนละอย่างผมยังไม่แน่ใจนัก แต่ที่ผมมั่นใจคือทุ่งนาที่นี่งดงามมาก
ระหว่างทางสู่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ทุ่งนาสีเขียวสลับสีทองสร้างความเพลิดเพลินในการเดินทางได้ดีพอสมควร
เส้นทางที่คดเคี้ยวลัดเลาะขึ้นลงภูเขา ความระมัดระวังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ธรรมชาติที่รายล้อมระหว่างการเดินทาง บางครั้งเราก็รีบร้อนหรือละเลยที่จะสนใจ ทำให้เราพลาดหลาย ๆ สิ่งที่ดี ๆ ไป การเดินให้ช้าลง สนใจสิ่งรอบข้างให้มากขึ้น น่าจะช่วยทำให้เรามองโลกที่เราอยู่ได้ดีขึ้น
เพียงเพราะความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจ เมื่อมีโอกาสผมมักเก็บความงดงามในช่วงเวลาของความมหัศจรรย์นั้น ๆ อยู่เสมอ
ปุยเมฆและไอหมอกกำลังโอบกอดขุนเขาหลังสายฝนหยุดทำหน้าที่ นี่คงเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สวยงามจนยากที่จะบรรยายเป็นตัวอักษร บนเส้นทางปัว-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ดอยหัวล้านที่บางช่วงปกคลุมไปด้วยพืชไร่ ข้าวโพด ผมยังไม่แปลกใจมากนัก อาจเพราะเห็นโดยทั่วไปตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาสัมผัสเมืองน่านแล้ว แต่ที่ผมอดแปลกใจไม่ได้ คือ ความมานะอดทนของชาวเขาที่มีความเพียรในการทำไร่บนภูเขา
ไร่ข้าวโพดในยามนี้แห้งเหี่ยวหลังจากการเก็บผลผลิตเสร็จสิ้น หากเอาฝักข้าวโพดมารวมกันทั้งจังหวัดน่าน ดินแดนแห่งนี้อาจเป็นแหล่งปลูกข้าวโพดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
สายลมเย็นในฤดูปลายฝนย่างเข้าสู่ต้นฤดูหนาว แสงตะวันยิ่งลดลง ความหนาวเหน็บยิ่งเพิ่มขึ้น บนความสูงชัน ความสวยงาม ความแปลกตายิ่งเพิ่มทวีคูณเมื่อแสงลดน้อยลง
บางคนเคยบอกผมว่าเพียงแค่เราสัมผัสความหนาวเย็น จุมพิตไอหมอก เก็บภาพความทรงจำลงบนแผ่นเมมโมรี่การ์ดก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการเดินทาง
แต่ผมคิดว่าเสน่ห์ของการเดินทางไม่ได้มีอยู่เพียงแค่นั้น การได้เรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตที่แตกต่าง ความเป็นอยู่ของผู้คน สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่สร้างความประทับใจและการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
หากเปรียบกับแสงที่กำลังก้าวเข้าสู่รัตติกาล การเดินทางก็คงไม่มีวันสิ้นสุด ยามความมืดมิดมาเยือนคงเป็นช่วงเวลาแห่งการหยุดพักรอเวลาที่แสงสาดส่องเมื่อรุ่งอรุณมาเยือน พร้อมกับการเดินทางที่เริ่มต้นกันอีกครั้ง
ดวงตะวันลาลับพร้อมกับความมืดมิดเริ่มเข้าปกคลุม นกเริ่มบินกลับรัง วัฏจักรของชีวิตกำลังจะหมุนครบอีกหนึ่งรอบ
แสงสีทองอาบส่องดอยที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ความเงียบสงบกำลังเข้ามาเยือน สวนทางกับความตื่นเต้นในแสงสีที่เพิ่มมากขึ้น
ฝันของการเดินทางอันแสนไกลกำลังสิ้นสุดลง ครั้งนี้ผมโชคดีที่มีโอกาสได้เฝ้าเก็บภาพฝันและความทรงจำกับแสงสุดท้าย
เมื่อกล่าวถึง "น่าน" หลายคนคงนึกถึงขุนเขาและวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย แต่เมื่อผมได้สัมผัส "น่าน" เพิ่มมากขึ้น ผมเชื่อว่าเสน่ห์ของ "น่าน" มีมากกว่านั้น สำคัญอยู่ที่ว่าคุณจะหาเสน่ห์ของ "น่าน" เจอหรือไม่
ภาพความประทับใจถูกบันทึกลงในส่วนลึกของความทรงจำ และพร้อมจะถ่ายทอดอีกครั้งเมื่อต้องการ แสงสุดท้ายที่ดูคล้ายภูเขาไฟกำลังปะทุ ในยามรัตติกาลของวันนี้ผมขอหยุดพักการเดินทางไว้กับเต็นท์หลังเล็ก ๆ ในอุทยานฯ ดอยภูคา
รุ่งอรุณของวันใหม่ในความหนาว...สีขาวดั่งปุยนุ่นของคลื่นหมอกกระทบแสงแรกจากระยะไกล ดูสวยงามจับใจ
ระลอกหมอกที่ดูนิ่งสงบ พอ ๆ กับความเงียบในยามเช้าตรู่ ทะเลหมอกที่ผู้คนแถบนี้อาจเห็นจนชินตา แต่สำหรับผมนี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดอีกครั้งหนึ่ง
เสียงมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านตัวผมเป็นระยะแต่ก็ไม่บ่อยนัก ไม่มีใครสนใจความงามที่อยู่เบื้องหน้า อาจเพราะความเคยชินและเห็นจนเป็นประจำ ชาวบ้านกำลังเริ่มต้นเดินหน้าทำกิจวัตรประจำวันของวันใหม่ ส่วนผมกำลังหยุดนิ่งเก็บเกี่ยวเรื่องราวแห่งความงดงาม
หลายครั้งของบันทึกการเดินทางของผมนั้นเริ่มขึ้นจากแรงจูงใจผ่านภาพถ่ายของใครบางคน ซึ่งเป็นเสมือนเชื้อไฟโหมกระตุ้นทำให้ผมอยากออกเดินทาง
เช่นเดียวกันกับบทบันทึกเล็ก ๆ ชิ้นนี้ ที่จุดประกายโดยนักรีวิวรุ่นก่อน รวมถึงการบอกเล่าในความงดงามผ่านภาพถ่ายและบทความ ที่ทำให้ผมตัดสินใจมายืนยังดินแดนแห่งนี้
เย็นวันนั้นผมย้อนกลับมาพักในตัวเมืองปัวอีกครั้ง เพราะรู้สึกว่าถ้าจะไปยังที่อื่น โดยไม่ได้รับรู้ถึงวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองปัว มันเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป
โฮมสเตย์หลังเล็ก ๆ คือที่พักในการเดินทางวันสุดท้ายของผม คุณลุงเจ้าของโฮมสเตย์บ้านสองชั้นแกเป็นคนพัทลุงแต่หลงใหลในเมืองน่าน ชีวิตในบั้นปลายที่ใครหลายคนอยากเลียนแบบ บวกกับอัธยาศัยไมตรีทำให้ผู้มาเยือนจากแดนไกลรู้สึกอบอุ่น
คงไม่มีอะไรจะสุขใจไปกว่าการเปิดหน้าต่างจากบ้านพักแล้วเจอกับภาพแบบนี้ในเช้าวันใหม่
สายหมอกจาง ๆ ขุนเขาและนาข้าวที่กำลังเขียวขจี กับอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ คงเป็นสิ่งเหล่านี้ที่ทำให้ผู้คนต่างหลงใหลและอยากมาเยี่ยมเยือนเมืองน่าน
สุดท้ายขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชม แล้วพบกันใหม่ในบันทึกการเดินทางครั้งต่อไป สวัสดีครับ
อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางบนเส้นทางสายธรรมชาติในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL