ทำความรู้จักหมู่บ้านป๊อปอายของจริง ณ ประเทศมอลตา

           คงไม่มีใครไม่รู้จักการ์ตูนชื่อดัง Popeye ที่ทำให้เด็ก ๆ หลายคนพากันกล้ำกลืนฝืนใจกินผักเหม็นเขียว เพื่อจะได้แข็งแรงอย่างป๊อปอายบ้างแน่นอน แต่ใครจะคิดล่ะว่าในชีวิตจริง จะมีหมู่บ้านป๊อปอายของจริงให้เราได้เยี่ยมชมอยู่ด้วย โดยหมู่บ้านที่ว่านี้มีฉายาว่า Popeye’s Village ในขณะที่มีอีกชื่อคือ Sweethaven Village และตั้งอยู่ในประเทศเล็ก ๆ ในแถบยุโรปอย่างประเทศมอลตานั่นเอง

           หมู่บ้านนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1929 เพื่อใช้เป็นฉากถ่ายทำของป๊อปอายฉบับภาพยนตร์ ที่ร่วมกันลงทุนระหว่าง Paramount Pictures และ Walt Disney โดยกว่าจะเสร็จสมบูรณ์เป็นอย่างที่เราเห็นอยู่นี้ ก็ต้องใช้คนงานราว 165 คน ตะปูหนักกว่า 9 ตัน แถมยังต้องขนไม้ข้ามน้ำข้ามทะเลจากฮอลแลนด์และแคนาดามาใช้ เพราะที่เมืองนี้ไม่มีป่าให้ตัดไม้มาทำเป็นวัสดุของตัวเองได้อีกต่างหาก กว่าจะได้เป็นบ้านไม้ของจริง 19 หลังนี้ขึ้นมา

           ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ก็ยังถูกคงสภาพเดิมไว้อย่างนั้น และกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อเสียงด้วย โดยมีทั้งบ้านไม้สีสันสะดุดตาแบบในการ์ตูน อีกทั้งยังมีพวกรูปปั้นของตัวละครดัง ๆ จากในเรื่องเช่น ป๊อปอาย, โอลีฟ ออยล์, บลูโต, สวีทพี และวิมปี ให้เราได้ถ่ายรูปเล่นกับตัวละครโปรดกันได้จุใจอีกด้วย

           ส่วนใครที่กลัวว่าแค่มองวิวอย่างเดียวจะเบื่อเอาได้ ก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะที่นี่มีกิจกรรมให้เราสนุกเพลิดเพลินเต็มไปหมด เริ่มจากแบบที่เน้นการ์ตูนดังเรื่องนี้เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการทัวร์พิพิธภัณฑ์ป๊อปอาย, ดูละครหุ่น, ชมการ์ตูนป๊อปอายในโรงภาพยนตร์, หรือแม้แต่ถ่ายหนังป๊อปอายเวอร์ชั่นตัวเองแล้วเอาวิดีโอกลับไปดูเล่น ๆ ที่บ้านด้วย


           นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อย่างการเพนต์ลวดลายลงบนใบหน้า, เล่านิทาน, ปิ้งบาร์บีคิว และเล่นเกม Wii ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโปรแกรมไว้เอาใจพวกผู้ใหญ่ เช่น มินิกอล์ฟคอร์ส และโปรแกรมชิมไวน์ฟรีอีกด้วย สำหรับช่วงเทศกาลบางทีก็จะมีกิจกรรมพิเศษแทรกขึ้นมาอีก เช่น พาเหรดคริสต์มาสและเที่ยวชมเมืองของเล่นซานต้าช่วงเดือนธันวาคม

           เห็นไหมละว่าเป็นที่ที่เหมาะกับการพาครอบครัวมาเที่ยวในวันหยุดพักผ่อนที่สุด จากการที่มีกิจกรรมเอาใจคนทุกเพศทุกวัย แถมยังมีการตกแต่งที่ถูกใจแฟนการ์ตูนดังเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอนอีกด้วย แบบนี้แล้วถ้าใครมีลูกที่รักการ์ตูนเรื่องนี้ หรือรู้ดีว่าตัวเองเป็นแฟนพันธุ์แท้ ก็ต้องลองหาโอกาสแวะเวียนไปให้ได้นะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
odditycentral.com และ popeyemalta.com