x close

สัมผัสลมหนาวในป่าไพศาลี

ป่าไพศาลี

 



สัมผัสลมหนาวในป่าไพศาลี (เดลินิวส์)

          ท่องไพรดูนกเล่นน้ำตกแสนสุขใจ

          "เสียงน้ำตกที่หลากลงมาจากเทือกเขาโลมนาง ไล่เลาะมาตามลำธาร ต้นทางของน้ำตกซับสมบูรณ์ สายน้ำที่มีชีวิตที่ไหลผ่านซอกหินลดหลั่นเป็นชั้น ๆ 4 ชั้น อย่างแปลกตาและงดงาม ทำให้ในช่วงปลายฝนต้นหนาว น้ำตกแห่งนี้ช่างสวยงาม สายน้ำที่ไหลกระทบโขดหิน สะท้อนผ่านแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านใบไม้เขียวขจี กระทบกันกลายเป็นละอองน้ำขาวฟุ้งกระจายไปทั่ว เสมือนนั่งชมโอเปร่าในห้องโถงที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ หากทอดสายตาไปยังหุบเขาที่โอบกอดด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ จะเห็นนกนานาชนิดบินผ่านสายหมอกลัดเลาะไปตามไหล่เขา ราวกับนั่งชมภาพยนตร์จอยักษ์ที่ถูกถ่ายทอดออกมา แต่ละเฟรมนั้นแสนโรแมนติกบ่งบอกถึงสภาพความสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี"

          คำบอกเล่าที่ทีมข่าวภูมิภาค พยายามถ่ายทอดความประทับใจเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ที่ได้มีโอกาสเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเดินทางร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ นำคณะนักท่องเที่ยว เข้าป่าศึกษา สวนป่ารุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ซับสมบูรณ์ ที่บ้านซับสมบูรณ์ ตำบลวังข่อย อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อศึกษาสภาพน้ำตกของป่าที่เพิ่งฟื้นตัว และพักแรมริมน้ำตกซับสมบูรณ์ในสวนรุกขชาติช่วงปลายฝนต้นหนาวช่างมีความสุขมาก

          "น่าชื่นใจว่าปีนี้เรากลับได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ เริ่มคืบคลานเข้ามาในอำเภอไพศาลีบ้างแล้ว เมื่อดอกไม้ต้นเล็ก ๆ กลุ่มนี้ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เคยห่างหายไปจากผืนป่าในแถบเขาคอก เขาโลมนาง และเขาสอยดาว พื้นที่ป่าของอำเภอไพศาลีมาเป็นเวลานานหลายสิบปีแล้ว แต่วันนี้ที่สวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ซับสมบูรณ์ได้พบเห็นมันอีกครั้ง" นายณฐชัย นุชชม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 7 หัวหน้าชุดที่พาคณะเดินทางกล่าวอย่างตื่นเต้น

          นายณฐชัย กล่าวต่อว่า "นางตายน้อย" เป็นกล้วยไม้ดิน ในสกุลนางอั๊วหรือสกุลลิ้นมังกร มีชื่อเรียกตามถิ่นแตกต่างกัน เช่น นางกราย ว่านข้าวเหนียว หรือเอื้องดอกเห็ดโคน ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กันเป็นกลุ่ม โดยจะขึ้นในป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มีความชุ่มชื้นมากพอที่จะทำให้สามารถผลิดอกออกมาอวดความงดงามต่อผู้คนได้สีขาวสะอาดตาของมันที่อยู่รวมกลุ่มกันหลายต้นหลายกอ ทำให้ตัดกับสีเขียวของผืนป่าที่มีทั้งสีเขียวอ่อนไปจนถึงสีเขียวเข้ม ทำให้ผืนป่าดูงดงามอย่างน่าอัศจรรย์ โดย "นางตายน้อย" เหล่านี้ จะงอกงามและออกดอกในช่วงหน้าฝนต่อจนถึงปลายฝนต้นหนาว ส่วนในฤดูแล้ง หรือสภาพอากาศไม่เหมาะสมพวกเขาจะพักตัวเหลือเพียงหัวใต้ดินและเจริญอีกครั้งในฤดูฝนที่มีสภาพอากาศเหมาะสม

          "ไม่เพียงเราจะพบ "นางตายน้อย" ที่กลับคืนมา เพื่อบ่งบอกให้เรารู้ว่าความชุ่มชื้นของผืนป่ากลับมาแล้ว น้ำตกที่เคยมีเพียงเดือนกันยายนแต่ในปีนี้ก็กลับมีน้ำมากเรื่อย ๆ มาจนถึงช่วงนี้ เราอาจจะได้เห็นน้ำตกซับสมบูรณ์ที่มีน้ำหลากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเล่นน้ำตกกันในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่นี้ก็ได้ นับว่าเป็นผลสำเร็จของการอนุรักษ์ป่าของชาวบ้านร่วมกับสวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ซับสมบูรณ์ที่ช่วยกันรังสรรค์ผืนป่าแห่งนี้ คืนความสมบูรณ์กลับมาอีกครั้งเพียงแค่ช่วยกันไม่ทำลายป่าความสมบูรณ์ก็จะกลับคืนมาให้ป่าเหมือนดังเดิม"

          หัวหน้าสวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ซับสมบูรณ์ เล่าต่อว่า ช่วงเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ป่า เกิดการตื่นตัวอย่างมากมีการรวมกลุ่มกันอนุรักษ์ป่าขึ้นหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะกลุ่มอนุรักษ์ป่าซับสมบูรณ์ กลุ่มอนุรักษ์ป่าเขา ที่ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ขึ้นไปดับไฟป่าทุกปี ช่วงหน้าแล้งชาวบ้านก็ช่วยกันทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่า ทำให้แต่ละปีไฟป่าเกิดขึ้นน้อยมาก ส่งผลให้ผืนป่าที่เสื่อมโทรมในช่วงแรก ๆ พลิกฟื้นคืนมาอย่างน่าชื่นใจจนไม่น่าเชื่อว่า ป่าเสื่อมโทรมแห่งนี้จะกลับมามีชีวิตชีวาด้วยธารน้ำ และความเขียวชอุ่มของพรรณไม้หลากหลายชนิดได้ สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างน่าประทับใจนี้มิได้เป็นเพียงผลงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่สวนรุกขชาติ 100 ปีฯ เท่านั้น หากแต่เป็นประชาชนทุกคนที่ร่วมกันอนุรักษ์ป่าอย่างจริงจังนั่นเอง

ป่าไพศาลี



          "ผมได้ย้ำเสมอกับชาวบ้านที่นี่ว่าสิ่งที่ถือเป็นระเบียบปฏิบัติ คือ 1.ไม่ทำลายต้นไม้ เก็บหาพรรณไม้ และของป่าทุกชนิด 2.ไม่ล่าสัตว์ป่า และไม่จุดไฟเผาป่า 3.รักษาความสะอาดบริเวณน้ำตก โดยทิ้งขยะลงในที่ที่จัดเตรียมไว้ 4.ไม่ส่งเสียงดัง จนเป็นที่รบกวนนักท่องเที่ยวและสัตว์ป่า 5.ไม่ขีดเขียนหรือทำลายป้ายเครื่องหมายต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ แต่หลักการง่าย ๆ ที่ทำให้ชาวบ้านเข้าใจโดย ไม่ต้องใช้หลักวิชาการมากมายนัก เพราะ ความสมบูรณ์ของป่าไม้ เพียงแค่ไม่ทำลาย ทุกอย่างจะกลับคืนมาเหมือนเดิม"

          สำหรับสวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ซับสมบูรณ์ มีเนื้อที่ 1,465 ไร่ ได้รับการประกาศจัดตั้งเมื่อปีงบประมาณ พ.ศ. 2540 ตามนโยบายของกรมป่าไม้ ที่ประสงค์ให้มีการจัดตั้งสวนพฤษศาสตร์และสวนรุกขชาติขึ้นในภูมิภาคของประเทศ เพื่อให้เป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสการสถาปนากรมป่าไม้ครบรอบ 100 ปี (18 กันยายน 2539) โดยสำนักงานป่าไม้เขตนครสวรรค์ได้เสนอพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม บริเวณลุ่มน้ำตกซับสมบูรณ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาคอก ป่าเขาโลมนาง และป่าเขาสอยดาว หมู่ 6 บ้านซับสมบูรณ์ ตำบลวังข่อย อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ พื้นที่เป้าหมายในการจัดตั้ง 

          ต่อมาได้รับความเห็นชอบจากกรมป่าไม้ ประกาศจัดตั้งให้เป็นสวนรุกขชาติ 1 ใน 5 แห่งของประเทศ ที่ให้ใช้ชื่อว่า "สวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้" ทำหน้าที่เพื่ออนุรักษ์แหล่งพันธุกรรมพืชและปลูกรวบรวมพันธุ์ไม้ในท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ ในด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัยทางด้านพฤษศาสตร์ อีกทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชน และ   เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไป เหมาะแก่การศึกษาเรียนรู้ทางธรรมชาติที่สวยงาม อาทิ มีจุดชมวิวบนยอดเขาที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพกว้างไกล มีจุดพักแรมบนยอดสอยดาวเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ในช่วงฤดูหนาว จะมีอากาศหนาวเย็นมาก จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความท้าทายช่วงนี้อย่างมาก

          หากใครต้องการเดินทางมาเที่ยวสวนรุกขชาติ 100 ปี กรมป่าไม้ซับสมบูรณ์ หมู่ 6 ต.วังข่อย อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ติดต่อได้ที่ฝ่ายปกครองอำเภอไพศาลี โทร. 0-5625-9272 หรือขับรถมาตามเส้นทางคมนาคม สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง คือ จากกรุงเทพฯ ตามถนนสาย 11 และสาย 3004 กรุงเทพฯ-อินทร์บุรี-ตากฟ้า-ไพศาลี ระยะทาง 260 กม. เมื่อถึงจังหวัดนครสวรรค์ เดินทางถนนสาย 3004 ท่าตะโก-ไพศาลี ระยะทาง 85 กม. หรือ จะเดินทางไปตามเส้นทางสาย 11 และ สาย 3004 วังทรายพูน-หนองบัว-ไพศาลี ระยะทาง 160 กม. หรืออาจจะเดินทางจาก จ.เพชรบูรณ์ มาตามถนนสาย 21 และ สาย 3004 หนองไผ่-บึงสามพัน-วังพิกุล-ไพศาลี ระยะทาง 125 กม. หรือจะเลือกเดินทางมาจาก จ.ลพบุรี มาตามถนนสาย 1 สาย 3330 และสาย 3004 โคกสำโรง-ตากฟ้า-ไพศาลี ระยะทาง 130 กม. ก็จะถึงจุดหมายปลายทาง


แนะนำการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรมเพียบ

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สัมผัสลมหนาวในป่าไพศาลี อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16:28:24 3,888 อ่าน
TOP