x close

ทางรถไฟสายโรแมนติก

ทางรถไฟสายโรแมนติก

 


ทางรถไฟสายโรแมนติก (กรุงเทพธุรกิจ)

          ใครว่า เกียวโต มีแต่วัด วัด วัด และศาลเจ้า เกียวโตไม่ได้มีแต่วัด วัด วัด และศาลเจ้าเพียงอย่างเดียว สถานที่เที่ยวทางธรรมชาติก็มีเช่นกัน.... และที่หย่อนใจทางธรรมชาติที่เป็นที่นิยมนักหนาคือ ทางรถไฟสายโรแมนติก

          ทางรถไฟสายโรแมนติก เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า รถไฟสายซากาโน่ ตั้งอยู่ในย่าน อาราชิยามา (Arashiyama) อันเป็นย่านเที่ยวเล่น พักผ่อนของชาวเกียวโต ที่เป็นที่นิยมเอามาก ๆ แล้วก็ต้องเชื่อจริง ๆ เพราะแค่นั่งรถเมล์เข้าไปในเขตนั้นก็สัมผัสได้แล้ว...ผู้คนมหาศาล เดิน เที่ยว กิน ช้อป เต็มสองข้างถนน ท่ามกลางแดดที่ร้อนเปรี้ยงปร้าง น่าทึ่ง ตรงช่างไม่ยี่หระกับแสงแดดกันเสียจริง เพื่อนร่วมบ้านที่ปล่อยตัวแล้วแต่ฉันจะหิ้วพาไปที่ไหน ขยับตัวเพ่งมองออกไปนอกหน้าต่างรถ กระแสความคึกคักส่งกลิ่นอาย...โชย...มาถึง จนต้องเอ่ยปากถาม

          "ที่ไหนเนี่ย?"

          "อาราชิยามา.... เราจะไปนั่งรถไฟสายโรแมนติกกัน" ฉันบอกอย่างภูมิใจ จากวัด และวัด และวัด จะได้เปลี่ยนบรรยากาศเป็นชื่นชมธรรมชาติเดี่ยว ๆ เสียบ้าง 

          แต่นั่นแหละ อย่างที่เคยบอก ....ผังเมืองของเกียวโตเป็นรูปสี่เหลี่ยม สมัยก่อนห้ามสร้างวัดภายในเขตนคร เมื่อห้ามนัก ก็เลยออกมาสร้างกันนอกเขต ทำให้วัดสำคัญ ๆ ของเกียวโตส่วนใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในอาณาเขตหุบเขา ที่หลีกลี้ออกมา... เขตอาราชิยามา ไกลห่างออกมา แม้มีชื่อเสียงเรื่องธรรมชาติที่งดงามก็ยัง มีวัด และวัด และวัด รวมทั้งศาลเจ้าจำนวนมากตั้งอยู่บริเวณนี้

          ขณะตั้งหลักมองฝ่าเปลวแดดที่ส่องระยิบออกไปข้างนอก รู้สึกทึ่งกับบรรดาคนญี่ปุ่นที่เดินฉับ ๆ ช่างเดินกันเก่งเสียจริง ไม่กลัวแดดกันเสียเลย พวกสาว ๆ เห็นออกมาเดินกันแบบนี้แต่งตัวกันสวย ๆ ทั้งนั้น ใส่ส้นสูงเดิน ฉับ ฉับ กันคล่องแคล่ว บางคนถือร่มกางกั้นแดด แต่ส่วนใหญ่จะถือพัดมากกว่า ถือติดไม้ติดมือทั้งหญิงและชาย มีทั้งแบบพลาสติกแข็ง ๆ และแบบที่เป็นพัดจีบพับเก็บได้ พอจะใช้ก็แค่คลี่สะบัดออก โบกพัดไล่ไอร้อนไปมา เห็นแล้วน่าสนุก ถ้าหยิบพัดสานจากไม้ไผ่บ้านเราติดมือมาด้วย เวลาเอาออกมาพัดโบก คงเก๋ดีพิลึก

ทางรถไฟสายโรแมนติก



          คนญี่ปุ่นชอบเดิน และขี่จักรยาน ตามถนนหนทางในเกียวโตไม่ว่าจะย่านไหน จะมีผู้คนขี่จักรยานเป็นพาหานะกันมากมาย เวลาเดิน ๆ ไปตามทางเท้าต้องคอยระวัง เพราะจะมีรถจักรยานเอี่ยวขอใช้ทางด้วย ดูแล้วก็น่าอิจฉาที่การสัญจรของชาวเกียวโตมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่จักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ รถเมล์ รถไฟใต้ดิน ไปถึงรถไฟเชื่อมระหว่างเมือง

          ตอนลงจากรถเมล์ มองแดดด้านนอกแล้วรู้สึกท้อขึ้นมา ยอมรับว่าเห็นเปลวแดดที่เต้นระยิบแล้วสู้ไม่ไหวจริง ๆ ที่คิดจะเดินเที่ยวชมโน่น ชมนี่เลยเปลี่ยนใจเสียเฉย ๆ กระทั่งเห็น สะพานโทเก็ตสึ (Togetsu) ที่ทอดข้ามผ่านแม่น้ำที่เป็นเสมือนหนึ่งในสัญลักษณ์ must-see ของที่นี่ ลิบ ๆ ยังเมินเฉย ไม่ขยับเท้ารี่เข้าหา กลับเอ่ยชักชวนเพื่อนร่วมบ้านไปทางอื่น

          "หาสถานีรถไฟซากาดีกว่า" ใจตอนนั้นคิดแต่ว่า ได้นั่งรถไฟชมวิวคงจะดีกว่าเดินฝ่าเปลวแดดเที่ยวชมโน่นชมนี่เป็นแน่

ทางรถไฟสายโรแมนติก



          แต่.... แค่เดินหา สถานีรถไฟซากา ก็ย่ำแย่เสียแล้ว ขนาดหยิบแผนที่จากบูธที่วางแจกนักท่องเที่ยวแท้ ๆ ยังเดินหลุดไปหลุดมา งง !!! หลงอีกแล้ว แผนที่ญี่ปุ่นต้องไม่มีมาตราส่วนแน่ ๆ อะไรใกล้-ไกล ถึงได้เพี้ยนไปหมด เพื่อนร่วมบ้านฉันแย้งขึ้นมา

          "มีสิ แผนที่ก็ต้องมีสเกล.... แต่หมายถึงแผนที่ซื้อนะ ไม่ใช่แจก" แล้วจะพูดทำไมเนี่ย...

          เดินหลุดไปหลุดมา กระทั่งไปเจอ วัดเท็นเรียวจิ (Tenryuji) อันเป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของบริเวณนี้ และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลกด้านวัฒนธรรม แต่ ณ ตอนนั้นไม่มีอารมณ์ที่จะเข้าไปเที่ยวชมวัดใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย

          แต่กระนั้นเมื่อผ่านวัดไปทางด้านหลัง ฉันกับเพื่อนร่วมบ้านก็เจอเข้ากับสวนไผ่ ที่ขึ้นขนาบทางเดินแคบ ๆ ทั้งสองด้าน สวย....

ทางรถไฟสายโรแมนติก



          ในใจต้องหลุดคำนั้นออกมา "สวยจริง ๆ"

          ต้นไผ่ที่สูงเสียดขึ้นสองข้างทางอวดลวดลายของลำต้นที่เป็นปล้อง ๆ บดบังแดดที่ส่องจ้าด้านบน ให้เห็นแสงพอรำไร นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินผ่านเข้าไปตามทางที่ผ่าเข้าไปกลางสวนไผ่นั้น

          ใครได้มาเผชิญสวนไผ่แห่งนี้เข้าคงคุ้นตา เพราะเป็นสถานที่ที่ได้ขึ้นอวดบนเว็บไซต์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นหลายเจ้า ถ้าอากาศไม่ร้อนจัด และสภาพร่างกายพร้อมกว่านี้ ฉันคงไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปลุยข้างในเช่นกัน

          ฉันกับเพื่อนร่วมบ้านตัดใจเดินเลี้ยวออกจากทางที่ผ่านเข้าไปกลางสวนไผ่ เพราะจะยิ่งนำพาไปให้ห่างไกลจากสถานีรถไฟ แต่ในใจก็ยังอดนึกดีใจไม่ได้ ที่เดินกันเฟอะฟะมาจนได้เห็นสวนไผ่ที่อาราชิยามาจนได้

          เดินวนไปวนมา กระทั่งมาตั้งต้นกันใหม่ที่จุดเดิม จุด ณ ที่ลงจากรถเมล์น่ะแหละ เอาเป็นว่าเริ่มกันใหม่ ลองจับทิศทางกันใหม่ คราวนี้จากที่ตอนแรกไปทางฝั่งขวา ลองเปลี่ยนเป็นฝั่งซ้าย (หันหน้าไปทางสะพานโทเก็ตสึ) ดูบรรยากาศแล้วดูเหมือนทางเดินฝั่งซ้ายจะไม่ได้นำพาไปยังที่เที่ยวสำคัญ ๆ เหมือนทางเดินฝั่งขวา แต่ก็มีคนใช้เส้นทางนี้ไม่น้อย

          "แหง ๆ ใช่แน่ ๆ "  เพื่อนร่วมบ้านมั่นอกมั่นใจขึ้นมาเชียว "เดินตามกันไปเยอะ ๆ แบบนี้ ต้องใช่แน่ ๆ"

          แล้วก็ใช่จริง ๆ ด้วย ในที่สุดเราก็เห็นอาคารสีส้ม มีหัวจักรรถไฟแบบโบราณวางแสดงอยู่ด้านหน้า...Saga Torokko Station

          รีบตรงรี่เข้าไปข้างในทันที ด้วยทั้งร้อน และเหนื่อย

ทางรถไฟสายโรแมนติก



          บรรยากาศภายในคึกคัก หน้าเคาน์เตอร์ขายตั๋วมีจอทีวีติดตั้งด้านบนหลายจอ ฉายวนทำการตลาดให้นักท่องเที่ยวที่หลุดเข้ามาระหว่างทำการตัดสินใจว่าจะซื้อ ตั๋วชมวิวทางรถไฟสายโรแมนติกดีหรือไม่ ได้ชมดูความงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่รถไฟวิ่งผ่าน ซึ่งจะแตกต่างตามฤดูกาลที่เปลี่ยนไป

          ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน
          ดูแล้วใจไม่อ่อนยวบให้มันรู้ไป
          ฤดูใบไม้ร่วง ใบเมเปิลเปลี่ยนสีเป็นสีส้มแดง
          ฤดูหนาว เวิ้งว้าง เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลน
          ฤดูใบไม้ผลิ ซากุระออกดอกสีชมพูสะพรั่ง
          ฤดูร้อน เผยให้เห็นต้นไม้สีเขียวขจี

          แถวของนักท่องเที่ยวที่ยืนต่อคิวซื้อตั๋วไม่ยาวเท่าไหร่ พอใจชื้นว่าน่าจะได้ตั๋ว เพราะเคยอ่านเจอมาก่อนว่า ทางรถไฟสายนี้เป็นที่นิยมมาก

          ควรจะจองซื้อตั๋วล่วงหน้าที่สถานีรถไฟเกียวโตดีกว่ามาสุ่มเสี่ยงซื้อที่นี่...


แนะนำการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรมเพียบ

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ทางรถไฟสายโรแมนติก อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 16:07:05 1,324 อ่าน
TOP