สรุปข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ททท.
ความสุขอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก อีกมุมหนึ่งของมหานครกรุงเทพฯ อย่าง บางขุนเทียน ที่นี่แสงสุดท้ายกำลังจะลาลับขอบฟ้า ท่ามกลางท้องทะเลอันเงียบสงบ สายลมที่พัดฉ่ำเย็น รอคอยผู้คนแวะเวียนมาเยี่ยมเยือน และนั่งดูแสงสุดท้ายนี้ด้วยกัน วันนี่เรามีโปรแกรมเที่ยว บางขุนเทียน มาบอกกัน...

บางขุนเทียน

วัดมอญมีอายุมากกว่า 100 ปี ตั้งขนานติดชายคลอง ภายในวัดมีกุฏิโบราณไม้ทรงไทย ใต้ถุนสูง มีเสากว่า 200 ต้น ตั้งเรียงรายกันเป็นแนว มีพระพุทธรูปยืนแกะสลักด้วยไม้พรมมาทั้งท่อน ทั้งนี้ งานสงกรานต์ที่วัดบางกระดี่ จะมีช้ากว่าที่อื่น ๆ ประมาณวันที่ 18 เมษายนของทุกปี เป็นพิธีโบราณของชาวมอญที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน นอกจากนั้นยังมีการแสดงการละเล่นต่าง ๆ ของชาวมอญอีกมากมาย

บางขุนเทียน

ชุมชนมอญที่นี่ สามารถดูแลรักษาประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมเอาไว้ได้เป็นอย่างดี เรือนโบราณแบบเดิม ๆ บานเฟี้ยม ปลาตะเพียนสานห้อยริมหน้า ต่างบ้านไม้ยังมีให้เห็น ในชุมชนยังมี พิพิธภัณฑ์ภาพถ่าย รวมถึงศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมมอญ ให้ผู้ที่สนใจในวิถีของชาวมอญชมความสวยงาม

บางขุนเทียน

สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 เคยเป็นสถานที่ในการประกอบพิธี เบิกโขลนทวารบานประตู ของลัทธิพราหมณ์ เพื่อเป็นการตัดไม้ข่มนามในตำราพิชัยสงคราม ซึ่งถือว่าเป็นเคล็ดก่อนการยกทัพ

บางขุนเทียน

บางขุนเทียน

ซึมซับกับวิถีชีวิตริมน้ำสองฟากฝั่งคลอง ชมป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ผืนสุดท้ายของกรุงเทพฯ ประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะถึงปากคลองหรือปากอ่าว หลักเขตที่ 28 ของกรุงเทพฯ หลักเขตแห่งนี้เดิมปักแบ่งเขตกรุงเทพฯ กับสมุทรปราการอยู่บนแผ่นดินแต่เวลานี้...กลับลอยเด่นอยู่กลางทะเล เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจถึงภัยธรรมชาติน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ในฤดูหนาวอาจได้เห็นปลาโลมาว่ายเวียนมาทักทาย โดยซื้อบัตรค่าเรือล่องคลองบางขุนเทียน ไป-กลับคนละ 50 บาท เด็ก 20 บาท เรือบริการตั้งแต่ 11.00 น.-18.30 น.
ที่นี่บางขุนเทียน…มาชมแสงสุดท้ายที่ปลายโค้งฟ้า อิ่มเอมกับความสุขท่ามกลางท้องทะเลอันสงบเย็น ค่อย ๆ สูดลมหายใจช้า ๆ แล้วเก็บภาพความประทับใจเอาไว้ เพื่อใช้ส่งต่อให้ใคร ๆ อีกหลายคน

หนังสือ : เที่ยวภาคกลาง ถูกดี มีจริง