Milan มิลาน...ที่ไม่เคยลืม (ผู้หญิง)
ถ้าประชันกันในเรื่องแฟชั่น ก็ต้องบอกว่าชื่อชั้นของ มิลาน (Milan) ไม่เป็นรองนิวอยอร์ก ปารีสและลอนดอน จัดว่าเป็นกระดูกเบอร์เดียวกันเสียด้วยซ้ำ โรมเป็นเมืองหลวงของอิตาลีก็จริง แต่มิลานมีศักดิ์ศรีเป็นเมืองหลวงในโลกของแฟชั่น
ถ้าจะวัดกันในเรื่องของศิลปะ ก็ต้องบอกว่ามิลานเป็นเมืองที่อวลไว้ด้วย สุนทรีย์จากโลกแห่งศิลปะไม่ด้อยไปกว่าฟลอเร็นซ์ เวนิส และปารีส
หรือถ้าจะเทียบเคียงกันในชั้นเชิงของวงการลูกหนัง ก็ต้องบอกว่ากระแสความคลั่งไคล้ฟุตบอลในมิลาน ล้นหลานไม่น้อยไปกว่าในลอนดอนบาร์เซโลนา มาดริด
สำหรับคนที่หายใจเข้าออกเป็นแฟชั่น ศิลปะ และฟุตบอล มิลาน จึงน่าจะเป็นที่ทางของคนเหล่านี้
ส่วนฉัน แม้จะเป็นพวกหายใจเข้าออกเป็นการเดินทาง ไม่ได้เป็นสาวกลัทธิบูชาแบรนด์เนม ไม่ได้หลงใหลโลกแห่งศิลปะถึงขึ้นเป็นคออาร์ตตัวแม่ แค่เลือดลมไหลเวียนสะดวกเวลาเห็นนักฟุตบอลทีมเอชี มิลานและอินเตอร์ มิลานวิ่งเหยาะ ๆ อยู่ในสนาม ขนาดนี้ยังอมยิ้มกับตัวเองทุกครั้งที่จิตหลุดไปนึกถึงโมงยามในมิลาน
ถ้ามิลานไม่มีอะไรดี บรรดาเชเลบริตี้ คนดัง ไฮโซ เจ็ทเซ็ท ดาราฮอลลีวู้ด เศรษฐี จะแห่แหนไปหามิลานกับทำไม
ฉันเองเป็นคนหนึ่ง ที่เมื่อได้ทำความรู้จักกับมิลาน ยังไม่เคยลืมคืนวันอันสุนทรีย์ในมิลาน
อย่างน้อยก็ของคู่บ้านคู่เมืองของมิลานอย่าง "ดูโอโม" (Duomo) ที่คงไม่มีใครลืมที่นี่ลง
ดูโอโม หรือ โบสถ์ใหญ่ประจำเมืองของมิลาน ไม่ใช่โบสถ์ไซส์จุ๋มจิ๋ม แต่ก็ไม่ใช่เพราะความใหญ่โตของโบสถ์แห่งนี้ ที่ทำให้ผู้มาเยือนลืมมิลานไม่ลง หากแต่เป็นความโอ่อ่าสง่างามของโบสถ์แห่งนี้ ที่ทำให้ผู้มาเยือนลืมมิลานไม่ลง หากแต่เป็นความโอ่อ่าสง่างามของโบสถ์แห่งนี้ และการตกแต่งด้านในที่ดูภูมิฐาน นั่นต่างหากที่ทำให้ดูโอโมของมิลาน ไม่เคยพร่าจางไปจากความทรงจำของทุกคน
สำหรับชาวมิลาน ที่นี่คือจิตวิญญาณของพวกเขา แต่สำหรับนักท่องโลกดูโอโมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามตระการตา สำหรับเด็กถาปัด พวกเขาอาจเพ่งมองที่นี่ในฐานที่เป็นผลงานสถาปัตยกรรมชิ้นงามและโดดเด่นของโลกอีกชิ้นหนึ่ง
แม้จะมีเสียงเซ็งแซ่เปรียบเปรยขนาดและความงดงามของโบสถ์ในแต่ละเมืองของอิตาลี แต่ฉันไม่อยากหยิบโบสถ์แห่งนี้ไปเรียบเทียบกับมหาวิหารอันยิ่งใหญ่ของโลกอย่างเซนต์ปีเตอร์ที่วาติกัน เพราะดูโอโมแห่งมิลานงดงามและมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง อย่างน้อยก็ยอดแหลม 135 ยอดที่เสียดแทงขึ้นสู่แผ่นฟ้า ที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของสถานที่แห่งนี้
อายุอานามกว่า 600 ปีของดูโอโมแห่งมิลาน ดูเหมือนเป็นตัวเลขที่ผู้คนอาจจะสนใจน้อยกว่าตัวเลขรูปสลักหินอ่อนของนักบุญและสัตว์ชนิดต่าง ๆ ในท่วงท่าไม่ซ้ำที่อยู่รายรอบโบสถ์กว่า 3 พันรูป
เห็นสวยหยดแบบนี้ ต้องใช้เวลาสร้างกัน 400 กว่าปี เรียกว่าก่อร่างสร้างโบสถ์กันหลายชั่วอายุคน
หลายคนมาที่นี่ เพื่อปรารถนาเข้าไปดื่มด่ำความสงบงามด้านในของดูโอโม ในฤดูแพงของยุโรป แถวที่ต่อคิวกันเพื่อเข้าชมด้านในจึงยาวเหยียดไม่น้อยไปกว่าคิวที่รอเข้าชมพิพิธภัณฑ์วาติกัน
ใครที่อยากจะเข้าไปชมด้านในต้องเตรียมเสื้อผ้าอาภรณ์อันสุภาพห่มเรือนกายไปด้วย ประเภทกางเกงขาสั้น สายเดี่ยว แบบนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปชมความงามของด้านใน
ภายในมหาวิหารตกแต่งด้วยกระจกสีได้อย่างน่ามอง และมีแท่นบูชาที่เติมบรรยากาศให้เข้มขลัง
มีนักท่องเที่ยวหลายคนที่ไม่ยอมให้ความสูงและความเสียวมาเป็นอุปสรรค ยอมไต่บันใดขึ้นไป 150 กว่าขั้น เพื่อชมตับไตไส้พุงของมิลานบนยอดหลังคาดูโอโม
แต่มุมไหนก็ไม่ครึกครื้นเท่าลานกว้างหน้าดูโอโม ไม่ว่าใครจะแวะเวียนมามุมนี้ในเวลาไหน ลานกว้างก็ไม่เคยแห้งแล้งผู้คน
รถไฟใต้ดินเลื้อยมาเกยถึงใจกลางลานกว้างแห่งนี้ ไม่ว่าคุณหรือใครจะมาจากมุมไหนของเมือง เมื่อโผล่ขึ้นมาจากใต้ดินก็เห็นหน้าดูโอโมพอดิบพอดี
นักท่องโลก คนต่างถิ่นผู้มาลงหลักปักฐานทำมาหากินที่นี่ เจ้าถิ่นฝูงนกพิราบ และมิจฉาชีพ ทุกชีวิตล้วนแต่แวะเวียนมาทักทายลานกว้างหน้าดูโอโม
บางคนอาจจะไป หลายคนอาจจะมา แต่มีอยู่อย่างเดียวที่ไม่เคยหนีหน้าหายจากดูโอโมไปไหนทั้งสิ้น นั่นคือ พระเจ้าวิกเตอร์ เอ็มมานูเอลที่ 2 ที่ขี่ม้าอย่างสง่าผ่าเผยอยู่ตรงอนุสาวรีย์
ฉันเดินเวียนเทียนรอบดูโอโมอยู่หลายรอบ จึงพบว่า ที่นี่ไม่เพียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของมิลาน แต่สำหรับชาวเมืองและชาวต่างชาติที่มาทำมาหากินในมิลาน ที่นี่คือจุดนัดพบของพวกเขา ยิ่งถ้าเป็นวันหยุดลานกว้างแห่งนี้ยิ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ไม่ได้อยากเห็นหน้าดูโอโม แต่พวกเขาเลือกที่นี่เอาไว้นั่งพักผ่อนหย่อนจิตในวันที่ปลอดจากหน้าท่าการงานมาสุมทุม
อย่าเพิ่งรีบบอกลาจัตุรัสประจำเมืองแห่งนี้ไปไหน เพราะรอบด้านของดูโอโมคือแหล่งช็อปปิ้งที่จะทำให้คุณลืมภาพของมหาวิหารอันวิจิตรตระการตาไปชั่วขณะ
แค่ออกจากดูโอโมแล้วเลี้ยวขวาเข้าไปอาคารที่ชื่อว่าแกลเลอเรีย ก็ทำให้หัวใจของสิงห์นักช็อปเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งใครที่เป็นสาวกลัทธิบูชาแบรด์เนมด้วยแล้ว เชื่อเถอะว่าคุณจะมีอาการอย่างที่ว่า โชคดีไปที่ฉันไม่ถูกโฉลกกับของแบรนด์เนม ไม่งั้นคงเดนิกระเป๋าเบาออกจากแกลเลอเรีย
ที่จริงแค่นั่งเล่นในแม็คโดนัลด์ หรือคาเฟ่เก๋ ๆ ในนี้ ทอดสายตามองผู้คนที่เคลื่อนผ่านไปมา มองการตกแต่งด้วยโมเสก ภายใต้โดมแก้วที่งดงามในช็อปปิ้ง มอลล์อายุ 140 กว่าปี ที่สวยสดแห่งหนึ่งของโลก แค่นี้ก็อิ่มแล้ว
ร้านรวงในแกลเลอเรียนี่แค่เบาะ ๆ พอฉันแฉลบไปถึงย่านมอนทีนาโปเลโอเน ย่านที่เรียงรายไว้ด้วยแบรนด์ดังจากทั่วมุมโลก ละแวกนี้นี่แหละที่จะทำให้ผู้หลงใหลแฟชั่นทุกคนขลุกอยู่ได้เป็นวัน จนแทบจะบริโภคเสื้อผ้าอาภรณ์ รองเท้าแทนข้าวปลาอาหาร
ที่จริงใกล้ ๆ กัน เป็นโรงละครชื่อดังที่เรียกว่า สกาล่าแห่งเมืองมิลาน ฉันไม่ได้ผลักประตูเข้าไป แต่ดูจากรูปในโปสการ์ด ต้องยอมรับว่าข้างในผ่องแผ้วนพคุณจริง ๆ หรูเริ่ดอลังการสุด ๆ
ลานกว้างของจัตุรัสเดลลา สกาล่า นั่นต่างหากที่ฉันเลือกหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ริมทาง มองรูปปั้นของศิลปินระดับเทพของโลก อย่างลีโอนาร์โดดาวินชี ที่มีไว้ให้ชาวเมืองได้คิดถึง
ถึงที่นี่จะไม่ใช่บ้านเกิดของเขา แต่ดาวินชีเคยถูกเจ้าเมืองแห่งนี้ว่าจ้างให้มาสร้างสรรค์ผลงานให้กับมิลาน นั่นเป็นเหตุผลให้มิลานมีภาพวาดอันเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาที่ชื่อ The Last Supper เก็บไว้ที่โบสถ์ซานตามาเรีย เดลลา กราเชีย
ไม่ใช่ จู่ ๆ นึกครึ้มอกครึ้มใจอยากจะเข้าไปชมภาพนี้ ก็ไปแบบง่ายดายนะ แต่ถึงขั้นต้องจองล่วงหน้ากันเลยทีเดียว โดยเฉพาถ้าเป็นช่วยเดือนแพงของยุโรป อย่างก.ค.หรือส.ค. อาจต้องล่วงหน้ากันนานหน่อย แถมให้เข้าดูแค่ไม่เกินคนละ 15 นาที
อีกมุมหนึ่งของมิลานที่น่ามองคือ ปราสาทฟอร์เซสโก ยิ่งถ้ามาในช่วงเย็นย่ำ ตรงลานน้ำพุทางเข้าปราสาท จะมีชาวเมืองมานั่งเล่นกันเหมือนกับตรงนี้เป็นห้องนั่งเล่นของมิลาน ทุกวันนี้กายใต้ป้อมปราการอันบึกบึนที่ห้อมล้อมปราสาทแห่งนี้เอาไว้ ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของมิลานมากมาย
สุนทรีย์ที่มิลานยัดเยียดให้อย่างไม่อั้นแบบนี้นี่เอง ที่ทำให้ฉันไม่เคยลืมเมืองแห่งรองเท้าบูตที่ชื่อ "มิลาน"
Milan’s Tips
เดินทางจากกรุงเทพไปอิตาลี สายการบินไซน่า แอร์ไลน์ส บินตรงจากกรุงเทพไปโรมทุกวันอังคาร พฤหัส และอาทิตย์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-250-9888, 02-250-9898 หรือคลิกเข้าไปหารายละเอียดได้ที่ http://www.china-airlines.com/
เดินทางจากโรมไปมิลาน ด้วยรถไฟสะดวกที่สุด ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัทดีทแฮล์ม ทราเวล (ประเทศไทย) โทร 02-6607067-9 หรือคลิกหารายละเอียดได้ที่ http://www.raileurope.fr/
จะไปอิตาลี ใช้เอกสารเหมือนการยื่นขอวีซ่าเชงเก้น สอบถามเพิ่มเติมได้ที่สถานทูตอีตาลี โดยต้องโทรนัดกับทางสถานทูตก่อนไปยื่นวีซ่าที่ 1900-222-344 ระยะเวลาทำการ 5 วัน
ถ้าจะไปอิตาลีในเดือนมิ.ย.ถึงส.ค. ควรจองที่พักไปก่อน เพราะเป็นฤดูท่องเที่ยว ห้องพักจะหายากมาก ถ้าเที่ยวแบบประหยัด คลิกเข้าไปดูที่ http://www.hostels.com/ หรือถ้าเป็นโรงแรมระดับต่างๆ http://www.agoda.com/
ผู้หญิงที่จะเดินทางไปเที่ยวมิลาน อาจต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย เพราะที่นี่ขึ้นชื่อในเรื่องจี้ปล้นและล้วงกระเป๋าพอสมควร ทางที่ดีไปอิตาลีแยกเงินเก็บไว้หลายจุด เผื่อที่ใดที่หนึ่งหายจะได้มีก๊อกสอง
แนะนำการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรมเพียบ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หนังสือผูหญิง สิงหาคม 2552 ISSUE 537
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก kroobannok.com
