เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ SOP-OuK สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
เราเชื่อว่าทุกคนต่างก็มีสถานที่ท่องเที่ยวในฝัน ประเทศที่อยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต และหนึ่งในนั้นคงเป็น "ประเทศญี่ปุ่น" ด้วยเอกลักษณ์ความงดงามต่าง ๆ รวมถึงความแปลกใหม่ของวัฒนธรรม ประเพณี อาหารการกิน หรือวิถีชีวิต จึงทำให้ญี่ปุ่นอยู่ในอันดับต้น ๆ ของประเทศในฝัน ซึ่งบางคนอาจจะเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นหลายครั้งแล้ว บางคนยังไม่เคย (ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสำหรับการเที่ยวญี่ปุ่น ดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ) แต่สำหรับคนที่กำลังจะไป ก็ลองตามบันทึกการเดินทางที่มาพร้อมถ่ายภาพสวย ๆ ของ คุณ SOP-OuK สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เพราะบอกเล่าความรู้สึกในการมาเยือนดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัยครั้งแรกได้เป็นอย่างดี เอาล่ะ ! พร้อมแล้วก็ไปตะลุยเที่ยวกันเลย
++++++++++++++++++++++++
สวัสดีพี่ ๆ ทุกคน..ที่หลงแวะเข้ามาอ่านเข้ามาชมครับ
#ขอแทรกนิดนึงดีใจไม่คิดกว่าชีวิตนี้จะได้ขึ้นแนะนำกับเค้า ตอนนี้ลงรูปเพิ่มอยู่ที่ความเห็นด้านล่างนะครับ ตอนแรกตั้งกระทู้นี้เพื่อลงรูปอย่างเดียว แต่เหมือนจะมีคนถามมาเรื่องค่าใช้จ่ายกับการเดินทางด้วย จริง ๆ ผมมีเขียนไว้อ่านเองกับให้เพื่อน ๆ อ่านด้วย ถ้าใครอยากรู้เรื่องการเดินทางด้วยลองเข้าไปอ่านได้ที่นี่นะครับ >>>> http://natthamonphisit.blogspot.com/2014/03/review-1-intro.html
ที่เรียกพี่ ๆ คงเป็นเพราะผมไม่ค่อยจะได้เข้ามาโพสต์อะไรแบบนี้เท่าไหร่ เรียกได้ว่าคงเป็นน้องใหม่สำหรับเว็บนี้ จากการที่ชมผลงานของพี่ ๆ ท่านอื่นมากมาย เป็นแรงบันดาลใจหลาย ๆ อย่าง ก็อยากจะเข้ามาแบ่งปันผลงานของตัวเองให้ผู้อื่นได้รับชมบ้าง ไม่รู้ว่าจะสวยพอมั้ยสำหรับมือใหม่แบบผม แต่ถ้าผมไม่เริ่ม ผมคงอยู่ที่เดิม หลังจากงานวุ่น ๆ ไปเที่ยวมาก็ดองรูปไว้เต็ม ไปเที่ยวเดือนกุมภาพันธ์ แต่กว่าจะทำอะไรเสร็จเมษายนซะงั้น แหวกกระแสสงกรานต์ร้อน ๆ เปียกชุ่มฉ่ำ แบบแหวกแนวทีเดียว เพราะผมไปเที่ยว ญี่ปุ่นฤดูหนาว หนาวมาก ๆ ต่างกับอากาศขณะที่ตั้งกระทู้ลิบลับ
เกริ่นนิดนึง (จะมีคนอ่านมั้ยยยย) ผมมีโอกาส จริง ๆ ไม่เรียกโอกาส แต่เป็นความฝันของคนที่ชอบอะไรหลาย ๆ อย่างของประเทศญี่ปุ่น วางแผนกันมานาน ในที่สุดผมก็ได้มีโอกาสได้บินไปดินแดนในฝันกับเค้าบ้าง ตะลุยโตเกียวกัน 7 วัน 7 คืน เต็ม ๆ ไม่ไปที่อื่น (กะว่ายังไงต้องมาอีกแน่ ๆ) และไม่ผิดหวัง ที่นี่เป็นที่แรกที่ผมอยากจะยกกล้องตลอดเวลา ถ่ายทุกอย่างที่ขวางหน้ากันเลยทีเดียว ไม่พูดต่อแล้วครับ ลงรูปบ้าง (กระทู้ลงรูปแกพูดซะเยอะเลยนะ)
รูปปีกเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต T^T เพิ่งเคยขึ้นเครื่องครั้งแรก ตื่นเต้นได้อีก เอากล้องเก็บในกระเป๋า ใส่ขึ้นไปบนชั้นวาง เข้าไปนั่งริมหน้าต่างนึกได้ลืมกล้อง นั่งวิตกกังวลว่าเฮ้ย ! เราจองที่แล้วเค้าจะให้เราลุกไปหยิบกล้องมั้ยนะ นั่งกลัวอยู่ตั้งนาน สุดท้ายถึงรู้ว่าเค้าให้หยิบของได้
หลังจากผ่านการผจญภัยมามากมาย ในที่สุดก็ถึงสนามบิน (วันที่ผมไปเป็นวันที่หิมะตกรุนแรงมาก ในรอบหลายสิบปี ทำให้กว่าเครื่องจะลงดีเลย์กันไปนาน) แอบได้ไปลงแถว ๆ โอซาก้าเพื่อพักเครื่องก่อนด้วย
ถึงแล้วดินแดนในฝัน เช้าขนาดที่ยังไม่มีคนเลย สถานีรถไฟเปิด ก็รีบบึ่งไปที่พัก
หิมะครั้งแรกในชีวิตครับ เธอสวยมาก แล้วเธอก็โหดมาก เพราะผมไม่ได้เตรียมรองเท้าสำหรับลุยหิมะมาเลย
ระหว่างทางไปที่พักผมพักที่ Khoasan Tokyo Samurai ครับ ใครที่มา Asakusa คงต้องเคยเห็นสะพานนี้แน่ ๆ จริง ๆ มีสะพานที่อยู่ใกล้ ๆ กันอีก 2 สี คือ สีเขียวกับสีแดงครับ
ใกล้ถึงที่พัก Tokyo Skytree ตั้งเด่นให้เห็นไม่ไกล (แต่จริง ๆ ไกลนะครับ ฮ่า ๆ)
อย่างที่บอกตอนแรก เจออะไรผมก็กดหมดนะครับ ผมรู้สึกชอบที่นี่ในทุกอย่างจริง ๆ
ทุกอย่างดูแปลกตาครับ แม้ผมจะทำงานอยู่ใน กทม. มีตึกสูง ๆ มากมาย แต่โซนแถว ๆ ที่ผมทำงาน ก็ไม่ได้มีตึกแบบนี้อยู่ทั่วไปนัก
อาหารมื้อแรก บางคนอาจคิดว่ามาญี่ปุ่นต้องกินปลาดิบสิ แต่ผมกินไม่ได้ครับ ลองกี่รอบก็กินไม่ลง มันหยึยง่ะ
Akihabara นะครับ แต่รูปนี้มีอะไรแปลก ๆ โฆษณาบางตัวดูไม่ค่อยเข้ากับย่านการ์ตูน แต่อยู่ไปสักพักก็จะพบว่ามันพบได้ทั่วไปครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมทำอยู่ตลอดตอนมาเที่ยวที่นี่ คือ ผมจะมองขึ้นไปบนฟ้า เพราะเราจะตัวเล็กเหลือเกินเมื่ออยู่ที่นี่ครับ
ธุรกิจเกมและการ์ตูน สองเรื่องนี้อาจดูเป็นเรื่องไม่ค่อยมีสาระเมื่ออยู่ในบ้านเรา แต่บ้านเค้าผมคิดว่าวัน ๆ หนึ่งคงทำเงินได้หลายล้านเยนเลยทีเดียว
ฉันเดินหลงทางอยู่กลางผู้คน ดูสับสนวุ่นวาย เสียอย่างที่ตอนนั้นไม่ใช่เพลงฤดูร้อน เพราะมันหนาวมากกกกก
ถูกใจมุมไหน ก็กดเข้าไปนะครับ พก Memory กัน 4-5 ใบ เลยทีเดียว กลัวพลาดครับ กว่าจะเก็บตังค์มาได้ มนุษย์เงินเดือนแบบผมคงไม่ได้มาอีกง่าย ๆ
ตอนแรกว่าจะเรียงลำดับรูปตามวันที่ไป แต่เดี๋ยวจะยาวเกินไป ขอเลือกรูปที่ชอบเลยละกันครับ Tokyo Tower ครับ อลังมาก ฟินมาก ถ่ายไปพี่ รปภ. มองไป เพราะตั้งขาตั้งต่ำแทบติดพื้น พี่คงแบบนึกในใจ ไอ้นี่มาแปลกกว่าคนอื่นเค้าแฮะ
อีกมุมจากตึก โมริ ทาวเวอร์ครับ มาที่นี่ผมหมดกับค่าขึ้นตึกไปหลายอยู่ ขึ้นทุกตึกที่เป็นไปได้ อยากไปเห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นครับ
ขึ้นไปยืนหนาวเป็นชั่วโมงเพื่อรอฟ้ามืดเลยครับ
Rainbow Bridge ที่ Odaiba ครับ นี่ก็ออกไปยืนตากลมเป็นชั่วโมงเพื่อรอฟ้ามืดครับ คุ้มค่ากับการรอคอยจริง ๆ
อีกมุมของ Rainbow Bridge มุมนี้แอบน่ากลัวเพราะอยู่ในสวนสาธารณะมืด ๆ คนเดียว แต่ความอยากถ่ายรูปชนะทุกสิ่งครับ รอได้ เรารอได้
คนโสดแต่ดันไปญี่ปุ่นช่วงวาเลนไทน์นะครับ แต่ละที่ก็จัดเต็มกันเลย
พายุหิมะรุนแรงมาก ทุกอย่างดูขาวไปหมดเลยครับ
ผมใส่เสื้อผ้าไม่รู้กี่ชั้น แต่เด็ก ๆ ที่นี่ใส่กระโปรงเดินชิลเลยครับ สุดยอดดด
หิมะเริ่มละลายแล้ว
หิมะตกพรำ ๆ เล็กและละเอียด
สาว ๆ ในชุดประจำชาติครับ
ฟ้าเทา ๆ ที่โอไดบะ
อันนี้แบบตกหนักครับ ตกแบบนี้แป๊บเดียวท่วมข้อเท้าเลยนะครับ
แถว ๆ Harajuku ถ้าผมจำไม่ผิด
ตะลุยในเมืองครับ
ปิดท้ายด้วยผู้ร่วมทริปเพียงหนึ่งเดียวครับ ไปไม่กี่คนก็ได้เรื่องความคล่องตัวไปไหนไปกัน
ไว้เดี๋ยวมีเวลาจะมาลงต่อ อยากดูแบบรูปใหญ่ ๆ แวะไปที่นี่ได้นะครับ
https://www.flickr.com/photos/105625205@N06/sets/72157641055166715/
ผมไม่แน่ใจว่านี่ คือ ต้นซากุระหรือเปล่า แต่ที่สวนสาธารณะอุเอโนะมีต้นนี้ต้นเดียวที่ออกดอก คนเดินผ่านไปผ่านมาก็ถ่ายรูปกันใหญ่เลยครับ ถ้าเป็นซากุระก็ถือว่าผมโชคดี ที่อย่างน้อยมาญี่ปุ่นครั้งแรกก็ได้เห็นซากุระแล้ว
ระหว่างรอรถไฟใต้ดิน พาหนะจำเป็นสำหรับการไปตะลุยเมืองใหญ่อย่างโตเกียวครับ
ผมไปเจอแจ็คพ็อตหิมะตกอยู่หลายวัน แต่ผมก็ไม่เคยเบื่อมันสักครั้งที่เห็นมันตกแบบนี้
พยากรณ์อากาศแบบ style kawaii ครับ น่ารักสมกับเป็นที่ญี่ปุ่นจริง ๆ
หลังจากหิมะตกทุกคนก็จะออกมากวาดหิมะบริเวณแถว ๆ บ้านของตนเองครับ คนญี่ปุ่นนี่จริงจังสมคำร่ำลือ เพราะว่าผมออกไปจากที่พักตอนเช้า กลับมาตอนเย็น เค้ายังกวาดหิมะกันอยู่เลยครับ หนาวก็หนาว แถมที่กวาดกันนี้ อายุไม่ใช้น้อยแล้วด้วย ฟิตสุด ๆ
อีกตัวอย่างของความรับผิดชอบงานของคนญี่ปุ่นครับ คุณอาคนนี้ไม่ปล่อยให้หิมะตกเข้ามาในชานชาลาเกิน 1 นาทีเลยครับ ตกมาเมื่อไหร่แกต้องเดินเข้าไปกวาดให้มันออกไป เพราะอาจจะทำให้ผู้คนลื่นได้ครับ สุดยอดมาก ๆ
มุมเงยที่ผมชอบมากเวลาเดินอยู่ในเมืองที่นี่ เพราะตึกมันสูงไปหมดเลยครับ รู้สึกมันยิ่งใหญ่ดี
บางคนก็พร้อมเจอทุกสถานการณ์ แต่บางคนก็พร้อมลุยทุกสถานการณ์เช่นกัน แม้จะไม่มีอะไรป้องกันก็ตาม
รูปนี้แถว ๆ รปปงงิครับ เดินจากแถว ๆ ตึก Tokyo midtown ไปที่ National Art Center ครับ การมาเที่ยวญี่ปุ่นแบบเดินทางเอง เราจะได้เจอกับเส้นทางที่คนทั่วไปหรือทัวร์จะไม่ได้ไปกัน ผมเดินมาเจออุโมงค์ที่มีทางเดินข้าง ๆ ตื่นเต้นมากครับ ทั้งกลัวหลงและแปลกตาด้วย
วันที่ 14 วันวาเลนไทน์ สิ่งที่ผมคิดว่าจะเจอ คือ วันนี่บรรยากาศสดใส ผู้คนออกมาฉลองวันแห่งความรัก แต่ทุกอย่างกลับผิดไป เพราะเป็นอีก 1 วันที่หิมะตกหนักมาก ๆ ที่โตเกียว กลายเป็นว่าผมได้รูปบรรยากาศเหงา ๆ มาแทน สู้ต่อไปนะครับคุณลุง !!
อีกหนึ่งอย่างที่จะเจอในโตเกียว คือ บันไดครับ เพราะเค้าสร้างของเล่นไว้มากมาย เฮ้ย ไม่ใช่ !! บันไดที่เอาไว้ขึ้นที่สูงนี่แหละครับ บางประตูของรถไฟฟ้านี่ไม่มีลิฟต์ ไม่มีบันไดเลื่อนนะครับ (หรือผมหาไม่เจอเองก็ไม่รู้) ต้องเดินขึ้นบันไดตลอด แต่ก็ดีครับ ญี่ปุ่นสอนให้คุณออกกำลังกาย...ได้ทุกที่
ผมเรียกว่ากุ๊งกิ๊งครับ แถว ๆ วัด Sensoji เสียงเพราะดีครับ
หลังจากหิมะหยุดตก ทุกอย่างก็จะขาวโพลนไปหมดครับ เป็นภาพที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ยืนจ้องอยู่นาน
ที่นี่คนส่วนใหญ่ที่จะออกมากวาดหิมะ คือ คุณลุงคุณป้า คุณตาคุณยายครับ ยกเว้นพวกร้านค้าก็จะเป็นคนหนุ่มสาวมาช่วยกัน
นาฬิกาแบบในการ์ตูนญี่ปุ่น
กะจะเข้าไปชมศิลปะ แต่ดันปิดครับ โชคดีจุง (จริง ๆ คือไม่ได้สำรวจว่าเค้าปิดวันไหนบ้าง) เลยได้แต่ถ่ายป้ายเค้ามา
แฟชั่นสาว ๆ แถว Harajuku ที่ปิดปากนี่เห็นบาง ๆ แต่ช่วยให้หน้าอุ่นได้นะครับ แรก ๆ ผมก็ไม่ใช้ แต่พอลองใช้ก็อุ่นดี
Outlet ที่โอไดบะครับ ที่ที่มีชิงช้าสวรรค์ใหญ่ ๆ
แม้ในโตเกียวทุกอย่างจะดูเหมือนถูกแทรกไว้ด้วยศิลปะ แต่ถ้าเป็นที่ที่รวบรวมความ Art ไว้คงต้องพูดถึงย่าน รปปงงิ นี่เป็นหนึ่งในผลงานที่เห็นได้ตามหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพียงหินก็เป็นศิลปะได้นะครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่กับประเทศญี่ปุ่น คือ ทุกอย่างสามารถทำให้น่ารักได้หมด ตัวนี้ผมจำไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน แต่จำได้ว่าอยู่แถว ๆ หน้าสถานีรถไฟใต้ดินครับ พอดีชอบนกฮูกอยู่แล้วด้วย
Art gallery แถว ๆ ย่าน Akihabara ชื่อ "3111 art chiyoda" เป็นโรงเรียนเก่าเอามาดัดแปลงครับ คนชอบการ์ตูนญี่ปุ่นแบบผม จึงไม่พลาดที่จะไปชมบรรยากาศของโรงเรียนญี่ปุ่น คือ จริง ๆ แอบตามหาแถว ๆ อุเอโนะมารอบหนึ่ง อยากไปทัวร์โรงเรียนญี่ปุ่น เผื่อเจอสาว ๆ ฮ่า ๆๆ แต่ที่อุเอโนะเจอแต่โรงเรียนอนุบาล น่ารักไปอีกแบบ
สถาปัตยกรรมตามวัดของบ้านเค้าครับ
เชฟที่ร้าน "ซูชิ ไดวะ" ถ่อมาไกลถึงตลาดปลา ออกจากที่พักตั้งแต่ตี 5 เพื่อมาร้านซูชิได แต่ที่ไหนได้ ปิด 1 วันนะจ๊ะ เลยมาร้านใกล้ ๆ กันแทน เชฟดูมืออาชีพมาก ๆ คนต่อแถวกันยาว รอกันเกือบชั่วโมง ใครจะมาก็เตรียมตัวกันดี ๆ นะครับ แต่สุดท้ายปลาดิบก็คือปลาดิบ ผมก็ยังกินไม่ได้อยู่ดี T^T
ประเพณีการกวักควันธูปเข้าหาตัวเองเพื่อเป็นสิริมงคลครับ
5 แยกชิบูย่าที่โด่งดัง ผมถ่ายมุมมหาชนที่ต้องไปนั่งร้าน Starbuck มาด้วย แต่ผมกลับชอบรูปที่ผมลงไปเดินข้ามถนนไป-กลับ 10 กว่ารอบมากกว่า ถ้ามีคนจำได้ คงงง ๆ ว่าไอ้นี่ทำอะไรเดินข้ามถนนกลับไปกลับมา
ร้านแบรนด์เนมแถว ๆ กินซ่าครับ
ขนมปลา ไทยากิ (ใช่ชื่อนี้หรือเปล่าผมไม่แน่ใจ) ที่นี่อีกเรื่องที่ต้องระวัง คือ การเดินกิน ผมเกือบเผลอเดินกินขนมบ่อยมาก แต่ดีที่น้องที่ไปด้วยคอยเตือน เพราะที่นี่เค้าจะไม่เดินกินกันครับ จะยืนกินให้เสร็จแล้วถึงเดินต่อ
รูปนี้ชอบรถ 7 ครับ รู้สึกคุ้นเคยเพราะบ้านเราก็มี ฮ่า ๆ
วัด Sensoji ยามค่ำคืนครับ
แฟชั่นการแต่งตัวแบบ จี๊ด ๆ ไม่แคร์ใคร
ห้องคนขับรถไฟใต้ดินครับ
ภายใน 3111 Art chiyoda อารมณ์แบบห้องเรียนในการ์ตูนครับ
บนท้องฟ้าไม่มีอะไรแน่นอน ใช่ครับ ไม่แน่นอนจริง ๆ อดไปดูฟูจิซังก็เพราะบนท้องฟ้าไม่แน่นอนนี่แหละครับ ตั๋วรถบัสยกเลิกเพราะทาง High way ไม่สามารถใช้ได้ รูปนี้ไม่ใช่ร่มสีเทา แต่เป็นร่มสีขาวเพราะหิมะตกใส่ครับ
ทาโกยากิร้อน ๆ เหมาะกับอากาศเย็น ๆ ดีแท้ ได้มาจิ้มใส่ปากอย่างไว แทบลวกครับ ฮ่า ๆ คืออยู่ที่นี่มันเย็นจนเราคิดว่าไม่มีอะไรร้อนได้อ่าครับ แดดก็ไม่ร้อน แต่กลับมาหน้าลอกจ้าาา
ศาลเจ้าในสวนอุเอโนะ
ขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่ให้ความสนใจนะครับ