ที่เที่ยวใหม่ 2568 ทั่วไทย ปักหมุดพิกัด เที่ยวได้ตลอดทั้งปี

          ที่เที่ยวใหม่ 2568 แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ทั่วไทย เอาไว้ให้สายเที่ยวได้วางแผนจัดทริปเที่ยวกันต่อยาว ๆ
          ปี 2568 เตรียมตัวให้พร้อมกับการแพลนทริปเที่ยวรอบใหม่ กับที่เที่ยวใหม่ ๆ ทั่วไทย ที่น่าตื่นตาตื่นใจรอให้ทุกคนไปสัมผัส หลากหลายที่เที่ยวเอามาให้เช็กลิสต์และเลือกที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ ว่าแต่จะมีที่เที่ยวใหม่ 2568 ทั่วไทยที่ไหน รวมถึงที่เที่ยวที่เปิดมาสักพักแต่อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ เรามีมาแนะนำให้แล้ว อ๊ะ ! แล้วก็อย่าลืมชวนคนข้าง ๆ เอาไว้เป็นเพื่อนไปเก็บเกี่ยวโมเมนต์แฮปปี้นี้ด้วยกันนะ

ที่เที่ยวใหม่ 2568 ทั่วไทย 

1. คลองญวนชวนรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์

          ตั้งอยู่ใกล้ตลาดเทศบาลนครนครสวรรค์ โดย คลองญวนชวนรักษ์ เป็นพื้นที่ลำน้ำที่รับน้ำที่ผ่านระบบบำบัดน้ำเสีย บำบัดสะอาดจนเลี้ยงปลาคาร์พได้เลย โดยจะเห็นว่ามีฝูงปลาคาร์พสีสันสดใส สตรีตอาร์ต และฝายน้ำล้น เอาไว้เป็นมุมถ่ายรูปสวย ๆ รวมถึงยังมีที่นั่งชิลให้อาหารปลาเพลิน ๆ แนะนำว่าให้มาเช็กอินช่วงเช้าหรือไม่ก็ช่วงเย็น เพราะจะได้เดินเล่นเลียบคลอง หรือจะออกกำลังกายก็ยังได้ แถมยังมีทางลงสะดวกแบบขั้นบันได และทางลาดสำหรับรถเข็นผู้พิการอีกด้วย
คลองญวนชวนรักษ์นครสวรรค์ นครสวรรค์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก คลองญวนชวนรักษ์นครสวรรค์

คลองญวนชวนรักษ์นครสวรรค์ นครสวรรค์

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก คลองญวนชวนรักษ์นครสวรรค์

2. หอมนสิการ จังหวัดสระบุรี

          สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ ริมเทือกเขาพระพุทธบาทน้อย สักการะพระบรมสารีริกธาตุ 18 พระองค์ ตื่นตากับพระพุทธรูปพระบรมโลกนาถปิดทองคำแท้เนื้อสัมฤทธิ์ ภาพปักพระบรมโลกนาถ ศิลปะงานปักมือถึง 651,000 ฝีเข็ม และชมนิทรรศการ “เส้นทางเดินของพระพุทธเจ้า” ผ่านการจัดแสดงแบบ Interactive ครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยงานศิลปะร่วมสมัย ภาพ แสง สี เสียง และวิดีโอสื่อผสมระดับภาพยนตร์ ให้ได้ซึมซับผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่บรรจงสร้างสรรค์ในแบบที่จะดึงผู้ชมเหมือนเข้าไปสู่ยุคพุทธกาล (*** กรุณาแต่งกายสุภาพ ไม่ใส่กางเกง/กระโปรงสั้น และเสื้อไม่มีแขน ทางหอมนสิการมีบริการชุดให้เปลี่ยน)

          เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.30-18.00 น. ช่วงเทศกาลไฟประดับ ถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 เปิดไฟประดับ 18.00-20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

  • ที่อยู่ : หมู่ 10 ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
  • เบอร์โทรศัพท์ : 09 5760 0885
  • เฟซบุ๊ก : หอมนสิการ (Manasikarn)

3. บ่อน้ำผุดปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

          บ่อน้ำผุดปากช่อง หรือบ่อน้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง ความโดดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือ เป็นน้ำผุดโดยธรรมชาติ ซึ่งน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำฝนที่ตกอยู่ใต้ดิน ก่อนที่น้ำจะผุดขึ้นมาก็ได้กรองจากก้อนหินที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง จึงเห็นได้ว่าน้ำมีความใส มองไปมองมาสีคล้ายสระมรกต โดยมีลักษณะเป็นบ่อตั้งลดหลั่นกันไป บ้างก็มีฝายน้ำกั้น สายน้ำที่ไหลจึงมีลักษณะคล้ายน้ำตก ซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำได้ แต่ไม่อนุญาตให้เล่นในส่วนบริเวณตาน้ำ นอกจากนี้ยังร่มครึ้มด้วยเงาไม้น้อยใหญ่ เหมาะเป็นทั้งแหล่งที่เที่ยวและพักผ่อนได้อย่างดี

บ่อน้ำผุดปากช่อง นครราชสีมา

ภาพจาก : joojoob27 / shutterstock.com

  • ที่อยู่ : ซอยโยธาธิการ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

4. ธารน้ำไหลบ้านนา จังหวัดสระแก้ว

          ตั้งอยู่ที่อำเภอเขาฉกรรจ์ มีลักษณะเป็นธารน้ำไหลยาว เหมาะเป็นที่เที่ยวที่พักผ่อนชิล ๆ เมื่อเข้ามาข้างใน พื้นที่จะแบ่งเป็นโซน โดยมีโซนร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า และร้านขายห่วงยาง ให้บริการ ส่วนอีกโซนจะเป็นแคร่ตั้งอยู่ริมฝั่งสองข้างทาง ใครใคร่ลงเล่นน้ำก็ลงเล่นได้เลย หรือใครแค่อยากมานั่งกินอาหาร ชมธรรมชาติ ก็ชิลไม่แพ้กัน โดยคลองนี้ทอดยาวมาจากทางฝั่งเขาฉกรรจ์ ซึ่งจะมีน้ำทั้งปี แต่ช่วงที่น่ามาเที่ยวที่สุดที่ธารน้ำไหลบ้านนาจะเป็นช่วงฤดูร้อน เพราะฤดูฝนจะเป็นช่วงน้ำหลาก น้ำที่ไหลมาตามคลองจะมีการไหลที่แรง และพื้นที่บางส่วนก็อาจจะท่วมไปด้วย จึงไม่เหมาะกับการมาเที่ยว
ธารน้ำไหลบ้านนา สระแก้ว

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก ธารน้ำไหลบ้านนา

  • ที่อยู่ : หมู่ที่ 2 บ้านนา ตำบลหนองหว้า อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว
  • เบอร์โทรศัพท์ : 06 5974 1691
  • เฟซบุ๊ก : ธารน้ำไหลบ้านนา

5. ม่อนกะละโกะโจ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

          สถานที่กางเต็นท์ ที่มาพร้อมกับจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นสุดอันซีน ตกบ่ายก็เห็นวิวเขาสลับซับซ้อน ตกกลางคืนมองเห็นดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า จริง ๆ แล้วนักท่องเที่ยวสามารถ Walk in ได้เลย แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลแนะนำให้จองพื้นที่ล่วงหน้าก่อนวันเข้าพัก ทางขึ้นไปยังม่อนกะละโกะโจค่านข้างลำบาก รถที่ใช้ขึ้นควรเป็น 4WD หรือไม่ก็ติดต่อรถเช่ารับ-ส่ง (ราคา 2,500-3,000 บาท/คัน ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้โดยสาร) จุดรับส่ง อบต.แม่สามแลบ โดยเวลาที่เหมาะสมในการขึ้นม่อนคือช่วงบ่าย (รถลงจากม่อนหมดแล้ว ไม่มีรถสวน เพราะถนนแคบสวนทางลำบาก) หรือไม่ก็ช่วงเช้ามืด (ยังไม่มีรถลงจากม่อน) เมื่อขึ้นมาแล้วบอกเลยว่าจะพักผ่อนได้เต็มที่ เต็มอิ่มกับธรรมชาติ
ม่อนกะละโกะโจ แม่ฮ่องสอน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก ม่อนกะละโกะโจ

ม่อนกะละโกะโจ แม่ฮ่องสอน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก ม่อนกะละโกะโจ

  • ที่อยู่ : ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
  • เบอร์โทรศัพท์ : 06 3793 0019
  • เฟซบุ๊ก : ม่อนกะละโกะโจ

6. เขานิเวศน์สกายวอล์ก จังหวัดระนอง

          จุดชมวิวแห่งใหม่ของเมืองระนอง ตั้งอยู่บนเขารัตนรังสรรค์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) หอพระ 9 เกจิ เนินประวัติศาสตร์จังหวัดระนอง บนสกายวอล์กแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิวเมืองระนองแบบพาโนรามา 360 องศา พร้อมทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และธรรมชาติของพื้นที่ แนะนำว่าให้มาช่วงเช้า ๆ หรือไม่ก็เย็น ๆ ตอนที่แดดไม่แรงมาก เพราะจะได้ดื่มด่ำกับวิวบรรยากาศรอบตัวที่จะประทับใจไม่รู้ลืม
เขานิเวศน์สกายวอล์ก ระนอง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก อวดระนอง

เขานิเวศน์สกายวอล์ก ระนอง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก อวดระนอง

  • ที่อยู่ : ซอยลุวัง ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง

7. เขาอกทะลุ จังหวัดพังงา

          จริง ๆ แล้วเขาอกทะลุ เป็นที่เที่ยวชื่อดังของจังหวัดพังงา แต่จุดที่ทำให้เขาอกทะลุกำลังเป็นที่พูดถึงในโซเชียลอีกครั้งนั่นคือ มุมถ่ายรูปสุดไวรัลบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ (สาขาถนนบายพาส-เขาอกทะลุ (พัทลุง) ถนนมโนราห์) และวิวข้างหลังเป็นเขาอกทะลุ ถ่ายแล้วให้ฟีลเหมือนกับต่างประเทศ ทำให้คนที่ผ่านไป-มาบริเวณนั้นแวะลงมาทำคอนเทนต์ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องระมัดระวังด้วยเช่นกัน เพราะเป็นจุดที่รถลงสะพานพอดี ติดถนนใหญ่ และมีรถวิ่งผ่านตลอดเวลา ทางที่ดีอย่าไปยืนถ่ายกลางถนนเด็ดขาดจะเกิดอุบัติเหตุได้
เขาอกทะลุ พังงา

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก โก ทู เที่ยว

  • ที่อยู่ : ถนนบายพาส ม.6 ตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง

8. เขาแบนะ จังหวัดตรัง

          ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม มีลักษณะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาแบนะ ที่มีระยะทางรวม 1,160 เมตร โดยเส้นทางเริ่มจากริมฝั่งไปตามทางเดินลอยน้ำ แล้วขึ้นไปสู่เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ที่มีทั้งพื้นที่เรียบ ขึ้นเนิน และทางลาดชัน ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจกับโขดหินรูปร่างแปลกตา ทั้งที่ตั้งสูงตระหง่านริมหน้าผาและลึกเข้าไปในซอกลับ รวมทั้งชมไม้ป่าและฝูงปลานานาชนิด หรือถ้าใครเหนื่อยก็ยังมีจุดแวะพักและจุดชมวิวที่มองเห็นเกาะใหญ่น้อยในท้องทะเลตรัง แถมยังได้ภาพสวย ๆ เอาไว้ลงโซเชียลกันอีกด้วย

เขาแบนะ ตรัง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Pai-Dee ไปดิ

เขาแบนะ ตรัง

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Pai-Dee ไปดิ

9. Fantastic Phuket จังหวัดภูเก็ต

          พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมอาณาจักรโบราณของไทย ช่วยเติมเต็มความคิดสร้างสรรค์ที่มาพร้อมกับความรู้ต่าง ๆ ให้ประวัติศาสตร์ไทยไม่ได้มีอยู่แค่ในห้องเรียน รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ สนุกสนานไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทยผ่านเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ภายในมีหลากหลายโซน เช่น โซนจังหวัดภูเก็ต, โซนพระพุทธศาสนา, โซนล้านนา, โซนอาณาจักรโบราณ, โซนสุโขทัยและอยุธยา, โซนจัดแสดงพระพุทธรูปและองค์พระพิฆเนศ, โซนกรุงธนบุรีและรัตนโกสินทร์, โซนศิลปะการแสดงของไทย และโซนความเชื่อ ใครที่มาเที่ยวภูเก็ตและอยากเปิดมุมมองเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยน่าสนใจ ลองแวะมาที่นี่กัน
Fantastic Phuket ภูเก็ต

ภาพจาก : เว็บไซต์ Fantastic Phuket แฟนแทสทิค ภูเก็ต

Fantastic Phuket ภูเก็ต

ภาพจาก : เว็บไซต์ Fantastic Phuket แฟนแทสทิค ภูเก็ต

          เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น. *** ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ (หยุดทุกวันจันทร์)
          โอ้โห ! บอกเลยว่าแต่ละที่น่าเที่ยวมาก ๆ ใครที่ชอบหรืออยากจะแชร์ที่เที่ยวใหม่ที่ไหนเพิ่มเติมก็บอกเรามาได้นะ มาแชร์ไอเดียกันได้เลย ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ ที่เที่ยวใหม่ ท่องเที่ยวไทย อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ที่เที่ยวใหม่ 2568 ทั่วไทย ปักหมุดพิกัด เที่ยวได้ตลอดทั้งปี อัปเดตล่าสุด 23 มกราคม 2568 เวลา 23:49:17 15,551 อ่าน
TOP
x close