สถานที่ล่องแก่ง-ล่องแพ
ภาคเหนือ
1. แม่น้ำแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
แม่น้ำแม่วาง ที่เที่ยวหน้าร้อนยอดฮิตในเชียงใหม่ ที่ทั้งชาวบ้านและนักท่องเที่ยวปักหมุดไปพักผ่อนหลบลมร้อน รับรองว่าถูกใจทั้งสายแอดเวนเจอร์และสายชิลชมธรรมชาติอย่างแน่นอน ที่นี่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และยังมีกิจกรรมไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น ขี่ช้าง ล่องแพ เล่นน้ำเย็นสบาย หรือจะนั่งชิล ๆ ริมน้ำกินอาหารอร่อย ๆ ก็ได้ โดยกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่คือ การล่องแพไม้ไผ่ไปตามแม่น้ำแม่วาง ที่มีระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ระหว่างทางจะผ่านทั้งปางช้าง ร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม และห้องน้ำตามจุดต่าง ๆ ด้วย
-
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.30 น.
-
ที่อยู่ : บ้านสบวิน หมู่ 9 ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

2. ล่องแพเมืองคอง เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
ขึ้นเหนือไปเที่ยวเชียงดาว ใครบอกว่ามีแต่เขา เพราะที่นั่นก็มีกิจกรรมล่องแพไม้ไผ่คลายร้อนกันด้วย จัดขึ้นโดยกลุ่มชาวบ้านเมืองคอง เป็นบริการล่องแพไม้ไผ่ชมธรรมชาติที่สวยงาม ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร มีคนถ่อแพให้และมีที่นั่งบนแพ สามารถมองเห็นวิวดอยหลวงเชียงดาวได้แบบไกล ๆ ด้วย หากไปในช่วงฤดูหนาว เดือนธันวาคม-มีนาคม ปริมาณน้ำจะพอเหมาะให้ล่องแบบสบาย ๆ แต่น้ำจะเย็นมากจนถึงขั้นหนาวเลยทีเดียว จึงแนะนำให้ไปช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนเมษายนจะยิ่งดี เพราะน้ำใสไหลเย็นสบาย แช่น้ำชิล ๆ ได้แบบไม่ต้องกลัวหนาวเลย
- ที่อยู่ : ตำบลเมืองคอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
- เบอร์โทรศัพท์ : 09 0475 2279
- เฟซบุ๊ก : ล่องแพเมืองคอง-กลุ่มชาวบ้าน

ภาพจาก : Adrian Baker / Shutterstock.com
3. ล่องแก่งน้ำว้า จังหวัดน่าน
สุดยอดของการล่องแก่งที่สายแอดเวนเจอร์หลายคนยกให้เป็นการล่องแก่งที่โหดที่สุด เพราะมีระยะทางรวมทั้งหมดกว่า 130 กิโลเมตร ถ้าจะล่องให้ครบทั้งหมดจะต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน และต้องมีการค้างคืนในป่าด้วย โดย ล่องแก่งน้ำว้า ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติขุนน่าน อำเภอแม่จริม มีต้นกำเนิดของสายน้ำมาจากทิวเขาหลวงพระบาง แบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่
-
น้ำว้าตอนบน (ระยะ 35 กิโลเมตร) มีเกาะแก่งกว่า 100 แก่ง ผ่านโขดหิน น้ำวน และน้ำตก เป็นระยะ ๆ มีกระแสน้ำเชี่ยวมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การล่องแก่งมาก่อนแล้ว โดยจุดเริ่มต้นจะอยู่ที่หมู่บ้านสะปัน อำเภอบ่อเกลือ
-
น้ำว้าตอนกลาง (ระยะ 85 กิโลเมตร) ใช้เวลาล่องกันถึง 2 วัน 1 คืน เส้นทางจะเต็มไปด้วยเกาะแก่งและวังน้ำที่ไหลผ่านหุบเขา กระแสน้ำแรง บางช่วงมีน้ำวน เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์การล่องแก่งมาก่อนแล้ว ช่วงฤดูกาลที่เหมาะในการมาล่องท้าทายความกล้าคือเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนมกราคม
-
น้ำว้าตอนล่าง (ระยะ 15 กิโลเมตร) เริ่มต้นที่อุทยานแห่งชาติแม่จริม ริมฝั่งน้ำเต็มไปด้วยป่าสีเขียว มีก้อนหินรูปทรงแปลกตาในบางจุด รวมไปถึงหน้าผาสวย ๆ ที่ไม่สูงมาก และมีจุดเล่นน้ำบนหาดทรายอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มล่องแก่ง หรือชอบล่องไปพลางชมธรรมชาติไปพลาง
เรียกว่าเป็นจุดเล่นล่องแก่งที่เหมาะสำหรับคนชอบความตื่นเต้นหวาดเสียวทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงขั้นเซียนเลยทีเดียว และที่นี่ยังเปิดให้เที่ยวตลอดทั้งปีด้วย (ยกเว้นเดือนสิงหาคม ที่จะงดทำการล่องแก่ง)
-
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน
-
ที่อยู่ : ล่องแก่งน้ำว้า ตำบลไหล่น่าน อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน
- เฟซบุ๊ก : ล่องแก่ง น่านน้ำว้า ทัวร์

สถานที่ล่องแก่ง-ล่องแพ
ภาคกลาง
4. ทัศนา คายัค จังหวัดราชบุรี
ชมความร่มรื่น เพลินไปกับสายน้ำเย็นแห่งแม่น้ำลำภาชี กับกิจกรรมพายเรือคายักล่องไปตามแก่งต่าง ๆ ทัศนา คายัค ตั้งอยู่ที่บ้านตะเคียนทอง ตำบลตะนาวศรี เป็นทั้งที่พักและแหล่งรวมกิจกรรมแอดเวนเจอร์ทั้งล่องแก่งและพายเรือคายัก ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็กอินฟินกับธรรมชาติและสายน้ำเย็นสดชื่น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการล่องแก่งและเล่นน้ำ จะมาช่วงไหนก็ชุ่มฉ่ำฟินได้ตลอดทั้งปี
-
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
-
ที่อยู่ : 158 หมู่ 3 บ้านตะเคียนทอง ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
-
โทรศัพท์ : 08 5291 0393
- เฟซบุ๊ก : ทัศนา คายัค 0892089502

5. ล่องแก่งต้นแม่น้ำนครนายก จังหวัดนครนายก

ภาพจาก : Foto by KKK / Shutterstock.com
สถานที่ล่องแก่ง-ล่องแพ
ภาคตะวันตก
6. แก่งแม่น้ำซองกาเลีย จังหวัดกาญจนบุรี
ข้ามมาทางฝั่งตะวันตกกับจังหวัดกาญจนบุรี ที่สภาพอากาศร้อนแบบดุดันไม่เกรงใจใคร สำหรับใครที่ต้องการหาที่เที่ยวล่องแก่ง-ล่องแพคลายร้อน ต้องไปที่ แม่น้ำซองกาเลีย เลย จะเป็นการล่องแก่งที่มีความยาวประมาณ 20 กิโลเมตร และมีเกาะแก่งให้ผ่านมากกว่า 15 จุดเลยทีเดียว ซึ่งจุดเริ่มต้นนั้นจะอยู่ที่บริเวณตอนล่างของน้ำตกตะเคียนทอง และไปสิ้นสุดที่เจดีย์เจมส์รีสอร์ต สำหรับล่องแก่งแม่น้ำซองกาเลียนี้สามารถมาล่องได้ตลอดทั้งปี ใครที่อยากมาเล่นแบบแอดเวนเจอร์ ตื่นเต้นหวาดเสียว ต้องมาในช่วงหน้าน้ำหลาก หรือฤดูฝน ที่ความยากในการล่องจะอยู่ที่ระดับ 2-3 แต่สำหรับใครที่อยากมาล่องเพลิน ๆ ให้สดชื่นเย็นสบาย สามารถมาได้ในช่วงฤดูร้อนและหนาว เพราะกระแสน้ำจะไม่รุนแรงมากนัก เล่นสนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งนี้ ระยะเวลาในการล่องแก่งที่นี่จะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง และยังสามารถเลือกได้ว่าจะล่องแบบเรือยางหรือแพไม้ไผ่อีกด้วย
-
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
-
ที่อยู่ : บ้านซองกาเลีย หมู่ 8 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
สถานที่ล่องแก่ง-ล่องแพ
ภาคใต้
7. ล่องแพพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
ล่องลงใต้ไปคลายร้อนกันที่อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร เมืองหน้าด่านสู่ภาคใต้ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงหน้าร้อนคือ การล่องแพ-ล่องแก่ง นั่นเอง กับเทศกาลล่องแพพะโต๊ะ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ถือเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้สนุกกับการล่องแพไม้ไผ่และแพท่อพีวีซี พร้อมลงเล่นน้ำตามแก่งต่าง ๆ ชมทิวทัศน์สองฝั่งแม่น้ำผ่านป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ที่สุดของภาคใต้ ผ่านจุดบรรจบของคลองสกกับคลองทรง อันเป็นจุดเริ่มต้นของแม่น้ำหลังสวน และอิ่มอร่อยกับอาหารพื้นบ้านรสเด็ด เช่น แกงส้มหมูสามชั้นกับหยวกกล้วยป่า ไข่หลามยำยอดผักกูด ข้าวที่หุงด้วยกระบอกไม้ไผ่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การเดินป่าชมต้นน้ำที่สามารถตั้งเต็นท์แคมปิ้งได้ การส่องนก-ส่องสัตว์ และการนั่งช้างไปชมสวนผลไม้ เป็นต้น
- ที่อยู่ : ตำบลพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
- เบอร์โทรศัพท์ : 08 0719 2009, 08 1080 4761, 08 4544 9695
- เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก เทศบาลตำบลพะโต๊ะ หรือ เฟซบุ๊ก ชมรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ป่าต้นน้ำพะโต๊ะ

ภาพจาก : Chaton Chokpatara / Shutterstock.com
8. ล่องแก่งน้ำตกโตนปริวรรต จังหวัดพังงา
หนึ่งในจังหวัดทางภาคใต้ฝั่งอันดามัน ที่มีที่เที่ยวแนวแอดเวนเจอร์อย่าง ล่องแก่งในลำธารน้ำใสไหลเย็น กับเส้นทางธารน้ำตกโตนปริวรรต หรือ ล่องแก่งสองแพรก ที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโตนปริวรรต ตำบลสองแพรก อำเภอเมืองพังงา ซึ่งยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติอยู่มาก โดยเส้นทางในการล่องแก่งจะมีระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สภาพแก่งและสายน้ำจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก และมีความยากอยู่ที่ระดับ 1-5 เท่านั้น นักท่องเที่ยวจะได้สนุกสนานไปกับกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่ไหลผ่านไปตามโขดหินเล็กใหญ่และแก่งต่าง ๆ รวมถึงยังมีป่าไม้ร่มรื่นสวยงามตลอดสองข้างทางด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสุดมันส์อีกมากมาย เช่น ขี่ ATV สุดผจญภัย นั่งช้างชมเส้นทางธรรมชาติ อาบน้ำคลายร้อนให้น้องช้าง และโหนซิปไลน์ เป็นต้น
- ที่อยู่ : ตำบลสองแพรก อำเภอเมืองพังงา จังหวัดพังงา
- เบอร์โทรศัพท์ : 08 6496 3290
- เฟซบุ๊ก : ล่องแก่งสองแพรกพังงา
9. ล่องแก่งภูต้นน้ำรีสอร์ท จังหวัดสตูล
ภูต้นน้ำ รีสอร์ท เป็นทั้งที่พัก ร้านอาหาร และจุดเริ่มต้นกิจกรรมแอดเวนเจอร์อย่าง ล่องแก่ง ระยะทางกว่า 7 กิโลเมตร กับเส้นทางแก่งธรรมชาติสุดท้าทาย บรรยากาศสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่นเย็นสบาย และเมื่อสนุกสุดเหวี่ยงไปแล้วก็แวะไปชิมอาหารรสเด็ดเมนูพื้นบ้านมากมาย ทั้งแกงคั่วหยวกกล้วย ไก่ต้มใบชะมวง น้ำพริกจิ้มผักสด ๆ ไข่ลูกเขย ผลไม้จัดใส่จานสวยงาม ขนมจีน และของหวานอย่างขนมครก
- ที่อยู่ : หมู่ 10 ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู จังหวัดสตูล
- เบอร์โทรศัพท์ : 08 5891 8197
- เฟซบุ๊ก : ภูต้นน้ำ ล่องแก่ง สตูล Phutonnam Rafting
เป็นอย่างไรบ้างกับ 10 สถานที่ล่องแก่ง-ล่องแพจากทั่วไทย ที่เรานำมาฝากกัน ร้อนนี้ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวคลายร้อนในช่วงซัมเมอร์ ก็ลองดูไว้เป็นตัวเลือกได้นะ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่มีแพลนชวนแก๊งเพื่อนหรือครอบครัวไปผจญภัยทางน้ำ เพื่อรับความชุ่มฉ่ำสุดฟินกับกิจกรรมล่องแก่ง ก็อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้างด้วยนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ สถานที่ล่องแก่ง ล่องแพ ที่เที่ยวหน้าร้อน อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
+++ 10 สถานที่ล่องแก่ง-ล่องแพหน้าร้อน เที่ยวพักผ่อนกับสายน้ำเย็นชื่นใจ
+++ 7 สถานที่ล่องแก่งสุดมัน ท้าทายความตื่นเต้น
+++ 10 ที่เที่ยวหน้าร้อนไม่ใช่ทะเล เอาใจไปเทแล้วลั้ลลาคลายร้อนกัน
+++ ที่เที่ยวหน้าร้อน 2566 คลายความร้อน เพิ่มความเฟรชให้ร่างกายในช่วงซัมเมอร์