พาเที่ยวด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา บรรยากาศดี ไปนมัสการพระธาตุศรีสองรัก สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พร้อมชมเทศกาลผีตาโขน งานบุญประเพณีภาคอีสานอันเป็นเอกลักษณ์
หากเอ่ยถึง ด่านซ้าย อำเภอติดสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มีลำน้ำเหืองเป็นเส้นกั้น หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับงานประเพณีบุญหลวง และการละเล่นผีตาโขน เทศกาลยอดนิยมของจังหวัดเลย
สถานที่แห่งนี้ยังมีความน่าสนใจอีกมาก วันนี้เราจะพาไป เที่ยวด่านซ้าย จังหวัดเลย พร้อมกับทำความรู้จักกับเจ้าของคำขวัญ ดินแดนแห่งสัจจะและไมตรี ประเพณีบุญหลวงและการละเล่นผีตาโขน แห่งนี้กัน
อำเภอด่านซ้าย ตั้งอยู่ที่ไหน
อำเภอด่านซ้าย ตั้งอยู่กลางหุบเขาทางทิศตะวันตกของจังหวัดเลย
- ทิศเหนือติดต่อกับแขวงไชยบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยมีลำน้ำเหืองเป็นเส้นกั้นอาณาเขตพรมแดน และติดต่อกับตำบลลาดค่าง อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
- ทิศใต้ติดต่อกับตำบลวังบาล ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
- ทิศตะวันออกติดต่อกับตำบลลาดค่าง ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ ตำบลทรายขาว อำเภอวังสะพุง ตำบลเลยวังไสย์ อำเภอภูหลวง จังหวัดเลย
- ทิศตะวันตกติดต่อกับตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ตำบลนาแห้ว ตำบลนาพึง และตำบลนามาลา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย
ประวัติอำเภอด่านซ้าย
อำเภอเก่าแก่ก่อตั้งก่อนที่กรุงสุโขทัยจะเป็นราชธานี สันนิษฐานตามประวัติศาสตร์ว่า พ่อขุนบางกลางท่าว เจ้าเมืองบางยาง ได้ตั้งเมืองหน้าด่านเพื่อประชิดเขตแดนขอม แต่เดิมนั้นด่านซ้ายตั้งอยู่ในเขตปกครองของมณฑลพิษณุโลก จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นอำเภอ ต่อมาได้มาอยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดเลย ตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2450 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับที่มาของชื่อเมืองสันนิษฐานไว้ 2 อย่าง คือ ด่านซ้ายตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของเมืองบางยาง (เชื่อว่าตั้งอยู่ในอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก ในปัจจุบัน) ซึ่งพ่อขุนบางกลางท่าว เจ้าเมืองบางยาง ตั้งขึ้นเป็นเมืองหน้าด่าน และเรียกว่า “เมืองด่านซ้าย หรือมาจากคำว่า “ด่านช้าง” ซึ่งในสมัยโบราณพื้นที่บริเวณนี้มีช้างป่าชุกชุม และเที่ยวหากินดินโป่ง ระหว่างป่าภูหลวง ป่าโป่งลิงต้น ป่าเขตเมืองลานช้าง แขวงเมืองไชยบุรี ประเทศลาว คนในสมัยนั้นจึงเรียกว่า “ด่านช้าง” ต่อมาเพี้ยนเป็น “ด่านซ้าย”
1. วัดพระธาตุศรีสองรัก
พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดเลย มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน ห่างจากตัวอำเภอด่านซ้าย 1 กิโลเมตร ไม่ไกลจากสำนักงานขนส่งจังหวัดเลย สาขาอำเภอด่านซ้าย สร้างขึ้นถวายเป็นอุเทสิกเจดีย์ (หมายถึง เจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศให้พระพุทธศาสนาโดยไม่กำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด) ในสมัยกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2103 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2106 พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา (สมัยพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต (เวียงจันทน์) สมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช มีรูปทรงลักษณะศิลปกรรมแบบล้านช้าง องค์พระธาตุสูง 19.19 เมตร ฐานกว้างด้านละ 10.89 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ย่อมุมไม้สิบสององค์ระฆังทรงบัวเหลี่ยม
นอกจากนี้ ยังมีตำนานความเชื่ออื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น พระธาตุศรีสองรัก มี นายมั่น นายคง ยอมอุทิศชีวิตเป็นข้าคอยเฝ้าไปชั่วนิรันดร์ และตำนานเรื่องเจ้าพ่อกวน-เจ้าแม่นางเทียม ว่าเป็นวิญญาณของชายหญิงที่ถูกกีดกันในความรักและมาเสียชีวิตที่พระธาตุแห่งนี้ ซึ่งทั้งคู่หนีเข้าไปในอุโมงค์ตอนก่อสร้างองค์พระธาตุ แต่ช่างไม่รู้จึงได้ก่อสร้างปิดอุโมงค์จนทั้งคู่เสียชีวิต กลายเป็นวิญญาณที่คอยเฝ้าปกปักรักษาองค์พระธาตุศรีสองรักมาจนถึงทุกวันนี้ โดยจะมีการจัดงานสมโภชพระธาตุศรีสองรักในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี
ทั้งนี้ มีข้อควรปฏิบัติเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการเข้าสักการะพระธาตุศรีสองรัก นั่นคือ ไม่ควรนำสิ่งของหรือดอกไม้สีแดงขึ้นบูชา ไม่ควรแต่งกายด้วยชุดสีแดงขึ้นไปนมัสการ เพราะองค์พระธาตุสร้างขึ้นเพื่อสัจจะและไมตรี สีแดงเป็นสัญลักษณ์ของเลือดและความรุนแรง ไม่ควรกางร่ม สวมหมวก และสวมรองเท้าขึ้นไปบนพระธาตุ
2. วัดเนรมิตวิปัสสนา
วัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในบ้านหัวนายูง ตำบลด่านซ้าย อำเภอด่านซ้าย ห่างจากพระธาตุศรีสองรักเพียงเล็กน้อย เดิมชื่อว่า วัดหัวนายูง เป็นวัดบนเนินเขา พระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดโดดเด่นด้วยความสวยงามทางสถาปัตยกรรม ลักษณะเป็นแบบทรงไทย และก่อสร้างจากศิลาแลงทั้งหลัง ทำให้เป็นวัดที่มีความสวยงามวิจิตรตระการตามาก ภายในอุโบสถมี พระพุทธชินราชจำลอง เป็นพระประธาน ผนังโดยรอบแต่งแต้มด้วยความงดงามของจิตรกรรมฝาผนัง แสดงเรื่องราวพุทธประวัติ และวิถีชีวิต ภูมิปัญญาชาวบ้าน นอกจากนี้ยังมี มณฑปพระครูภาวนาวิสุทธิญาณ สร้างจากศิลาแลง เป็นที่เก็บรักษาหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้
ภาพจาก : chopjai photo / Shutterstock.com
3. วัดโพนชัย
วัดโบราณที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2480 เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหมัน ในตำบลด่านซ้าย ห่างจากอำเภอด่านซ้ายประมาณ 2 กิโลเมตร เดิมเป็นที่รกร้าง พื้นที่เป็นโคกติดกับคลองห้วยโป่ง มีพระธาตุเจดีย์เก่าแก่ มีเนินดินสูง กว้างประมาณ 100 ตารางเมตร ต่อมามีชาวบ้านอพยพมาอยู่อาศัยจับจองที่ทำกินและได้ร่วมกันถางพื้นที่แห่งนี้เพื่อสร้างวัด ตั้งชื่อว่า วัดโพนชัย และได้มีการบูรณะพัฒนามาเป็นลำดับ
ในวัดมีพระธาตุอายุหลายร้อยปี คือ พระธาตุวัดโพนชัย ชาวบ้านมีความเชื่อกันว่าเป็นพระธาตุเจดีย์พระนางสิงขรเทวี สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระนางสิงขรมหาเทวี พระมเหสีของพ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด วีรบุรุษผู้สร้างชาติไทย ซึ่งหลายคนเชื่อว่าพื้นที่บริเวณนี้คือเมืองราดของพ่อขุนผาเมือง พระธาตุวัดโพนชัย เป็นเจดีย์ทรงดอกบัวเหลี่ยม ฐานสูง คล้ายกับเจดีย์ลาวรุ่นแรก คือ พระธาตุพนม แต่บัวเหลี่ยมสั้นป้อมกว่า
ภาพจาก : Mr.Alex / Shutterstock.com
นอกจากนี้ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปปางสมาธิ ชื่อว่า พระเจ้าใหญ่ หรือ หลวงพ่อใหญ่ เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ด้านหลังองค์ท่านจะมีรูของพญานาค เพราะมีความเชื่อว่าพญานาคจะปกปักรักษาพระเจ้าใหญ่
คำบูชาพระเจ้าใหญ่
นะโม 3 จบ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง พุทธัง อภิปูชยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง ธัมมัง อภิปูชยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ตัง สังฆัง อภิปูชยามิฯ
พุทธบูชา มหาเตโช ธัมบูชา มหาปัญโญ สังฆบูชา มหาโภควโห
ระตะนัตตะยัง สิรสา นมามิ เอตัสสะ อานุภาเวนะ
สัพพันตะรายา วินัสสันตุ สัพพทาฯ
ใกล้ ๆ กันเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน สถานที่เก็บและจัดนิทรรศการเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ ที่สืบต่อกันมา รวมถึงผีตาโขนที่มีความเชื่อกันว่าเป็นการละเล่นพื้นบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณ ว่างานบุญผีตาโขนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ งานบุญหลวง ถือว่าเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่น ที่รวมเอางานบุญพระเวส (ฮีตเดือนสี่) และงานบุญบั้งไฟ (ฮีตเดือนหก) ให้เป็นงานบุญเดียวกัน โดยงานบุญพระเวสมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฟังเทศน์มหาชาติ ส่วนงานบุญบั้งไฟนั้นเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อถวายบูชาเทวาอารักษ์รักษาเมือง ขอให้ฝนตกตามฤดูกาล ซึ่งผีตาโขนจะเป็นผู้ออกมาสร้างสีสันและความครื้นเครงในขบวนแห่ ส่วนชื่อของผีตาโขนนั้นเล่าต่อกันมาว่าน่าจะมาจากการสวมหน้ากากคล้ายหัวโขน หรือบางคนเรียกเป็นผีตาขน ผีตามคน และเพี้ยนเป็นผีตาโขนในที่สุด
ภาพจาก : Sakcared / Shutterstock.com
นอกจากส่วนที่จัดแสดงประวัติวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ แล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีการจัดแสดงหุ่นผีตาโขนที่มีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกัน และมี 2 ประเภท คือ ผีตาโขนใหญ่ผู้ชายและผู้หญิง แต่จะไม่มีการทำใหม่ทุกปี จะทำตามธรรมเนียมที่กำหนดไว้เท่านั้น และผีตาโขนเล็กที่เราพบเห็นกันทุกปี นอกจากนี้ยังมีการสาธิตการทำหน้ากากผีตาโขนให้ได้ชมกันด้วย
4. วัดศรีภูมิ
โบราณสถานและวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านนาหอ ตำบลนาหอ อำเภอด่านซ้าย ห่างจากพระธาตุศรีสองรักไม่เกิน 10 กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2035 (ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2399) โดยมีกลุ่มชาวบ้านที่อพยพมาตั้งบ้านเรือนบริเวณนี้ วิหารถือเป็นโบราณสถานสำคัญภายในวัด มีลักษณะเป็นอาคารโถงรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดความกว้าง 10.40 เมตร ความยาว 17 เมตร โครงสร้างหลังคาเป็นไม้ มุงด้วยแป้นเกล็ด ประดับตกแต่งด้วยช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปแบบศิลปะล้านช้างบนฐานชุกชี ก่ออิฐถือปูน ด้านหน้าฐานชุกชีเจาะเป็นช่องประดิษฐานพระพุทธรูปรูปปั้นขนาดเล็ก 1 องค์ ใกล้กันเป็นที่ตั้งของเจดีย์หรือธาตุในรูปแบบศิลปะล้านช้าง อายุราว ๆ พุทธศตวรรษที่ 23-24 ความสูงราว 10 เมตร
5. จุดชมวิวสุดทางที่ด่านซ้าย
จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเมืองด่านซ้ายในมุมสูงได้ชัดเจน ตั้งอยู่บริเวณทางหลวงหมายเลข 2014 นอกจากชมวิวขุนเขาและสายหมอกแล้ว ยังมีป้าย “ดินแดนแห่งสัจจะและไมตรี” และรูปปั้นตุ๊กตาผีตาโขน ที่เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอให้ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย
ภาพจาก : Sakcared / Shutterstock.com
6. ภูพระ
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์กลางขุนเขา ตั้งอยู่บริเวณภูเขาลูกเล็ก ๆ ในอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย เป็นลานโล่งที่มองเห็นวิวทิวทัศน์งดงาม ทั้งยังประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 2.5 เมตร สูง 3 เมตร หนักกว่า 3 ตัน ตั้งเรียงกันกว่า 1,250 องค์ เป็นแหล่งท่องเที่ยว 1 ใน 25 แห่ง ในแคมเปญ Unseen New Series ของ ททท. โดยสามารถจอดรถไว้ที่ศูนย์บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวชุมชนหมากแข้ง จากนั้นใช้บริการรถอีแต๊กท่องเที่ยวบนภูพระ ระยะทาง 1 กิโลเมตร (ทางชุมชนไม่แนะนำให้ขับรถส่วนตัวขึ้นไป เนื่องจากสภาพถนนเป็นทางวิบาก อาจเกิดอุบัติเหตุได้)
7. ภูลมโล
ที่เที่ยวอันซีนของเมืองไทยอีกแห่งหนึ่งที่ขอแนะนำ ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย ประมาณ 20 กิโลเมตร ความพิเศษของภูลมโล คือ มีพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ปลูกต้นนางพญาเสือโคร่งไว้นับแสนต้น จึงถือเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และไม่ได้มีให้ดูเพียงจุดเดียว เพราะมีกระจายให้ชมหลายจุด โดยแต่ละจุดจะมีกำหนดการบานที่ไม่ตรงกัน จึงทำให้ระยะเวลาในการดูดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโลนั้นยาวนานกว่าที่อื่นนั่นเอง โดยปกติแล้วแปลงแรก ๆ ของดอกนางพญาเสือโคร่งภูลมโลจะเริ่มบานตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมของทุกปี ก่อนที่แปลงอื่น ๆ จะทยอยบานเรื่อย ๆ จนเต็มพื้นที่ นั่นคือประมาณเดือนมกราคม
พื้นที่ของภูลมโลเป็นภูเขาที่ตั้งอยู่บนรอยต่อของ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ทำให้สามารถเดินทางมาเที่ยวได้หลายเส้นทาง แต่เส้นทางขึ้นภูลมโลเป็นเส้นทางถนนดินแดง มีหลุมร่องเป็นระยะ ไม่ควรใช้รถเก๋งขึ้นไป นักท่องเที่ยวที่อยากไปเที่ยวจำเป็นต้องใช้รถกระบะหรือรถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น และควรเตรียมผ้ากันฝุ่นให้พร้อม เพราะฝุ่นเยอะ สามารถติดต่อรถสำหรับขึ้นภูลมโลได้ 3 เส้นทาง คือ
- จังหวัดพิษณุโลก ขึ้นทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
- จังหวัดเพชรบูรณ์ ขึ้นทางบ้านทับเบิก
- จังหวัดเลย ขึ้นทางตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย
การขึ้นไปเที่ยวภูลมโล นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องรักษากฎระเบียบการเข้าเที่ยวชมอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความสวยงามของสถานที่ให้เราได้เชยชมไปนาน ๆ
8. ภูอีเลิศ
จุดชมวิวที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านปากหมัน ตำบลปากหมัน อำเภอด่านซ้าย เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก สามารถเห็นสายหมอกสีขาวละมุนอยู่ท่ามกลางร่องภูเขาของทั้งฝั่งไทยและลาว ตรงจุดชมวิวยังมีชะง่อนผาเล็ก ๆ ให้ได้ถ่ายภาพกันแบบชิค ๆ ด้วย ทั้งนี้ บริเวณจุดชมวิวภูอีเลิศยังมีสภาพเป็นโขดหินสลับกับป่าไม้ ทัศนียภาพสวยงามมาก สภาพอากาศที่นี่จะเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะเย็นจับใจมาก ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวด่านซ้ายที่ไม่ควรพลาดเลย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ภูอีเลิศ
9. ภูหินเซา
จุดชมวิวขุนเขาและทะเลหมอก 2 แผ่นดิน (ไทย-ลาว) ที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านกกแหนใหม่ ตำบลนาดี ห่างจากอำเภอด่านซ้าย 21 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวต้องจอดรถไว้ที่วัดโพนศรี จากนั้นใช้บริการถอีแต๊กและรถไถพ่วงของชมรมการท่องเที่ยวบ้านกกแหนใหม่ เพื่อขึ้นไปยังยอดภูหินเซา ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ตลอด 2 ฟากฝั่งจะได้ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านในพื้นที่รวมถึงทัศนียภาพที่งดงาม
10. น้ำตกแก่งสองคอน
น้ำตกสวยที่ตั้งอยู่บริเวณบ้านหัวนายูง ตำบลด่านซ้าย ห่างจากวัดเนรมิตวิปัสสนาเพียง 3 กิโลเมตร ใช้เส้นทางหมายเลข 2013 (ด่านซ้าย-นครไทย) เป็นธารน้ำกว้างไหลผ่านก้อนหินลดหลั่นกันลงมา จากจุดจอดรถเดินเท้าไปอีกไม่ไกลก็จะถึงธารน้ำ ตลอดสองฟากฝั่งร่มรื่นไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่
อำเภอด่านซ้าย ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งวัดวาอาราม ธรรมชาติ ประเพณีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนที่น่ารักรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ หากมีโอกาสไปเที่ยวเลย อย่าลืมไปเยือนเมืองกลางหุบเขาแห่งนี้กันดูสักครั้งนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยวเลย ที่เที่ยวภาคอีสาน อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง