นายกฯ สั่งฟันโรงแรมทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน หลังเจอทุจริต เช่น ตั้งราคาห้องสูงเกินจริง - บางโรงแรมเปิดให้จอง แต่ยังไม่เปิดให้บริการ ส่อเลื่อนจอง เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 2
วันที่ 15 ธันวาคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการร้องเรียน ว่ามีการโกงของโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากการตรวจสอบ พบว่าอาจมีโรงแรมเข้าข่ายทุจริตประมาณ 312 แห่ง ร้านค้าประมาณ 200 แห่ง ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว โดย ททท. เตรียมประสานกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย ทำการตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีเอาผิดทั้งคดีอาญาและคดีเพ่ง สำหรับโรงแรมที่เข้าข่ายทุจริต
นายยุทธศักดิ์ ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นโรงแรมขนาดเล็กในต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน ททท. อาจจะต้องขอเลื่อนการจองโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 2 ออกไปก่อน
ขณะที่ ทวิตเตอร์ @Rachadaspoke ของ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ตรวจสอบการทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยพฤติกรรมการทุจริตของโรงแรม เช่น
- ใช้ส่วนต่างคูปอง
- ตั้งราคาห้องสูงเกินจริง
- ให้จองแต่ไม่พัก
- ให้จองแต่โรงแรมยังไม่เปิดบริการ
อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทุจริตจริง จะลงโทษด้วยการตัดสิทธิ์โครงการ และดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง-อาญา
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าว INN, ทวิตเตอร์ @Rachadaspoke
วันที่ 15 ธันวาคม 2563 สำนักข่าว INN รายงานว่า นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการร้องเรียน ว่ามีการโกงของโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จากการตรวจสอบ พบว่าอาจมีโรงแรมเข้าข่ายทุจริตประมาณ 312 แห่ง ร้านค้าประมาณ 200 แห่ง ขณะนี้ทราบชื่อแล้ว โดย ททท. เตรียมประสานกระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทย ทำการตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีเอาผิดทั้งคดีอาญาและคดีเพ่ง สำหรับโรงแรมที่เข้าข่ายทุจริต
นายยุทธศักดิ์ ระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นโรงแรมขนาดเล็กในต่างจังหวัด ขณะเดียวกัน ททท. อาจจะต้องขอเลื่อนการจองโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 2 ออกไปก่อน
- ใช้ส่วนต่างคูปอง
- ตั้งราคาห้องสูงเกินจริง
- ให้จองแต่ไม่พัก
- ให้จองแต่โรงแรมยังไม่เปิดบริการ
อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทุจริตจริง จะลงโทษด้วยการตัดสิทธิ์โครงการ และดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง-อาญา