x close

เยือน เลกหลุยส์ แคนาดา โรแมนติก

เลกหลุยส์

 

เยือน"เลกหลุยส์" แคนาดา"โรแมนติก" (ข่าวสด)

          ใบเมเปิ้ล ละอองน้ำตกไนแองการา ทะเลสาบสีมรกตนิ่งสงบ เทือกเขาร็อกกี้อันยิ่งใหญ่ นั่นคือภาพของ "แคนาดา" ที่ผู้คนรู้จัก และหาโอกาสไปเยือนและสัมผัสสักครั้ง

          คณะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน บินข้ามทวีปไปถึงเมืองคัลการี่ (Calgary) รัฐแอลเบอร์ตา ภาคตะวันตกของประเทศแคนาดา

          เพื่อให้กำลังใจเยาวชนไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 40 และหารือกับผู้ประกอบการเอกชนถึงการจัดส่งคนงานไทยมาทำงานที่แคนาดา เป็นโอกาสที่จะได้พบเห็นแคนาดาในแบบตัวเป็นๆ

          ก่อนออกเดินทางต้องเตรียมหาข้อมูลและเช็กสภาพอากาศของแคนาดา ซึ่งตามปกติแล้วเป็นประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นเกือบทั้งปี แต่ช่วงที่ไปเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงอากาศจึงไม่หนาวเกินไป

          คณะออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ รวมๆ แล้วจะต้องใช้เวลาบินประมาณ 16 ชั่วโมง จุดหมายแรกคือสนามบินนาริตะของญี่ปุ่น เพื่อเปลี่ยนเครื่องไปแวนคูเวอร์

          ออกจากไทยเช้า มาถึงนาริตะราวบ่ายสามโมง ระหว่างรอเปลี่ยนเครื่อง คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการเดินเปิดหูเปิดตา เป้าหมายคือร้านปลอดภาษี และร้านขายของที่ระลึก

          ออกจากนาริตะตอนหนึ่งทุ่ม จากญี่ปุ่นไปแวนคูเวอร์ เป็นช่วงที่ต้องใช้เวลาบนเครื่องนานที่สุด และต้องบินข้ามเส้นแบ่งเวลาสากลหรือ Time Zone อีกด้วย

          หลังจากอาหารบนเครื่องบิน เริ่มรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย นั่นคืออาการเจ็ตแล็ก Jet Lag อันเป็นอาการที่มักเกิดขึ้นกับคนที่ต้องเดินทางต่างประเทศ ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงบนเครื่องบิน โดยเฉพาะคือ การบินข้ามเส้นเวลามากกว่า 3 โซนขึ้นไป

          ผู้ที่ศึกษาเรื่องนี้ให้วิธีคำนวณว่า หากเดินทางข้ามเส้นเวลาเท่าใด ก็จะใช้เวลาเป็นจำนวนวันเท่านั้นในการปรับร่างกายให้เป็นปกติ

          ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงบนเครื่องบิน ก็มาถึงสนามบินคัลการี่ราวบ่ายสองโมง (ตามเวลาท้องถิ่น) คัลการี่จัดว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัฐแอลเบอร์ตา ตั้งอยู่ซีกขวาของเทือกเขาร็อกกี้ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 ฟุต

เลกหลุยส์



          คัลการี่ เคยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวเมื่อปี 1988 และเป็นเมืองที่รู้จักกันมากขึ้นเมื่อขุดพบน้ำมันปิโตรเลียมเมื่อปี 1937 ทำให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดา

          นับเป็นเมืองที่สงบ น่าอยู่ เมืองหนึ่ง นั่งรถผ่านย่านใจกลางเมืองแหล่งธุรกิจการค้ามีตึกสูงเหมือนบ้านเรา การจราจรก็ไม่วุ่นวาย การที่เมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติบานฟ์ จึงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก

          สถานที่น่าสนใจในคัลการี่มีอยู่หลายแห่ง อาทิ คัลการี่ทาวเวอร์ เป็นหอสูงสำหรับชมวิว สวนโอลิมปิก พิพิธภัณฑ์เกล็นโบว เป็นต้น

          ระหว่างนั่งรถไปที่พัก ไกด์ของคณะทำหน้าที่เล่าความเป็นมาของเมืองนี้ให้ฟัง แต่ไม่มีใครสนใจเท่าใดนัก เพราะมัวแต่ถ่ายรูปวิวทิวทัศน์ของเมืองผ่านหน้าต่างรถ หันไปมองคณะเดินทางที่มาด้วยกัน ไม่มีใครนั่งเฉย หยิบกล้องขึ้นมาบันทึกภาพเหมือนกันหมดราวกับนัดกันไว้

          โรงแรมที่พักอยู่ตรงข้ามกับคัลการี่ทาวเวอร์ สูงลิ่วชนิดแหงนคอตั้งบ่า หลังจากเก็บของเรียบร้อยก็ถึงเวลาอาหาร

          ร้านอาหารหลายสัญชาติ จะเลือกกินอาหารอะไรก็หาได้ไม่ยาก สอบถามไกด์ว่าที่นี่อาหารอะไรอร่อย ได้ความว่า แคนาดามีหลายเชื้อชาติ จึงไม่มีอาหารจานไหนที่เป็นอาหารประจำชาติ แต่จานเด็ดของรัฐนี้คือ "สเต๊กเนื้อ" ของหวานส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของลูกเบอร์รี่พันธุ์ต่างๆ ที่มีมากในแคนาดา คืนแรกในแคนาดาผ่านไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

          รุ่งขึ้นหลังเยี่ยมเยาวชนที่แข่งขันฝีมือแรงงาน ก็ออกเดินทางไป "อุทยานแห่งชาติบานฟ์" ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก หนทางก็สะดวกสบาย ทิวทัศน์รอบด้านสวยงามแปลกตา มองเห็นเทือกเขาร็อกกี้พรมแดนธรรมชาติกั้นระหว่างแคนาดากับอเมริกาสูง ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า

เลกหลุยส์



          อุทยานแห่งชาติบานฟ์ (Banff National Park) เป็นอุทยานแห่งแรกและมีชื่อเสียงที่สุดในแคนาดา ตั้งอยู่ริมเส้นทางสาย Trans Canadian Highway ภายในอุทยานฯ มีธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ มีป่าไม้ และสัตว์ป่าหลายชนิด อาทิ หมีกริซลี กวางมูส อุทยานฯ นี้มีเมืองสำคัญ 2 แห่ง คือบานฟ์ และ เลกหลุยส์

          เมืองบานฟ์ (Banff) ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเขตอุทยานฯ เมืองเล็กๆ มีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณหมื่นกว่าคน แต่มีเสน่ห์ที่ภูมิประเทศสวยงาม

          ล้อมรอบด้วยหุบเขาโบว์ริเวอร์ (Bow River Valley) ในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นสกีที่นี่ ทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนบานฟ์ปีละ 3 ล้านคน

          ที่บานฟ์ไม่ค่อยเห็นตึกสูง บ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก วันที่เดินทางไปถึงมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างมาก เพราะช่วงเดือนก.ย.-ต.ค. ชาวแคนาดาถือว่าเป็นช่วงเวลาดีที่สุดในการท่องเที่ยว

          คณะมาถึงอุทยานฯ ตอนสี่ทุ่ม เข้าพักที่ Banff Springs Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่อายุ 122 ปี ภายในโรงแรมตกแต่งแบบปราสาทเก่าผนังบางส่วนใช้ก้อนหินแกะสลักดูอลังการ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขามจากกาลเวลา แม้จะมีการปรับปรุงให้ทันสมัยมากขึ้นก็ตาม

          ไกด์ของคณะเล่าว่า เมื่อปี 1841 มีการเข้ามาสำรวจดินแดนแห่งนี้ จนมีการก่อสร้างทางรถไฟข้ามทวีปสาย Canadian Pacific Railway

          คนงานก่อสร้างเห็นถึงความสวยงามของเทือกเขาร็อกกี้ และมีการขุดพบบ่อน้ำพุร้อนที่มีแร่กำมะถันในบริเวณนี้ ทางรัฐบาลบริติชโคลัมเบียจึงประกาศให้พื้นที่ 10 ตารางไมล์ เป็นเขตอุทยานเทือกเขาร็อกกี้

          ต่อมา เซอร์วิลเลียม คอร์เนเลียส แวน ฮอร์น (William Cornelius Van Horne) ผู้ว่าการรถไฟแคนาดา เดินทางมาพักผ่อนและประทับใจในความสวยงาม จึงสร้างโรงแรมของการรถไฟขึ้น เพื่อจะให้เป็นที่พักในหน้าร้อนของชาวแคนาดา โดยใช้ชื่อโรงแรมว่า Banff Springs Hotel

          จุดหมายต่อไปขึ้นเหนือไปเมืองเลกหลุยส์ (Lake Louise) ที่อยู่ห่างออกไป 60 กิโลเมตร เพื่อไปชมความงามของทะเลสาบเลกหลุยส์

          ระหว่างทางแวะชม น้ำตกโบว์ (Bow Falls) ที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็ง จนกลายเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำ ที่นี่ยังเป็นฉากสำคัญของภาพยนตร์ชื่อดังในอดีตอย่าง The River of No Return หนังอมตะคลาสสิคที่มีมาริลีน มอนโร นำแสดงอีกด้วย

          เลกหลุยส์ เป็นทะเลสาบที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,700 เมตร ผิวน้ำในทะเลสาบนิ่งเป็นสีเขียวมรกต ล้อมรอบไปด้วยป่าสน มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าและเทือกเขาสูงชันลดหลั่นกันไป บางส่วนของยอดเขามีธารน้ำแข็งและหิมะปกคลุมอยู่ ริมทะเลสาบเต็มไปด้วยหมู่หินใหญ่น้อย บางก้อนมีดอกไม้ป่าบาง ชนิดขึ้นแซมอยู่ เป็นภาพที่งดงามและประทับใจแก่ผู้มาเยือน เมื่อมองผ่านเลนส์กล้อง ยิ่งชวนหลงใหล เพราะทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดทีเดียว

          ติดกับทะเลสาบเป็นที่ตั้งของ โรงแรมแฟร์มอนต์ ชาโต เลก หลุยส์ (Fairmont Chateau Lake Louise) ที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าหญิงหลุยส์ คาโรไลน์ อัลเบอร์ตา พระธิดาของควีนวิกตอเรีย ที่เสด็จตามพระสวามี ซึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการของอังกฤษมาอยู่ที่แคนาดา

          ภายในของโรงแรม ตกแต่งสไตล์โบราณ แต่แฝงด้วยความหรูหรา หน้าต่างและประตูของที่นี่เป็นรูปโค้งเมื่อมองออกไปจะเห็นวิวของทะเลสาบและ เทือกเขาสูง 

          ความสวยงามของที่นี่ จึงไม่แปลกที่จะเห็นนักท่องเที่ยวสนุกกับการบันทึกภาพความงามของสวนดอกไม้ที่ออกดอกสีสันสดใส

          หรือพายเรือแคนูดูเงาสะท้อนของภูเขาและธารน้ำแข็งบนผิวน้ำ หนุ่มสาวหลายคู่เดินจูงมือหยอกล้อกันริมทะเลสาบ เป็นบรรยากาศที่สงบอย่างรื่นรมย์


แนะนำการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรมเพียบ

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เยือน เลกหลุยส์ แคนาดา โรแมนติก อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 17:31:39 2,249 อ่าน
TOP