แนะนำทริปเที่ยวด้วยรถไฟฉบับวันเดย์ทริป มีเวลาวันเดียวก็เที่ยวต่างจังหวัดกับรถไฟไทยได้ อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แหล่งท่องเที่ยวสวย ค่าใช้จ่ายไม่เยอะ ไม่มีรถก็ไปได้ ไปเช้า-เย็นกลับสบาย
ในวันหยุดว่าง ๆ ถ้าอยากออกไปสูดอากาศต่างจังหวัด แต่ไม่มีรถจะไปเที่ยวที่ไหนดี เราขอแนะนำอีกหนึ่งวิธีการเดินทางที่ง่าย สะดวก และราคาไม่แพงค่ะ เป็น
การท่องเที่ยวด้วยรถไฟ ฉึกฉัก ๆ ไปยังจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ มีเวลาวันเดียวก็เที่ยวได้ ไปเช้า-เย็นกลับชิล ๆ บางเส้นทางยังสามารถพาเด็ก ๆ และผู้สูงอายุไปด้วยได้อีกต่างหาก จะมีเส้นทางไหนบ้าง ไปดูกันเลย
1. นครปฐม
เส้นทางรถไฟสายสั้น ๆ แต่ก็นั่งได้อารมณ์หวานเย็นกำลังดี โดยนักท่องเที่ยวสามารถที่จะนั่งมาลงอำเภอศาลายา แล้วไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในอำเภอศาลายา หรือเยื้องออกไปทางอำเภอนครชัยศรีก็ได้ แต่ถ้าใครอยากนั่งยาวนิดหนึ่ง ก็ไปลงที่สถานีรถไฟนครปฐม โดยจะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ในตัวเมืองให้เที่ยวชม คือ องค์พระปฐมเจดีย์ ตลาดนครปฐม วัดพระประโทณเจดีย์ และพระราชวังสนามจันทร์
เมื่อมาถึงสถานีรถไฟนครปฐม สามารถที่จะเดินไปเที่ยวองค์พระปฐมเจดีย์ และตลาดนครปฐมได้เลย ไหว้พระเสร็จแล้ว ก็มากินข้าวในตลาด ซึ่งมีร้านเด็ดร้านดังอยู่หลายร้าน อาทิ นายฉั้วข้าวหมูแดง, ตั้งฮะเส็งข้าวหมูแดง, ร้านหมูบิน ข้าวหมูแดง และสุกี้คุณเตือน เป็นต้น
จากนั้นก็ใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังวัดพระประโทณเจดีย์ หรือพระราชวังสนามจันทร์ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ก็ถึงแล้ว จากนั้นก็กลับมายังสถานีรถไฟ เพื่อเตรียมนั่งรถไฟกลับกรุงเทพฯ
จากกรุงเทพฯ สามารถขึ้นรถไฟได้ที่สถานีต้นทาง 2 แห่ง คือ สถานีกรุงเทพฯ และสถานีธนบุรี สามารถตรวจสอบเส้นทางและเวลาเดินรถได้ที่
railway.co.th
2. สะพานข้ามแม่น้ำแคว-เส้นทางรถไฟสายมรณะ-ถ้ำกระแซ-น้ำตกไทรโยคน้อย จังหวัดกาญจนบุรี
ใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติป่าเขาแบบเต็มเหนี่ยว ก็ขอแนะนำเส้นทางรถไฟกรุงเทพฯ - น้ำตกไทรโยคน้อย โดยรถไฟจะแล่นผ่านจังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดกาญจนบุรี แล้วไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก ที่อำเภอไทรโยค มีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ระหว่างเส้นทางนี้มากมาย โดยเฉพาะที่จังหวัดกาญจนบุรี จุดที่น่าสนใจ อาทิ สะพานข้ามแม่น้ำแคว, เส้นทางรถไฟสายมรณะ, ถ้ำกระแซ และน้ำตกไทรโยคน้อย
ถ้าใครอยากนั่งไปจนสุดเส้นทางที่น้ำตกไทรโยคน้อย ก็จะได้เห็นบรรยากาศของทุกสถานที่ แต่อาจจะไม่ได้ลงไปเที่ยวชม เพราะรถไฟจะจอดแต่ละสถานีเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ถ้าหากอยากเที่ยวที่ใดที่หนึ่งนาน ๆ ก็ลงระหว่างทางได้ แล้วค่อยรอขบวนที่วิ่งกลับมาจากทางฝั่งน้ำตกไทรโยคเข้ากรุงเทพฯ
ส่วนถ้าใครอยากเล่นน้ำที่น้ำตกไทรโยค ก็อาจจะต้องนั่งรถตู้โดยสาร หรือรถประจำทางเส้นทางไทรโยค-กรุงเทพฯ กลับเข้ากรุงเทพฯ แทนการนั่งรถไฟกลับ เพราะรถไฟขบวนแรกที่ไปถึงสถานีน้ำตกก็เป็นเวลา 12.35 น. แล้ว และขบวนที่วิ่งกลับเข้ากรุงเทพฯ เที่ยวสุดท้าย ก็คือ เวลา 12.55 น. ซึ่งไม่น่าทันกับการเล่นน้ำที่น้ำตก
ทั้งนี้สถานีต้นทางที่สามารถนั่งรถไฟไปกาญจนบุรีได้ ก็คือ สถานีธนบุรี สามารถตรวจสอบเส้นทางและเวลาเดินรถได้ที่ railway.co.th
3. เมืองเก่าอยุธยา
ภาพจาก Tony Patxer / Shutterstock.com
สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ วิธีการเดินทางไปยังอยุธยาที่สะดวกที่สุดวิธีหนึ่งก็คือ การนั่งรถไฟ โดยจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) จะมีรถไฟไปยังอยุธยาหลายรอบต่อวัน แต่ละเที่ยวก็ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากนัก ถ้าไปตั้งแต่ตอนเช้าก็จะได้เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวภายในเมืองเก่าอยุธยาหลายแห่ง
การเที่ยวในอยุธยาก็แสนง่ายดาย เพราะสามารถนั่งรถสามล้อเครื่องหรือรถตุ๊กตุ๊กหน้ากบไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ กันได้ อาทิ วัดมหาธาตุ, วัดพนัญเชิงวรวิหาร, วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดกษัตราธิราชวรวิหาร, วัดไชยวัฒนาราม, วังช้างอยุธยา แลเพนียด, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา, สะพานบ้านดินสอ, หมู่บ้านญี่ปุ่น, หมู่บ้านโปรตุเกส และหมู่บ้านฮอลแลนด์ เป็นต้น
สถานีต้นทางที่สามารถนั่งรถไฟไปอยุธยาได้ คือ สถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) สามารถตรวจสอบเส้นทางและเวลาเดินรถได้ที่
railway.co.th
4. เมืองราชบุรี
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ชิล ๆ ซึ่งมีเส้นทางรถไฟวิ่งผ่าน ทำให้สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเที่ยวกันได้ง่าย ๆ ใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมง และยังมีรอบรถไฟทั้งขาไปและขากลับหลายรอบต่อวันด้วย
เมื่อไปถึงสถานีรถไฟราชบุรีแล้ว ก็สามารถไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในตัวเมืองราชบุรีได้หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี, วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร, หอศิลป์ร่วมสมัยเถ้า ฮง ไถ่ ดีคุ้น, ตลาดเก่าโคยกี๊ ราชบุรี, หอนาฬิกา, สะพานจุฬาลงกรณ์, วัดช่องลม พระอารามหลวง และวัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม เป็นต้น และไม่ควรพลาดกินอาหารอร่อย ๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวไข่คุณแหม่ม ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟด้วย
สถานีต้นทางที่สามารถนั่งรถไฟไปราชบุรีได้ คือ สถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) และสถานีธนบุรี สามารถตรวจสอบเส้นทางและเวลาเดินรถได้ที่
railway.co.th
5. เมืองฉะเชิงเทรา
ใครสายบุญ ก็ขอแนะนำเส้นทางนี้กันเลย เพราะเป็นเส้นทางที่จะพาไปไหว้พระหลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ซึ่งจากสถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ก็มีรถไฟไป-กลับสถานีชุมทางฉะเชิงเทราหลายเที่ยวด้วยกัน ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ราว ๆ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
เมื่อไปถึงสถานีชุมทางฉะเชิงเทราแล้ว ก็สามารถที่จะนั่งรถสองแถว หรือรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังวัดโสธรวรารามวรวิหาร อยู่ห่างจากสถานีรถไฟเพียงแค่ราว ๆ 5-6 กิโลเมตรเท่านั้น และถ้าใครยังมีพอมีเวลาเหลือ ก็แนะนำให้เดินซื้อของฝากที่ตลาดด้านหน้าวัด หรือจะไปล่องเรือชมวิวสองฟากฝั่งแม่น้ำบางปะกง มีร้านอาหารและร้านกาแฟริมแม่น้ำบรรยากาศดีที่น่าสนใจหลายร้าน
นอกจากนี้ก็ยังไปเที่ยวตลาดบ้านใหม่ร้อยปี ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลได้ด้วย ซึ่งถ้าไปตรงกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ร้านค้าต่าง ๆ ก็จะเปิดคึกคัก มีของกินอร่อย ๆ ให้เลือกซื้อเพียบ
สถานีต้นทางที่สามารถนั่งรถไฟไปฉะเชิงเทราได้ คือ สถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) สามารถตรวจสอบเส้นทางและเวลาเดินรถได้ที่ railway.co.th
6. ตลาดร่มหุบ จังหวัดสมุทรสงคราม
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยเป็นตลาดที่ตั้งอยู่บนทางรถไฟที่ยังคงใช้งานอยู่ เวลาที่รถไฟจะวิ่งผ่าน พ่อค้าแม่ค้าก็จะเก็บข้าวของและหุบร่มกันอย่างคล่องแคล่ว ใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ทำให้กลายเป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวมากมายทุกวัน
นอกจากจะได้ชมบรรยากาศของตลาดร่มหุบแล้ว ก็ยังสามารถไปชิมลิ้มลองของกินอร่อย ๆ ในตลาดแม่กลอง พร้อมกับเลือกซื้ออาหารทะเลทั้งสดและแห้งได้ด้วย หรือจะเดินไปไหว้พระทำบุญที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร (วัดบ้านแหลม) ก็ได้ ถ้ามีเวลามากหน่อยก็ยังสามารถไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาได้เช่นกัน
การเดินทางด้วยรถไฟไปตลาดร่มหุบอาจจะซับซ้อนสักเล็กน้อย เพราะต้องต่อหลายเส้นทางด้วยกัน เริ่มจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ ไปลงที่สถานีมหาชัย แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปยังอีกฝั่งแม่น้ำ เพื่อไปนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟบ้านแหลม ไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง ต้องดูเวลารถไฟและเผื่อเวลาดี ๆ
สำหรับตารางเวลารถไฟเส้นทางวงเวียนใหญ่-มหาชัย ดูได้ที่ rotfaithai.com และเส้นทางบ้านแหลม-แม่กลอง ดูได้ที่ rotfaithai.com
7. พัทยา-ตลาดน้ำสี่ภาค-สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี
ใครที่อยากเที่ยวทางฝั่งภาคตะวันออก ก็มีเส้นทางกรุงเทพฯ - บ้านพลูตาหลวง ให้ไปนั่งรถไฟเล่นกันด้วย ซึ่งเส้นทางนี้จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ ของพัทยาหลายแห่ง ทั้งเมืองพัทยา, ตลาดน้ำ 4 ภาค และสวนนงนุช ซึ่งนักท่องเที่ยวอาจจะต้องเลือกไปเที่ยวที่ใดที่หนึ่ง
ภาพจาก Amnat Phuthamrong / Shutterstock.com
ถ้าลงที่สถานีพัทยา หรือพัทยาใต้ ก็สามารถนั่งสองแถวไปเที่ยวชายหาดพัทยา และสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองพัทยาได้อีกหลายแห่ง เช่น Aat in Paradise, เขาพระตำหนัก (เขาพระบาท), เมืองจำลอง พัทยา, พิพิธภัณฑ์ Ripley's Believe It or Not!, อันเดอร์วอเตอร์ เวิลด์ พัทยา เป็นต้น
ภาพจาก pichitchai / Shutterstock.com
ส่วนถ้าลงที่สถานีตลาดน้ำ 4 ภาค ก็เที่ยวได้ทั้งตลาดน้ำ 4 ภาค สวนเสือพัทยา และหาดจอมเทียน เลยไปหน่อยก็มีมิโมซ่า พัทยา หรือถ้าไปลงที่สถานีสวนนงนุช ก็เที่ยวได้ทั้งสวนนงนุช และสวนน้ำการ์ตูนเน็ทเวิร์ค อเมโซน
สถานีต้นทางที่สามารถนั่งรถไฟไปพัทยาได้ คือ สถานีกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) สามารถตรวจสอบเส้นทางจองตั๋วรถไฟ และเวลาเดินรถได้ที่ railway.co.th