ชวนเที่ยวสงกรานต์ต่างประเทศ บินลัดฟ้าทัวร์เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในช่วงวันหยุดยาว ลองทำ 14 กิจกรรมห้ามพลาดที่แนะนำโดยคนท้องถิ่น เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยว เรียนรู้วัฒนธรรม ชมธรรมชาติ และอิ่มอร่อยไปกับอาหารขึ้นชื่อ วันหยุดยาวหรือช่วงสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงนี้ เชื่อว่าหลายคนคงอยากไปพักผ่อนกับบรรยากาศใหม่ ๆ บ้าง โดยเฉพาะการไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศใกล้ไทย และหากใครพอมีกำลังทรัพย์อีกสักนิด ก็อยากจะชวนให้ลองไปเยือนทางฝั่งออสเตรเลีย เที่ยวชมเมืองสวย ๆ ริมฝั่งทะเลอย่าง เมลเบิร์น (Melbourne) เมืองหลวงของรัฐวิคตอเรีย เพราะนอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวงดงามสุดตระการตาแล้ว ก็ยังครบครันไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่งวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกัน ที่สำคัญจากประเทศไทยมีเส้นทางบินคุณภาพเดินทางไปยังเมืองเมลเบิร์นได้ง่าย ๆ ในราคาสบายกระเป๋าด้วย เริ่มกันที่... The Central Business District หรือที่ชาวเมืองจะเรียกกันสั้น ๆ ว่า CBD เป็นย่านธุรกิจที่สำคัญของเมือง ที่มีทั้งสถานที่ราชการ สาขาหลักของสถาบันการเงิน องค์กรระดับโลกต่าง ๆ โรงแรม พิพิธภัณฑ์ สถานที่แสดงศิลปะ ห้างสรรพสินค้า ตลาดเก่าแก่อายุนับร้อยปี สถานที่สำคัญทางศาสนา สวนสาธารณะ อควาเรียม และห้องสมุดของรัฐวิกตอเรีย ฯลฯ ซึ่งสถานที่ต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ตั้งอยู่ภายในอาคารเก่าแก่ และอาคารรูปแบบทันสมัย เพียงแค่โซนนี้ที่เดียวก็เปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้หลากหลายรูปแบบแล้ว สถานที่ที่น่าสนใจใน The Central Business District เช่น SEA LIFE Melbourne Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเมลเบิร์น ที่มีการจัดแสดงสัตว์น้ำน่าสนใจทั่วทั้งมหาสมุทรทางตอนใต้และในแถบแอนตาร์กติก Flinders Street Railway Station สถานีรถไฟที่สำคัญ เป็นจุดรวมรถไฟทุกสาย ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ACMI (Australian Centre for the Moving Image) พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ ที่เน้นจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับภาพยนตร์ วิดีโอเกม และวัฒนธรรมดิจิทัล & ศิลปะ Hosier Lane & Rutledge Lane ตรอกเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยผลงานกราฟิตี้สุดเจ๋ง Queen Victoria Market ตลาดท้องถิ่นเก่าแก่อายุนับร้อยปี มีร้านค้าให้เลือกช้อปปิ้งมากกว่า 100 ร้านค้า State Library Victoria ห้องสมุดประจำรัฐวิกตอเรีย ซึ่งมีการออกแบบภายในสวยงามคลาสสิก The Ian Potter Centre พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่จัดแสดงภาพวาด ประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย ผลงานแฟชั่น และสิ่งทอ St Paul's Cathedral วิหารเซนต์ปอลที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย Chinatown Melbourne ย่านร้านอาหารจีนและเอเชียสุดอร่อย พร้อมกับมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ Tram เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่เก่าแก่ของเมืองเมลเบิร์น เป็นรถรางที่มีการสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1885 ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการมากถึง 24 เส้นทาง รถรางเกือบ 500 คัน ทั่วเมืองเมลเบิร์น โดยส่วนใหญ่จะเป็นรถรางรูปทรงทันสมัย มีสายเคเบิลด้านบน ด้านในมีที่นั่งคล้ายกับรถโดยสารสาธารณะ สามารถดูเส้นทางของการให้บริการได้ที่ yarratrams.com.au สิ่งที่เป็นไฮไลต์ของระบบรถรางเมืองเมลเบิร์น ก็คือ รถราง No.35 จะเป็นเส้นทาง City Circle แล่นไปรอบ ๆ เขต CBD ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ซึ่งตัวรถรางก็จะเป็นรูปทรงรถรางโบราณ ดูคลาสสิก เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยก่อน ที่สำคัญเส้นทางนี้ยังสามารถขึ้นได้ฟรี ! ไม่ต้องเสียเงิน จะมีให้บริการทุกวัน วันอาทิตย์-พุธ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. และวันพฤหัสบดี-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. เมืองเมลเบิร์น เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรม เป็นแหล่งรวมของศิลปินในแขนงต่าง ๆ มากมาย มีพิพิธภัณฑ์ สถานที่ชมงานแสดงศิลป์หลากหลายรูปแบบทั่วทั้งเมือง เริ่มกันที่ Laneways ย่านที่มีตรอกซอกซอยเล็ก ๆ แตกออกมาจากถนนเส้นหลัก ซึ่งในซอยเหล่านี้ก็มีงานกราฟิตี้เก๋ ๆ อยู่เพียบ และยังซ่อนคาเฟ่ และร้านอาหารชิค ๆ ไว้มากมาย กลายเป็นเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงเมืองนี้มาหลายปี จุดถ่ายรูปกับงานกราฟิตี้สวย ๆ จะอยู่ที่ Hosier Lane & Rutledge Lane และ Union Lane ดูจุดท่องเที่ยวในย่าน Laneways เพิ่มเติมได้ที่ visitmelbourne.com ส่วนคนรักศิลปะอยากแนะนำให้ลองไปเสพงานศิลป์ในพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น National Gallery of Victoria, ACMI, ACCA และ The Ian Potter Centre นอกจากนี้ เมืองเมลเบิร์นยังมีพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น Melbourne Museum พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติและวัฒนธรรมของเมลเบิร์น, Royal Exhibition Building อาคารนิทรรศการหลวงเมืองเมลเบิร์น, The Old Melbourne Gaol พิพิธภัณฑ์ทัณฑสถานเมลเบิร์น, Immigration Museum พิพิธภัณฑ์ผู้อพยพ และ Scienceworks พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งเมลเบิร์น ไม่ว่าไปเที่ยวที่ไหนในต่างประเทศ การได้ชมวิวเมืองในมุมสูงก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด สำหรับเมืองเมลเบิร์น แนะนำให้ลองไปพบกับประสบการณ์การชมวิวเมืองในอีกมุมมองที่ Eureka Skydeck 88 และ Melbourne Star Observation Wheel Eureka Tower เป็นตึกสูงระฟ้าที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำยาร์รา มีควาามสูงมากถึง 297.3 เมตร มีสกายเดคไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่ชั้น 88 หรือที่เรียกกันว่า Eureka Skydeck 88 สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา ไกลสุดลูกหูลูกตา และยังมี The Edge เป็นพื้นกระจกรูปทรงสี่เหลี่ยมที่ยื่นออกไปจากตัวตึกขนาดพื้นที่ 3x3 เมตร เรียกความหวาดเสียวได้ไม่น้อย ดูรายละเอียดการเข้าชมได้ที่ eurekaskydeck.com ส่วน Melbourne Star Observation Wheel เป็นชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่ตั้งอยู่ในย่าน Docklands มีความสูงมากถึง 120 เมตร แต่ละเคเบิลจะเป็นผนังกระจก มองเห็นวิวได้ 360 องศา ยามค่ำคืนยังเปิดไฟสวยงามสีสันสดใส สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ melbournestar.com ไปเที่ยวเมลเบิร์นแล้วไม่ได้ไป Queen Victoria Market ก็เหมือนกับเที่ยวไม่ครบรส เพราะตลาดแห่งนี้เป็นดั่งสัญลักษณ์สำคัญของเมือง เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 140 ปี และมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่น ปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ออกมาเป็นตลาดพื้นเมืองขนาดกว้างขวาง มีร้านค้ามากกว่า 600 ร้านค้า มีทั้งผัก-ผลไม้สด สินค้าทางการเกษตร แหล่งซื้อ-ขายเมล็ดกาแฟ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ของฝาก-ของที่ระลึก โดยเฉพาะสตรีตฟู้ด ที่มีให้เลือกสรรและอิ่มอร่อยมากกว่า 100 เมนู ซึ่งมีจุดให้นั่งเอนจอยกับอาหารตั้งแต่ตลาดเปิดจนตลาดปิด หากชอบบรรยากาศแบบไนท์มาร์เกต ก็จะมีการจัดทุกคืนวันพุธ มีอาหารอร่อย ๆ เพียบ และยังมีสินค้าแฮนด์เมด งานคราฟต์ รวมไปถึงดนตรีสด บาร์เล็ก ๆ ให้ได้มาช้อปปิ้งและนั่งเสพบรรยากาศกันด้วย เมลเบิร์นเป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลทางด้านอาหารมาจากทางฝั่งตะวันตกและอเมริกันพอสมควร ร้านอาหารส่วนใหญ่จึงมีเมนูเนื้อสัตว์ สเต๊ก ชีส พาสต้า และขนมปังเป็นพื้นฐาน เมนูฟาสต์ฟู้ดแบบอเมริกันก็ได้รับความนิยมไม่น้อย โดยเฉพาะใครที่ชอบกินเบอร์เกอร์ แนะนำให้ลองไปอิ่มอร่อยกันที่ร้าน 8Bit เป็นร้านฟาสต์ฟู้ดท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมจากวัยรุ่นและคนวัยทำงาน ด้วยมีการจัดเสิร์ฟเบอร์เกอร์เนื้อชิ้นใหญ่ชิ้นโต รสชาติอร่อยเข้มข้น พร้อมด้วยฮอตดอก เฟรนช์ฟรายส์ และเครื่องเคียงต่าง ๆ ให้เลือกกินกันอย่างจุใจ และยังมีมิลค์เชกให้กินคู่กันด้วย ซึ่งนอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว การตกแต่งร้านยังมีเอกลักษณ์ โดยได้แรงบันดาลใจจากเกมภาพ 8-bit และสะอาด ดูน่านั่งพักกินอาหารชิล ๆ เป็นที่ถูกใจของคนรุ่นใหม่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ eat8bit.com เมื่อไม่นานมานี้เมลเบิร์นได้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งกาแฟของออสเตรเลียไปแล้ว ด้วยไลฟ์สไตล์ของชาวเมืองที่ไม่ได้เร่งรีบเหมือนเมืองใหญ่ทั่วไป สามารถนั่งชิล นั่งคุย นั่งทำงานไปด้วยกันได้ จึงทำให้มีร้านกาแฟเปิดให้บริการหลายร้อยแห่ง ซึ่งแต่ละร้านก็คัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างดีมาจากทั่วทั้งออสเตรเลียและอีกหลายประเทศทั่วโลก เพื่อนำเสนอให้คอกาแฟได้ชิมลิ้มลองในรูปแบบต่าง ๆ และยังตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศสบาย ๆ ผ่อนคลาย เพื่อเอื้อให้เหมาะสมแก่การนั่งเพลิน ๆ การไปคาเฟ่ฮอปปิ้งในเมลเบิร์นจึงเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาด จุดที่น่าสนใจในย่าน CBD ก็คือ Degraves Street & Centre Place, Hardware Lane, Guildford Lane และ The Causeway เป็นถนนเล็ก ๆ ที่สองฟากฝั่งจะเต็มไปด้วยร้านกาแฟมากมาย จะได้กลิ่นกาแฟและขนมปังอบหอมกรุ่น พร้อมด้วยเมนูเครื่องดื่ม และขนมหวานน่ากินอีกหลากหลายเมนู นอกจากนี้ยังมีย่านอื่น ๆ ที่มีคาเฟ่น่านั่งที่ได้รับการแนะนำจากคนท้องถิ่น เช่น Carlton, Richmond, Fitzroy, Prahran, South Melbourne และ St Kilda แนะนำร้านเบอร์เกอร์และย่านคาเฟ่กันไปแล้ว จะขาดของหวานได้อย่างไร หากพูดถึงขนมที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของเมลเบิร์น ก็ต้องยกให้โดนัท ขนมปังกลม ๆ มีรูตรงกลางที่ทุกคนคุ้นเคย เป็นขนมยอดนิยมที่มีร้านแบบโฮมเมดให้ไปลิ้มลองหลากหลายแห่ง ซึ่งแต่ละร้านก็จะสูตรของใครของมัน ตกแต่งให้มีหน้าตาและสีสันสดใสสวยงาม บางแบบก็มีไส้ด้านใน กินสลับกันไปได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อ ร้านโดนัทในเมืองเมลเบิร์นที่อยู่ในลิสต์ต้น ๆ เช่น Doughnut Time, Doughboys Doughnuts, American Doughnut Kitchen, All Day Donuts, Bistro Morgan, Smith & Deli, The Oakleigh Doughnut Co, Shortstop Coffee & Donuts, Dandee Donuts, Dolcetti, Rustica Sourdough และ Bistro Morgan เป็นต้น นอกจากเรื่องงานศิลปะและดนตรีแล้ว ชาวเมลเบิร์นยังหลงใหลในการชมกีฬาด้วย ซึ่งทั่วทั้งเมืองนั้นก็มีอารีน่าและสเตเดียมอยู่เกือบ 10 แห่ง กีฬาที่น่าสนใจก็มีทั้งคริกเกต, เทนนิส (Australian Open), ออสเตรเลียนฟุตบอล, บาสเกตบอล, กอล์ฟ และแข่งขี่ม้า ซึ่งจะมีการจัดการแข่งขันสลับกันไปตลอดทั้งปี โดยสนามกีฬาที่ใช้จัดการแข่งขันจะกระจายตัวอยู่รอบ ๆ เมืองเมลเบิร์น เช่น Melbourne Cricket Ground, Marvel Stadium, Margaret Court Arena, Rod Laver Arena, Melbourne Arena, AAMI Park, Flemington Racecourse และ Moonee Valley Racing Club ใครสนใจกีฬาประเภทไหนก็ลองไปสัมผัสประสบการณ์เชียร์ติดขอบสนามกันได้เลย The Great Ocean Road เป็นถนนที่เลาะเลียบชายฝั่งทะเลช่องแคบบาสส์ ซึ่งมีความสวยงามจนได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกแห่งชาติของออสเตรเลีย รวมระยะทางทั้งหมดมากถึง 243 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่เมือง Torquay ไปจนถึงเมือง Allansford รัฐวิกตอเรีย ซึ่งจุดเริ่มต้นของเส้นทางนี้อยู่ห่างจากเมืองเมลเบิร์นไปเพียง 100 กิโลเมตรเท่านั้น นักท่องเที่ยวจึงนิยมที่จะขับรถเล่นชมวิวทะเลไปเพลิน ๆ มีสถานที่ท่องเที่ยวให้แวะเที่ยวชมมากมายตลอดเส้นทาง เป้าหมายหลักของเส้นทางนี้ คือ The Twelve Apostles เป็นเสาหินปูนขนาดใหญ่ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ในทะเลใกล้กับชายฝั่ง มีอายุหลายล้านปี แต่เดิมนั้นมีทั้งหมด 8 เสา แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 7 เสาเท่านั้น เพราะโดนคลื่น ลม และฝนกัดเซาะจนพังทลายไป โดยจะมีจุดถ่ายรูปให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายคู่กับเสาหินเหล่านี้อยู่หลากหลายจุด และยังมีเส้นทางให้เดินลงไปยังชายหาด เพื่อชมเสาหินอย่างใกล้ชิด แต่มุมที่สวยงามที่สุดก็ต้องยกให้มุมสูงที่มาจากเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งมีบริการไว้ให้นักท่องเที่ยวด้วย พร้อมทั้งมีที่พักและร้านอาหารให้บริการครบครัน จะไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริปหรือพักค้างคืนก็ได้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ visitgreatoceanroad.org หากเสิร์ชภาพสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเมลเบิร์น ภาพที่จะปรากฏขึ้นมาลำดับต้น ๆ หนึ่งในนั้นก็คือ Brighton Bathing Boxes ลักษณะคล้ายบ้านพักหลังเล็ก ๆ ที่ตั้งเรียงรายอยู่บนชายหาดสีสันสดใส แต่จริง ๆ แล้วมันคือห้องอาบน้ำของชายหาด Brighton อยู่ห่างจากตัวเมืองเมลเบิร์นราว ๆ 12 กิโลเมตร มีมากกว่า 40 ห้องตลอดแนวชายหาด กลายเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวอยากถ่ายรูปคู่เก็บไว้เป็นที่ระลึกกันสักครั้ง นอกจากห้องอาบน้ำเหล่านี้แล้ว บริเวณหาด Brighton ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะต่อการเล่นน้ำ แนะนำให้เตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยนกันด้วย Yarra Valley เป็นภูมิภาคที่มีการทำไร่องุ่นอย่างกว้างขวาง ด้วยสภาพภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศของพื้นที่ที่เหมาะต่อการปลูกองุ่น ส่วนใหญ่ก็จะปลูกเพื่อการทำไวน์ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งผลิตไวน์ที่สำคัญของออสเตรเลียอีกแห่งก็ว่าได้ โดยไร่องุ่นหลายแห่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชม บางแห่งมีโรงบ่มไวน์เป็นของตัวเองก็จะเปิดเป็นทัวร์ชิมไวน์ไปด้วย รับรองว่าถูกใจสาวกคนดื่มไวน์แน่นอน แต่ถึงแม้จะไม่ดื่มไวน์คุณก็จะต้องตกหลุมรักที่นี่ ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม ทั้งไร่องุ่น ทุ่งหญ้า ป่าเขาเขียวขจี อากาศเย็นสบายสดชื่น มองไปทางไหนก็เบาสบายตา บนถนนนาน ๆ ก็จะมีรถยนต์แล่นมาสักคัน มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ นอกจากนี้ยังจะได้ช้อปปิ้งองุ่นสด ๆ และผลิตภัณฑ์จากองุ่นกลับบ้านในราคาย่อมเยาด้วย นอกจากจิงโจ้และโคอาลาแล้ว ออสเตรเลียก็ยังมีสัตว์พื้นเมืองอีกหลายชนิด หนึ่งในนั่นก็คือ เพนกวินน้อย (Little penguin) หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า เพนกวินนางฟ้า (Fairy penguin) เป็นเพนกวินที่มีขนาดเล็กที่สุดในตระกูลเพนกวิน สูงเพียงแค่ราว ๆ 30-10 เซนติเมตรเท่านั้น มีขนที่หลังเป็นสีฟ้าหรือสีน้ำเงิน มีจะงอยปากสั้นสีดำ เวลาเดินก็จะต้วมเตี้ยม โน้มหัวไปข้างหน้า คล้ายว่าหัวกำลังจะทิ่มลงพื้น พอเดินด้วยกันเยอะ ๆ เป็นฝูงจะดูน่ารักน่าเอ็นดู สามารถไปชมขบวนพาเหรดเพนกวินน้อยได้ 2 แห่งหลัก ๆ คือ St Kilda Beach และ Phillip Island โดยที่ St Kilda Beach นั้นชมฟรี นักท่องเที่ยวไปนั่งรอชมได้บริเวณท่าเรือ จะมีทางเดินและที่นั่งให้นั่งชม ส่วน Phillip Island จะอยู่ห่างจากเมืองเมลเบิร์นไปราว ๆ 140 กิโลเมตร หากมีเวลาน้อยแนะนำให้เช่ารถไป หรือไปเที่ยวแบบวันเดย์ทริปกับบริษัททัวร์ ซึ่งที่ Phillip Island จะมีจำนวนเพนกวินน้อยหน่อย เพราะอยู่ในเขตอนุรักษ์ ช่วงเย็น ๆ จะเดินเรียงกันออกมาจากกล่องที่เจ้าหน้าที่ทำไว้ให้เป็นขบวนพาเหรดไปตามชายหาด ซึ่งจะมีการจัดที่นั่งไว้ให้ทั้งแบบอัฒจันทร์กลางแจ้งและห้องกระจกใต้ดิน ทั้ง St Kilda Beach และ Phillip Island จะต้องไปชมในช่วงเย็น Sovereign Hill เป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตโกลเดนพอยต์ (Golden Point) เมืองบาลเลแรท (Ballarat) ห่างจากเมืองเมลเบิร์นเพียงแค่ราว ๆ 115 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ที่นี่เคยเป็นเหมืองทองเก่าแก่มาก่อน มีการขุดค้นพบทองครั้งแรกในช่วงปี 1851 หลังจากนั้นผู้คนก็พากันอพยพเข้ามายังพื้นที่แห่งนี้ กลายเป็นชุมชนเหมืองทองคำที่รุ่งเรืองที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลียในช่วงศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง จัดแสดงให้เห็นสภาพของเหมืองทองคำในยุคนั้น พร้อมข้าวของเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการขุดทอง นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ลองลงมือขุดทองกันด้วยตัวเอง มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ sovereignhill.com.au เห็นแต่ละกิจกรรมของเมืองเมลเบิร์นแล้ว ก็ต้องบอกว่าครบครันและน่าไปลองเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ กันสักครั้ง ซึ่งกิจกรรมที่นำมาให้ชมนั้นก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นด้วยนะ ยังเหลือสิ่งที่น่าสนใจอีกเพียบ เอาไว้เราจะมาอัปเดตให้เรื่อย ๆ แต่หากมีความสนใจอยากไปเมลเบิร์นขึ้นมาแล้ว ก็อยากจะชี้ทางไปจองตั๋วเครื่องบินไปเมลเบิร์นในราคาย่อมเยา กับสายการบินสกู๊ต (Scoot) ที่ตอนนี้มีเส้นทางบินจากเมืองไทยมากถึง 5 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – เมลเบิร์น เส้นทางบินจากหาดใหญ่ – เมลเบิร์น เส้นทางบินจากภูเก็ต – เมลเบิร์น เส้นทางบินจากเชียงใหม่ – เมลเบิร์น เส้นทางบินจากกระบี่ - เมลเบิร์น เพิ่มความสะดวกสบายขึ้นอีกนิดด้วยการจองที่นั่งแบบ ScootPlus ที่จะได้รับความคุ้มค่าในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษในการเช็กอินและขึ้นเครื่องก่อน ได้อัปเกรดน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มขึ้นมาเป็น 30 กิโลกรัม และยังนำขึ้นเครื่องได้อีก 2 ชิ้น น้ำหนักรวมสูงสุดมากถึง 15 กิโลกรัม มีที่นั่งเบาะหนังและที่วางขากว้างสะดวกสบาย พร้อมด้วยปลั๊กไฟให้ชาร์จอุปกรณ์ และมี Wi-Fi ให้ 30MB อีกทั้งยังสามารถเลือกอาหารและเครื่องดื่มได้ พร้อมมีเครื่องดื่มอร่อย ๆ เสิร์ฟให้ตลอดไฟลต์ พิเศษสุด ๆ กับรหัสโปรโมชั่น SCOOT15 จองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินสกู๊ตรับส่วนลดได้เลย ตั้งแต่วันนี้ - 25 มีนาคม 2563 โดยตั้งแต่วันนี้ - 15 มีนาคม 2563 จะได้ส่วนลดมากถึง 15% และในวันที่ 16-25 มีนาคม 2563 จะได้ส่วนลด 10% สามารถเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2563 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.flyscoot.com รู้อย่างนี้แล้ว ได้เวลาจองตั๋วล่วงหน้าและเตรียมตัวให้พร้อมไปเที่ยวรับความสุขสนุกสนานจากอีกฟากโลกที่ "เบลเบิร์น" กัน ขอขอบคุณข้อมูลจาก flyscoot.com, melbourne.vic.gov.au, visitmelbourne.com, yarratrams.com.au, eurekaskydeck.com, qvm.com, Queen Victoria Market, melbournestar.com, visitgreatoceanroad.org, visityarravalley.com, visitphillipisland.com และ sovereignhill.com.au
แสดงความคิดเห็น