เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม
ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่กับบทเรียนการเดินทางสอนให้รู้ว่า บนเส้นทางอันท้าทายนั้นต้องอาศัยจิตใจที่เด็ดเดี่ยวและหนักแน่นในการพาชีวิตสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้น ความอบอุ่นและกำลังใจจากเพื่อนร่วมทางก็เป็นปัจจัยร่วมสำคัญ
ทองผาภูมิ คือชื่ออุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับชื่ออำเภอในเขตพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี ดินแดนอดีตเหมืองแร่ที่โด่งดังชายแดนไทย-พม่า ในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้กว่า 60 ปี กล่าวถึง เหมืองปิล็อก เหมืองขนาดใหญ่ที่นำมาซึ่งรายได้หลัก และเป็นลมหายใจของชีวิตคนกาญจนบุรี วิถีชีวิตคนทำเหมืองที่ต้องผจญกับโลกธรรมชาติที่โหดร้าย
มาถึงวันนี้โลกสมัยใหม่ได้สร้างสิ่งทดแทนแร่ดีบุกขึ้นมา ราคาแร่ดีบุกจึงตกต่ำไม่คุ้มค่าการลงทุน ทำให้ถึงยุคสิ้นสุดของการทำเหมืองเมื่อปี พ.ศ.2528 ผู้คนที่มีอาชีพทำเหมืองแร่มากกว่า 30 ปี บางส่วนอาศัยอยู่ที่เดิมเป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่บ้านอีต่อง นับเป็นชุมชนแห่งประวัติศาสตร์ของการทำเหมืองแร่ปิล็อกที่หลงเหลืออยู่ บางกลุ่มแยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาเดิม และบางส่วนก็ออกไปหางานที่อื่นทำ
บ้านอีต่องอยู่ท่ามกลางสภาพภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสูงชัน มีความงดงามของท้องทะเลแห่งขุนเขาและทะเลหมอกในยามเช้าที่เงียบสงบ ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้จึงมีนักเดินทางที่ชื่นชอบธรรมชาติแวะเวียนมา จากอดีตเส้นทางที่ลำบากก็สะดวกสบายขึ้น ทำให้อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิวันนี้เติบโตพร้อมรับนักเดินทางได้มากขึ้น ด้วยสภาพธรรมชาติแห่งขุนเขา สายธารน้ำตกที่อุดมสมบูรณ์ เมืองชายแดนแห่งนี้จึงดูคึกคักไม่เงียบเหงา ครั้งนี้จึงเสมือนการเปิดบันทึกหน้าใหม่ให้กับดินแดนแห่งเหมืองปิล็อกและความสมบูรณ์ของผืนป่าทองผาภูมิ
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองไปอีกประมาณ 60 กิโลเมตร เส้นทางที่สะดวกสบายเลาะเลียบอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ริมทางใกล้เขื่อนมีรีสอร์ตที่พักมากมายเงียบสงบกว่าทางด้าน อำเภอสัขละบุรี เมืองเล็ก ๆ ที่เติบโตรับนักท่องเที่ยวมานานแล้ว ท้องถนนมีรถน้อยไม่วุ่นวาย สามารถขับชมทิวทัศน์เกาะแก่ง ผาหินได้สบาย
พ้นจากแนวเขื่อนเขาแหลมมีป้ายบอกทางสู่เหมืองปิล็อกเป็นระยะ ๆ เส้นทางเริ่มไต่ระดับขึ้นเขาโค้งไปมาตามหุบเขา ผืนป่าที่หนาทึบชุ่มชื่นแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ได้เป็นอย่างดี ช่วงเส้นทางป่า ถนนจะแคบลง แต่ก็ไม่ลำบาก รถสามารถขับสวนกันได้ ไต่ผ่านผืนป่าไปประมาณ 12 กิโลเมตร ก็จะพบจุดชมทิวทัศน์จุดแรก ในวันที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งมีโอกาสได้เห็นท้องน้ำแห่งทะเลสาบเขื่อนเขาแหลม บางวันก็เห็นเป็นทะเลหมอกปกคลุมผืนป่า นับเป็นจุดชมทิวทัศน์ริมทางที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง จากจุดชมวิวขับรถต่อไปอีกประมาณ 13 กิโลเมตร ก็ถึงอุทยานฯ
จุดชมวิวเนินกูดดอยเป็นจุดชมวิวยามเช้าที่ใกล้กับอุทยานฯ จึงไม่ต้องเดินเท้าไกล เป็นจุดที่สามารถกางเต้นท์ได้ มีห้องน้ำสะดวกสบาย และที่โดดเด่นคือในบริเวณเนินเขานี้มีต้นกูดดอยขึ้นกระจายไปทั่ว นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวิวเนินกูดดอยไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดชมวิวเขาช้างเผือก ยอดเขาที่สูงที่สุดโดดเด่นอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกที่คลอเคลียอยู่ตลอดเวลา เป็นเส้นทางที่เปิดให้นักผจญภัยได้เดินขึ้นไปสัมผัส
เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยต่องปะแล ปลายทางเป็นจุดชมวิวมองเห็นเนินเสาธง และในหุบด้านล่างเห็นสายน้ำตกจ๊อกกระดิ่น สายน้ำแห่งทองผาภูมิ
บนถนนเล็ก ๆ สู่เหมืองแร่เก่ามาถึงสายธารอันสมบูรณ์ เบื้องล่างของสายน้ำที่ใสสะอาดคือเม็ดหินหลากสีสัน แวววาวสวยงามต่างจากหินที่น้ำตกอื่น ๆ นี่เป็นลักษณะพิเศษเฉพาะของหินในดินแดนแห่งเหมืองแร่ ความงามของลำธารอันสดสวยที่ประดับแต่งแต้มริมธารด้วยใบเฟินอ่อนสีชมพู ช่างเป็นธรรมชาติที่ลงตัว ท่ามกลางเสียงสายน้ำที่ไหลผ่านโตรกผากระทบหินลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างดังเซ็งแซ่
อดีตสายน้ำอันทรงคุณค่าสายนี้หล่อเลี้ยงผู้คนให้มั่งมี ปัจจุบันเงียบเหงาไร้ผู้คนมาอิงอาศัย เหลือเพียงความงดงามให้ผู้คนมาชื่นชมธรรมชาติ ผืนป่าที่ถูกทำลายไปก็กำลังกลับคืนมาสมบูรณ์อีกครั้ง ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพียงเรารู้เท่าทันธรรมชาติ เราก็อยู่ได้อย่างสุขใจไม่เดือดร้อน
พิชิตยอดเขาช้างเผือก
ฤดูฝนสิ้นสุดลง แต่ผืนป่ายังไม่แล้งน้ำ ทุ้งหญ้ายังเขียวขจีอยู่ ถึงเวลาของการสำรวจยอดเขาช้างเผือก ยอดเขาสูงสุดแห่งอุทยานฯ นักท่องเที่ยวควรเตรียมพร้อมมาทั้งร่างกายและจิตใจ อุปกรณ์แคมป์ครบครันสำหรับการเดินทางไปค้างแรมกลางป่า นักท่องเที่ยวควรอาศัยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำทางและมีลูกหาบช่วยขนสัมภาระไปพักแรม
ช่วงแรกเดินตามเส้นทางปลูกป่าที่ไต่ระดับความสูงไปเรื่อย ๆ พ้นจากเส้นทางปลูกป่าก็ตัดป่าไต่ระดับความสูงชันขึ้น ผ่านป่าไผ่และป่ารุ่นใหม่ที่ปลูกทดแทนไปถึงสันเขาที่เป็นทุ่งหญ้า ยามบ่ายที่ท้องฟ้าเปิด ทางทิศเหนือมองเห็นทิวทัศน์อ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลมอยู่ไกล ๆ ด้านล่างหุบเขาเป็นผืนป่าที่คงความสมบูรณ์
บนเส้นทางตามสันเขาเราเดินมาถึงจุดแคมป์ที่อยู่บนสันเขาเตี้ย ๆ มีแอ่งที่ราบไม่กว้างมากนัก จุดนี้เป็นจุดที่สะดวกเรื่องน้ำที่สุดแล้ว แต่จากจุดแคมป์ยังมองไม่เห็นยอดเขาช้างเผือก ต้องเดินผ่านพ้นสันดอยลูกข้างหน้าไปอีก ใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ช่วงเส้นทางจากนี้เป็นช่วงที่อันตราย ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากเป็นเส้นทางบนสันดอยที่แคบและบางช่วงสูงชัน เป็นหินที่แคบมากจนได้ชื่อว่า "สันคมมีด" ดังนั้น จึงไม่ควรมีสัมภาระติดตัวไปมาก
บนช่วงเส้นทางที่อันตรายที่สุดเป็นด่านวัดใจนักเดินทางทุกคนที่ต้องการพิชิตยอดดอยช้างเผือก ผาหินบนสันดอยที่เป็นหินเรียงติดต่อกันเหมือนสะพานยาวประมาณ 10 เมตร กว้าง 1 เมตร สองข้างสะพานหินเป็นผาสไลด์ลงไปในหุบเขาลึกด้านล่าง เส้นทางเช่นนี้ต้องไม่มีคำว่าพลาด เพราะนั่นหมายถึงชีวิตและความสูญเสีย
พ้นจากสันคมมีด สองข้างทางเดินขนสันเขามีพรรณไม้หลากหลายชนิด ดูจะใกล้เคียงกับพรรณไม้บนยอดดอยหลวงเชียงดาว ที่มีสภาพเป็นทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์นั่นเอง พบดอกไม้หลายชนิด เช่น ดอกเทียนภู ดอกหญ้าเหลี่ยม ดอกแอสเตอร์ ดอกหนาด ดอกหญ้าคำ หญ้าดอกลาย และอื่น ๆ อีกมากมาย ทิวทัศน์โดยรอบเป็นหุบเขาสลับซับซ้อน นี่คือโลกแห่งขุนเขา เทือกดอยที่ทอดยาวเป็นทุ่งหญ้าสันเขาสวยงามไม่ต่างจากที่ดอยม่อนจอง ยอดหญ้าพลิ้วไหวตามสายลมเป็นแนวยาวเลื้อยลึกไปสุดขอบฟ้า หากท้องฟ้าสดใสปลอดโปร่งจนสามารถมองเห็นท้องทะเลอันดามันที่อยู่ติดกับฝั่งพม่า ไม่ไกลจากยอดเขาช้างเผือกนี้ อีกทั้งทิวทัศน์เขื่อนเขาแหลมก็สวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน บรรยากาศบนยอดเขาช้างเผือกสามารถชมทิวทัศน์ได้รอบด้านรวมทั้งสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างสวยงาม
กล้วยไม้งามทองผาภูมิ
ผู้ที่ชื่นชอบกล้วยไม้ป่าไม่ควรพลาด เมืองกาญจนบุรีมีกล้วยไม้หายากประจำถิ่นอยู่หลายชนิด
สิงโตมูเซอร์
ตามข้อมูลในหนังสือคู่มือกล้วยไม้ของคุณสลิล สิทธิสัจจธรรม (สำนักพิมพ์สารคดี) บอกไว้ว่า "สิงโตมูเซอ หรือสิงโตพู่ Bulbophyllum tripaleum Seidenf.เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยในป่าดงดิบ เป็นไม้ถิ่นเดียว พบเฉพาะประเทศไทยที่แม่ฮ่องสอนและตาก ลักษณะ ลำต้นเจริญทางด้านข้าง ลำลูกกล้วยเกือบกลม มีใบสองใบ ช่อดอกแบบกระจุกแน่นจนเกือบกลม ดอกกว้าง 0.3 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงมีความยาวและกว้างใกล้เคียงกัน ด้านนอกกลีบมีขนจำนวนมาก ปลายกลีบเลี้ยงมีรยางค์สีแดงสลับขาวยื่นยาวกว่ากลีบ กลีบดอกรูปแถบ ขอบกลีบเรียบและไม่มีขนปกคลุม กลีบปากรูปแถบ โค้งลงทางด้านหน้า ออกดอกช่วงเดือนเมษายน" ในการพบครั้งนี้จึงเป็นการบันทึกแหล่งอาศัยเพิ่มเติมของสิงโตมูเซอว่าสามารถพบได้ที่ทองผาภูมิอีกด้วย
สิงโตทองผาภูมิ
ตามข้อมูลในหนังสือกล้วยไม้ป่าเมืองไทยของคุณสลิล สิทธิสัจจธรรม (สำนักพิมพ์บ้านและสวน) กล่าวถึงสิงโตทองผาภูมิไว้ว่า สิงโตทองผาภูมิ Bulbophyllum reichenbachii (Kuntze) Schltr. เป็นกล้วยไม้อิงอาศัยขนาดเล็กที่พบในป่าดิบเขา มักอาศัยบนต้นมะเดื่อ พะยูง ส้านเขา และต้นทะโล้ พบในที่ที่มีแสงแดดรำไร ที่ความสูง 1,000-2,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ออกดอกช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ พบที่กาญจนบุรี
ลักษณะลำลูกกล้วยมีขนาดเล็ก รูปทรงกลม แต่ละลำขึ้นชิดกันเป็นกอบนเหง้าสั้น ๆ ผิวลำเป็นมัน ใบรูปแถบ 2 ใบ ขนาด 2x8 เซนติเมตร เรียงตามข้าม แผ่นใบอ่อนนุ่ม ปลายใบแหลม มีอายุฤดูเดียว ใบแก่สีเหลืองเข้มก่อนหลุดร่วงที่ข้อต่อช่อดอกเป็นช่อกระจะ มี 1-6 ดอก ก้านช่อยาวกว่าแกนช่อที่ห้อยลง ดอกขนาด 0.4 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงบนรูปรีกลีบเลี้ยงคู่ข้างรูปไข่แกมรูปสามเหลี่ยม ทั้งสามกลีบปลายมน สีเขียว และมีลายสีแดง 3 ลาย ด้านนอกของกลีบมีขนปกคลุม กลีบดอกรูปแถบปลายแหลม ขอบกลีบหยักเป็นฟัน กลีบบางใสและมีลายสีแดง 1 ลาย กลีบปากรูปรี อวบ และหนาสีม่วงคล้ำ ปลายมน เส้าเกสรสั้นมาก สีเขียว และที่ปลายมีรยางค์เขี้ยวยื่นขึ้น
สำหรับกล้วยไม้ชนิดอื่นที่พบก็มีเอื้องรงรอง (Panisea uniflora (Lindl.) Lindl.) ซึ่งส่วนใหญ่จะเริ่มโรยบ้างแล้ว มีให้เห็นดอกสด ๆ ไม่มาก และพบเอื้องผีพราย (Eria amica Rchb.f.) บริเวณจุดพักแรมเนินกูดดอย ดังนั้น แล้วการเข้าชมกล้วยไม้ป่าที่ทองผาภูมินั้น หากเดินเองเราไม่สามารถหาได้พบแน่นอน หากผู้ใดสนใจก็ติดต่อสอบถามข้อมูลที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนเข้าไปชม เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้พาชม ทั้งนี้ ต้องเดินทางไปในช่วงฤดูดอกด้วยจึงจะมีโอกาสเห็นดอกสิงโตมูเซอ
ทั่วทุกผืนป่าไทยได้ซ่อนเพชรเม็ดงามไว้ให้เราได้ตามหา เปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ไปสัมผัสกับความงดงามของหมู่พรรณไม้อันแปลกตา ซึ่งเป็นผลงานอันน่าอัศจรรย์ของธรรมชาติ ในทุกช่วงเวลาที่โลกของเราหมุนอยู่มีสิ่งสวยงามเกิดขึ้นตลอดเวลา เพียงแต่เราจะสามารถนำพาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดที่สวยงามได้ถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่ การศึกษาและเก็บข้อมูล เรียนรู้ให้ทันธรรมชาติ เพื่อที่จะได้มีโอกาสได้พบเห็นความสวยงามของธรรมชาติได้มากขึ้น
แนะนำการท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรมเพียบ