
แคนเบอร์รา…ไม่มาไม่รู้ (Lisa)
เมืองหลวงอันเงียบสงบของออสเตรเลีย ที่อาจไม่ได้อยู่ในรายการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของใครต่อใคร หากที่นี่มีหลายสิ่งหลายอย่างที่จะทำให้คุณรู้จักออสเตรเลียดีขึ้น
ถ้ากรุงเทพฯ คือประเทศไทย ลอนดอนคืออังกฤษ และปารีสคือฝรั่งเศส มันดูเหมือนว่าเรารู้จักกันดีที่สุดของประเทศนั้นๆ มักเป็นเมืองหลวงของแต่ละประเทศ แต่สำหรับออสเตรเลียแล้ว เมืองที่คนส่วนใหญ่รู้จักดีที่สุด และไปเยือนมากที่สุดคือซิดนีย์ กลับไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ และเมืองหลวงของออสเตรเลียอย่าง "แคนเบอร์รา" ก็เป็นเมืองที่มักถูกผู้คนละลืมนามมาเยือนออสเตรเลีย ทั้งๆ ที่เมืองหลวงแห่งนี้ก็มีอะไรดีๆ หลายอย่างให้คุณเก็บความประทับใจกลับไปไม่น้อยหน้าเมืองอื่นๆ
เพราะฉะนั้น ทริปแสนสนุกของซิซซ์เลอร์และการท่องเที่ยวออสเตรเลีย จึงได้ใส่แคนเบอร์ราเข้ามาให้เราได้ไปเยือน เพื่อที่จะได้รู้จักความเป็นออสเตรเลียมากขึ้นอีกสักหน่อย
คารวะทหารกล้า
การเดินทางจากอิลลาวาร์ร่าไปยังแคนเบอร์ราบนถนนหาทางอันแสนสะดวก ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง เรามาถึงแคนเบอร์ราในราว 4 โมงครึ่ง และพุ่งตรงไปยัง Australian War Memorial เป็นแห่งแรก
พอล เทย์เลอร์ หนุ่มใหญ่จาก Australian Capital Tourism มารอต้อนรับเราอยู่ที่นี่ พร้อมกับไกด์หนุ่มหน้าหนาน ที่พาคณะของเรา "วิ่ง" ผ่านห้องต่างๆ ของอนุสรณ์สถานแห่งนี้อย่างรวดเร็ว เพราะที่นี่กำลังจะปิดภายใน 15 นาที นี้อยู่แล้ว แต่ทุกคนก็พอจับความตามที่ไกด์หนุ่มพยายามบอกเล่าได้ว่า อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ทหารของออสเตรเลีย ที่ถูกส่งไปช่วยศึกสงครามหลายแห่งทั่วโลก โดยรวบรวมเอาไว้ทั้งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับสงครามแต่ละแห่ง อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงฉากจำลองชีวิตในสงคราม เพื่อให้ผู้คนได้เห็นความโหดร้ายของสงคราม ไปพร้อมกับการรำลึกถึงความเสียสละของเหล่าทหารหาญ
ถึงแม้จะได้แค่ "วิ่ง" ผ่านจุดต่างๆ ในอนุสรณ์สถาน แต่เราก็ได้เข้าร่วมพิธีปิดอนุสรณ์สถานซึ่งจัดขึ้นทุกวันตอน 5 โมงเย็น เพื่อให้เกียรติแก่ทหารผู้กล้า โดยมีการบรรเลงปี่สกอตและเครื่องดนตรีอื่นสลับกันไปในแต่ละวัน ท่ามกลางความเงียบและการส่งใจเพื่อไว้อาลัยแก่เหล่าทหารกล้า

ผจญภัยบนฟากฟ้า
ก่อนตะวันลับฟ้า เราได้เช็กอินที่โรงแรม Mantra on Northbourne ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองแคนเบอร์รา และย่ำค่ำพอลก็พาพวกเราเดินไปยังร้านอาหารสุดชิคของเมืองที่ชื่อ Cream Café and Bar
หลังจบมื้ออาหาร เราถูกส่งเข้านอนกันแต่หัวค่ำ พร้อมทั้งเฉลยถึงโปรแกรมลึกลับที่ไม่ปรากฎอยู่ในโปรแกรมท่องเที่ยวมาก่อน นั่นก็คือการนั่งบอลลูนชมเมืองแคนเบอร์รา ซึ่งแม้จะฟังดูน่าตื่นเต้น แต่ก็ต้องแลกกับการตื่นตีห้า ท่ามกลางอุณหภูมิที่ลดต่ำลงกว่า 0 องศาในตอนเช้า
แต่ที่เป็นไฮไลต์ยิ่งไปกว่าดารได้ชมเมืองแคนเบอร์ราจากที่สูงคือ การช่วยเตรียมบอลลูนก่อนขึ้นสู่ฟ้า และการช่วยเก็บบอลลูนหลังจากลงสู่พื้นแล้วต่างหาก ที่ทำให้ชาวคณะหมดแรงไปตามๆ กัน และก็ทำให้อาหารมื้อเช้าที่ Promenade Café โรงแรมไฮเทในยามสายๆ ดูจะอร่อยเป็นพิเศษ
ทัวร์รัฐสภา
เพราะแคนเบอร์ราเป็นเมืองหลวง จึงเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการสำคัญๆ ทั้งหลาย รวมถึงรัฐสภาแห่งออสเตรเลีย ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ และเป็นที่นัดหมายของพวกเราต่อไปในสายวันนั้น
อาคารรัฐสภาแห่งนี้เป็นแห่งใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนอาคารเก่าที่เล็กเกินไปในปัจจุบัน โดยภายในอาคารได้นำเอาสัญลักษณ์ต่างๆ ของออสเตรเลียมาใช้มากมาย เช่น ลวดลายโมเสคขนาดใหญ่ ที่สื่อถึงพวกอะบอริจิน ซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่ก่อนที่ชาวยุโรปจะเข้ามาตั้งรกราก หรือเสาหินอ่อนในห้องโถงด้านหน้า ที่สื่อถึงธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของออสเตรเลีย เพราะฉะนั้น การเดินชมรัฐสภาที่นี่ จึงเป็นการทำให้เราเข้าใจถึงรากเหง้าของความเป็นออสเตรเลียอย่างชัดเจนขึ้น
นอกจากจะได้ชมอาคารสวยๆ แล้ว เรายังสามารถเข้าชมห้องประชุมของสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาได้ด้วย โดยการประชุมของทั้งสองสภานี้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าชมได้ตลอดเวลา เพียงแต่ประชาชนชาวออสเตรเลียจะได้ชมศิลปะการต่อสู้หรือการปะทะคารมแบบเดียวกับที่เราได้เห็นในรัฐสภาบางประเทศหรือไม่นั้น ไม่มีใครยืนยัน
แปลงเป็นยักษ์ในเมืองจำลอง
หลังจากอิ่มเอมกับสาระและการชมวิวเมืองแคนเบอร์ราจากดาดฟ้าของรัฐสภากันแล้ว เราก็ไปหาอะไรน่ารักๆ ดูกันบ้างดีกว่าค่ะ
นั่นก็คือสวนเล็กๆ น่ารักๆ ที่ชื่อ Cockington Green Gardens ซึ่งเป็นสวนที่จำลองบ้านเมืองบนเกาะอังกฤษ ซึ่งเป็น "เมืองแม่" ของออสเตรเลียมาไว้ที่นี่ แต่ความพิเศษของมันก็คือ ขนาดของอาคารบ้านเรือนที่เล็กลงราวกับบ้านตุ๊กตา จนคนที่เดินผ่านไปผ่านมากลายเป็นยักษ์ใหญ่กันไปหมด
นอกจากสวนที่จำลองบ้านเมืองแบบอังกฤษมาให้ชมแล้ว ด้านในยังมีสวนนานาชาติที่จำลองอาคารสถานที่สำคัญจากทั่วโลกในขนาดกระจ้อยร่อยเอามาไว้ในที่เดียวกัน ทำให้เราสามารถเดินทางรอบโลกได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
ก่อนจะโบกมือลาแคนเบอร์ราหลังมื้ออาหารเที่ยงที่ Belluci’ s ดักพาเราขับรถไปชมสถานฑูตของประเทศต่างไ ที่รวมตัวอยู่ในบริเวณเดียวกัน โดนสถานฑูตแต่ละแห่งต่างก็งัดเอาสถาปัตย์และศิลปะของชาติตัวเองออกมาอวดกันแบบพอหอมปากหอมคอ รวมถึงสถานฑูตไทยที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ
วันเวลาที่แคนเอบร์ราช่างแสนสั้นนัก แต่ก็อย่างว่านั้นแหละ ถ้าไม่มาเราก็ไม่รู้ว่าแคนเบอร์ราก็มีมุมอันน่าประทับใจ และมีหลายสิ่งหลายอย่างที่กระตุ้นต่อมความอยาก...ที่จะกลับมาเยือนอีกสักครั้ง

Fast Facts
จากซิดนีย์สามารถเดินทางไปแคนเบอร์ราได้โดยสายการบินภายในประเทศ ใช้เวลา 50 นาที หรือเดินทางทางรถราว 3 ชั่วโมง และทางรถไฟ NSW CountryLink ใช้เวลา 4 ชั่วโมง
การเดินทางในแคนเบอร์รามีบริการรถประจำทางที่เรียกว่า ACTION Buses ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของแคนเบอร์รา แต่ในชั่วโมงเร่งด่วนอาจไม่สะดวกสบายนัก หรือถ้าชอบขี่จักรยาน แคนเบอร์ราเป็นเมืองที่เป็นมิตรต่อนักขี่จักรยาน ด้วยเส้นทางจักรยานรอบเมือง และบริการจักรยานให้เช่า
Australian War Memorial เปิดบริการตั้งแต่ 10.00 – 17.00 น. ส่วนรัฐสภาเปิดเวลา 09.00 – 17.00 น. ทั้งสองที่ปิดปีละครั้งในวันคริสต์มาส
Cockington Green Gardens เปิดบริการ 09.00 – 17.00 น. ปิดทุกวันคริสต์มายและบ็อกซิ่งเดย์ (หนึ่งวันหลังคริสต์มาส) ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 16.50 เหรียญ และเด็ก (4 - 6) 9.00 เหรียญ
บริการบอลลูนชมเมืองโดย Balloon Aloft คลิกดูรายละเอียดได้ที่ www.canberraballoons.com.au
ขอขอบคุณซิซซ์เล่อร์ และการท่องเที่ยวออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
