ซาลาร์ เดอ อูยูนี (Salar de Uyuni) ทะเลเกลือที่ใหญ่และสวยที่สุดในโลกที่ประเทศโบลิเวีย ชวนชมภาพการสะท้อนอันงดงามจนได้รับขนานนามว่าผืนฟ้าจรดผืนโลก
หากคุณกำลังมองหาสถานที่สุดอัศจรรย์ที่มีความงดงามราวกับอยู่บนโลกอีกมิติหนึ่ง สถานที่ซึ่งได้รับการขนานนามว่าผืนฟ้าจรดผืนโลกอย่าง ซาลาร์ เดอ อูยูนี (Salar de Uyuni) ทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดในโลกจากประเทศโบลิเวีย อาจเป็นสถานที่ที่เรากำลังมองหา และรอคอยเราให้ไปเยือนอย่างไม่ต้องสงสัย
ด้วยมนตร์เสน่ห์ของผลึกเกลือสีขาวอันกว้างใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10,582 ตารางกิโลเมตร ทำให้ ซาลาร์ เดอ อูยูนี กลายมาเป็นสถานที่ในฝันของนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาด ไม่ว่าจะในช่วงฤดูแล้งหรือฤดูฝน เพราะไม่ว่าจะในช่วงเวลาใดทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ก็ยังคงมีความงดงามชวนให้หลงใหลได้เสมอ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่งดงามที่สุด เมื่อมีฝนตกจนเกิดผืนน้ำปกคลุมผลึกเกลือ เราจะได้พบกับภาพการสะท้อนอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างทิวทัศน์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้ากับภาพสะท้อนจากผืนน้ำ จนเกิดเป็นคำกล่าวที่ว่า "ผืนฟ้าจรดผืนโลก อันงดงามชวนหยุดหายใจ"
และจากคำถามที่หลายคนสงสัยว่าสถานที่สุดอัศจรรย์อย่าง ซาลาร์ เดอ อูยูนี นั้น เกิดขึ้นมาได้อย่างไร สามารถอธิบายได้ว่าที่ราบสูงอัลติพลาโน (Altiplano) บนเทือกเขาแอนดีส ของโบลิเวียนั้น ไม่มีทางระบายน้ำออก ทำให้น้ำจากภูเขาที่อยู่ล้อมรอบไหลมารวมกันจนเกิดเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีความเค็มสูง อย่างไรก็ตาม ทะเลสาบขนาดใหญ่ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์นี้ได้ถูกแสงอาทิตย์ที่รุนแรงทำให้ระเหยไป ทิ้งไว้เพียงผลึกเกลือที่ค่อย ๆ ก่อตัวหนาขึ้น จนกลายมาเป็นทะเลเกลือในปัจจุบัน
ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเยือน ซาลาร์ เดอ อูยูนี สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย ก็คือ ครีมกันแดด ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณจากแสงแดดอันแรงกล้าจากทั้งดวงอาทิตย์ และแสงที่สะท้อนขึ้นจากผลึกเกลือ นอกจากนี้ ยังควรเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและถุงนอนมาด้วย เพราะเราคงจะไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะได้ใช้ช่วงเวลายามค่ำคืนอยู่ในสถานที่แห่งนี้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ความประทับใจขึ้นไปอีกขั้น ขอแนะนำให้เข้าไปพักแรมได้ที่ โรงแรมเกลือ (Salt Hotels) ซึ่งสร้างขึ้นจากผลึกเกลือทั้งหมด นับตั้งแต่โครงสร้างไปยันของตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นเตียง โต๊ะ หรือแม้แต่ห้องน้ำ และขอรับรองเลยว่าหากเราได้มาเยือนยังสถานที่แห่งนี้สักครั้งแล้ว เราจะได้รับประสบการณ์ที่ยากจะลืมกลับไปอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
beautifulworld.com และ kuriositas.com
หากคุณกำลังมองหาสถานที่สุดอัศจรรย์ที่มีความงดงามราวกับอยู่บนโลกอีกมิติหนึ่ง สถานที่ซึ่งได้รับการขนานนามว่าผืนฟ้าจรดผืนโลกอย่าง ซาลาร์ เดอ อูยูนี (Salar de Uyuni) ทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดในโลกจากประเทศโบลิเวีย อาจเป็นสถานที่ที่เรากำลังมองหา และรอคอยเราให้ไปเยือนอย่างไม่ต้องสงสัย
ด้วยมนตร์เสน่ห์ของผลึกเกลือสีขาวอันกว้างใหญ่ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 10,582 ตารางกิโลเมตร ทำให้ ซาลาร์ เดอ อูยูนี กลายมาเป็นสถานที่ในฝันของนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติจากทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาด ไม่ว่าจะในช่วงฤดูแล้งหรือฤดูฝน เพราะไม่ว่าจะในช่วงเวลาใดทะเลเกลือที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ก็ยังคงมีความงดงามชวนให้หลงใหลได้เสมอ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่งดงามที่สุด เมื่อมีฝนตกจนเกิดผืนน้ำปกคลุมผลึกเกลือ เราจะได้พบกับภาพการสะท้อนอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างทิวทัศน์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้ากับภาพสะท้อนจากผืนน้ำ จนเกิดเป็นคำกล่าวที่ว่า "ผืนฟ้าจรดผืนโลก อันงดงามชวนหยุดหายใจ"
และจากคำถามที่หลายคนสงสัยว่าสถานที่สุดอัศจรรย์อย่าง ซาลาร์ เดอ อูยูนี นั้น เกิดขึ้นมาได้อย่างไร สามารถอธิบายได้ว่าที่ราบสูงอัลติพลาโน (Altiplano) บนเทือกเขาแอนดีส ของโบลิเวียนั้น ไม่มีทางระบายน้ำออก ทำให้น้ำจากภูเขาที่อยู่ล้อมรอบไหลมารวมกันจนเกิดเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ที่มีความเค็มสูง อย่างไรก็ตาม ทะเลสาบขนาดใหญ่ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์นี้ได้ถูกแสงอาทิตย์ที่รุนแรงทำให้ระเหยไป ทิ้งไว้เพียงผลึกเกลือที่ค่อย ๆ ก่อตัวหนาขึ้น จนกลายมาเป็นทะเลเกลือในปัจจุบัน
ทั้งนี้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเยือน ซาลาร์ เดอ อูยูนี สิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลย ก็คือ ครีมกันแดด ซึ่งจะช่วยปกป้องคุณจากแสงแดดอันแรงกล้าจากทั้งดวงอาทิตย์ และแสงที่สะท้อนขึ้นจากผลึกเกลือ นอกจากนี้ ยังควรเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและถุงนอนมาด้วย เพราะเราคงจะไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะได้ใช้ช่วงเวลายามค่ำคืนอยู่ในสถานที่แห่งนี้อยู่แล้วใช่ไหมล่ะ
นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ความประทับใจขึ้นไปอีกขั้น ขอแนะนำให้เข้าไปพักแรมได้ที่ โรงแรมเกลือ (Salt Hotels) ซึ่งสร้างขึ้นจากผลึกเกลือทั้งหมด นับตั้งแต่โครงสร้างไปยันของตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นเตียง โต๊ะ หรือแม้แต่ห้องน้ำ และขอรับรองเลยว่าหากเราได้มาเยือนยังสถานที่แห่งนี้สักครั้งแล้ว เราจะได้รับประสบการณ์ที่ยากจะลืมกลับไปอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
beautifulworld.com และ kuriositas.com