ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง ศาลเจ้าเก่าแก่ศูนย์รวมแห่งศรัทธา ตั้งตระหง่านเด่นอยู่ริมถนนทรงวาด ถนนเก่าแก่น่าเที่ยวของกรุงเทพฯ ถนนทรงวาด ดูจะเป็นอีกหนึ่งย่านในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาเดินเที่ยวเล่นเช็กอินคาเฟ่ ร้านอาหารต่าง ๆ ท่ามกลางอาคารและตึกแสนคลาสสิก หากแต่ก็ยังมีสถานที่แห่งหนึ่งให้สายบุญและสายมูมากราบไหว้ กับ “ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง” นอกจากจะเป็นแหล่งรวมศรัทธาแล้ว ที่นี่ยังมีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักที่นี่ให้มากขึ้น มาแล้วต้องขอพรเรื่องอะไร เราจะมาบอกข้อมูลให้รู้กัน ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง ศาลเจ้าแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ในซอยเล็ก ๆ ในย่านทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของชาวไทยเชื้อสายจีน (พิกัด Google Maps : ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง) ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากงแห่งนี้เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ชาวจีนโพ้นทะเลร่วมกันก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 200 ปีก่อน เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองในการดำเนินชีวิตและการค้าขาย คำว่า “ปุนเถ้ากง” ในภาษาแต้จิ๋วนั้น หมายถึง “ชุมชนดั้งเดิม” ดังนั้น เล่าปุนเถ้ากง จึงหมายถึง “เทพเจ้าที่คุ้มครองรักษาชุมชนดั้งเดิม หรือเจ้าที่ของท้องถิ่นนั้น ๆ" ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากงในปัจจุบันเป็นศาลสร้างใหม่ จากบันทึกเรื่องราวการบูรณะศาลเจ้าระบุว่า ศาลแห่งนี้เป็นศาลที่ชาวจีนแต้จิ๋วในประเทศไทยซึ่งมีความศรัทธาอย่างแรงกล้า สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2460 ด้วยเงินบริจาคจากคณะกรรมการหลายท่านและจากผู้มีจิตศรัทธา และใช้เวลา 28 ปีจึงแล้วเสร็จ เมื่อเข้ามาภายในศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสกุลช่างแต้จิ๋วแบบซี่เตี๋ยมกิม (สี่ตำแหน่งทอง) หลักฐานตามจารึกบนระฆังชี้ว่า ศาลนี้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าเต้ากวง ปีที่ 4 แห่งราชวงศ์ชิง หรือราว พ.ศ. 2367 ตั้งอยู่ด้านหน้าทางซ้ายมือของศาลปัจจุบัน ภายในประดิษฐานองค์เทพ “เล่าปุนเถ้ากง” ซึ่งชาวจีนเชื่อว่าเป็นเทพผู้คุ้มครองชุมชน นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้าต่าง ๆ และสิงโตจีนคู่ที่เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความยิ่งใหญ่และปกป้องภัยต่าง ๆ สำหรับใครที่มาศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง อาจจะยังงง ๆ ไม่รู้ว่าจะไหว้จุดไหนก่อนดี แนะนำดังนี้ ไหว้จุดแรกคือ “ทีกง” ปู่ฟ้า ประธานของทุกศาลเจ้าเพื่อบอกกล่าวเทวดาฟ้าดิน หลังจากนั้นให้มาที่บริเวณห้องโถง เพื่อไหว้เทพเจ้า ณ แท่นบูชา 3 แท่น ประกอบด้วยแท่นตรงกลาง เทพ “ตั่วเหล่าเอี้ย” แต่งกายแบบขุนนางจีน มีหนวดเครายาวสีดำ ลักษณะนั่ง มือซ้ายถือดาบ เท้าข้างหนึ่งเหยียบเต่า อีกข้างเหยียบงู และแท่นบูชาทางด้านขวา เป็นที่ตั้งของเทพ “ปุนเถ้ากง” ในลักษณะยืน การแต่งการเป็นลักษณะเหมือนนักรบจีนทั้ง 3 องค์ สุดท้ายแท่นบูชาทางด้านซ้ายมือ เรียกว่า “จูอุ่ยฮกซิ้ง” เป็นแท่นบูชาที่รวมเทพองค์ต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน จะเป็นที่ประดิษฐานของเจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจายน์ ไฉ่ซิงเอี้ย และเทพองค์อื่น ๆ ตามปกติแล้วคนที่มาไหว้ที่ศาลเจ้าปุนเถ้ากง มักนิยมมาขอพรเรื่องทั่ว ๆ ไป ไม่ได้มีเรื่องใดเรื่องหนึ่งเฉพาะเจาะจง ส่วนมากจะขอให้ท่านคุ้มครอง สุขภาพดี การค้ารุ่งเรือง ข้อมูลจากเฟซบุ๊ก สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ Samphanthawong District Office ได้แจ้งกำหนดการวันจัดงานพิธีฉลองศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง ทรงวาด 200 ปี ในวันที่ 1-3 มีนาคม 2568 ทั้งนี้ วันที่ 1 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. จะมีขบวนแห่องค์เล่าปุนเถ้ากงไปตามเส้นทางถนนเยาวราช ถนนราชวงศ์ และถนนทรงวาด เริ่มจากซุ้มประตูโอเดียน มูลนิธิเทียนฟ้า แยกเฉลิมบุรี ตลาดเก่า และแยกราชวงศ์ จนถึงศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากง โดยจะจัดงานเฉลิมฉลองไปตลอดทั้งปีทุกวันอาทิตย์ โดยประชาชนสามารถร่วมสักการะองค์เล่าปุนเถ้ากง และชมการแสดงจากคณะสิงโตนครสวรรค์ การแสดงงิ้ว ซึ่งปีนี้เป็นการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่เพื่อร่วมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 50 ปี ไทย-จีน ศาลเจ้าปุนเถ้ากง เปิดให้ประชาชนได้เข้ามาสักการะทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. การเดินทางมายังศาลเจ้าปุนเถ้ากงสามารถมาได้อย่างสะดวกด้วย MRT ลงที่สถานีวัดมังกร (ทางออก 1) แล้วเดินเท้ามาประมาณ 10-15 นาที ผ่านถนนเจริญกรุงเข้าสู่ถนนทรงวาด หรือใครที่ขับรถมาก็มีที่จอดรถให้บริการ (ค่าจอดรถ 30 บาท/ชั่วโมง *** อาจมีการเปลี่ยนแปลง) สามารถจดอดได้ถึงเวลา 18.00 น. *** หากเดินทางในช่วงเทศกาล เช่น ตรุษจีนหรือสารทจีน ควรเผื่อเวลาเดินทาง เพราะถนนทรงวาดอาจมีการจราจรหนาแน่น ใครที่ไปเที่ยวย่านถนนทรงวาด ชวนสายบุญและสายมูมาไหว้ที่ศาลเจ้าเล่าปุนเถ้ากงกันดู นอกจากจะมาไหว้เพื่อความสบายใจแล้ว ยังได้ซึมซับศิลปะความงดงามของสถาปัตยกรรมจีนทรงคุณค่าอีกด้วย ^ ^ หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง +++ ไหว้พระเยาวราช เยือนศาลเจ้าและวัดจีนรับมงคลสู่ชีวิต +++ วัดฝอกวงซัน คู้บอน ไหว้พระขอเจ้าแม่กวนอิม ยลสถาปัตยกรรมสวยอลัง +++ สถานที่ไหว้เจ้าแม่กวนอิม ไปขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตกัน +++ 10 สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์จีนในไทย ไม่ต้องไปไกลถึงแดนมังกร ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ Samphanthawong District Office
แสดงความคิดเห็น