ชวนไปเที่ยวลาว เช็กอินกับที่เที่ยวลาวต่าง ๆ สนุกสนานไปกับที่เที่ยวธรรมชาติวิวสวย บรรยากาศดี พร้อมกับเที่ยวเพลิน ๆ ในเมืองเก่า หรือเมืองที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ชมวัดวาอารามและสถานที่สำคัญมากมายในเมืองลาว ประเทศลาว เป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีความน่าสนใจไม่น้อยหน้าประเทศไหน ๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะถ้าพูดถึงเรื่องของความเป็นธรรมชาติ ความเรียบง่ายของผู้คน ลาวก็ยืนหนึ่งมาเลยทีเดียว และก็ยังน่าสนใจด้วยอยู่ใกล้ไทย ไม่ต้องขอวีซ่า มีเพียงแค่เวลาสั้น ๆ กับเงินอีกนิดหน่อยก็ไปตะลุยได้แล้ว และถ้าอยากรู้ว่าไปเที่ยวลาวควรไปเช็กอินที่ไหนดี ก็ทางนี้เลย เริ่มกันที่ .... สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของลาว เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมสมัยล้านช้างที่งดงามและสมบูรณ์แบบ โดดเด่นด้วยพระอุโบสถหลังคาแอ่นโค้งลดหลั่นกันลงมา 3 ชั้น ด้านบนประดับด้วยช่อฟ้ามากถึง 17 ยอด หมายถึงเป็นวัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างขึ้น ประตู หน้าต่าง หน้าบัน และบริเวณโดยรอบตกแต่งอย่างงดงาม ด้านในประดิษฐานพระองค์หลวง พระพุทธรูปสมัยล้านช้างสีเหลืองทองสวยอร่าม ที่ด้านหลังของพระอุโบสถเป็นภาพต้นทองสูงใหญ่ พร้อมด้วยสัตว์ในวรรณคดี ซึ่งตกแต่งจากกระจกสีตัดสีสวยแวววับเป็นประกายงดงามทั้งยามกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ยังมีวิหารแดง, หอพระม่าน และโรงเมี้ยนโกศให้ได้ชมกันด้วย ตั้งอยู่กลางเมืองหลวงเก่าหลวงพระบาง สร้างขึ้นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1904 เพื่อเป็นที่พำนักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ หรือเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ พระมหากษัตริย์องค์ที่ 12 ราชอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง และถือว่าเป็นกษัตริย์พระองค์แรกแห่งพระราชอาณาจักรลาวด้วย โดยตัวพระบรมมหาราชวังหลวงพระบางจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมแบบโคโรเนียลผสมผสานกับศิลปะแบบล้านช้าง เปิดให้เข้าชมห้องบรรทม ห้องทรงงาน ห้องพระโรงใหญ่ ห้องพิธีการ และห้องรับแขก พร้อมทั้งยังมีข้าวของเครื่องใช้ ฉลองพระองค์ของกษัตริย์ พระราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ โบราณวัตถุที่สำคัญของประเทศลาว และของขวัญจากนานาประเทศจัดแสดงอยู่ด้วย ทั้งนี้ ทางด้านหน้าของพระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง จะเป็นที่ตั้งของหอพระบาง อันเป็นที่ประดิษฐานของพระบางพุทธลาวัลย์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบาง สามารถเข้าไปกราบไหว้ขอพรและเที่ยวชมกันได้ ตั้งอยู่โดยรอบของพระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง ตั้งแต่ริมฝั่งแม่น้ำโขงไล่เลยไปเรื่อยจนถึงริมฝั่งแม่น้ำคาน โดยบริเวณเมืองเก่านี้จะมีอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งเรียงรายสองฟากฝั่งถนน บางหลังได้รับการปรับปรุงจนสวยงามกลับมามีชีวิตชีวา บ้างก็กลายมาเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟชิค ๆ ซึ่งจะสลับคั่นด้วยวัดสวย ๆ บรรยากาศเงียบสงบ จะเดินเที่ยวหรือขี่จักรยานก็ได้ จุดเช็กอินที่น่าสนใจในเขตเมืองเก่าหลวงพระบาง อาทิ วัดเชียงทอง, วัดใหม่สุวรรณภูมาราม, พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง, พระธาตุภูสี, ตลาดดารา, วัดมหาธาตุ, โจมา เบเกอรี่ คาเฟ่, ตลาดเช้า, ตลาดมืด, สะพานไม้ไผ่ข้ามแม่น้ำคาน, ศูนย์หัตถกรรมผ้าทอออกพบตก และ Saffron Coffee เป็นต้น น้ำตกที่มีความสวยงามมากที่สุดของหลวงพระบาง ตั้งอยู่ใจกลางป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยชั้นที่สูงที่สุดมีความสูงมากถึง 75 เมตร ซึ่งสายน้ำมหาศาลจะไหลลงมาตามหน้าผาแนว 90 องศาสู่แอ่งน้ำกว้างเบื้องล่าง ก่อนจะไหลลงไปตามชั้นต่าง ๆ บางวันจะมีรุ้งกินน้ำพาดผ่านน้ำตก เป็นภาพที่สวยงามมาก มีสะพานไม้ทอดยาวลัดเลาะไปรอบน้ำตก ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปเที่ยวชมได้อย่างใกล้ชิด ส่วนถ้าใครอยากเล่นน้ำก็มีแอ่งน้ำในชั้นล่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ พร้อมทั้งพื้นที่นั่งปิกนิก ร้านอาหาร และร้านกาแฟ อีกหนึ่งน้ำตกที่มีความสวยงามของหลวงพระบาง ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเก่าหลวงพระบางราว ๆ 15 กิโลเมตร การจะเข้าไปยังน้ำตกตาดแส้จะต้องไปลงเรือหางยาวของชาวบ้านที่บริเวณหมู่บ้านบ้านแอน นั่งเรือไปราว ๆ 10 นาที ก็จะพบกับน้ำตกหินปูนขนาดใหญ่ท่ามกลางป่าเขียวขจี น้ำในน้ำตกจะเป็นสีฟ้าเขียวมรกตใสเย็นเจี๊ยบ สามารถลงเล่นน้ำได้หลายจุด มีสะพานไม้ทอดยาวลัดเลาะไปทั่วน้ำตก ใครจะนั่งพักเอาเท้าหย่อนน้ำตรงไหนก็ได้ มีร้านอาหารให้บริการ เป็นเมืองท่องเที่ยวในหุบเขาขวัญใจนักท่องเที่ยวแนวแบ็กแพ็กเกอร์แห่งใหม่ของประเทศลาว ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเก่าหลวงพระบางประมาณ 140 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นเมืองเล็ก ๆ ริมคุ้งแม่น้ำอู ด้านหลังของเมืองเป็นภูเขาสูงใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบมาก ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย มีวิถีชีวิตที่อยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ ยอดผาแดง ซึ่งเป็นหน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวเมืองหนองเขียวได้แบบ 360 องศา พร้อมกับเห็นแม่น้ำอูที่ลัดเลาะแนวภูเขากับภูเขาลูกใหญ่ที่มีรูปร่างสวยแปลกตา เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวชอุ่ม ถ้ามาเที่ยวหน้าฝน ก็จะได้เห็นทะเลหมอกด้วย ปูชนียสถานที่สำคัญ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง โดดเด่นด้วยพระธาตุสีเหลืองทองอร่าม สูงราว ๆ 45 เมตร พระธาตุตรงกลางมีรูปทรงคล้ายกับดอกบัวตูม รายล้อมด้วยพระธาตุองค์เล็กโดยรอบอีก 30 องค์ ซึ่งพระธาตุเล็ก ๆ เหล่านี้ก็มีแผ่นทองคำอยู่ด้วย ทั้งนี้ก็มีหอไหว้ทั้ง 4 ด้าน และมีบันไดขึ้นหอไหว้ทุกด้าน ในแต่ละปีจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุหลวงในวันขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 ประชาชนจะมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก บรรยากาศสนุกสนาน แลนด์มาร์กที่สำคัญของเวียงจันทน์ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บริเวณท้ายสุดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของถนนล้านช้าง สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1957-1968 เพื่อสดุดีวีรชนที่ร่วมรบในการประกาศเอกราชกับฝรั่งเศส มีลักษณะเป็นประตูรูปทรงคล้ายกับอาร์กเดอทรียงฟ์เดอเลตวล หรือ ประตูชัยฝรั่งเศส แต่ตกแต่งในแบบศิลปะล้านช้าง ด้านหน้าเป็นลานน้ำพุกับสวนกว้าง ในช่วงยามเย็นจะมีการเปิดน้ำพุ บรรยากาศสวยงาม สวนพระ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า เชียงควน (Xieng Khuan) ตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองเวียงจันทน์ ห่างจากตัวเมืองราว ๆ 20 กิโลเมตร แต่อยู่ห่างจากฝั่งจังหวัดหนองคายบริเวณสะพานมิตรภาพหนองคาย เพียงแค่ราว ๆ 10 กิโลเมตรเท่านั้น ตัววัดอยู่ใกล้กับลำน้ำโขง โดดเด่นด้วยรูปปั้นของพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามศาสนาพุทธและฮินดูมากกว่า 200 องค์ ซึ่งตั้งกระจายตัวอย่างสวยงามอยู่รอบ ๆ สวน และยังร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ น้ำตกที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ตั้งอยู่ในเมืองปากซ่อง (Paksong) ห่างจากเมืองปากเซราว ๆ 37 กิโลเมตร และห่างจากด่านช่องเม็ก จังหวัดอุบลราชธานี เพียงแค่ประมาณ 80 กิโลเมตรเท่านั้น ความสวยงามของน้ำตกตาดฟานอยู่ที่การเป็นน้ำตก 2 สายไหลดิ่งลงหน้าผาสูงกว่า 100 เมตร อันเป็นปากปล่องภูเขาไฟโบราณ ท่ามกลางป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ แต่ไฮไลต์ของที่นี่ ก็คือ กิจกรรมแนวผจญภัย ทั้งการโหนซิปไลน์ข้ามน้ำตก และการปีนหน้าผาบริเวณน้ำตก ทั้งนี้กิจกรรมโหนซิปไลน์ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เพราะเป็นซิปไลน์ที่มีความสูงราว ๆ 220 เมตรเลยทีเดียว และยังมีให้เลือกว่าจะโหนไปด้วยมือเฉย ๆ หรือจะนั่งจิบกาแฟ รับประกันความหวาดเสียว เป็นพื้นที่ราบสูงบริเวณแขวงจำปาสัก ซึ่งสูงจากน้ำทะเลราว ๆ 1,000-1,400 เมตร พื้นที่โดยรอบมีความสมบูรณ์มาก รายล้อมไปด้วยป่าเขามากมาย มีน้ำตกสวย ๆ หลายแห่ง พร้อมทั้งเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง แต่สิ่งที่ทำให้ที่ราบสูงโบลาเวนเป็นที่รู้จัก ก็คือ ไร่กาแฟอาราบิก้า เพราะทั้งโลเคชั่นและอากาศที่เหมาะสมต่อการปลูก ทำให้กาแฟของที่นี่มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อมลงตัว กลิ่นหอมดึงดูดสุด ๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขตที่ราบสูงโบลาเวน อาทิ น้ำตกตาดฟาน, น้ำตกยาดเยื้อง, ตาดจำปี, อุทยานแห่งชาติดงหัวสาว, ตาดขมึด, ตาดเสือ และตาดผาส้วม เป็นต้น เป็นหมู่เกาะในแม่น้ำโขง บริเวณแขวงจำปาสัก โดยมีเกาะเล็กเกาะน้อยแตกย่อยออกมามากกว่า 4,000 เกาะ ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า สี่พันดอน โดยแต่ละเกาะจะมีชาวบ้านอาศัยอยู่ ส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงและการเกษตร ภายในสี่พันดอนจะมีแหล่งท่องเที่ยวโด่งดังอยู่ 2 แห่ง คือ น้ำตกหลี่ผี และน้ำตกคอนพะเพ็ง สำหรับน้ำตกหลี่ผี จะเป็นน้ำตกที่อยู่ระหว่างดอนคอน (Don Khon) และดอน Sanlat มีลักษณะเป็นแก่งหินสีดำขนาดน้อยใหญ่ขวางลำน้ำโขง เกิดเป็นน้ำตกขนาดมหึมาที่มีพื้นที่กว้างขวางมองไปไกลสุดลูกหูลูกตา สามารถที่จะชมได้จากฝั่งประเทศกัมพูชาด้วย ส่วนน้ำตกคอนพะเพ็ง จะอยู่ทางฝั่งแผ่นดินใหญ่ เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินในลำน้ำโขง ทำให้เกิดแก่งหินสีดำน้อยใหญ่ขวางลำน้ำโขงเช่นกัน และทำให้กลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีรูปร่างสวยงามราวกับน้ำตกไนแองการาในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา นักท่องเที่ยวจึงให้ฉายาว่า ไอแองการาแห่งเอเชีย ตั้งอยู่ห่างจากเมืองปากเซราว ๆ 40 กิโลเมตร เป็นโบราณสถานที่สำคัญทางฝั่งลาวใต้ มีอายุมากกว่า 1,000 ปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 12 ตัวปราสาทตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา มีสถาปัตยกรรมแบบขอม บริเวณโดยรอบจะมีสระน้ำใหญ่อยู่ด้านหน้า 2 สระ เลยจากสระน้ำเข้าไปจะเป็นทางเดินที่ทอดยาวเข้าสู่ตัวปราสาท โดยองค์ประธานของปราสาทจะอยู่ด้านในสุดบนเชิงเขา ถ้ามีเที่ยวช่วงฤดูฝนก็จะได้เห็นป่าเขาและบริเวณโดยรอบของปราสาทเป็นสีเขียวตัดกับสีน้ำตาลของปราสาทอย่างสวยงาม ทั้งนี้ปราสาทหินวัดพูได้รับการจดขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี 2001 น้ำตกลับใจกลางป่าแห่งแขวงอัตตะปือ ห่างจากเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก ราว ๆ 120 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่อยู่บนลำน้ำวังเงา (Vang Ngao River) เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดินทำให้กลายเป็นน้ำตกลักษณะคล้ายกับกำแพงม่านน้ำกว้างใหญ่ ในช่วงหน้าน้ำจะมีน้ำจำนวนมหาศาลจนแทบไม่เห็นร่องหินบนน้ำตก แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าแล้งน้ำจะน้อยลง ทำให้สามารถลงไปเล่นน้ำในแอ่งน้ำใกล้ ๆ น้ำตกได้ พร้อมทั้งยังสามารถทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์อย่างการปีนหน้าผาน้ำตกได้ด้วย ที่เที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของวังเวียง ปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 3 แห่ง ซึ่งทั้งหมดมีลักษณะเป็นบ่อน้ำผุด โดยน้ำในบ่อจะเป็นสีฟ้าสวยใสเย็นฉ่ำ เนื่องจากผุดขึ้นมาจากชั้นหินด้านล่างไหลเรื่อยผ่านดินและหินขึ้นมาเรื่อย ๆ จึงทำให้น้ำใส เมื่อผสมกับแร่ธาตุบางอย่างจึงทำให้มีสีฟ้า ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะลงไปเล่นน้ำได้ มีทั้งชิงช้า แพไม้ไผ่ เชือกให้กระโดดน้ำ พร้อมกับมีเสื้อชูชีพไว้บริการ จุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของวังเวียง ตั้งอยู่บนเขาสูงซึ่งสามารถมองเห็นวิวภูเขาน้อยใหญ่และทุ่งนาป่าเขาที่อยู่โดยรอบได้แบบ 360 องศา โดยที่จุดชมวิวจะเป็นหินบะซอลต์สีดำรูปลักษณ์แปลกตา และที่สำคัญยังมีการนำมอเตอร์ไซค์ฮาร์ลีย์มาตั้งไว้ที่จุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเท่ ๆ กันด้วย การจะขึ้นไปยังจุดชมวิวจะต้องเดินขึ้นเขามีความชันระดับหนึ่ง จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โบราณสถานอันโดดเด่น ซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งหญ้ากว้างห่างจากเมืองโพนสะวันราว ๆ 7 กิโลเมตร โดยเป็นทุ่งหญ้าที่มีไหหินขนาดน้อยใหญ่ตั้งกระจายตัวอยู่บนพื้นที่กว้าง ซึ่งมีมากกว่า 200 ไห สันนิษฐานว่ามีมามากกว่า 2,000-3,000 ปี มีตำนานเล่าสืบต่อกันมาหลายอย่าง บ้างก็ว่าไหเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้ชงเหล้าฉลองชัยชนะของกษัตริย์โบราณที่ต่อสู้กับยักษ์ บ้างก็ว่าใช้ในการเก็บกักน้ำฝนสำหรับกองคาราวานที่เดินทางระยะไกลในเส้นทางแถบนี้ นอกจากนี้ยังมีทุ่งไหหินอีก 2 แห่งที่อยู่ในแขวงเชียงขวางให้ได้ไปเที่ยวชมอีกด้วย อีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวลาวที่จะให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับป่าเขา และวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายอย่างแท้จริง พร้อมกับยังจะได้สนุกสนานไปกับการห้อยโหนซิปไลน์กลางป่าใหญ่ ได้นอนบนบ้านต้นไม้สูงแบบทาร์ซาน ท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์สุด ๆ ซิปไลน์แต่ละจุดจะมีความสูงและยาวแตกต่างกันออกไป โดยสถานีที่ยาวที่สุดจะอยู่ที่ 600 เมตรเลยทีเดียว โดยจะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสกับบรรยากาศดังกล่าวภายในพื้นที่ของ Bokeo National Park ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ gibbonexperience.org เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศลาว ตั้งอยู่ในเมืองคูนคำ แขวงคำม่วน ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 นครพนม ราว ๆ 170 กิโลเมตร ด้านในของถ้ำมีความลึกถึง 7 กิโลเมตร โดยจะมีทางน้ำไหลผ่านถ้ำ โดยทางน้ำดังกล่าวนั้นก็คือ แม่น้ำภูหินบูน นักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือเข้าไปชมบรรยากาศภายในถ้ำ และได้แวะลงเที่ยวชมตามจุดหินงอกหินย้อยสวย ๆ พร้อมทั้งหาดทรายกว้างภายในถ้ำ แล้วนั่งเรือทะลุไปยังอีกฝั่งของถ้ำ เป็นอีกหนึ่งถ้ำที่น่าสนใจของลาว ตั้งอยู่ที่เมืองเวียงไซ แขวงหัวพัน ทางด้านทิศตะวันออกของประเทศลาว มีลักษณะเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ด้านในยาวราว ๆ 140 เมตร มีการขุดเจาะให้กลายเป็นห้องต่าง ๆ ที่สามารถรองรับผู้คนได้มากถึง 20,000 คน ด้วยที่นี่เคยเป็นสถานที่หลบภัยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในขณะนั้นผู้นำต่าง ๆ จะมีฐานประจำการอยู่ภายในถ้ำกว่า 12 แห่งในประเทศลาว โดยถ้ำที่มีชื่อเสียง ก็คือ ถ้ำเวียงไซ แห่งนี้นี่เอง ห้องที่น่าสนใจภายในถ้ำเวียงไซ อาทิ ห้องนอน, ห้องประชุม, ห้องรับแขก, ห้องหลบภัย และห้องสำหรับเล่นกีฬา เป็นต้น และนับเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับขาเที่ยวทั้งหลาย เพราะตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป ประเทศลาวพร้อมเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัวแล้ว แต่ต้องได้รับวัคซีนครบโดสตามที่กำหนด โดยไม่จำเป็นต้องใช้ผลตรวจโควิด 19 ยืนยัน เพียงแค่ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) และหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccine Passport) นอกจากนี้ด่านพรมแดนสากลก็จะกลับมาทำการเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เดินทางไป-มาอีกครั้ง จากเดิมอนุญาตให้เฉพาะรถบรรทุกสินค้าเข้า-ออกประเทศเท่านั้น สามารถดูรายระเอียดข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ "ลาวประกาศเปิดประเทศและพรมแดนสากลรับนักท่องเที่ยวแบบไม่กักตัว ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. 65" ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของที่เที่ยวลาวสวย ๆ เท่านั้น ยังมีอีกหลายสถานที่ที่มีความน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติ หรือที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ travel.kapook.com นะ :) หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ขอบคุณข้อมูลจาก tourismlaos.org, visit-laos.com, unesco.org, vatphou-champassak.com
แสดงความคิดเห็น