เมืองพริบพรี ชื่อเรียกขานเพชรบุรีเมื่อครั้งสมัยอดีต เรียนรู้ประวัติศาสตร์หนหลังของเพชรบุรี ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว วิถีชีวิต และศิลปวัฒนธรรมอันหลากหลาย หากใครที่ติดตามดูละครพรหมลิขิต จะเห็นชื่อเมืองพริบพรีปรากฏอยู่ ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเมืองนี้คือชื่อของเมืองเพชรบุรี ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพัน ๆ ปี ว่าแล้วเราเลยจะพาทุกคนย้อนเวลากลับไปเรียนรู้เรื่องราวของเมืองพริบพรี ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร มีความสำคัญและบทบาทอย่างไร ตามมาทำความรู้จักให้มากขึ้นกัน เมืองพริบพรี เป็นชื่อเรียกขานของเมืองเพชรบุรีในสมัยโบราณ ซึ่งมีหลักฐานปรากฏชื่อเมืองมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรเขมรหรือขอมโบราณ โดยมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป แต่ยังคงเค้าเสียงและความหมายเดียวกัน ทั้งนี้ ชื่อ เพชรบุรี มีปรากฏเป็นหลักฐานมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่มาของชื่อมี 2 ทาง ทางแรกเป็นการเรียกตามชื่อแม่น้ำเพชรบุรี ส่วนอีกทางหนึ่งเป็นการเรียกตามตํานานที่เล่าสืบกันมาว่า ในสมัยโบราณเคยมีแสงระยิบระยับในเวลากลางคืนที่เขาแด่น ทําให้คนเข้าใจว่ามีเพชรพลอย นอกจากนี้ยังปรากฏจารึกไว้เป็นหลักฐานในหลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หลักที่ 1 โดยกล่าวถึงเมืองในอาณาเขตของสุโขทัยที่อยู่ทางใต้ว่า “…เบื้องหัวนอน รอดคนที พระบาง แพรก สุพรรณภูมิ ราชบุรี เพชรบุรี ศรีธรรมราช ฝั่งทะเลสมุทรเป็นที่แล้ว…” อีกด้วย เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของเมืองเพชรบุรี ทั้งในแง่ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ผูกเชื่อมโยงสัมพันธ์ส่งต่อกันมาในแต่ละยุคสมัย ในฐานะเมืองที่เคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพชรบุรี เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,000 ปี นับตั้งแต่สมัยทวารวดี เดิมเป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา มีชื่อที่ชาวต่างประเทศใช้เรียกต่าง ๆ กัน เช่น ชาวฮอลันดาเรียกว่า “พิพรีย์” ชาวฝรั่งเศสเรียกว่า “พิพพีล์” และ “ฟิฟรี” จึงสันนิษฐานกันว่าชื่อ “เมืองพริบพรี” เป็นชื่อเดิมของเมืองเพชรบุรี ซึ่งสอดคล้องกับชื่อวัดพริบพลี ที่เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัด วัดเพชรพลี เดิมชื่อว่า วัดพริบพลี มีสิ่งสําคัญอย่างหนึ่ง คือ เสาชิงช้า และใกล้กับเสาชิงช้าเคยมีโบราณสถานเรียกว่า โบสถ์พราหมณ์ นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์ชิระปราสาท เป็นที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูปในสมัยต่าง ๆ จำนวนมาก สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่าง ได้แก่ พระพุทธรูปจำหลักด้วยหยกและแท่งแก้วอัญมณี นอกจากนี้ยังมีบุษบกธรรมาสน์สมัยอยุธยา ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนชั้นล่างของพิพิธภัณฑ์เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ 3 องค์ ทำด้วยหยกแก้วสีแดง สีเขียว และสีเทา ลักษณะพระพักตร์อวบอิ่ม งดงามเป็นอย่างยิ่ง หากไล่เรียงประวัติเมืองเพชรบุรี ปรากฏเป็นหลักฐานในยุคสมัยต่าง ๆ ได้แก่ ชื่อเมืองเพชรบุรี ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรมานานแล้วตั้งแต่เมื่อ 700 ปีก่อน ในศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง การมีชื่อเมืองที่ระบุอยู่ในศิลาจารึกเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่าเพชรบุรีน่าจะเป็นบ้านเมืองที่มีคนอยู่อาศัยเป็นชุมชนถาวรมาก่อนหน้านั้นแล้ว ในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เพชรบุรีก็ยังเป็นหัวเมืองที่มีความสำคัญต่ออยุธยาอย่างสูง เพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของพระราชอาณาจักร ด้วยเหตุที่มีฐานะเป็นแหล่งสะสมเสบียง เนื่องจากมีพื้นที่ราบลุ่มกว้างขวางอุดมสมบูรณ์ยิ่ง เหมาะแก่การเพาะปลูกและทำไร่ไถนา ในขณะเดียวกันก็เป็นชัยภูมิอันเหมาะสมที่ใช้เป็นที่ตั้งมั่นบัญชาการรบทั้งทางบกและทางทะเล ดังนั้น ตลอดสมัยที่อยุธยาเป็นราชธานี เพชรบุรีจึงกลายเป็นเมืองหน้าด่านในการรบพุ่งกับพม่า ในสมัยรัตนโกสินทร์ จังหวัดเพชรบุรีได้เปลี่ยนเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) โปรดเมืองเพชรบุรีตั้งแต่ครั้งยังทรงผนวชอยู่ เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวัง วัด และพระเจดีย์ใหญ่ บนเขาเตี้ย ๆ ใกล้กับตัวเมือง และพระราชทานนามว่า “พระนครคีรี” พระนครคีรี หรือ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครคีรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมืองเพชรบุรี ตั้งอยู่บนยอดเขาใหญ่ 3 ยอด คือ ยอดเขาด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดพระแก้ว ภายในจะมีพระอุโบสถ พระสุทธเสลเจดีย์ หอระฆัง ศาลา และพระปรางค์แดง ยอดเขากลางเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์ทรงกลม มีฐานทักษิณโดยรอบ โดยได้รับพระราชทานนามว่า “พระธาตุจอมเพชร” และยอดเขาด้านทิศตะวันตกเป็นที่ตั้งของพระราชวังที่ประกอบไปด้วยหมู่พระที่นั่งและอาคารต่าง ๆ หากแต่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังขึ้นอีกแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบุรี คือ “พระรามราชนิเวศน์” หรือที่เรียกกันว่า “วังบ้านปืน” และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวัง “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” ที่ชายหาดชะอำในเวลาต่อมา เพื่อใช้เป็นที่ประทับรักษาพระองค์ ด้วยทรงเชื่อว่าอากาศชายทะเลและน้ำทะเลอาจบรรเทาอาการประชวรได้ จังหวัดเพชรบุรีจึงถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “เมืองสามวัง” นับแต่นั้นมา จนมาถึงเพชรบุรีในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพชรบุรีก็ยังคงเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์ ไม่ใช่แค่มีเขาวังเท่านั้น หากแต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย มีงานประจำปีที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่น พรั่งพร้อมด้วยร้านอาหารและขนมหวาน ใครที่อยากกินขนมหวาน บอกได้เลยว่าต้องมากินที่เมืองเพชร ไม่ว่าจะเป็น ข้าวแช่ ที่มีทั่วเมือง และยังมีไอศกรีมรสตาลโตนดใส่ลูกลาน ของที่หากินได้ที่เมืองเพชรเท่านั้น ใครเล่าจะคิดว่าเพชรบุรีมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนาน เมืองพริบพรีเมื่อครั้งอดีต เป็นรากฐานความรุ่มรวยของศิลปะและวัฒนธรรมที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น จนเป็นเพชรบุรีในปัจจุบัน ^ ^ หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ที่เที่ยวเพชรบุรี เที่ยวสบาย ๆ วันหยุด กับเมืองที่มีดีมากกว่าทะเล 14 ที่เที่ยวเพชรบุรี เปิดพิกัดเจ๋งที่คนไม่ค่อยรู้จัก แต่เที่ยวสนุกเว่อร์ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลากเรื่องน่ารู้ ปล่อยใจชิลกับที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แนะนำ 6 น้ำตกในเพชรบุรี น้ำใสไหลเย็น ได้ฟีลธรรมชาติ ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : phetchaburi.go.th, thai.tourismthailand.org, เฟซบุ๊ก พระนครคีรี กรมศิลปากร / Phra Nakhon Khiri, The Fine Arts Department, finearts.go.th
แสดงความคิดเห็น