เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก mentalfloss.com
หอไอเฟล ถือเป็นแลนด์มาร์กอันโด่งดังของประเทศฝรั่งเศส ที่นับตั้งแต่สร้างมาก็ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยี่ยมชมแล้วมากกว่า 2 ร้อยล้านคน และใครเลยจะรู้ว่า เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา หอไอเฟลมีอายุครบรอบ 125 ปีแล้ว วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเรื่องราวของหอไอเฟลมาฝาก เพื่อร่วมฉลอง 125 ปี หอไอเฟลไปกับเขาด้วยคน
หลายคนคงไม่เคยทราบมาก่อนว่า หอไอเฟล (Eiffel Tower) ก่อสร้างขึ้นภายใต้ความไม่เห็นชอบนักจากชาวปารีเซียงในช่วงเริ่มต้น แต่ในที่สุดมันก็กลายเป็นความภาคภูมิใจ และกลายเป็นแลนด์มาร์กหรือสัญลักษณ์สำคัญของประเทศฝรั่งเศสมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานนิทรรศการนานาชาติ (Universal Exposition) เมื่อปี พ.ศ. 2432 จนถึงทุกวันนี้ก็เพิ่งจะครบรอบ 125 ปี แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแห่งนี้ก็ยังเก็บงำที่มาที่ไปที่น่าสนใจเอาไว้ไม่น้อย งั้นเรามาไขเรื่องราวของหอคอยแห่งนี้เนื่องในโอกาสครบ 125 ปี หอไอเฟล ที่รวบรวมไว้โดยเว็บไซต์ mentalfloos ไปพร้อม ๆ กันเลย
++++++++++++
2. วิศวกรทั้งสองนายได้ออกแบบสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับมอบหมายในรูปลักษณ์ของ เสาไฟฟ้าขนาดยักษ์ (Great Pylon) ที่มีฐาน 4 มุม พร้อมลวดลายสานขัดกันเป็นลายตาราง แต่เมื่อโชว์แบบพิมพ์เขียวให้กับ กุสสตาฟ ไอเฟล สถาปนิกเจ้าของโครงการที่ผู้รับผิดชอบงานดู ไอเฟลกลับไม่ถูกใจเท่าใดนัก
3. เมื่อเป็นดังนี้ วิศวกรทั้งคู่จึงเก็บแบบพิมพ์เขียวไปขอความช่วยเหลือจาก สตีเฟน โซเวส์ สถาปนิกอีกราย ให้ปรับแก้ออกแบบเพิ่มเติมใหม่ โดยนายสตีเฟนได้เพิ่มรายละเอียดด้วยส่วนโค้งเว้าและรูปทรงโดมเพิ่มลงไป
4. ในที่สุดโครงการสร้างพระเอกของงานนิทรรศการนานาชาติก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง กุสสตาฟ ไอเฟล ได้จดสิทธิบัตรแบบของสิ่งปลูกสร้างนี้ และได้รับทุนจำนวน 1.5 ล้านฟรังก์เพื่อดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งในภายหลังก็ไม่เพียงพอจนต้องมีการระดมทุนเพิ่มเติม
5. ด้วยความที่สิ่งปลูกสร้างนี้จะกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ตั้งตระหง่านเด่นหราเตะตาโดยไม่ต้องใช้ความพยายามสังเกต เหล่าศิลปินคนสำคัญจากแขนงต่าง ๆ ทั่วกรุงปารีสที่เห็นค้านในการก่อสร้างหอไอเฟลจึงได้รวมตัวกัน แล้วตั้งคณะกรรมการ 300 (Committee of Three Hundred) ขึ้นมา เพื่อคัดค้านการสร้างหอไอเฟล โดยได้ร่อนจดหมายไปยัง Le Temps หนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมที่สุดในขณะนั้นของฝรั่งเศส ให้ตีพิมพ์ข้อความคัดค้านที่มีใจความว่า
"พวกเรา นักประพันธ์ ช่างวาด ช่างปั้น สถาปนิก และผู้อุทิศตนแด่ความงามแห่งกรุงปารีส ขอคัดค้านอย่างสุดกำลัง ด้วยความโกรธเคืองในนามของรสนิยมแห่งปารีเซียงที่ถูกมองข้าม ต่อการสร้างหอสูงตั้งเด่แห่งนี้ ต่อสิ่งที่ไร้ประโยชน์ และชั่วร้ายเช่นหอไอเฟล เพื่อจะนำคำร้องของเราไปพิจารณา ขอให้จินตนาการถึงภาพที่กรุงปารีสมีสิ่งปลูกสร้างหน้าตาประหลาดที่แข็งกระด้าง และดำทะมึนนี้ตั้งอยู่ในเมือง มันเหยียบย่ำความยิ่งใหญ่ของมหาวิหารน็อทร์ ดาม, หอคอย แซ็ง ฌาค, พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์, เลแซงวาลิด ที่ซึ่งฝังพระศพของกษัตริย์นโปเลียน และประตูชัยแห่งฝรั่งเศส สิ่งปลูกสร้างเดิมเหล่านี้จะถูกลดเกียรติ และจมหายไปกับความฝันที่น่าเกลียดน่ากลัว และอีกนับ 20 ปีต่อไป เราก็คงจะเห็นแท่งเหล็กระฟ้าที่น่าเกลียดตั้งตระหง่านอยู่เรื่อยไป"
6. แต่แม้กระแสคัดค้านจะเชี่ยวกรากเพียงใด ในปี 2432 หอไอเฟลก็ถูกก่อสร้างจนเสร็จสมบูรณ์ จากแท่งเหล็ก 18,038 แท่ง และหมุดเหล็กอีกกว่า 2.5 ล้านตัว ทันเวลาพอดีกับนิทรรศการนานาชาติที่กำลังจะมาถึง มันกลายเป็นสิ่งปลูกสร้างด้วยฝีมือมนุษย์ที่สูงที่สุดในขณะนั้น
7. หอไอเฟลครองตำแหน่งสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดเป็นเวลาติดต่อกันยาวนาน 41 ปี ก่อนจะถูกล้มแชมป์ด้วยตึกไครสเลอร์ ในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2473
8. หลากเสียงวิจารณ์ตั้งฉายาเสียดสีให้หอไอเฟลต่าง ๆ กันไป ทั้ง "เสาไฟสุดโศก" (truly tragic streetlamp) "กรวยก้นปัก" (funnel planted on its own butt) รวมถึง "หน่อไม้ฝรั่งเหล็ก" (metal asparagus)
9. ความจริงหอไอเฟลเกือบต้องถูกรื้อถอนไปแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2452 แต่ด้วยความสูงตระหง่านของมันเอื้อประโยชน์อย่างมากในการใช้เป็นเสาส่งสัญญาณสื่อสาร มันจึงรอดพ้นการถูกรื้อถอนมาได้จนถึงปัจจุบัน
10. แม้จะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์เมื่อแรกเริ่มก่อสร้าง แต่หอไอเฟลก็นำมาซึ่งความภาคภูมิใจแก่ชาวฝรั่งเศสได้ในภายหลัง และยังสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยวไม่น้อย นับจวบจนถึงปัจจุบันหอไอเฟลดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชมได้แล้วกว่า 250 ล้านคน
