x close

ภูสอยดาว ขุนเขา ดอกไม้งาม

 

ภูสอยดาว ขุนเขา ดอกไม้งาม (อ.ส.ท.)

 

โดย : อภินันท์  บัวหภักดี

 

          ภูสอยดาว เทือกเขาสูงที่ข้างบนนั้นคือทุ่งดอกไม้นานาชนิดแสนสวย นำมาด้วยดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อนเป็นทุ่งใหญ่ ๆ ดอกสุพรรณิการ์สีเหลืองสด และดอกชมพูเชียงดาวสีม่วงแดง ขึ้นกระจายบานสะพรั่งเต็มไปทั้งเทือกดอยกว้างใหญ่มียอดสูงของเทือกเขา ป่าสน และไอหมอกเป็นฉากหลังที่ลงตัวงดงามสุดบรรยายเท่านั้นยังไม่พอ ที่นี่ยังมีน้ำตกสวย ๆ ในแวดล้อมของพรรณไม้สีเขียวมรกต มอส เฟิน และตะไคร่น้ำ ที่ช่วยกันคลี่คลุมกรวดหินและเปลือกไม้ รังสรรค์ศิลปะธรรมชาติให้เกิดขึ้นอย่างงดงามยากจะมีที่ใดเสมอเหมือน มีเงินมีทองสักกี่หมื่นกี่พันล้านก็คงไม่สามารถเนรมิตธรรมชาติงาม ๆ เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ให้เกิดขึ้นได้

 

 

          ด้วยเหตุนี้ ภูสอยดาวจึงเป็นชุมทางหนึ่งของผู้รักธรรมชาติ ที่ทุกปีเมื่อดอกไม้ผลิบานพร้อม ๆ กับไอหมอกห่มคลุมทั้งเทือกเขา ขบวนคนก็จะพากันเดินเท้าไต่เขาสูงอย่างทรหดขึ้นมาจนถึงที่นี่ นานเป็นหลายชั่วโมงเลยทีเดียวกว่าขบวนคนเหล่านั้นจะทยอยขึ้นมาถึงยอดเขาแบบหมดสภาพ

 

 

          ภูสอยดาวยังคงความสวยงามโดดเด่นอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ที่ทุ่งดอกไม้ขนาดกว้างใหญ่ ดอกไม้ยังผลิดอกออกช่อเต็มพื้นที่ น้ำตกยังคงหลั่งไหลสายน้ำสีเงิน และบรรดามอส เฟิน พรรณไม้ธรรมชาติต่าง ๆ ก็ยังเปล่งประกายสีเขียวมรกตสดชื่น ส่วนขบวนคนที่เดินทางขึ้นสู่ยอดภูสอยดาวก็ยังมีไม่น้อยเช่นเดิม น่าชมเชยเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รวมทั้งขบวนลูกหาบ ชาวบ้านรอบ ๆ ภูสอยดาว ที่ช่วยกันขึ้นมาทำงานบริการนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีและต้องขอบคุณอีกส่วนหนึ่งก็คือ บรรดานักท่องเที่ยวและผู้จัดการนำเที่ยว ที่ช่วยกันปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ถ้าทุก ๆ อย่างยังคงเป็นไปด้วยดีเช่นนี้ เชื่อว่าความงดงามของภูสอยดาวก็จะดำรงคงอยู่คู่กับการท่องเที่ยวบ้านเราไปอีกชั่วกาลนาน

 

 

          อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวจะรับหน้าที่จัดขบวนลูกหาบซึ่งเป็นชาวบ้านรอบ ๆ อุทยานฯ เข้ามาช่วยแบบยุติธรรม เรียงกันตามหมู่บ้านเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวกลุ่มที่มาก่อนเมื่อมาถึงก็รวบรวมสัมภาระที่จะให้ลูกหาบแบกขึ้นไปกองเป็นกลุ่มไว้แล้วไปเข้าคิวรอ ทางอุทยานฯ จะจัดการกับกองสัมภาระเหล่านั้นเอง เมื่อทางอุทยานฯ จัดการ (คิดเงิน) เรียบร้อย นักท่องเที่ยวก็เดินเท้าขึ้นเขาไปได้ไม่ต้องรอ

 

 

ปีนภูสูง พิชิต 5 เนินทรหด

 

          ชื่อของเนินทั้ง 5 ชื่อเพราะ ๆ แบบขู่เอาไว้ทั้งนั้น ได้แก่ เนินแรก เนินส่งญาติ เนินนี้เริ่มก็ชันเลย ชันแล้วก็ชันแบบหักพับอีกสองสามชั้น เป็นระยะทางประมาณกิโลเมตรกว่า ๆ ชันดิ่ว ๆ เดินกันไปเหนื่อยก็หยุดพักกันไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ เรียกว่าวอร์ม ๆ ออมแรงไว้

 

 

          เนินที่สองคือเนินปราบเซียน  เนินนี้ก็ชันอีก ชันดิ่ว ๆ อีกตามเคย ระยะทางประมาณกิโลฯ กว่า ๆ อีกเหมือนกัน วิธีเดินก็คงเหมือนเนินแรก คือเดินไป เหนื่อยก็หยุดพักแล้วเดินใหม่ ไม่ต้องรีบ เนินที่สามและเนินที่สี่ คือเนินป่าก่อและเนินเสือโคร่งสองเนินนี้ทางเริ่มชันน้อยลง เป็นทางบนสันเขาที่ชันน้อย ๆ แต่ยาวและต้องเดินขึ้นเรื่อย ๆ มีทางลงสลับบ้าง ปลายเนินเสือโคร่งมีทางลงยาวพอให้ใจชื้น แต่ตรงสุดทางนั่นละคือเนินสุดท้าย เนินมรณะ

 

 

          เนินมรณะ เนินนี้ชันดิ่ว ๆ สัก 60 องศาขึ้นไปและขึ้นชันอย่างเดียวไม่มีลง ทางแบบนี้นับว่ายาก ที่สำคัญกว่าจะมาถึงเนินนี้ก็เหนื่อยเมื่อยล้ากับเนินอื่น ๆ มาแล้วตั้งเยอะ เนินนี้จึงเป็นเนินมรณะสมชื่อ

 

 

          บนยอดภูที่ลานดอกไม้ใต้ทิวสน ดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อนบางสะพรั่ง ใต้ต้นหงอนนาคยังมีต้นถั่วยักษ์ออกดอกสีเหลืองสดเป็นฉากล่าง ทิวสนและสายหมอกเป็นฉากหลัง มีต้นสุพรรณิการ์ชูช่อสีเหลืองสดกระจายอยู่ตรงโน้นตรงนี้ทั่วไป ธรรมชาติทุกอย่างรวมกันเป็นภาพงามลงตัว

 

 

          อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวเป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่บนเส้นพรมแดนไทยและลาวพอดี โดยพื้นที่ของอุทยานฯ เกือบทั้งหมดเป็นพื้นที่บนเทือกเขา มีอาณาเขตใหญ่โตกว้างขวาง ครอบคลุมยอดเขาหลายลูก แต่พื้นที่ของเทือกเขาทั้งหมดนี้มีเส้นพรมแดนไทยลาวผ่าครึ่งตรงกลาง ภูเขาเทือกใหญ่ ๆ นี้ทั้งเทือกจึงเป็นของประเทศไทยเพียงครึ่งเทือก ส่วนอีกครึ่งเทือกเป็นของลาว ที่เป็นดังนี้ก็เพราะการขีดเส้นสมมุติกั้นพรมแดนไทย-ลาวตรงนี้ใช้ขีดเส้นแบ่งไปบนสันปันน้ำของเทือกเขานี้ สันที่ปันน้ำมาทางฝั่งไทยเป็นของไทย ส่วนสันด้านที่ปันน้ำไปตกข้างลาวก็เป็นของลาวไปสันฟากที่ปันน้ำมาทางไทยทั้งหมดเป็นพื้นที่อุทยานฯ ที่มียอดภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ๒,๑๐๒ เมตร เป็นยอดสูงสุดและเป็นต้นน้ำสำคัญของลำน้ำสองสาย คือ น้ำภาคและน้ำพาน ที่ไหลลงสู่ลำน้ำแควน้อย แล้วไหลไปลงแม่น้ำน่าน

 

 

          อุทยานฯ จึงมีพื้นที่เป็นครึ่งหนึ่งของเทือกเขาใหญ่ ๆ แห่งนี้ แต่แม้จะแค่นี้ก็มีสิ่งที่น่าชมมากมาย ที่สำคัญก็คือน้ำตกภูสอยดาวข้างล่างและลานสนลานดอกไม้บนยอดภูสอยดาวแห่งนี้ ที่มีขนาดกว้างยาวประมาณ 1,000 ไร่ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางขึ้นมาประมาณ 1,600 เมตรกว่า ๆ

 

เดินชมดอกไม้งามบนยอดภู

 

          เส้นทางที่แยกออกจากลานดอกไม้มี 3 เส้นทาง คือ เส้นทางขึ้นยอดเขา เส้นทางลงน้ำตกแสงทิพย์ และ เส้นทางเดินวนรอบลานดอกไม้

 

 

          และในการเดินเท้าชมดอกไม้ช่วงเช้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ลานดอกไม้เริ่มผลิบานประมาณ 10.00 น. ดอกไม้มีมาก แน่นขนัดไปตลอดทาง ต่างชื่นชอบ หยุดถ่ายภาพกันเป็นระยะ ๆ ยิ่งเดินไปพอสายเข้า ๆ เมฆหมอกเริ่มเปิดให้มองเห็นยอดภูสอยดาวชัดเจนขึ้นภาพก็ยิ่งสวย ชาวคณะที่เดินชมก็ชมกันได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

 

 

          พอตอนบ่ายการเดินลงไปชมน้ำตกก็เปลี่ยนบรรยากาศจากการเดินชมดอกไม้สบาย ๆ ไปเป็นเดินในป่ารกสมบุกสมบัน เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ต้องค่อย ๆ พาคณะทั้งหมดลัดเลาะลงไปในช่องเขารกทึบ แต่น้ำตกสายทิพย์เท่าที่พบเจอในคราวนี้ก็แทบไม่ค่อยมีน้ำเท่าไหร่ ความงดงามจึงลดลงไปเยอะ หลายคนบ่นคิดถึงน้ำตกมอสใจจะขาด ไม่รู้เมื่อไร ชาตินี้หรือชาติไหนจะได้ไปเยี่ยมเยือนกันอีก จึงเป็นอันว่ามาคราวนี้ไม่มีอะไรจะชนะพระเอกของเราคือลานดอกไม้บนยอดภูไปได้

 

 

          ยามเย็นเมื่อฟ้าเริ่มเปิด ทำให้มีโอกาสได้เห็นพระอาทิตย์ตกที่ภูสอยดาว นักท่องเที่ยวเกือบทุกคณะต่างมาออกันรอชมพระอาทิตย์ตกที่ริมหน้าผา

 

 

          ตอนลงเขาต้องใช้ทักษะในการลงชั้นยอด เพราะทางอันตราย พวกเราและคณะ ใช้เวลา ประมาณ 1-2 ชั่วโมง  โดยคนสุดท้ายที่ลงมาถึง ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมงเศษ ๆ

 

          เสร็จจากขึ้นภูสอยดาวเที่ยวนี้แล้ว ก็คงจะมีอีกหลาย ๆ เที่ยว ที่จะได้มาเยือนภูแห่งนี้แน่นอนครับ

 

แนะนำการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรมเพียบ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ภูสอยดาว ขุนเขา ดอกไม้งาม อัปเดตล่าสุด 15 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15:30:07 1,001 อ่าน
TOP