วัดสร้อยทอง พระอารามหลวงที่หลายคนรู้จัก ผ่าน 2 พระสงฆ์ “พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” และ “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” พระนักเทศน์ชื่อดังทางโซเชียล กับเรื่องน่ารู้ต่าง ๆ
นาทีนี้เห็นทีว่าน่าจะไม่มีใครไม่รู้จัก 2 พส หรือ 2 พระสงฆ์แห่งวัดสร้อยทอง “พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” และ “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” พระนักเทศน์ที่เรียกเสียงฮือฮาบนโลกโซเชียล และมียอดคนดูเป็นจำนวนมากทุกครั้งที่ไลฟ์ ความน่าสนใจไม่ได้มีเพียงแค่ลีลาท่าทางการเทศน์ที่แฝงธรรมะของทั้ง 2 พระสงฆ์เท่านั้น หากยังมีหลายคนที่อยากทำความรู้จักกับ “วัดสร้อยทอง” กรุงเทพฯ ให้มากขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางสังคม ที่ให้คนทุกรุ่นทุกวัยหันหน้าเข้าหาธรรมะมากขึ้นกว่าเดิม
วัดสร้อยทองอยู่ที่ไหน
วัดสร้อยทอง ตั้งอยู่ริมถนนประชาราษฎร์ สาย 1 เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ
ประวัติวัดสร้อยทอง
วัดสร้อยทอง หรือเดิมชื่อ วัดซ่อนทอง เป็นวัดเก่าแก่ที่มีมานาน สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2394 ทั้งนี้ ไม่ปรากฏชื่อและประวัติของผู้สร้าง แต่ก็มีข้อสันนิษฐานกันว่าอาจเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) และในปี พ.ศ. 2545 ได้รับการยกฐานะจากวัดราษฎรเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ซึ่งได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา
หลวงพ่อเหลือ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดสร้อยทอง
ใครที่มีโอกาสมาวัดสร้อยทอง มักจะนิยมมานมัสการ “หลวงพ่อเหลือ” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดสร้อยทอง มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลือง ซึ่งสร้างจากโลหะเหลือจากการหล่อพระประธานในปี พ.ศ. 2445 และภายในเกศองค์พระพุทธรูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระอรหันต์ 5 รูป นับเป็นหนึ่งในปูชนียวัตถุสำคัญของวัดสร้อยทอง ซึ่งมีประชาชนมากหน้าหลายตาต่างเดินทางมากราบไหว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตและครอบครัว
วัดสร้อยทองกับการบูรณะ
ก่อนหน้านี้ในช่วงปี พ.ศ. 2445-2477 ได้มีการบูรณะวัดครั้งใหญ่ โดยได้มีการร่วมแรงร่วมใจกันของประชาชนทั้งชาวไทยและชาวมอญในพื้นที่ใกล้เคียง ต่อมาในปี พ.ศ. 2488 ตรงกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดสร้อยทองโดนระเบิดจากฝ่ายสัมพันธมิตรตกใส่จนได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก คงเหลือไว้แต่พระพุทธรูปหลวงพ่อเหลือ หอระฆัง และเจดีย์ริมคลองบางซ่อนเท่านั้น หากแต่ก็ได้มีการอพยพหนีภัยของชาวบ้านและพระภิกษุไปในที่ต่าง ๆ โดยพระภิกษุวัดสร้อยทองไปอยู่ที่วัดบ้านกั่ว จังหวัดปทุมธานี
ทั้งนี้ ปัจจุบันวัดสร้อยทองเป็นวัดที่มีสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกขนาดใหญ่ มีการเรียนการสอนถึงระดับเปรียญธรรม 9 ประโยค และมีพระภิกษุ-สามเณรสอบไล่พระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและแผนกบาลีได้ทุกปีอีกด้วย
“พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” และ “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” 2 พส นักเทศน์ยุคใหม่
วัดสร้อยทอง เริ่มอยู่ในความสนใจมากขึ้น เมื่อเกิดปรากฏการณ์ธรรมะบนโลกโซเชียลของ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง ที่สร้างกระแสให้คนรุ่นใหม่หันมาฟังธรรมะมากขึ้น ด้วยลีลาการพูดและน้ำเสียง ที่อิงกับยุคสมัยใหม่ หากแต่น้อมนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปรับใช้ โดยสอดแทรกระหว่างการไลฟ์ จนมีผู้ชมเข้ามาดูอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ไลฟ์ด้วยกัน จนมียอดคนดูสูงสุดกว่า 200,000 คน นับเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก แล้วยิ่งเป็นเรื่องธรรมะ ที่สามารถเรียกร้องความสนใจให้กับผู้คนได้มากมายขนาดนี้ ขณะเดียวกันก็ทำให้วัดสร้อยทอง เป็นที่พูดถึงและมีพุทธศาสนิกชนเข้ามาแวะเวียนเข้ามาเป็นจำนวนมากขึ้นตามลำดับด้วยเช่นกัน
Coco-Ratta/shutterstock.com
เส้นทางมายังวัดสร้อยทอง
สามารถเดินทางมาด้วยขนส่งสาธารณะต่าง ๆ ได้แก่
- รถไฟใต้ดิน MRT ลงที่สถานีบางซ่อน หลังจากนั้นจะนั่งแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ตามอัธยาศัย
- รถโดยสารประจำทาง ได้แก่ สาย 32, สาย 33, สาย 49, สาย 64, สาย 90
- เรือด่วนเจ้าพระยา (ธงส้ม) มาลงที่ท่าเรือวัดสร้อยทอง
- หรือดูพิกัดเพิ่มเติมได้ที่ Google maps วัดสร้อยทอง
สำหรับใครที่สนใจอยากเดินทางไปทำบุญ ไหว้พระ ขอพร หรือให้อาหารปลา ก็สามารถมาได้ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ลองหาเวลาว่าง ๆ สักวัน แล้วมาเสริมสร้างสิริมงคลกันก็ดีไม่น้อยเลย ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก สำนักเรียนวัดสร้อยทอง, เฟซบุ๊ก วัดสร้อยทอง พระอารามหลวง, เฟซบุ๊ก ณัฐพงศ์ วณฺณโสภโณ(มหาบ้านนอก ฅนเก็บแสง)