
ผืนป่านอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด โดยเฉพาะสัตว์สงวนแล้ว ป่ายังช่วยสร้างสมดุลให้กับโลกของเรา คอยอุ้มน้ำให้ไหลลงสู่ดินชั้นล่างเพื่อสร้างความชุ่มชื้นและช่วยลดการพังทลายของดิน นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งของต้นน้ำลำธารอีกด้วย จึงนับว่าป่ามีความสำคัญต่อทุกชีวิต แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ปัจจุบันผืนป่ากลับค่อย ๆ ลดลงไป เพราะถูกรุกรานจากมนุษย์ ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า การล่าสัตว์ และวันนี้เรามีข้อมูล 10 ป่าไม้น่าเที่ยวจากทั่วโลกที่ควรไปเยือนสักครั้งก่อนสูญพันธุ์ จากเว็บไซต์ amerikanki มาบอกเล่ากัน ที่สำคัญอย่าเที่ยวเพลินจนลืมที่จะช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่านะคะ
1. ป่ามาดากัสการ์ (Madagascar)

ภาพจาก wordseals
มาดากัสการ์ เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก และเป็นที่ซึ่งมีสัตว์ป่าหลากหลายพันธุ์อาศัยอยู่ โดยเฉพาะสัตว์บางชนิดที่หาดูได้ในเขตป่าฝนของมาดากัสการ์เท่านั้น แต่ป่าแห่งนี้กลับมีเจ้าหน้าที่ดูแลน้อยลง ทำให้เกิดช่องว่างและส่งผลให้มีการรุกรานผืนป่าและสัตว์ต่าง ๆ นี่จึงทำให้สัตว์บางชนิดรวมถึงแมลงที่ขึ้นชื่อว่าเคยอยู่ในป่ามาดากัสการ์อันอุดมสมบูรณ์ค่อย ๆ สูญพันธุ์ไปอย่างน่าเสียดาย อีกทั้งพรรณพืชท้องถิ่นที่หาดูไม่ได้ในที่อื่นก็ค่อย ๆ ลดลงไปด้วย
รู้หรือไม่? วันป่าไม้โลก มีความสำคัญมากกว่าที่คุณคิด! เจาะลึกผลกระทบจากการตัดไม้ และวิธีที่เราช่วยโลกได้ อ่านเลย!

ป่าตะวันออกแอโฟรมอนตาเนมีขนาดกว้างใหญ่ ครอบคลุมประเทศซาอุดิอาระเบีย ไปจนถึงประเทศซิมบับเว แถมยังมีพืชพรรณประจำถิ่นมากมาย รวมถึงยังมากที่สุดในภูมิภาคอื่น ๆ ของทวีปแอฟริกาด้วย นอกจากนี้ ยังมีสัตว์เฉพาะถิ่นจำนวนมากกว่า 600 ชนิด ที่หาดูไม่ได้ในที่อื่น ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก และปลาน้ำจืด จึงเป็นที่น่าเสียดายว่าผืนป่าแห่งนี้ถูกนำไปเป็นพื้นที่ปลูก กล้วย ถั่ว และไร่ชา

สหรัฐอเมริกา คือ หนึ่งในประเทศที่มีผืนป่าซึ่งใกล้สูญพันธุ์ และหนึ่งในนั้น คือ เขตพืชพรรณธรรมชาติในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งมีต้นไม้ยักษ์ อย่างต้นเรดวูด (Redwood) และต้นไจแอนท์ซีคัวญ่า (Giant Sequoia) ต้นไม้ตระกูลสนที่ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย เรียกว่าหากเข้าไปอยู่ในนี้ละก็ คุณจะกลายเป็นมนุษย์ตัวจิ๋วทันทีเลย และยิ่งได้เห็นแร้งยักษ์บินโฉบเฉี่ยวอยู่ด้านบนด้วยแล้ว ความรู้สึกจะเหมือนว่ากำลังผจญภัยในเมืองยักษ์อย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ เพราะความน่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้เอง จึงควรไปเยือนสักครั้งก่อนที่มันจะสูญพันธุ์นะคะ

ถือเป็นดาบสองคมสำหรับผืนป่าที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์อย่าง ป่าแถบชายฝั่งของแอฟริกาตะวันออก ที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ อีกทั้งยังมีแม่น้ำไหลผ่าน จึงเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของสัตว์ป่ามากมาย เช่น ลิงพันธุ์ Zanzibar Red Colobus ที่มีขนนุ่มและจะมีขนสีขาวฟูตั้งชันอยู่บริเวณส่วนหัวของลิง และด้วยเหตุนี้เองทำให้มีนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกพากันมาเยี่ยมเยือนและซึมซับอากาศบริสุทธิ์และชมสัตว์ป่าหายากของที่นี่ และด้วยจำนวนคนที่มากเกินไป บางครั้งก็เป็นการรบกวนป่าไม้ทางอ้อมได้เช่นกัน

ในภูเขาสูงของจีนนั้นมีป่าไม้ซึ่งเป็นที่อยู่ของแพนด้ายักษ์ (The Giant Panda) และแพนด้าแดง (The Red Panda) ซึ่งถือเป็นสัตว์หายยากในปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าจะลดจำนวนลงเรื่อย ๆ เนื่องจากการสร้างถนนตัดผ่านบริเวณภูเขา และการสร้างเขื่อนก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ป่าไม้เสียหายจนบรรดาสัตว์ป่าทั้งหลายไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ที่สำคัญมีเพียง 8 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ป่าทั้งหมดเท่านั้นที่ยังคงความสมบูรณ์และปราศจากการถูกรุกราน

ป่าแอตแลนติกมีพื้นที่กว้างใหญ่ ครอบคลุมหลายประเทศ ได้แก่ บราซิล อาร์เจนตินา ปารากวัย และอุรุกวัย กว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่มีพืชพรรณท้องถิ่นกว่า 20,000 ชนิด อยู่ทั่วบริเวณ และอีกกว่าหลายสิบสายพันธุ์ของสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ โดยเฉพาะ ลิงไลออนทามาริน (Lion tamarin) ลิงขนาดเล็กที่อาศัยในป่าดิบชื้น โดยจะพบเฉพาะทางฝั่งตะวันออกของบราซิลติดมหาสมุทรแอตแลนติก และบริเวณผืนป่าแอตแลนติกก็มีพื้นที่ลดลงเนื่องจากถูกตัดเพื่อนำไปทำไร่กาแฟ
ป่าซุนดาแลนด์เคยมีพื้นที่ครอบคลุมหมู่เกาะมากมาย ทั้งเกาะเบอร์เนียว (Borneo) และเกาะสุมาตรา (Sumatra) และยังเป็นที่รู้กันดีว่าป่าซุนดาแลนด์ เป็นที่ซึ่งมีลิงอุรังอุตังอาศัยอยู่มากมายพอ ๆ กับแรด และสัตว์ป่าหายากอีกจำนวนมาก แต่ปัจจุบันนี้นอกจากผืนป่าจะถูกทำลายแล้ว บรรดาสัตว์ป่ายังถูกล่าเพื่อนำไปทำยาปฏิชีวนะตามความเชื่อผิด ๆ ของมนุษย์อีกด้วย

ประเทศฟิลิปปินส์ประกอบด้วยเกาะมากมายกว่า 7,000 เกาะ ที่นี่จึงเป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยว แต่ในขณะเดียวกัน ยิ่งมีนักท่องเที่ยวเยอะก็ทำให้ธรรมชาติถูกรบกวนเยอะไปด้วย โดยเฉพาะป่าของประเทศฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันถูกโค่นทำลายกลายเป็นที่พักและรีสอร์ทเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ทำให้บรรดาสัตว์ต่าง ๆ ค่อย ๆ ลดลงไป อย่างเช่น กบบินได้ (Flying Frog) และนกอินทรีย์ยักษ์ฟิลิปปินส์ (The Philipino Eagle) ที่หาดูไม่ได้ในป่าอื่น ๆ

ประเทศนิวแคลิโดเนีย เป็นเกาะที่อยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก จุดเด่นของป่าแห่งนี้ คือ มีพันธุ์พืชท้องถิ่น 5 ชนิด ซึ่งมีเฉพาะในป่านิวแคลิโดเนียเท่านั้น และหนึ่งในห้าชนิดนั้น คือ ต้นไม้จำพวกกาฝาก (Parasitic) ที่เกาะตามกิ่งก้านของไม้กลุ่มสนซึ่งพบได้ที่นี่ที่เดียวในโลก และเนื่องจากประเทศนิวแคลิโดเนียเริ่มเป็นที่รู้จัก จึงมีนักท่องเที่ยวมากมายที่ต้องการเดินทางมาชมผืนป่าอันสวยงาม ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเติบโตขึ้น จึงมีการก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งการใช้ผืนป่าทำเหมืองแร่จำพวกนิกเกิล (Nickel) ด้วย

ป่าอินโดฯ-พม่า ครอบคลุมหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้นชื่อว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพ และมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้ สัตว์ป่า และแหล่งน้ำ แต่ด้วยจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ความต้องการทางด้านอาหารจึงเพิ่มขึ้น พื้นที่ของป่าส่วนใหญ่จึงถูกเผาและถางเพื่อเตรียมทำการเกษตร ซึ่งมีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่เท่านั้นที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่ จึงส่งผลให้ทั้งสัตว์ป่าและสัตว์น้ำจืดขนาดใหญ่ค่อย ๆ ลดลงไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสือโคร่งอินโดจีน ที่ใกล้สูญพันธุ์เต็มที
การช่วยกันดูแลผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากลองพิจารณาดี ๆ เราสามารถแจ้งเบาะแสหรือคอยเป็นหูเป็นตาช่วยเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้หากเจอคนบุกรุกป่า หรืออย่างน้อยที่สุดเลย คือ หากเราไม่สามารถห้ามใครได้ แต่เราสามารถห้ามตัวเองไม่ให้ทำลายผืนป่าได้ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อผืนป่าของเราค่ะ
2. ป่าตะวันออก แอโฟรมอนตาเน (Eastern Afromontane)

ภาพจาก fragmentedforests
ป่าตะวันออกแอโฟรมอนตาเนมีขนาดกว้างใหญ่ ครอบคลุมประเทศซาอุดิอาระเบีย ไปจนถึงประเทศซิมบับเว แถมยังมีพืชพรรณประจำถิ่นมากมาย รวมถึงยังมากที่สุดในภูมิภาคอื่น ๆ ของทวีปแอฟริกาด้วย นอกจากนี้ ยังมีสัตว์เฉพาะถิ่นจำนวนมากกว่า 600 ชนิด ที่หาดูไม่ได้ในที่อื่น ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก และปลาน้ำจืด จึงเป็นที่น่าเสียดายว่าผืนป่าแห่งนี้ถูกนำไปเป็นพื้นที่ปลูก กล้วย ถั่ว และไร่ชา
3. เขตพืชพรรณธรรมชาติในแคลิฟอร์เนีย (California Floristic Province)

ภาพจาก fragmentedforests
สหรัฐอเมริกา คือ หนึ่งในประเทศที่มีผืนป่าซึ่งใกล้สูญพันธุ์ และหนึ่งในนั้น คือ เขตพืชพรรณธรรมชาติในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ซึ่งมีต้นไม้ยักษ์ อย่างต้นเรดวูด (Redwood) และต้นไจแอนท์ซีคัวญ่า (Giant Sequoia) ต้นไม้ตระกูลสนที่ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย เรียกว่าหากเข้าไปอยู่ในนี้ละก็ คุณจะกลายเป็นมนุษย์ตัวจิ๋วทันทีเลย และยิ่งได้เห็นแร้งยักษ์บินโฉบเฉี่ยวอยู่ด้านบนด้วยแล้ว ความรู้สึกจะเหมือนว่ากำลังผจญภัยในเมืองยักษ์อย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ เพราะความน่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้เอง จึงควรไปเยือนสักครั้งก่อนที่มันจะสูญพันธุ์นะคะ
4. ป่าแถบชายฝั่งของแอฟริกาตะวันออก (Coastal Forests of East Africa)

ภาพจาก barkingzebratours
ถือเป็นดาบสองคมสำหรับผืนป่าที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์อย่าง ป่าแถบชายฝั่งของแอฟริกาตะวันออก ที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ อีกทั้งยังมีแม่น้ำไหลผ่าน จึงเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของสัตว์ป่ามากมาย เช่น ลิงพันธุ์ Zanzibar Red Colobus ที่มีขนนุ่มและจะมีขนสีขาวฟูตั้งชันอยู่บริเวณส่วนหัวของลิง และด้วยเหตุนี้เองทำให้มีนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกพากันมาเยี่ยมเยือนและซึมซับอากาศบริสุทธิ์และชมสัตว์ป่าหายากของที่นี่ และด้วยจำนวนคนที่มากเกินไป บางครั้งก็เป็นการรบกวนป่าไม้ทางอ้อมได้เช่นกัน
5. ป่าเขาด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีน (Mountains of Southwest China)

6. ป่าแอตแลนติก (Atlantic Forest)

ภาพจาก thaily.deviantart
ป่าแอตแลนติกมีพื้นที่กว้างใหญ่ ครอบคลุมหลายประเทศ ได้แก่ บราซิล อาร์เจนตินา ปารากวัย และอุรุกวัย กว่าสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของพื้นที่มีพืชพรรณท้องถิ่นกว่า 20,000 ชนิด อยู่ทั่วบริเวณ และอีกกว่าหลายสิบสายพันธุ์ของสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ โดยเฉพาะ ลิงไลออนทามาริน (Lion tamarin) ลิงขนาดเล็กที่อาศัยในป่าดิบชื้น โดยจะพบเฉพาะทางฝั่งตะวันออกของบราซิลติดมหาสมุทรแอตแลนติก และบริเวณผืนป่าแอตแลนติกก็มีพื้นที่ลดลงเนื่องจากถูกตัดเพื่อนำไปทำไร่กาแฟ
7. ป่าซุนดาแลนด์ (Sundaland)
ป่าซุนดาแลนด์เคยมีพื้นที่ครอบคลุมหมู่เกาะมากมาย ทั้งเกาะเบอร์เนียว (Borneo) และเกาะสุมาตรา (Sumatra) และยังเป็นที่รู้กันดีว่าป่าซุนดาแลนด์ เป็นที่ซึ่งมีลิงอุรังอุตังอาศัยอยู่มากมายพอ ๆ กับแรด และสัตว์ป่าหายากอีกจำนวนมาก แต่ปัจจุบันนี้นอกจากผืนป่าจะถูกทำลายแล้ว บรรดาสัตว์ป่ายังถูกล่าเพื่อนำไปทำยาปฏิชีวนะตามความเชื่อผิด ๆ ของมนุษย์อีกด้วย
8. ป่าฟิลิปปินส์ (The Philippines)

ประเทศฟิลิปปินส์ประกอบด้วยเกาะมากมายกว่า 7,000 เกาะ ที่นี่จึงเป็นสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยว แต่ในขณะเดียวกัน ยิ่งมีนักท่องเที่ยวเยอะก็ทำให้ธรรมชาติถูกรบกวนเยอะไปด้วย โดยเฉพาะป่าของประเทศฟิลิปปินส์ที่ปัจจุบันถูกโค่นทำลายกลายเป็นที่พักและรีสอร์ทเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ทำให้บรรดาสัตว์ต่าง ๆ ค่อย ๆ ลดลงไป อย่างเช่น กบบินได้ (Flying Frog) และนกอินทรีย์ยักษ์ฟิลิปปินส์ (The Philipino Eagle) ที่หาดูไม่ได้ในป่าอื่น ๆ
9. ป่านิวแคลิโดเนีย (New Caledonia)

10. ป่าอินโดฯ-พม่า (Indo-Burma)

ภาพจาก fragmentedforests
ป่าอินโดฯ-พม่า ครอบคลุมหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้นชื่อว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพ และมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้ สัตว์ป่า และแหล่งน้ำ แต่ด้วยจำนวนประชากรเพิ่มขึ้น ความต้องการทางด้านอาหารจึงเพิ่มขึ้น พื้นที่ของป่าส่วนใหญ่จึงถูกเผาและถางเพื่อเตรียมทำการเกษตร ซึ่งมีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่เท่านั้นที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่ จึงส่งผลให้ทั้งสัตว์ป่าและสัตว์น้ำจืดขนาดใหญ่ค่อย ๆ ลดลงไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสือโคร่งอินโดจีน ที่ใกล้สูญพันธุ์เต็มที
การช่วยกันดูแลผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว หากลองพิจารณาดี ๆ เราสามารถแจ้งเบาะแสหรือคอยเป็นหูเป็นตาช่วยเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้หากเจอคนบุกรุกป่า หรืออย่างน้อยที่สุดเลย คือ หากเราไม่สามารถห้ามใครได้ แต่เราสามารถห้ามตัวเองไม่ให้ทำลายผืนป่าได้ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อผืนป่าของเราค่ะ