สัมผัสทุ่งดอกไม้ สีสันถิ่นอีสานบนภูผาเทิบ (ไทยรัฐ)
ช่วงปลายฝนต้นหนาว นักเดินทางต่างรู้ดีเวลานี้คือสวรรค์ของการออกท่องโลกกว้าง และหากใครไปเยือนแดนอีสานยามนี้ จะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์และสีสันแห่งแผ่นดิน ทุ่งนาป่าเขาเขียวขจี ชุ่มฉ่ำจากสายฝนหยาดสุดท้าย ผสานผสมกับสายลมเย็นยะเยือกที่พัดมาสัมผัสผิวกายให้รู้สึกสั่นสะท้านจนสะใจ ใครต่อใครหลายคน แถมท้ายด้วยทุ่งดอกไม้ ที่ธรรมชาติสรรหามาแต่งแต้มผืนดินถิ่นนี้ให้งดงามอร่ามตา
ห่างจากตัวเมืองมุกดาหารไปราว 17 กิโลเมตร บนเส้นทางสายมุกดาหาร-ดอนตาล เป็นที่ตั้งของ อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ อุทยานฯ ลำดับที่ 59 ของไทย อยู่ในความดูแลของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีเนื้อที่ 48.5 ตารางกิโลเมตร หรือกว่า 3 หมื่นไร่ ครอบคลุมตำบลนาสีนวน ตำบลคำอาฮวน ตำบลดงเย็น อำเภอเมืองมุกดาหาร และตำบลบ้านแก้ง อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร พื้นที่โดยทั่วไปเป็นเทือกเขาสูงๆต่ำๆหลายลูกต่อเนื่องกัน สลับกับหน้าผาสูงชันและลานหินกว้าง ที่นี่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางระหว่าง 170-420 เมตร มีภูจอมศรีเป็นภูเขาที่ใหญ่ที่สุด
อุทยานฯ แห่งนี้ มีความหลากหลายของพันธุ์ไม้ และสัตว์ป่า ร้อยละ 60 ของพื้นที่เป็นป่าเต็งรัง มีไม้เด่น อาทิ เต็ง รัง เหียง พะยอม และกระบก ส่วนพื้นที่อีกร้อยละ 30 เป็นป่าเบญจพรรณ มีไม้เด่น เช่น แดง ประดู่ พะยูง ตะแบกและมะค่าโมง เหลืออีกร้อยละ 10 ของพื้นที่เป็นป่าดิบแล้ง ตะเคียนหิน เขลง โมกขาว ติ้วขาว ติ้วขนและลำดวนดง เป็นไม้เด่นของป่าประเภทนี้ สำหรับสัตว์ป่า ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ขนาดเล็กจำพวก หมูป่า ลิง กระต่าย กระรอก กระแต อีเห็น ไก่ป่าและนกนานาชนิด
แหล่งท่องเที่ยวเด่น ๆ ภายในอุทยานฯ คือ กลุ่มหินเทิบ มีลักษณะเป็นกลุ่มหินรูปทรงแปลกตา วางทับซ้อนกันอย่างวิจิตรพิสดาร เหมือนเพิงผากันแดดกันลม หรือเสาหินยักษ์มีแผ่นหินเทินทับไว้ หลายคนจินตนาการไปตามความรู้สึก บ้างคล้ายหัวจระเข้ มงกุฎ เครื่องบิน แมวน้ำ นักธรณีวิทยาสันนิษฐานว่า เดิมทีกลุ่มหินเหล่านี้มีดินภูเขาปกคลุมอยู่ แต่เมื่อถูกกระแสน้ำและสายลมกัดเซาะจนพังทลายไปเรื่อยๆ หลังผ่านพ้นกาลเวลายาวนานถึง 95-120 ล้านปี จึงกลายเป็นประติมากรรมชิ้นเอกจากฝีมือธรรมชาติมอบไว้เป็นของขวัญแก่ชาวโลก
ถัดจากกลุ่มหินเทิบไปไม่ไกลนัก จะเป็นลานหินทรายทอดยาวกว้างไกลกินพื้นที่ราว 1 ตารางกิโลเมตร มีชื่อว่า ลานมุจลินท์ บริเวณรอบลานหินที่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ จะเป็นป่าเต็งรังแคระมีไม้พุ่มและไม้ใหญ่ปะปนกัน ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะพบทุ่งดอกหญ้าสีสันสวยงามชูช่อเบ่งบานสะพรั่งโต้ลมอวดสายตาผู้มาเยือน อาทิ สร้อยสุวรรณา ดุสิตา มณีเทวา ทิพเกสร สรัสจันทร หยาดน้ำค้าง และทิพย์จันทร์ เห็นดงดอกไม้สีสวยๆแล้วอดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ ลองคิดดูแค่ได้มายืนสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่บนลานหินที่ดารดาษไปด้วยดอกไม้ นานาพันธุ์ มันเป็นความสุขทางใจที่หาใดเปรียบ หรือใครจะเถียงว่าสวรรค์บนดินไม่มีจริง
แหล่งท่องเที่ยวในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ บนภูผาเทิบนอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหลายจุดที่ห้ามพลาดเด็ดขาด หากใครอยากเห็นวิวทิวทัศน์กว้างไกลของอุทยานฯ ต้องไปยล ณ จุดชมวิว ผาอูฐ ซึ่งริมหน้าผาจะมีประติมากรรมหินรูปร่างคล้ายอูฐ เป็นที่มาของชื่อ หรือถ้าใครอยากชมตะวันแรกของวัน ต้องไปนั่งรอนอนรอแต่เช้ามืดที่ ผางอย บริเวณนี้จะมีหินรูปร่างคล้ายเต่าเป็นสัญลักษณ์ จากนั้นอย่าลืมแวะไปเที่ยวชม ภูถ้ำพระ ที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯราว 2 กิโลเมตร ที่นั่นจะเป็นหน้าผาสูงชันประมาณ 30 เมตร ในช่วงปลายฝนเช่นนี้ยังพอมีสายน้ำตกขาวสะอาดให้ได้สัมผัสฉ่ำชื่นใจ ถัดจากภูถ้ำพระไปอีกนิดจะถึง ผามะนาว จุดชมวิวและแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาที่สำคัญ เลยไปอีกหน่อยคือ ผาไทร จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามไม่แพ้ใครเช่นกัน
หนาวนี้ลองไปเยี่ยมเยือนเมืองมุกฯ และสุขสนุกกับธรรมชาติจากพงไพรที่ลานดอกไม้บน ภูผาเทิบดูสักครั้ง แล้วจะเข้าใจว่าเมืองไทยยังมีอะไรดี ๆ ให้ดูอีกเยอะ สนใจอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม โทร. 0-4251-3490-1 หรือเว็บไซต์กลุ่มจังหวัดสนุก (นครพนม สกลนคร มุกดาหาร) www.tatsanuk.com จะได้รับความกระจ่างมากขึ้น
แนะนำการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรมเพียบ