เที่ยวเกาะช้าง จ.ตราด แค่เลี้ยวซ้ายก็ได้สัมผัสวิถีถิ่น ฟิน ๆ ในสไตล์ธรรมชาติ

          อยากเที่ยวเกาะช้างให้ชิล ชมวิวธรรมชาติ พักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ ต้องปักหมุดมาที่ เกาะช้างเลี้ยวซ้าย อยากรู้จะมีอะไรให้เที่ยวบ้าง ไปดูกัน
          เกาะช้าง เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดตราด ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ ทั้งภูเขา ทะเล และน้ำตก เมื่อนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งตราดมาลงที่เกาะช้าง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มักจะเที่ยวกันแต่ฝั่งขวาของเกาะ ซึ่งเต็มไปด้วยหาดทรายสวย ๆ และโรงแรมที่พักสะดวกสบายมากมาย แต่เคยสงสัยกันบ้างหรือไม่ว่า เกาะช้างเลี้ยวซ้าย มีอะไรอยู่บ้าง วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวทางฝั่งซ้ายมือของเกาะช้าง ฝั่งที่ห่างไกลออกไปจากความเจริญ ห่างไกลจากความวุ่นวาย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เหมือนกับได้หยุดเวลาเที่ยวเกาะช้างเมื่อครั้งอดีตที่ยังไม่มีความเจริญเข้ามาเลย

เกาะช้างเลี้ยวซ้าย มีอะไรให้เที่ยวบ้าง

1. ชุมชนบ้านสลักเพชร

           เป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะช้าง ตั้งอยู่ที่อ่าวสลักเพชร ซึ่งเป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุดทางตอนใต้ของเกาะช้าง ชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนหนึ่งมีอาชีพทำประมงขนาดเล็ก พื้นที่โดยรอบชุมชนยังคงลักษณะสภาพที่เป็นธรรมชาติอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ป่าชายเลนที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ทำให้ชุมชนแห่งนี้เป็นแหล่งวัตถุดิบในการผลิตกะปิ (ตัวเคย) ที่สำคัญ และเป็นบริเวณที่มีเรือประมงจอดหลบคลื่นลมอยู่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันอ่าวสลักเพชรมีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวมากขึ้น มีบังกะโล รีสอร์ต และโฮมสเตย์ เปิดใหม่ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อนแบบเงียบสงบกระจายอยู่หลายแห่ง จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสโลว์ไลฟ์ยอดฮิตติดอันดับต้น ๆ ในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เพราะชุมชนนี้ยังคงวิถีชีวิตชาวบ้านแบบดั้งเดิม กินอยู่แบบบ้าน ๆ เน้นการมาพักผ่อนแบบเงียบสงบ
ชุมชนบ้านสลักเพชร

2. ป่าชายเลนสลักเพชร บ้านนาใน

          เป็นผืนป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะช้าง หรือที่หลาย ๆ คนเรียกกันว่า สะพานแดงสลักเพชร ที่นี่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางไป-กลับประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสะพานไม้สีแดงทอดยาวไปตามแนวป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ มีทั้งต้นแสม ต้นโกงกาง ต้นฝาดดอกแดง ต้นหงอนไก่ทะเล ต้นช้าเลือด และหัวร้อยรู ตามต้นไม้นานาพรรณมีป้ายชื่อติดบอกไว้ให้ความรู้ ซึ่งเราสามารถเดินซึมซับธรรมชาติได้แบบสบาย ๆ ผ่านอุโมงค์ต้นไม้ พร้อมกับฟังเสียงนก จักจั่น ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พบกับวิวที่เปิดโล่งแบบ 360 องศาบนสะพานสีแดงที่ทอดยาวไปจนถึงปากอ่าว เป็นจุดที่เหมาะกับการถ่ายภาพมาก ๆ
ป่าชายเลนสลักเพชร บ้านนาใน

3. ท่าเทียบเรือบ้านสลักเพชร

          เป็นสถานที่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง โดยเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2558 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ บริเวณบ้านสลักเพชร โดยวัตถุประสงค์ในการสร้างคือ ใช้เป็นจุดจอดเรือประมง เรือรับ-ส่งนักท่องเที่ยวไปดำน้ำและไปเที่ยวที่เกาะใกล้เคียง รวมไปถึงเรือยอชต์จากต่างประเทศด้วย เนื่องจากเป็นจุดที่เหมาะแก่การจอดเรือเป็นอย่างดี เพราะมีลักษณะเกาะล้อมรอบ ภายในท่าเทียบเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่ที่จอดรถ อาคารอเนกประสงค์ ร้านขายสินค้าต่าง ๆ และไฮไลต์คือ ทางเดินทอดยาวออกสู่ท่าจอดเรือ โอบล้อมด้วยทิวทัศน์ของท้องทะเล มองไปด้านหนึ่งคือขุนเขาและเกาะแก่ง มองย้อนกลับมาก็เห็นหมู่บ้านชาวประมงตามชายฝั่ง มีศาลาให้ร่มเงาอยู่กึ่งกลางทางเดินให้หยุดพักดื่มด่ำกับกลิ่นไอทะเลได้เต็มที่ เมื่อเดินต่อจนสุดทางก็จะเจอกับประภาคารสีขาวสูงสง่า เหมาะแก่การโพสท่าถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวบางคนก็ปีนขึ้นไปบนประภาคารเพื่อถ่ายภาพมุมสูง ว่ากันว่าที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปยามพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยมาก ๆ อีกจุดหนึ่งบนเกาะช้างด้วย
ท่าเทียบเรือบ้านสลักเพชร

4. วัดสลักเพชร

          ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะช้าง เป็นวัดเก่าแก่ของชาวบ้านสลักเพชร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2449 และเป็นที่เคารพบูชาของผู้คนท้องถิ่นและผู้มาเยือนเรื่อยมา ภายในวัดนั้นประกอบด้วยพระอุโบสถหลังใหม่ที่ตกแต่งด้วยรูปปั้นของพญานาค องค์เทพ และสัตว์เทพในป่าหิมพานต์ที่รายล้อมอยู่รอบ ๆ บริเวณวัด ด้านในมีพระพุทธชินราชตั้งเป็นองค์ประธาน ส่วนด้านนอกยังมี พิพิธภัณฑ์วัดสลักเพชร ซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งเสด็จประพาสบนเกาะช้าง ไฮไลต์สำคัญของวัดแห่งนี้คือ หลวงพ่อเพชร พระพุทธรูปปางสมาธิ สร้างขึ้นจากโลหะสำริด เป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ทรงจีวรดอกที่มีลวดลายเป็นดอกพิกุล ซึ่งเชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากพระแก้วมรกตในเครื่องทรงชุดประจำฤดูฝน ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถหลังเก่า มีความเชื่อว่าหลวงพ่อมีความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องฝนฟ้าอากาศ ช่วยขจัดปัดเป่าพายุลมฝนที่เป็นอุปสรรคขัดขวางพิธีกรรมต่าง ๆ ของชาวบ้านนั่นเอง

วัดสลักเพชร

5. บ้านรักกะลา

         ศูนย์การเรียนรู้ขนาดเล็ก รวมถึงเป็นจุดจำหน่ายสินค้าของฝาก-ของที่ระลึก ซึ่งทำมาจากกะลามะพร้าวสีดำขลับและมันเงา วัสดุเหลือใช้จากวิถีชุมชนที่ได้มาจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง และรับซื้อในเกาะช้างเท่านั้น ก่อนจะนำมาออกแบบและแปรรูปเป็นข้าวของเครื่องใช้ ของแต่งบ้าน เพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้แก่ชุมชน จนเป็นที่ถูกตาต้องใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เมื่อแวะเวียนมาเมื่อไรก็ต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากทุกครั้ง นอกจากนี้ยังมีการจัดส่งทางไปรษณีย์สำหรับผู้ที่สนใจแต่ไม่สะดวกไปซื้อถึงที่ศูนย์ด้วย
ของที่ระลึกทำจากกะลามะพร้าว

6. ชุมชนบ้านสลักคอก

          อยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะช้าง เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในช่องแคบภายในเวิ้งขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายคอกสัตว์ ล้อมรอบด้วยแนวป่าชายเลนซึ่งเป็นที่ทำกิน แหล่งประมงพื้นบ้าน รวมถึงเป็นที่อนุบาลพันธุ์สัตว์น้ำต่าง ๆ มีช่องทางออกสู่ท้องทะเลทางเดียว ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดเล็กเกือบจะชนกัน บริเวณปากอ่าวมีเกาะสลักและเกาะลิ่ม สถานที่แห่งนี้จึงถูกเรียกรวม ๆ ว่า อ่าวสลักคอก สำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนหมู่บ้านสลักคอกจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านที่ยังคงความเป็นอยู่ดั้งเดิมเอาไว้ สามารถพายเรือคายักท่องป่าชายเลนได้ด้วยตัวเองไปตามลำคลองธรรมชาติที่มีสายน้ำสีเขียวสด ระหว่างทางจะได้พบกับพืชพรรณไม้เฉพาะถิ่นต่าง ๆ ของป่าชายเลนด้วย
ชุมชนบ้านสลักคอก

ภาพจาก : maodoltee / Shutterstock.com

7. ล่องเรือมาด ที่ชุมชนบ้านสลักคอก

           ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวเกาะช้างเลี้ยวซ้าย กับการล่องเรือมาด เรือท้องถิ่นที่ต้องขุดไม้ทั้งต้นมาทำเป็นลำเรือและนิยมใช้กันมากในสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันนี้หาชมได้ยากแล้ว แต่ชาวบ้านในชุมชนบ้านสลักคอกแห่งเกาะช้างช่วยกันอนุรักษ์ไว้ และนำมาต่อยอดในการให้บริการพานักท่องเที่ยวล่องเรือชมป่าโกงกางธรรมชาติ ณ ฝั่งทิศตะวันตกของเกาะช้าง โดยล่องไปตามลำคลองที่เชื่อมสู่ปากอ่าว ใช้เวลาล่องเรือไป-กลับประมาณ 40 นาที ทั้งนี้ เรือแต่ละลำจะมีที่นั่งและร่มบังแดดให้นักท่องเที่ยวนั่งชิล ๆ มองวิวป่าโกงกางทั้งสองข้างทาง จนหลายคนเรียกเรือมาดของชาวบ้านสลักคอกว่าเป็น เรือกอนโดล่าเมืองไทย เลยทีเดียว
ล่องเรือมาด ที่ชุมชนบ้านสลักคอก

ภาพจาก : Vassamon Anansukkasem / Shutterstock.com

8. วัดวัชคามคชทวีป หรือ วัดสลักคอก

           วัดเก่าแก่คู่บ้านสลักคอก ประกาศตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2425 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2446 โดยสร้างขึ้นจากการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินไปที่เกาะช้างและวัดสลักคอก ในขณะนั้นทางวัดยังไม่มีอุโบสถ ประชาชนจึงได้กราบบังคมทูลพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงเหยียบที่สำหรับสร้างอุโบสถจนเป็นที่ตั้งวัดในปัจจุบัน และพระราชทานนามให้ว่า วัดวัชคามคชทวีป (อ่านว่า วัด-วัด-ชะ-คาม-คด-ชะ-ทะ-วีบ) เรียกว่าเป็นวัดเก่าแก่ในประวัติศาสตร์ที่ใครต่อใครก็อยากจะแวะมาสักการะด้วยตัวเองสักครั้ง
วัดวัชคามคชทวีป หรือ วัดสลักคอก

9. จุดชมวิวอ่าวกะรัง

         อีกหนึ่งจุดชมวิวบนเขาในเกาะช้าง เป็นจุดชมวิวเล็ก ๆ ตั้งอยู่ระหว่างทางไปหาดยาว ด้านบนมีร้านขายของและศาลาให้นั่งเล่นรับลมท่ามกลางแมกไม้ต่าง ๆ มองเห็นวิวอ่าวด้านล่างได้แบบสุดลูกหูลูกตาจากมุมมองกว้าง เหมาะแก่การพักผ่อนหรือแวะถ่ายรูปสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึก

จุดชมวิวอ่าวกะรัง

10. หาดยาว (Long Beach)

         หาดลับของเกาะช้าง เป็นหาดสาธารณะของยุทธนาวีเกาะช้างที่มีความสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ตัวหาดยาวเป็นเวิ้งอ่าวโค้งคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว ทรายขาวนุ่มเนียนละเอียดราวกับแป้ง สามารถมานั่งปิกนิกปูเสื่อหรือเล่นน้ำได้ตามสบาย แต่ไม่มีห้องน้ำบริการ นักท่องเที่ยวที่นิยมมาเที่ยวที่หาดแห่งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติที่พากันขี่มอเตอร์ไซค์มาเที่ยว พักผ่อน นอนอาบแดด เล่นน้ำราวกับหาดส่วนตัว นอกจากนี้บริเวณหาดยาวยังมีที่พักสไตล์โฮมสเตย์กระท่อมไม้ง่าย ๆ และร้านคาเฟ่ริมทะเลสุดชิลไว้บริการอีกด้วย
หาดยาว

11. วัดคลองนนทรี

           เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของเกาะช้าง โดยตั้งวัดเมื่อปี พ.ศ. 2420 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีเมื่อปี พ.ศ. 2425 ภายในวัดมี ต้นสีระมัน หรือต้นลิ้นจี่ป่า อายุกว่า 200 ปี ที่อนุรักษ์ต้นไว้ ซึ่งเป็นต้นลิ้นจี่พันธุ์ดั้งเดิมแถบตอนใต้ของประเทศจีน และแพร่หลายไปยังประเทศใกล้เคียง เช่น อินเดีย พม่า และไทย ทั้งนี้ การปลูกลิ้นจี่ในประเทศไทยเริ่มตั้งแต่เมื่อใดไม่ปรากฏแน่ชัด แต่จากหลักฐานที่ได้มีการบันทึกโดยชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาเมืองไทยได้กล่าวถึงลิ้นจี่อยู่ด้วย นั่นแสดงว่าครั้งนั้นได้มีการนำลิ้นจี่เข้ามาในเมืองไทยแล้ว และน่าจะมีการนำเข้ามาโดยชาวจีนที่ค้าขายติดต่อกับไทยทางเรือสำเภา ซึ่งแวะพักตามเมืองชายฝั่งตะวันออกแถวจันทบุรีและตราด สำหรับต้นสีระมัน หรือต้นลิ้นจี่ป่า ที่ขึ้นกระจายภายในบริเวณวัดนี้ สันนิษฐานว่ามีมาก่อนการสร้างวัด ซึ่งถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเกาะช้างเคยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางการค้าขาย เป็นที่หลบลมมรสุม และพักหาเสบียงน้ำจืดของชาวจีนโพ้นทะเลที่ได้นำลิ้นจี่ป่ามากินและทิ้งเมล็ดไว้จนแพร่กระจายทั่วเกาะช้าง ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียง 8 ต้น ไม่เพียงแต่ในแง่ความผูกพันทางประวัติศาสตร์เท่านั้น ต้นสีระมันนี้ยังผูกพันกับคนเกาะช้างในแง่วิถีชีวิตชาวประมง เนื่องจากเนื้อไม้ชนิดนี้มีความแข็งแกร่ง ทนทาน จึงนิยมทำกงเรือ กระดูกงูเรือ หัวหมูคันไถ และบันไดบ้าน เป็นต้น

12. น้ำตกธารมะยม

          ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดบนเกาะช้าง มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เป็นน้ำตกขนาดกลาง 4 ชั้น ลักษณะเป็นธารน้ำไหลผ่านลงมาเป็นชั้น ๆ ตามร่องหินแกรนิตสีดำ บริเวณรอบ ๆ จะเป็นป่าดงดิบ และมีหน้าผาสูงชันจนเกือบจะตั้งฉาก อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การตั้งแคมป์ เล่นน้ำตก และเดินป่า เส้นทางไปน้ำตกเดินง่ายไม่ลำบาก บริเวณชั้นที่ 1 น้ำตกไม่สูงนัก มีแอ่งน้ำด้านหน้า ที่สำคัญคือมีแผ่นจารึกพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ทางด้านซ้าย น้ำตกชั้นที่ 2 อยู่เลยขึ้นไปเล็กน้อย สำหรับน้ำตกชั้นที่ 3 และ 4 ระยะทางค่อนข้างไกลและทางเดินลำบาก ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง โดยทางอุทยานแห่งชาติได้จัดทำเส้นทางเดินป่าระยะไกลน้ำตกธารมะยม-น้ำตกคลองภู ระยะทางมากกว่า 8 กิโลเมตร เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายลุยที่สนใจจะเดินป่า เพราะเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างรก ตัดข้ามเทือกเขาสลักเพชร ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีเพียงเจ้าหน้าที่นำทาง หากสนใจติดต่อสอบถามได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กช.1 (ธารมะยม)
น้ำตกธารมะยม

         เกาะช้างฝั่งซ้าย พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นป่าชายเลนผืนใหญ่และชุมชนชาวประมง อาจจะไม่ค่อยมีความสะดวกสบายเท่ากับฝั่งขวา แต่เชื่อเถอะว่าแค่ลองเปิดใจเลี้ยวซ้ายไปก็จะได้พบกับความเรียบง่ายของวิถีชีวิต ได้สัมผัสธรรมชาติที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง
 

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ เที่ยวเกาะช้าง ที่พักเกาะช้าง อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวเกาะช้าง จ.ตราด แค่เลี้ยวซ้ายก็ได้สัมผัสวิถีถิ่น ฟิน ๆ ในสไตล์ธรรมชาติ อัปเดตล่าสุด 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 23:59:29 32,102 อ่าน
TOP
x close