มาทำความรู้จักเกาะช้าง จ.ตราด ให้มากขึ้น ท้องทะเลแห่งจังหวัดตราดที่ยังคงเต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงามทางธรรมชาติอย่างครบถ้วน
เกาะช้าง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะทะเลอ่าวไทย และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากเกาะภูเก็ต มีเกาะมากมายเรียงตั้งแต่เขตอำเภอแหลมงอบ อำเภอเมือง และอำเภอคลองใหญ่ ซึ่งภายในเกาะช้างเองนอกจากเราจะได้เล่นน้ำทะเลสวย ๆ แล้ว ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างน้ำตกและอ่าวต่าง ๆ ที่ขอบอกว่ายังคงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม นั่นเป็นเพราะลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเกาะช้างยังคงเป็นป่าดิบเขา อันเป็นบ่อเกิดของต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงสรรพชีวิตบนเกาะแห่งนี้
2. จุดชมวิว "อ่าวกะรัง"
หากคุณกำลังมองหาสถานที่เงียบสงบ เพื่อซึมซับกับบรรยากาศธรรมชาติแบบชาวเกาะอย่างเต็มปอด อ่าวกะรังคือคำตอบที่ดีที่สุด เมื่อมาถึงคุณจะต้องร้องว้าว ! กับภาพวิวดงมะพร้าวสีเขียวที่เผยฉากหลังเป็นเวิ้งอ่าวและทิวเขาสูง มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากที่มาเล่นน้ำหรือนอนอาบแดดเล่นที่นี่ ทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบเหมือนเกาะในฝัน เหมาะเป็นที่สำหรับการพักผ่อนและชาร์จพลังงานสำหรับวันหยุดอย่างแท้จริง
3. นั่งเรือมาด พายเรือคายักชมธรรมชาติ
ล่องเรือมาดที่ชุมชนสลักคอก เป็นกิจกรรมคล้าย ๆ กับการนั่งเรือกอนโดลาชมเมืองเวนิสของอิตาลี แตกต่างกันก็เพียงแต่บรรยากาศ โดยนักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือมาดชมธรรมชาติของป่าชายเลน พร้อมกับแวะทานดินเนอร์ด้วยมื้ออาหารทะเลสด ๆ ที่ชุมชนสลักคอก แต่อาจจำเป็นที่จะต้องเลือกช่วงเวลาสักเล็กน้อย เพราะบางช่วงเวลาร่องน้ำอาจแห้งจนไม่สามารถนำเรือร่องไปตามลำน้ำได้ ทางที่ดีควรโทรมาสอบถามก่อนจะเป็นการดีที่สุด ลองคิดว่าถ้าคุณได้ล่องเรือท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ ฟังเสียงน้ำ เสียงลม ตัวคุณจะมีความสุขมากแค่ไหน
4. ชมต้นสีระมันอายุกว่า 200 ปี
ต้นสีระมันหรือต้นลิ้นจี่ป่า ที่ขึ้นกระจายภายในรอบบริเวณวัดคลองนนทรี ถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเกาะช้างเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางค้า เป็นที่หลบลมมรสุม และพักหาเสบียงน้ำจืดของชาวจีนโพ้นทะเล ที่ได้นำลิ้นจี่ป่ามากินและทิ้งเมล็ดไว้จนแพร่กระจายทั่วเกาะช้าง ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ต้นเท่านั้น ไม่เพียงแต่ในแง่ความผูกพันทางประวัติศาสตร์เท่านั้น หากแต่ต้นสีระนี้ยังผูกพันกับคนเกาะช้างในแง่วิถีชีวิตชาวประมง เนื่องจากเนื้อไม้ชนิดนี้มีความแข็งแกร่ง ทนทาน จึงนิยมทำกงเรือ กระดูกงูเรือ หัวหมูคันไถ และบันไดบ้าน เรียกได้ว่าสารพันประโยชน์การใช้งานจริง ๆ
5. หลากเรื่องราวของกะลาที่ "บ้านรักกะลา"
แหล่งสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านสลักเพชร เพราะหมู่บ้านแห่งนี้มีสวนมะพร้าวเป็นจำนวนมาก จะทิ้งกะลาให้เสียเปล่าก็ใช่ที่ เลยเกิดการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน นำกะลามะพร้าวเหล่านั้นมาแปรรูปประดิษฐ์เป็นของที่ระลึกเก๋ ๆ สร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้คืนกลับไปให้กับคนในชุมชน ไม่เพียงแต่กะลาเท่านั้น ใบมะพร้าวยังนำมาเย็บมุงหลังคา ก้านนำมาทำเป็นไม้กวาด เปลือกก็เอาไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ นักท่องเที่ยวคนไหนที่แวะไปที่ "บ้านรักกะลา" ก็อย่าลืมอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชาวบ้านติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วิสาหกิจชุมชน บ้านรักกะลา เกาะช้างใต้
6. นมัสการหลวงพ่อเพชร
วัดสลักเพชร วัดเก่าแก่ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของเกาะช้าง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ดูแปลกตา ตั้งแต่รอบตัวโบสถ์ที่ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นของบรรดาเหล่าสัตว์หิมพานต์ เมื่อเดินเข้ามาภายในโบสถ์ คุณจะต้องตะลึงกับความวิจิตรของภาพจิตรกรรมบนฝาผนังที่สวยงาม ยิ่งเมื่อภาพเหล่านั้นอยู่ทางด้านหลังขององค์พระประธาน ซึ่งมีลักษณะการลงสีคล้ายกับตัวองค์พระ ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ภายในโบสถ์แห่งนี้สวยงามราวกับสรวงสวรรค์ ข้ามไปอีกฟากถนนจะเจอกับ "พิพิธภัณฑ์วัดสลักเพชร" เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมของเก่าสะสมของชาวเกาะช้างไว้มากมายหลากหลายชนิด ของแต่ละชิ้นล้วนทำหน้าที่ในการบอกเล่าเรื่องราวและวิถีชีวิตของชาวเกาะช้างได้เป็นอย่างดี
7. เดินทอดน่องชมวิวป่าชายเลนบ้านนาในสลักเพชร
หลายคนที่มาเกาะช้าง และมีโอกาสได้เยี่ยมชมป่าชายเลนที่บ้านนาในเป็นต้องทึ่งทุกราย ด้วยเพราะป่าชายเลนที่นี่จัดได้ว่ามีความหลากหลายและสมบูรณ์ของพรรณไม้นานาชนิด แต่ที่โดดเด่นต้องยกให้ "ต้นฝาดแดง" ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับไม้ดัดบอนไซ ลำต้นสีดำ ออกดอกเป็นช่อสีแดง ที่ทำให้วิวทิวทัศน์รอบ ๆ ป่าชายเลนแห่งนี้สวยงามขึ้นมาถนัดตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะไปดูปากอ่าว หรือจะนั่งเล่นรับลมเย็น ๆ เฝ้ามองดูก้อนเมฆเคลื่อนตัวผ่านยอดไม้ ก็ได้บรรยากาศชิล ๆ ไปอีกแบบ
8. ชมพระอาทิตย์ตกที่หาดทรายขาว
หลายคนอยากสัมผัสบรรยากาศยามเย็นมองดูพระอาทิตย์ตกดินที่เกาะช้าง แต่ไม่รู้ว่าที่ไหนสวย เราแนะนำให้คุณมาที่ "หาดทรายขาว" ลองจินตนาการภาพหาดทรายขาวที่ยาวเป็นกิโล
เผยให้เห็นทัศนียภาพของชายหาดที่เปิดโล่ง ทุกวันช่วงเวลาใกล้ค่ำ
เราจะเห็นนักท่องเที่ยวต่างทยอยมานั่งชมพระอาทิตย์กำลังลาลับเส้นขอบฟ้า
นอกจากวิวสวย ๆ แล้วที่นี่ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารอร่อย ๆ
มากมายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกทาน หรืออยากจะนั่งชิล ๆ ฟังเพลงเพลิน ๆ
ก็มีให้เลือกหลากหลาย มาที่ "หาดทรายขาว" รับรองว่าไม่มีคำว่าเหงาเด็ดขาด
9. เริงร่าเล่น "น้ำตกคลองพลู"
น้ำตกที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น สามารถลงเล่นน้ำได้หลายจุด แต่หากใครอยากเดินขึ้นไปยังน้ำตกชั้นที่ 2 และ 3 จำเป็นต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ของอุทยานเป็นผู้นำทางขึ้นไป เพื่อความปลอดภัย เพราะบริเวณดังกล่าวค่อนข้างลื่น แต่รับรองว่าคุณจะได้ซึมซับกับบรรยากาศของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศที่เย็นสบาย เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนผ่อนคลายความเหนื่อยล้าทั้งปวง
10. ปลดปล่อยอารมณ์ที่หาดท่าน้ำ หรือ Lonely Beach
อยู่ถัดจากหาดไก่แบ้ประมาณ 1 กิโลเมตร
เป็นสวรรค์ของเหล่าแบ็คแพ็กเกอร์ ที่ชื่นชอบบรรยากาศความเงียบสงบ
จนทำให้ที่นี่ได้รับฉายาว่า "Lonely Beach" เป็นอ่าวขนาดใหญ่
หาดทรายสีขาว ผู้คนไม่พลุกพล่าน
ขณะเดียวกันการเดินทางภายในเกาะก็ทำได้โดยสะดวก มีรถสองแถว
หรือใครต้องการเช่ามอเตอร์ไซค์ก็มีไว้ให้บริการ โดยเฉพาะในช่วงค่ำคืน
ย่านนี้มีร้านนั่งชิลหลากหลายสไตล์ รับรองว่าใครได้มาที่ "หาดท่าน้ำ" เป็นต้องอิ่มเอมกับบรรยากาศที่แสนสงบ เปรียบได้ดั่งสวรรค์บนโลกมนุษย์เลยทีเดียว
11. ฤดูกาลท่องเที่ยวของเกาะช้าง
เกาะช้างเป็นเกาะที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมาในช่วงฤดูไหน คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงความงดงามของธรรมชาติที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงฤดู ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่าจะมาเที่ยวฤดูไหนดี เป็นไปได้ก็มาเที่ยวเกาะช้างทั้งฤดูร้อน ฝน และหนาวไปเลยก็ดีนะ
ไฮไลต์สำคัญที่อยู่ในช่วงเวลาพลบค่ำ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับการปรากฏตัวของฝูงหิ่งห้อยจำนวนมาก ที่จะออกมาโบยบินอวดแสงสวยของตัวเอง นับเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยที่โรแมนติกสุด ๆ อย่างไรก็ตามหากต้องการชมหิ่งห้อยควรโทรจองล่วงหน้าจะได้ไม่พลาดชมความสวยงามนะ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวท่าโสม โทรศัพท์ 039 516 051-4
ไม่น่าเชื่อว่า "เกาะช้าง" ที่รายล้อมไปด้วยทะเล จะมีที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมายเต็มไปหมด บางทีเราอาจไม่เคยได้สังเกตเลยด้วยซ้ำไป รู้อย่างนี้แล้วคราวหน้าถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนที่เกาะช้าง ก็อย่าลืมแวะหรือทำกิจกรรมตามที่เราบอกไปนะ เผื่อว่าไปเที่ยวเกาะช้างครั้งนี้เพื่อน ๆ จะได้สนุกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ททท. สำนักงานตราด
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
, , เฟซบุ๊ก ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้
"เกาะช้าง" สถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศทางทะเล
ที่ยังคงความสวยงามของหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าสดสวย อาหารทะเลสด ๆ
จึงไม่แปลกใจที่ว่าทำไมเกาะช้างยังคงเป็นทะเลอันดับหนึ่งในดวงใจของใครหลายคน
และด้วยขนาดของเกาะช้างที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ
ที่มีพื้นที่กว่าสองแสนไร่
แน่นอนว่าเราไม่มีทางที่จะรู้จักเกาะช้างได้หมดทุกซอกทุกมุม
วันนี้เราเลยขอคัดเอาไฮไลต์เด็ด ๆ ของเกาะช้าง
เพื่อที่ว่าคุณจะได้รู้จักเกาะช้างได้ดีขึ้น
ไว้เที่ยวครั้งต่อไปคุณจะได้ไม่พลาดกับความสนุกเหล่านี้
1. "เกาะช้าง" ใหญ่สมชื่อ
เกาะช้าง เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะทะเลอ่าวไทย และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากเกาะภูเก็ต มีเกาะมากมายเรียงตั้งแต่เขตอำเภอแหลมงอบ อำเภอเมือง และอำเภอคลองใหญ่ ซึ่งภายในเกาะช้างเองนอกจากเราจะได้เล่นน้ำทะเลสวย ๆ แล้ว ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอย่างน้ำตกและอ่าวต่าง ๆ ที่ขอบอกว่ายังคงสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม นั่นเป็นเพราะลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเกาะช้างยังคงเป็นป่าดิบเขา อันเป็นบ่อเกิดของต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงสรรพชีวิตบนเกาะแห่งนี้
2. จุดชมวิว "อ่าวกะรัง"
หากคุณกำลังมองหาสถานที่เงียบสงบ เพื่อซึมซับกับบรรยากาศธรรมชาติแบบชาวเกาะอย่างเต็มปอด อ่าวกะรังคือคำตอบที่ดีที่สุด เมื่อมาถึงคุณจะต้องร้องว้าว ! กับภาพวิวดงมะพร้าวสีเขียวที่เผยฉากหลังเป็นเวิ้งอ่าวและทิวเขาสูง มีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่มากที่มาเล่นน้ำหรือนอนอาบแดดเล่นที่นี่ ทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบเหมือนเกาะในฝัน เหมาะเป็นที่สำหรับการพักผ่อนและชาร์จพลังงานสำหรับวันหยุดอย่างแท้จริง
3. นั่งเรือมาด พายเรือคายักชมธรรมชาติ
ล่องเรือมาดที่ชุมชนสลักคอก เป็นกิจกรรมคล้าย ๆ กับการนั่งเรือกอนโดลาชมเมืองเวนิสของอิตาลี แตกต่างกันก็เพียงแต่บรรยากาศ โดยนักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือมาดชมธรรมชาติของป่าชายเลน พร้อมกับแวะทานดินเนอร์ด้วยมื้ออาหารทะเลสด ๆ ที่ชุมชนสลักคอก แต่อาจจำเป็นที่จะต้องเลือกช่วงเวลาสักเล็กน้อย เพราะบางช่วงเวลาร่องน้ำอาจแห้งจนไม่สามารถนำเรือร่องไปตามลำน้ำได้ ทางที่ดีควรโทรมาสอบถามก่อนจะเป็นการดีที่สุด ลองคิดว่าถ้าคุณได้ล่องเรือท่ามกลางธรรมชาติที่เงียบสงบ ฟังเสียงน้ำ เสียงลม ตัวคุณจะมีความสุขมากแค่ไหน
4. ชมต้นสีระมันอายุกว่า 200 ปี
ต้นสีระมันหรือต้นลิ้นจี่ป่า ที่ขึ้นกระจายภายในรอบบริเวณวัดคลองนนทรี ถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าครั้งหนึ่งเกาะช้างเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางค้า เป็นที่หลบลมมรสุม และพักหาเสบียงน้ำจืดของชาวจีนโพ้นทะเล ที่ได้นำลิ้นจี่ป่ามากินและทิ้งเมล็ดไว้จนแพร่กระจายทั่วเกาะช้าง ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ต้นเท่านั้น ไม่เพียงแต่ในแง่ความผูกพันทางประวัติศาสตร์เท่านั้น หากแต่ต้นสีระนี้ยังผูกพันกับคนเกาะช้างในแง่วิถีชีวิตชาวประมง เนื่องจากเนื้อไม้ชนิดนี้มีความแข็งแกร่ง ทนทาน จึงนิยมทำกงเรือ กระดูกงูเรือ หัวหมูคันไถ และบันไดบ้าน เรียกได้ว่าสารพันประโยชน์การใช้งานจริง ๆ
5. หลากเรื่องราวของกะลาที่ "บ้านรักกะลา"
แหล่งสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในหมู่บ้านสลักเพชร เพราะหมู่บ้านแห่งนี้มีสวนมะพร้าวเป็นจำนวนมาก จะทิ้งกะลาให้เสียเปล่าก็ใช่ที่ เลยเกิดการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน นำกะลามะพร้าวเหล่านั้นมาแปรรูปประดิษฐ์เป็นของที่ระลึกเก๋ ๆ สร้างมูลค่าและเพิ่มรายได้คืนกลับไปให้กับคนในชุมชน ไม่เพียงแต่กะลาเท่านั้น ใบมะพร้าวยังนำมาเย็บมุงหลังคา ก้านนำมาทำเป็นไม้กวาด เปลือกก็เอาไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ นักท่องเที่ยวคนไหนที่แวะไปที่ "บ้านรักกะลา" ก็อย่าลืมอุดหนุนผลิตภัณฑ์ชาวบ้านติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วิสาหกิจชุมชน บ้านรักกะลา เกาะช้างใต้
6. นมัสการหลวงพ่อเพชร
วัดสลักเพชร วัดเก่าแก่ที่มีความสวยงามแห่งหนึ่งของเกาะช้าง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ดูแปลกตา ตั้งแต่รอบตัวโบสถ์ที่ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นของบรรดาเหล่าสัตว์หิมพานต์ เมื่อเดินเข้ามาภายในโบสถ์ คุณจะต้องตะลึงกับความวิจิตรของภาพจิตรกรรมบนฝาผนังที่สวยงาม ยิ่งเมื่อภาพเหล่านั้นอยู่ทางด้านหลังขององค์พระประธาน ซึ่งมีลักษณะการลงสีคล้ายกับตัวองค์พระ ยิ่งสร้างบรรยากาศให้ภายในโบสถ์แห่งนี้สวยงามราวกับสรวงสวรรค์ ข้ามไปอีกฟากถนนจะเจอกับ "พิพิธภัณฑ์วัดสลักเพชร" เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมของเก่าสะสมของชาวเกาะช้างไว้มากมายหลากหลายชนิด ของแต่ละชิ้นล้วนทำหน้าที่ในการบอกเล่าเรื่องราวและวิถีชีวิตของชาวเกาะช้างได้เป็นอย่างดี
7. เดินทอดน่องชมวิวป่าชายเลนบ้านนาในสลักเพชร
หลายคนที่มาเกาะช้าง และมีโอกาสได้เยี่ยมชมป่าชายเลนที่บ้านนาในเป็นต้องทึ่งทุกราย ด้วยเพราะป่าชายเลนที่นี่จัดได้ว่ามีความหลากหลายและสมบูรณ์ของพรรณไม้นานาชนิด แต่ที่โดดเด่นต้องยกให้ "ต้นฝาดแดง" ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับไม้ดัดบอนไซ ลำต้นสีดำ ออกดอกเป็นช่อสีแดง ที่ทำให้วิวทิวทัศน์รอบ ๆ ป่าชายเลนแห่งนี้สวยงามขึ้นมาถนัดตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินลัดเลาะไปดูปากอ่าว หรือจะนั่งเล่นรับลมเย็น ๆ เฝ้ามองดูก้อนเมฆเคลื่อนตัวผ่านยอดไม้ ก็ได้บรรยากาศชิล ๆ ไปอีกแบบ
8. ชมพระอาทิตย์ตกที่หาดทรายขาว
9. เริงร่าเล่น "น้ำตกคลองพลู"
น้ำตกที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น สามารถลงเล่นน้ำได้หลายจุด แต่หากใครอยากเดินขึ้นไปยังน้ำตกชั้นที่ 2 และ 3 จำเป็นต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ของอุทยานเป็นผู้นำทางขึ้นไป เพื่อความปลอดภัย เพราะบริเวณดังกล่าวค่อนข้างลื่น แต่รับรองว่าคุณจะได้ซึมซับกับบรรยากาศของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศที่เย็นสบาย เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนผ่อนคลายความเหนื่อยล้าทั้งปวง
10. ปลดปล่อยอารมณ์ที่หาดท่าน้ำ หรือ Lonely Beach
11. ฤดูกาลท่องเที่ยวของเกาะช้าง
เกาะช้างเป็นเกาะที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมาในช่วงฤดูไหน คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงความงดงามของธรรมชาติที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงฤดู ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่าจะมาเที่ยวฤดูไหนดี เป็นไปได้ก็มาเที่ยวเกาะช้างทั้งฤดูร้อน ฝน และหนาวไปเลยก็ดีนะ
12. ล่องเรือชมหิ่งห้อย เกาะช้าง
ไฮไลต์สำคัญที่อยู่ในช่วงเวลาพลบค่ำ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับการปรากฏตัวของฝูงหิ่งห้อยจำนวนมาก ที่จะออกมาโบยบินอวดแสงสวยของตัวเอง นับเป็นแหล่งชมหิ่งห้อยที่โรแมนติกสุด ๆ อย่างไรก็ตามหากต้องการชมหิ่งห้อยควรโทรจองล่วงหน้าจะได้ไม่พลาดชมความสวยงามนะ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวท่าโสม โทรศัพท์ 039 516 051-4
ไม่น่าเชื่อว่า "เกาะช้าง" ที่รายล้อมไปด้วยทะเล จะมีที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมายเต็มไปหมด บางทีเราอาจไม่เคยได้สังเกตเลยด้วยซ้ำไป รู้อย่างนี้แล้วคราวหน้าถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนที่เกาะช้าง ก็อย่าลืมแวะหรือทำกิจกรรมตามที่เราบอกไปนะ เผื่อว่าไปเที่ยวเกาะช้างครั้งนี้เพื่อน ๆ จะได้สนุกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ททท. สำนักงานตราด
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
, , เฟซบุ๊ก ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้