จองตั๋วรถไฟ 2567
จองตั๋วรถไฟ CNR
การรถไฟฯ มีการเปิดให้จองตั๋วรถไฟล่วงหน้าสำหรับขบวนรถพิเศษ CNR ไปและกลับ จำนวน 8 ขบวน เป็นการนำร่องล่วงหน้าได้ถึง 90 วัน ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 ทำให้ผู้โดยสารสามารถวางแผนล่วงหน้าได้นานมากขึ้น
- ส่วนขบวนอื่นๆ ที่เป็น "รถเร็ว รถด่วน รถด่วนพิเศษ รถนำเที่ยว" ประเภทสำรองที่นั่ง (Reserved Seat) จองล่วงหน้าได้ 30 วัน
- ขบวนรถธรรมดา ชานเมือง ท้องถิ่น และรถแบบที่นั่งอิสระ (Non-Reserved Seat) สามารถซื้อได้ในวันเดินทาง ก่อนรถออกไม่เกิน 2 ชม.
เส้นทางที่เปิดจองตั๋วรถไฟขบวนรถพิเศษ CNR
การรถไฟฯ ได้ขยายเวลาเปิดจองตั๋วรถไฟล่วงหน้าจากเดิม 30 วัน เพิ่มสูงสุดเป็น 90 วัน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสจองซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ยาวนานขึ้น ซึ่งเริ่มนำร่องขบวนรถชุด 115 คัน จำนวน 8 ขบวน ในเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ เริ่มต้นมีรายละเอียดดังนี้
- เที่ยวไป : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีเชียงใหม่
- เที่ยวกลับ : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 10 สถานีเชียงใหม่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 23 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีอุบลราชธานี
- เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 24 สถานีอุบลราชธานี - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 25 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีหนองคาย
- เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 26 สถานีหนองคาย - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
- เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 31 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ - สถานีหาดใหญ่
- เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 32 สถานีหาดใหญ่ - สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
จองตั๋วรถไฟออนไลน์
ทุกวันนี้การจองตั๋วรถไฟสามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่องทางออนไลน์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้การวางแผนการเดินทางต่าง ๆ และเป็นอีกหนึ่งตั๋วเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ไม่อยากเดินทางไปซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟด้วยตัวเอง ซึ่งมีวิธีการง่าย ๆ ดังนี้
- เข้าเว็บไซต์ D-Ticket
- ทำการลงทะเบียนสมัครสมาชิก คลิกที่ “สมัครสมาชิก” และป้อนข้อมูลสำคัญที่ต้องใช้ในการสมัครให้เรียบร้อย
- หลังจากนั้นระบบจะส่งลิงก์เข้าไปยังอีเมลที่ใช้สมัครสมาชิก ให้ทำการกดยืนยัน ถือว่าสมัครสมาชิกเสร็จสมบูรณ์ หลังจากนั้นให้เลือกเข้าสู่ระบบ
- เข้าสู่หน้าเว็บไซต์จองตั๋วโดยสารรถไฟ เลือกเส้นทางที่ต้องการ ค้นหาต้นทางที่จะทำการขึ้นรถไฟ และปลายทาง
- ระบุจำนวนผู้โดยสาร วันเดินทาง จากนั้นกดค้นหา
- จะมีเวลาและประเภทรถให้เลือก ชอบแบบไหนก็เลือกได้ตามแต่สะดวก ทั้งนี้ หากขบวนไหนขึ้นเป็นแถบสีดำ แสดงว่าจำนวนเต็มแล้ว สามารถดูข้อมูลประเภทรถโดยสารเพิ่มเติมได้ที่ railway.co.th
- ตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ ให้เรียบร้อย และทำการเลือกที่นั่ง โดยที่นั่งที่เราเลือกได้จะมีสัญลักษณ์เป็นสีเขียว
- เมื่อเลือกที่นั่งได้แล้วก็กด “ถัดไป” และทำการตรวจสอบข้อมูล แล้วกดชำระเงิน เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
ช่องทางการซื้อตั๋วรถไฟ
สำหรับช่องการซื้อตั๋วรถไฟ มีทั้งหมด 3 ช่องทาง ได้แก่
- D-Ticket : https://www.dticket.railway.co.th
- ช่องจำหน่ายตั๋วทุกสถานีรถไฟทั่วประเทศ
- Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย : 1690
ข้อแนะนำอื่น ๆ สำหรับการจองตั๋วรถไฟ 2567
- ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่บนหน้าตั๋วต้องเป็น "ชื่อคนเดินทาง ไม่ใช่ชื่อคนจอง" เพื่อคุ้มครองผู้โดยสารตามกรมธรรม์ประกันภัยผู้โดยสาร
- การจองตั๋วเปลี่ยนจากเดิม 1 คน จองได้สูงสุด 10 ที่นั่ง เป็น สูงสุด 4 ที่นั่ง แทน ทั้งสถานี เว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน
- กรณีซื้อตั๋วแล้วข้อมูลไม่ถูกต้อง ให้รีบแก้ไขภายใน 1 ชั่วโมง ที่สถานีที่เราซื้อ ถ้าเกินจากนั้นจะถือว่าตั๋วถูกแล้ว และจะต้องเสียค่าธรรมเนียมเปลี่ยนตั๋ว
- ตั๋วที่จองผ่านเว็บไซต์ ไฟล์ PDF ของตั๋วจะส่งมาที่ email ให้ใช้ไฟล์นั้นโชว์ในโทรศัพท์หรือ tablet ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องปรินท์ออกมา ส่วนจองผ่านแอปพลิเคชัน โชว์ตั๋วในแอปพลิเคชันได้เลย ไม่ต้องปรินท์รูปตั๋วที่เป็น QR ออกมา (เริ่ม 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป)
ทั้งหมดนี้ถือเป็นคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการจองตั๋วรถไฟ 2567 เผื่อว่าใครจะมีทริปไปเที่ยว ไปพักผ่อน หรือกลับบ้านต่างจังหวัด จะได้เตรียมพร้อมกันได้ล่วงหน้า ขอให้เดินทางปลอดภัยกันนะ ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
แนะนำ วิธีจองตั๋วรถไฟ เส้นทางเที่ยวรถไฟ อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
+++ คู่มือท่องเที่ยวทางรถไฟ รู้ไว้อุ่นใจ สะดวก ปลอดภัยแน่นอน
+++ 5 เส้นทาง นั่งรถไฟเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้า-เย็นกลับได้ชิล ๆ
+++ เส้นทางนั่งรถไฟเที่ยว ฉบับวันเดย์ทริป ใช้งบประมาณไม่เยอะ
+++ นั่งรถไฟไปลาว พร้อมบอกขั้นตอนและวิธีการจองตั๋วเที่ยวลาวในมุมใหม่ ๆ