1. อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผืนป่าขนาดใหญ่ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 605,625 ไร่ เต็มไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่ามากมาย จนได้ฉายาว่าเป็นซาฟารีเมืองไทยที่แท้จริง โดยสัตว์ที่มีความน่าสนใจมากที่สุดคือช้างและกระทิง โดยจะมีการจัดกิจกรรมพาไปชมช้างป่าและฝูงกระทิงอยู่เป็นประจำ และยังมีจุดชมวิวสวย ๆ บรรยากาศดี ให้ไปนั่งปิกนิกกันด้วย ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรมการทำโป่งเทียมให้ช้างและสัตว์ป่า พร้อมทั้งกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ให้นักท่องเที่ยวได้มาสนุกกันทั้งปี
- ที่ตั้ง : ตำบลกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- โทรศัพท์ : 0 3251 0453, 08 1776 2410
2. อ่างเก็บน้ำช่องลม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง รายล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ มีอ่างเก็บน้ำกว้าง ธรรมชาติป่าเขาโดยรอบอุดมสมบูรณ์ วิวทิวทัศน์สวยงาม มีสันเขื่อนทอดยาวทำให้สามารถไปเที่ยวชมและเดินเล่นบนสันเขื่อนได้ รอบ ๆ จะเป็นทุ่งหญ้า บางวันชาวบ้านก็จะนำวัวมาเลี้ยงกลางทุ่งสีเขียวโล่งกว้าง บรรยากาศสวยงามมาก
- ที่ตั้ง : ตำบลเขาล้าน อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
3. อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- ที่ตั้ง : อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
4. ภูเขาหญ้า จังหวัดระนอง
เรียกอีกชื่อว่า ภูเขาหัวล้าน มีลักษณะเป็นภูเขาเตี้ย ๆ โล้นเตียน ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุม มีเพียงทุ่งหญ้าที่ขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วทั้งภูเขาและพื้นที่โดยรอบ ในช่วงหน้าฝนภูเขานี้จะกลายเป็นสีเขียวอ่อน ส่วนหน้าร้อนจะเป็นสีน้ำตาล มีมุมให้ถ่ายรูปชิค ๆ เพียบ สามารถเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ด้วย ที่สำคัญเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- ที่ตั้ง : ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเย็น ๆ
5. น้ำตกหงาว จังหวัดระนอง
- ที่ตั้ง : ตำบลหงาว อำเภอเมืองระนอง
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่น้ำเยอะจะอยู่ในช่วงหน้าฝน
- โทรศัพท์ : 0 7781 0651 (อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว)
6. บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง จังหวัดระนอง
เป็นบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของภาคใต้ มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณ น้ำในบ่อมีอุณหภูมิราว ๆ 35-40 องศาเซลเซียส เหมาะแก่การแช่ตัวและแช่เท้า ตัวบ่อน้ำพุร้อนก็มีการปรับปรุงให้น่าเที่ยวชม สะอาด แบ่งเป็นบ่อแช่เท้า บ่อแช่ตัวกลางแจ้งและในที่ร่ม พร้อมกับมีฝายน้ำล้น มุมนั่งเล่นพักผ่อน สปาปลา และบ้านพักรับรองไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
- ที่ตั้ง : ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
- โทรศัพท์ : 0 7781 0651 (อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว)
7. ดอยตาปัง จังหวัดชุมพร
เป็นจุดชมวิวที่สวยอันดับต้น ๆ ของชุมพร สูงจากระดับน้ำทะเลราว ๆ 500 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นทิวเขาน้อยใหญ่ที่อยู่โดยรอบได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเขาทะลุ อันเป็นสัญลักษณ์ของตำบลเขาทะลุ ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงฤดูฝนไปจนถึงปลายฤดูหนาว ที่นี่จะกลายเป็นจุดชมทะเลหมอกสวยอลังการ บรรยากาศโรแมนติก มีจุดกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวได้ไปนอนชมดาวและทะเลหมอกด้วย การจะขึ้นไปเที่ยวด้านบนได้นั้นจะต้องนั่งรถกระบะขึ้นไป สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผู้ใหญ่ประเสริฐ โทรศัพท์ 09 8821 9831
- ที่ตั้ง : ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน
- โทรศัพท์ : 09 8821 9831 (ผู้ใหญ่ประเสริฐ)
8. ล่องแพพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
พะโต๊ะ เป็นอำเภอที่มีธรรมชาติของภูเขาที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งปลูกผลไม้และกาแฟที่สำคัญอีกแห่งของชุมพร และยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการล่องแพและนอนโฮมสเตย์ โดยนักท่องเที่ยวจะได้ล่องแพไม้ไผ่ไปตามลำคลองต้นน้ำ ชมวิวสองฟากฝั่งคลอง ที่มีทั้งป่าเขาและสวนผลไม้ของชาวบ้าน จะแวะชิมผลไม้สด ๆ จากสวนก็ได้ ล่องแพเสร็จก็ขึ้นไปกินอาหารกลางวันแบบพื้นบ้าน พร้อมทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกับชาวบ้าน ใครจะพักผ่อนโฮมสเตย์ของชาวบ้านก็ได้ หรือจะพักกับรีสอร์ตในพื้นที่ก็ได้เช่นกัน ช่วงที่น่าท่องเที่ยวจะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคม-มีนาคม
- ที่ตั้ง : ตำบลพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี แต่ฤดูกาลท่องเที่ยวจะอยู่ในช่วงปลายปี-ต้นปี
- โทรศัพท์ : 0 7753 9253 (เทศบาลตำบลพะโต๊ะ)
9. เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- ที่ตั้ง : ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี
- โทรศัพท์ : 0 7724 2553 (ฝ่ายประชาสัมพันธ์เขื่อนรัชชประภา)
ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำราด อำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก โดยมี "ตาน้ำ" เป็นหัวใจหลักของป่า เมื่อน้ำผุดออกมาจากใต้ดินผ่านชั้นหินผสมกับแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้น้ำกลายเป็นสีฟ้าสวยใส พอมารวมกันในแอ่งน้ำกว้างก็กลายเป็นสระน้ำใสกิ๊ง เย็นฉ่ำ ทางชุมชนและหน่วยงานท้องถิ่นได้จัดสรรพื้นที่บางจุดให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นน้ำด้วย
- ที่ตั้ง : หมู่ 4 บ้านน้ำราด ตำบลบ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
- เฟซบุ๊ก : ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด
เป็นจุดชมวิวที่สวยมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของภาคใต้ เป็นบริเวณที่สามารถมองเห็นอ่าวพังงาได้ไกลสุดลูกหูลูกตา มีวิวของภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ รูปร่างสวยงามแปลกตา ตั้งสลับซับซ้อนในท้องทะเลให้ได้ชม ยิ่งถ้าไปชมช่วงเช้าจะเห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นสวยงามสะกดใจ เป็นวิวที่หาชมได้แค่ที่นี่เท่านั้น ในบริเวณดังกล่าวมีทั้งลานกางเต็นท์และบ้านพักไว้รองรับนักท่องเที่ยว
- ที่ตั้ง : บ้านหินร่ม ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
- เวลาเปิด-ปิด : เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
12. เมืองเก่าภูเก็ต
ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองภูเก็ต เป็นย่านที่มีตึกเก่าสไตล์ชิโน-โปรตุกีสตั้งเรียงรายอยู่มากมาย โดยจะอยู่บริเวณถนนเยาวราช ถนนพังงา ถนนกระบี่ ถนนถลาง ถนนดีบุก จุดที่เป็นไฮไลต์คือซอยรมณีย์ ซึ่งมีทั้งงานสตรีตอาร์ต ตึกสวย ๆ คาเฟ่ ร้านอาหาร และที่พักเก๋ ๆ ให้ได้เดินเล่นถ่ายรูปกันเพลิน ๆ ช่วงวันหยุดบนถนนถลางจะปิดการจราจรช่วงเย็น เพื่อจัดกิจกรรมถนนคนเดิน มีสินค้าแฮนด์เมดและอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ ให้ลิ้มลองมากมาย
- เวลาเปิด-ปิด : เที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
13. พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี จังหวัดภูเก็ต
ตั้งอยู่บนเขานาคเกิด เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของภูเก็ต ด้วยเป็นที่ตั้งของพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี พระพุทธรูปขนาดใหญ่ สูง 45 เมตร กว้าง 25.45 เมตร โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ประดับด้วยหินอ่อนสีขาวหยกพม่าสวยสง่า ซึ่งนอกจากจะสามารถขึ้นไปไหว้พระขอพรได้แล้ว ก็ยังจะได้ชมวิวเมืองภูเก็ตมุมสูงด้วย โดยจะมองเห็นทั้งเมืองภูเก็ต หาดกะตะ หาดกะรน และอ่าวฉลอง
- ที่ตั้ง : เขานาคเกิด ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.0-19.30 น.
14. แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต
แลนด์มาร์กที่สำคัญของภูเก็ต เป็นแหลมตอนใต้สุดของจังหวัด และได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลที่งดงามมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยมีภูมิทัศน์และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เอกลักษณ์ของที่นี่ก็คือแหลมที่ยื่นออกไปในทะเล โดยมีต้นตาลสูงเด่นสลับซับซ้อนอยู่บนแหลม ขนาบข้างแหลมด้วยน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ และยังสามารถมองเห็นเกาะแก้ว หาดยะนุ้ย และหาดในหาน นอกจากนี้ที่นี่ก็เป็นที่ตั้งของประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ โดยยามค่ำคืนจะสามารถมองเห็นแสงไฟได้ไกลราว ๆ 39 กิโลเมตรเลยทีเดียว ทั้งนี้ ด้านในของประภาคารก็มีนิทรรศการที่น่าสนใจให้ได้ชมด้วย
- ที่ตั้ง : ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวชมตลอด
15. สระมรกต จังหวัดกระบี่
แหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของจังหวัดกระบี่ มีลักษณะเป็นสระน้ำธรรมชาติสีเขียวมรกตใส กว้างประมาณ 20-25 เมตร ลึกราว ๆ 1-2 เมตร โดยน้ำในสระมีอุณหภูมิอยู่ที่ 30-50 องศาเซลเซียส บริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศเงียบสงบ อากาศบริสุทธิ์สดชื่น จึงเหมาะแก่การไปนอนแช่ตัวเล่นน้ำพักผ่อนเบา ๆ
- ที่ตั้ง : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม หมู่ที่ 2 ตำบลคลองท่อมเหนือ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
16. ป่าพรุ-ท่าปอมคลองสองน้ำ จังหวัดกระบี่
แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งของกระบี่ มีลักษณะเป็นป่าพรุ ซึ่งอยู่ติดกับคลองปาหลี อันเป็นลำคลองที่ทอดยาวออกสู่ท้องทะเลอันดามัน ทำให้คลองแห่งนี้มีทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม แต่เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของที่นี่ก็คือ สายน้ำสวยใสแจ๋วที่ไหลผ่านลำคลองเล็ก ๆ สองฟากฝั่งเป็นรากไม้พันกันสวยงามแปลกตา ในช่วงที่น้ำนิ่ง ๆ จะสามารถมองเห็นได้ถึงก้นลำคลอง และยังสะท้อนป่าไม้รอบด้าน รวมทั้งท้องฟ้า เป็นภาพที่สวยงามมาก มีบางจุดที่สามารถเล่นน้ำได้ด้วย
- ที่ตั้ง : หมู่ที่ 2 บ้านหนองจิก ตำบลเขาคราม อำเภอเมืองกระบี่
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
17. เขาศูนย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยมากที่สุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ภายในสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรคมนาคมบนยอดเขาสูงมากกว่า 500 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาบริวารและป่าไม้โดยรอบได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ไฮไลต์ของที่นี่คือทะเลหมอกสีขาวกว้างใหญ่ อัดแน่นคล้ายกับผืนผ้านวมสีขาวนุ่ม ๆ ผืนใหญ่ ยิ่งถ้ามีแสงพระอาทิตย์ยามเช้าทาบทอลงมา ก็จะเห็นเป็นสีเหลืองส้มอ่อน ๆ ไล่ฉาบทาไปตามลอนหมอก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีจุดกางเต็นท์ไว้บริการ
- ที่ตั้ง : ตำบลกะเปียด อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี
- เฟซบุ๊ก : เขาศูนย์แคมป์ปิ้ง Khao Soon Camping
หมู่บ้านบริเวณเชิงเทือกเขาหลวง อันเป็นเทือกเขาสูงใหญ่และมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ จึงทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีอากาศบริสุทธิ์สดชื่น จนได้ฉายาว่าเป็นหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย ไม่เพียงเท่านั้นหมู่บ้านแห่งนี้ยังงดงามไปด้วยวิวทิวทัศน์ของยอดเขาหลวง ป่าไม้เขียวขจี มีลำธารใสไหลผ่านกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านใจดีน่ารัก อยู่กันอย่างเรียบง่าย เป็นเสน่ห์ที่ทำให้คีรีวงน่ามาเที่ยวพักผ่อน ปัจจุบันมีทั้งโฮมสเตย์ ร้านอาหาร และร้านกาแฟบรรยากาศดีเปิดให้บริการหลายแห่ง
- ที่ตั้ง : ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
19. วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช
พุทธศาสนสถานที่สำคัญของภาคใต้ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนครศรีธรรมราช เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาหลายร้อยปี ตั้งแต่สมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ พระบรมธาตุเจดีย์ เจดีย์ทรงลงกา สูง 55.78 เมตร ตัวเจดีย์เป็นสีขาว มีปลียอดทองคำสวยล้ำค่า (บูรณะเมื่อ พ.ศ. 2538) มองเห็นสง่าได้จากระยะไกล นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ ให้เที่ยวชม อาทิ วิหารเขียน, วิหารพระทรงม้า (วิหารพระมหาภิเนษกรมณ์), วิหารสามจอม, วิหารโพธิ์ลังกา, วิหารคต และเจดีย์รายรอบพระบรมธาตุเจดีย์ เป็นต้น
- ที่ตั้ง : ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.
20. แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช
มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเลอ่าวไทย มีพื้นที่กว้างขวาง หากมองจากมุมสูงจะเห็นเป็นแหลมทรายรูปร่างพระจันทร์เสี้ยว มีหาดทรายทอดยาวขนานไปกับทะเลอ่าวไทย ร่มรื่นด้วยป่าสนทะเลสูงใหญ่เขียวขจี บนแหลมมีทั้งชุมชนใหญ่เกือบ 1,000 ครัวเรือน สวนผลไม้ ชายหาด และจุดชมวิวสวย ๆ โดยจุดที่เป็นไฮไลต์จะอยู่ที่บริเวณปลายสุดของแหลมตะลุมพุก ซึ่งมีศาลาและหอชมวิวสูงให้ได้นั่งชมวิวท้องทะเลและป่าสวย ๆ กว้างใหญ่รอบด้าน
- ที่ตั้ง : ตำบลแหลมตะลุมพุก อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
21. สถานีรถไฟกันตัง จังหวัดตรัง
สถานีรถไฟสถานีสุดท้ายของเส้นทางรถไฟสายใต้ฝั่งอันดามัน โดดเด่นด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิกตามแบบสมัยรัชกาลที่ 6 มีลักษณะเป็นเรือนไม้ปั้นหยาสีเหลืองมัสตาร์ดตัดกับสีน้ำตาล ตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม และยังคงเปิดใช้งานอยู่ในปัจจุบัน สามารถไปเยี่ยมชมและถ่ายรูปชิค ๆ ได้ทุกวัน
- ที่ตั้ง : ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน
22. ทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง
ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา และจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีไฮไลต์สำคัญก็คือ ทะเลสาบขนาดใหญ่ มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยพืชน้ำและนกนานาชนิด กิจกรรมยอดฮิตของที่นี่จึงกลายเป็นการนั่งเรือชมนก และการชมทะเลบัวแดงที่ออกดอกบานสะพรั่งในยามเช้าไปทั่วผืนน้ำ นอกจากนี้การนั่งเรือเที่ยวชมทะเลสาบ ยังได้ชมวิวสวย ๆ โดยรอบ พร้อมกับชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อยู่โดยรอบทะเลสาบด้วย
- ที่ตั้ง : ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน การชมทะเลบัวแดงควรมาช่วงเช้าตรู่
23. สะพานเอกชัย จังหวัดพัทลุง
มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 5.5 กิโลเมตร สร้างทอดข้ามผ่านทะเลสาบในทะเลน้อยช่วงตำบลพนางตุงไปยังตำบลทะเลน้อยของจังหวัดพัทลุง มุ่งหน้าสู่ตำบลบ้านขาว อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ความน่าสนใจของสะพานแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ความยาวเท่านั้น แต่ยังน่าสนใจด้วยวิวทิวทัศน์สวย ๆ ทั้งสองฟากฝั่งของทะเลสาบ มองเห็นเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่ บางช่วงมีฝูงวัวฝูงควายเล่นน้ำ ชาวบ้านล่องเรือออกหาปลา เป็นภาพที่ดูสบายตา มีจุดจอดรถให้นักท่องเที่ยวแวะข้างทางเพื่อถ่ายรูปสวย ๆ ด้วย
- ที่ตั้ง : อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอด
เป็นการล่องแก่งในคลองน้ำใส ซึ่งเป็นคลองที่มีต้นน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส จึงสามารถทำการล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี โดยการล่องแก่งที่นี่จะอยู่เพียงระดับ 2-3 ไม่อันตรายเท่าไร สามารถล่องแก่งได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ระยะทางทั้งหมดประมาณ 5-6.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าจะพักที่รีสอร์ตไหน พอล่องมาถึงหน้ารีสอร์ตเจ้าหน้าที่ก็จะพาขึ้นที่ท่าน้ำของรีสอร์ตนั้น ๆ
- ที่ตั้ง : ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เที่ยวตลอดทั้งปี
25. เมืองเก่าสงขลา
นอกจากนี้ในย่านนี้ยังเป็นย่านที่มีร้านอาหารอร่อย ๆ ขึ้นชื่อของเมืองสงขลาอยู่หลายแห่ง อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเมืองเก่า ถนนนางงาม, ร้านแต้เฮี้ยงอิ๊ว, ก๋วยเตี๋ยวหางหมู, ก๋วยเตี๋ยวใต้โรงงิ้ว, ไอติมโบราณ บันหลีเฮง, ไอศกรีมโอ่ง, เกียดฟั่ง, ร้านส้มตำเก้าห้อง, ร้านป้าจวบ เถ้าคั่ว, ใต้ฟ้าเย็นตาโฟ และข้าวต้มปลาเจ้นิ เป็นต้น
ที่ตั้ง : ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา
26. สวนสัตว์สงขลา
สวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ อยู่ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปัจจุบันมีสัตว์หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกวาง, เสือโคร่ง, หมี, ยีราฟ, เสือขาว, ม้าลาย, ช้าง และลิง เป็นต้น และยังมีการแสดงสัตว์ให้ชมด้วย ทั้งการแสดงความสามารถของแมวน้ำ, การแสดงให้อาหารเสือ และการแสดงวิถีชีวิตสัตว์ป่า เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสวนน้ำบนภูเขาเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งสามารถชมวิวเมืองสงขลาได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีเครื่องเล่นให้ร่วมสนุกเพียบ
- ที่ตั้ง : ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา
- เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.
- เว็บไซต์ : songkhla.zoothailand.org
- เฟซบุ๊ก : สวนสัตว์สงขลา Songkhla zoo
เห็นไหมว่ามาเที่ยวใต้ก็ไม่ได้มีแค่ทะเลเท่านั้น จะไปเที่ยวที่เที่ยวภูเขาก็ได้ หรือที่เที่ยวประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมก็ดี เที่ยวได้ทุกวัย โดนใจคนทุกกลุ่ม เอาเป็นว่าถ้าวันหยุดหน้าไปรู้ไปไหนดี ก็ลองพุ่งตรงมาเที่ยวใต้กันนะ :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
ททท., park.dnp.go.th, thailandtourismdirectory.go.th, เฟซบุ๊ก ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด, เขาศูนย์แคมป์ปิ้ง Khao Soon Camping, m-culture.go.th, museumthailand.com, songkhla.zoothailand.org, สวนสัตว์สงขลา Songkhla zoo