จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าฝน เฝ้าหมอกสายหมอกลอยไปมา ท่ามกลางขุนเขาเขียวขจี ทั้งสวยและมีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูหมอกช่วงหน้าหนาวเลยทีเดียว
ก่อนที่จะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ เราขอสะกิดเพื่อน ๆ ให้เตรียมตัวออกเดินทางไปล่าทะเลหมอกฤดูฝนกันซะหน่อย หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า "หน้าฝนมีทะเลหมอกกับเขาด้วยเหรอ ?" หรือ "อ้าว ! ทะเลหมอกไม่ได้มีแต่ฤดูหนาวเหรอ ?" จริง ๆ แล้วมีนะคะ จะต่างกันก็แค่ตรงที่ทะเลหมอกฤดูฝนจะลอยขาวหม่นท่ามกลางละอองไอฝน สวยแปลกตาไม่แพ้ทะเลหมอกหน้าหนาว วันนี้เราเลยมีจุดชมวิวทะเลหมอกฤดูฝนหลายแบบหลายสไตล์มาแนะนำกัน ใครที่มองหาที่เที่ยวหน้าฝน อยากเห็นทะเลหมอกสวย ๆ อยู่ตรงหน้า...ไปดูกัน
1. ผาเก็บตะวัน จังหวัดปราจีนบุรี
ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติทับลาน ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอกสวยใกล้กรุงเทพฯ พร้อมกับแสงพระอาทิตย์ยามลับขอบฟ้าในช่วงเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาว จะสวยงามด้วยเสน่ห์ทะเลหมอก และความเขียวขจีของป่าไม้ในหน้าฝน ทั้งยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุก และสร้างประโยชน์แก่ผืนป่า โดยการยิงเมล็ดพันธุ์พืชด้วยหนังสติ๊ก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมกางเต็นท์บริเวณที่เห็นวิวทิวทัศน์ชัดเจน มีบริการห้องน้ำ รวมไปถึงมีลานจอดรถสะดวกสบายเช่นเดียวกัน
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 1 ถนนกบินทร์บุรี-ปักธงชัย ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 037 21 0340, 092 550 0172 (อุทยานแห่งชาติทับลาน)
2. ช่องเย็น จังหวัดกำแพงเพชร
ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เป็นจุดสูงสุดของถนนคลองจาน-อุ้งผาง มีลักษณะเป็นช่องเขาที่มีลมพัดผ่านตลอดเวลา เป็นแหล่งดูนกและพรรณไม้ดอกนานาชนิด นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสไอดินและกลิ่นฝน ป่าบริสุทธิ์ที่รอคอยให้คุณได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ เหมาะมากกับคนที่หลงรักต้นไม้ใบหญ้า หลงรักขุนเขา หลงรักสายหมอก หลงรักความเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปยังลานกางเต็นท์ได้อย่างสะดวกสบาย
ที่ตั้ง : ตำบลปางตาไว อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร
เบอร์โทรศัพท์ : 090 457 9291 (อุทยานแห่งชาติแม่วงก์)
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
3. หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ
หนึ่งในจุดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของภูสิงห์ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู การได้ไปชมปลาวาฬกลางป่าใหญ่ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะได้ชมกับความอลังการของทะเลหมอกแบบจัดเต็ม พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยความชุ่มชื่น ต้นไม้ใบหญ้ามีความเขียวชอุ่ม ไปยืนถ่ายรูปเท่ๆ โดยมีแบ็กกราวด์เป็นหมอกหน้าฝน รับรองว่าฟินสุด ๆ กันเลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ตำบลโคกก่อง อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ
เบอร์โทรศัพท์ : 042 325 406-7 (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี)
4. ภูป่าเปาะ จังหวัดเลย
ความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ อยู่ที่จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูหอ โดยมีจุดชมวิวอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 จุด แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักชอบขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ 4 ซึ่งจำเป็นต้องเดินเท้าไต่ความสูงขึ้นไปประมาณ 200 เมตร โดยต้องผ่านป่าเล็ก ๆ ขึ้นไปโผล่ยังจุดชมวิว โดยในช่วงของฤดูฝน ถ้ามายังจุดชมวิวในช่วงเช้า นักท่องเที่ยวจะได้เจอกับ หมอกลอยปกคลุมอยู่เหนือยอดภูหอ โดยจุดชมวิวนี้ ยังสามารถชมพระอาทิตย์ได้ทั้งขึ้นและตกในจุด จุดเดียว
ที่ตั้ง : บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย
เบอร์โทรศัพท์ :. 042 812 812 (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย)
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก TAT Loei Office
5. ภูเตาโปง จังหวัดเลย
หลายคนน่าจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อกับ "ภูเตาโปง" เสียเท่าไร ด้วยเพราะที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ของอำเภอด่านซ้าย ความสวยงามและน่าสนใจของภูเตาโปง นั่นคือ รูปร่างหินแปลกตา ตั้งตระหง่านท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีในช่วงฤดูฝน มีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การตื่นมาชมทะเลหมอก ได้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน ท่ามกลางหมู่ดาวระยิบระยับ เรื่อยยาวไปจนถึงเวลาประมาณสิบโมงเช้า ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมเต็นท์ ถุงนอน และเสบียงอาหารมาเอง ด้วยเพราะด้านบนไม่มีร้านค้าไว้คอยบริการ
ที่ตั้ง : ตำบลนาหอ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
เบอร์โทรศัพท์ : 095 730 3433
เว็บไซต์ : putaopong.com หรือเฟซบุ๊ก ภูเตาโปง ป่าชุมชนบ้านบุ่งกุ่ม
6. เขาศูนย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
อีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอก ณ แดนใต้ แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เคยมีการขุดเจาะเหมืองแร่ และถูกสั่งปิดไป จนเวลาล่วงเลยผ่านไป และมีการตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ จนมีชาวบ้านขึ้นมาเที่ยว และเกิดการพัฒนากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เมื่อไปถึงด้านบนของจุดชมวิว รับรองเลยว่านักท่องเที่ยวจะต้องตื่นเต้นกับวิวทะเลหมอกสวย ๆ ที่ทั้งใกล้และหนา ลอยคลอเคลียขุนเขา โดยมีลานกว้างเป็นจุดกางเต็นท์ แถมยังมีห้องอาบน้ำ ร้านค้าไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ที่ตั้ง : อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
เบอร์โทรศัพท์ : 075 355 121 (องค์การบริหารส่วนตำบลไม้เรียง)
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก เขาศูนย์แคมป์ปิ้ง Khao Soon Camping
7. ควนนกเต้น จังหวัดพัทลุง
จุดชมวิวทะเลหมอกอีกหนึ่งจุดของภาคใต้ นักท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจไปกับทะเลหมอกที่ลอยละล่องท่ามกลางทิวเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาช่วงฟ้าหลังฝน หมอกจะยิ่งลงจัด ทั้งยังมีร้านกาแฟเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งจิบ พร้อมกับมองดูวิวทะเลหมอก และถึงแม้เส้นทางขึ้นมายังจุดชมวิวอาจจะลำบากอยู่เสียหน่อย (เพราะต้องใช้รถเคลื่อนขับสี่ล้อ) แต่รับรองเลยว่าภาพเบื้องหน้าที่เห็นจะทำให้คุณหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพลินกับกับเสพวิวสวย ๆ แบบจุใจ
ที่ตั้ง : ตำบลคลองทรายขาว อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง
เบอร์โทรศัพท์ : 083 891 8187
เว็บไซต์ : kuannokten.com หรือเฟซบุ๊ก จุดชมวิวควนนกเต้น @พัทลุง
8. เขาจังโหลน จังหวัดนครศรีธรรมราช
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของตำบลกรุงชิง ตื่นตากับการชมทะเลหมอกสวย ๆ ในตอนเช้า ชมพระอาทิตย์ จิบกาแฟเคล้าสายหมอก สูดอากาศอันบริสุทธิ์ โดนตลอดสองข้างทางจะได้พบกับวิถีชีวิตของชาวสวนยางพาราท่ามกลางสายหมอกอันเย็นสบาย ทะเลหมอกเขาจังโหลนสามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางโดยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งทางกลุ่มวิสาหกิจการท่องเที่ยวเชิงผสมผสานได้จัดไว้บริการนักท่องเที่ยว
ที่ตั้ง : หมู่ 3 บ้านพิตำ ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช
เบอร์โทรศัพท์ : 090 815 7584 (ประธานกลุ่มวิสาหกิจการท่องเที่ยวเชิงผสมผสาน)
9. เขาโปกโล้น จังหวัดพิษณุโลก
ใครรู้ตัวว่าเป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ต้องมาที่ "เขาโปกโล้น" เพราะที่นี่นักท่องเที่ยวจะสัมผัสทะเลหมอกอย่างใกล้ชิด โดยเดินขึ้นไปสู่ยอดเขาเพียง 700 เมตร นักท่องเที่ยวก็จะได้สัมผัสกับหน้าผาสวยงาม มีลักษณะเป็นลานหินแก่ง ในช่วงนี้ตอนเช้าจะเห็นทะเลหมอกไหลจากหัวหมู่บ้านไปจนท้ายหมู่บ้าน เป็นภาพที่สวยงามจับตา ส่วนใหญ่จะปรากฏตั้งแต่ช่วงเวลาตีห้าเรื่อยไปจนถึงเวลาประมาณแปดโมงเช้า ขณะเดียวกันก็สามารถมาเที่ยวชมทะเลหมอกไปจนสิ้นฤดูหนาวทีเดียว
ที่อยู่ : ตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
เบอร์โทรศัพท์ : 055 00 9808 (องค์การบริหารส่วนตำบลนครชุม)
จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้แบบ 360 องศา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ กิโลเมตรที่ 32 เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ขึ้นไปเต็มอิ่มกับการชมทะเลหมอกแบบหนา ๆ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด เพราะหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นไม่เกิน 9 โมงเช้าทะเลหมอกก็จะค่อย ๆ จางหายไป เหลือไว้แต่เพียงผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่
ทั้งนี้บริเวณจุดชมมวิวมีทั้งลานกางเต็นท์ ที่จอดรถ ร้านค้า และร้านอาหาร คอยให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่มากมาย และเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดยะลา จึงได้จัดทำสกายวอล์กทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2563
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเลยนะคะว่าทะเลหมอกฤดูฝนก็สวยงามและมีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูหนาวเลยจริง ๆ อยู่ที่ว่าคุณจะเปิดใจลองยอมเปียกฝน เพื่อไปพบเจอกับธรรมชาติสวย ๆ อย่างนี้หรือเปล่าเท่านั้นเอง ลองหาวันหยุดว่าง ๆ แล้วออกไปเชยชมทะเลหมอกฤดูฝนด้วยกันนะคะ ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแม่วงก์, putaopong.com, เฟซบุ๊ก ภูเตาโปง ป่าชุมชนบ้านบุ่งกุ่ม, เฟซบุ๊ก เขาศูนย์แคมป์ปิ้ง Khao Soon Camping, kuannokten.com, เฟซบุ๊ก จุดชมวิวควนนกเต้น @พัทลุง, เฟซบุ๊ก TAT Loei Office
1. ผาเก็บตะวัน จังหวัดปราจีนบุรี
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 1 ถนนกบินทร์บุรี-ปักธงชัย ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 037 21 0340, 092 550 0172 (อุทยานแห่งชาติทับลาน)
2. ช่องเย็น จังหวัดกำแพงเพชร
ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เป็นจุดสูงสุดของถนนคลองจาน-อุ้งผาง มีลักษณะเป็นช่องเขาที่มีลมพัดผ่านตลอดเวลา เป็นแหล่งดูนกและพรรณไม้ดอกนานาชนิด นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสไอดินและกลิ่นฝน ป่าบริสุทธิ์ที่รอคอยให้คุณได้มาสัมผัสกับธรรมชาติ เหมาะมากกับคนที่หลงรักต้นไม้ใบหญ้า หลงรักขุนเขา หลงรักสายหมอก หลงรักความเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปยังลานกางเต็นท์ได้อย่างสะดวกสบาย
ที่ตั้ง : ตำบลปางตาไว อำเภอปางศิลาทอง จังหวัดกำแพงเพชร
เบอร์โทรศัพท์ : 090 457 9291 (อุทยานแห่งชาติแม่วงก์)
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
3. หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ
หนึ่งในจุดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของภูสิงห์ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู การได้ไปชมปลาวาฬกลางป่าใหญ่ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะได้ชมกับความอลังการของทะเลหมอกแบบจัดเต็ม พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยความชุ่มชื่น ต้นไม้ใบหญ้ามีความเขียวชอุ่ม ไปยืนถ่ายรูปเท่ๆ โดยมีแบ็กกราวด์เป็นหมอกหน้าฝน รับรองว่าฟินสุด ๆ กันเลยทีเดียว
ที่ตั้ง : ตำบลโคกก่อง อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ
เบอร์โทรศัพท์ : 042 325 406-7 (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี)
4. ภูป่าเปาะ จังหวัดเลย
ภาพจาก KOKTARO / Shutterstock.com
ความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ อยู่ที่จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูหอ โดยมีจุดชมวิวอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 จุด แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักชอบขึ้นไปยังจุดชมวิวที่ 4 ซึ่งจำเป็นต้องเดินเท้าไต่ความสูงขึ้นไปประมาณ 200 เมตร โดยต้องผ่านป่าเล็ก ๆ ขึ้นไปโผล่ยังจุดชมวิว โดยในช่วงของฤดูฝน ถ้ามายังจุดชมวิวในช่วงเช้า นักท่องเที่ยวจะได้เจอกับ หมอกลอยปกคลุมอยู่เหนือยอดภูหอ โดยจุดชมวิวนี้ ยังสามารถชมพระอาทิตย์ได้ทั้งขึ้นและตกในจุด จุดเดียว
ที่ตั้ง : บ้านผาหวาย ตำบลปวนพุ อำเภอหนองหิน จังหวัดเลย
เบอร์โทรศัพท์ :. 042 812 812 (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเลย)
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก TAT Loei Office
5. ภูเตาโปง จังหวัดเลย
หลายคนน่าจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อกับ "ภูเตาโปง" เสียเท่าไร ด้วยเพราะที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ของอำเภอด่านซ้าย ความสวยงามและน่าสนใจของภูเตาโปง นั่นคือ รูปร่างหินแปลกตา ตั้งตระหง่านท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีในช่วงฤดูฝน มีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่การตื่นมาชมทะเลหมอก ได้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน ท่ามกลางหมู่ดาวระยิบระยับ เรื่อยยาวไปจนถึงเวลาประมาณสิบโมงเช้า ทั้งนี้นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมเต็นท์ ถุงนอน และเสบียงอาหารมาเอง ด้วยเพราะด้านบนไม่มีร้านค้าไว้คอยบริการ
ที่ตั้ง : ตำบลนาหอ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
เบอร์โทรศัพท์ : 095 730 3433
เว็บไซต์ : putaopong.com หรือเฟซบุ๊ก ภูเตาโปง ป่าชุมชนบ้านบุ่งกุ่ม
6. เขาศูนย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
อีกหนึ่งจุดชมวิวทะเลหมอก ณ แดนใต้ แต่เดิมพื้นที่แห่งนี้เคยมีการขุดเจาะเหมืองแร่ และถูกสั่งปิดไป จนเวลาล่วงเลยผ่านไป และมีการตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ จนมีชาวบ้านขึ้นมาเที่ยว และเกิดการพัฒนากลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เมื่อไปถึงด้านบนของจุดชมวิว รับรองเลยว่านักท่องเที่ยวจะต้องตื่นเต้นกับวิวทะเลหมอกสวย ๆ ที่ทั้งใกล้และหนา ลอยคลอเคลียขุนเขา โดยมีลานกว้างเป็นจุดกางเต็นท์ แถมยังมีห้องอาบน้ำ ร้านค้าไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ที่ตั้ง : อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
เบอร์โทรศัพท์ : 075 355 121 (องค์การบริหารส่วนตำบลไม้เรียง)
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก เขาศูนย์แคมป์ปิ้ง Khao Soon Camping
7. ควนนกเต้น จังหวัดพัทลุง
ภาพจาก kuannokten.com
จุดชมวิวทะเลหมอกอีกหนึ่งจุดของภาคใต้ นักท่องเที่ยวจะตื่นตาตื่นใจไปกับทะเลหมอกที่ลอยละล่องท่ามกลางทิวเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาช่วงฟ้าหลังฝน หมอกจะยิ่งลงจัด ทั้งยังมีร้านกาแฟเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งจิบ พร้อมกับมองดูวิวทะเลหมอก และถึงแม้เส้นทางขึ้นมายังจุดชมวิวอาจจะลำบากอยู่เสียหน่อย (เพราะต้องใช้รถเคลื่อนขับสี่ล้อ) แต่รับรองเลยว่าภาพเบื้องหน้าที่เห็นจะทำให้คุณหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพลินกับกับเสพวิวสวย ๆ แบบจุใจ
ที่ตั้ง : ตำบลคลองทรายขาว อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง
เบอร์โทรศัพท์ : 083 891 8187
เว็บไซต์ : kuannokten.com หรือเฟซบุ๊ก จุดชมวิวควนนกเต้น @พัทลุง
8. เขาจังโหลน จังหวัดนครศรีธรรมราช
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของตำบลกรุงชิง ตื่นตากับการชมทะเลหมอกสวย ๆ ในตอนเช้า ชมพระอาทิตย์ จิบกาแฟเคล้าสายหมอก สูดอากาศอันบริสุทธิ์ โดนตลอดสองข้างทางจะได้พบกับวิถีชีวิตของชาวสวนยางพาราท่ามกลางสายหมอกอันเย็นสบาย ทะเลหมอกเขาจังโหลนสามารถชมทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี โดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางโดยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งทางกลุ่มวิสาหกิจการท่องเที่ยวเชิงผสมผสานได้จัดไว้บริการนักท่องเที่ยว
ที่ตั้ง : หมู่ 3 บ้านพิตำ ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช
เบอร์โทรศัพท์ : 090 815 7584 (ประธานกลุ่มวิสาหกิจการท่องเที่ยวเชิงผสมผสาน)
9. เขาโปกโล้น จังหวัดพิษณุโลก
ใครรู้ตัวว่าเป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ต้องมาที่ "เขาโปกโล้น" เพราะที่นี่นักท่องเที่ยวจะสัมผัสทะเลหมอกอย่างใกล้ชิด โดยเดินขึ้นไปสู่ยอดเขาเพียง 700 เมตร นักท่องเที่ยวก็จะได้สัมผัสกับหน้าผาสวยงาม มีลักษณะเป็นลานหินแก่ง ในช่วงนี้ตอนเช้าจะเห็นทะเลหมอกไหลจากหัวหมู่บ้านไปจนท้ายหมู่บ้าน เป็นภาพที่สวยงามจับตา ส่วนใหญ่จะปรากฏตั้งแต่ช่วงเวลาตีห้าเรื่อยไปจนถึงเวลาประมาณแปดโมงเช้า ขณะเดียวกันก็สามารถมาเที่ยวชมทะเลหมอกไปจนสิ้นฤดูหนาวทีเดียว
ที่อยู่ : ตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
เบอร์โทรศัพท์ : 055 00 9808 (องค์การบริหารส่วนตำบลนครชุม)
ทั้งนี้บริเวณจุดชมมวิวมีทั้งลานกางเต็นท์ ที่จอดรถ ร้านค้า และร้านอาหาร คอยให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่มากมาย และเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดยะลา จึงได้จัดทำสกายวอล์กทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2563
ที่อยู่ : ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
เฟซบุ๊ก : ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลาไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเลยนะคะว่าทะเลหมอกฤดูฝนก็สวยงามและมีเสน่ห์ไม่แพ้ฤดูหนาวเลยจริง ๆ อยู่ที่ว่าคุณจะเปิดใจลองยอมเปียกฝน เพื่อไปพบเจอกับธรรมชาติสวย ๆ อย่างนี้หรือเปล่าเท่านั้นเอง ลองหาวันหยุดว่าง ๆ แล้วออกไปเชยชมทะเลหมอกฤดูฝนด้วยกันนะคะ ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแม่วงก์, putaopong.com, เฟซบุ๊ก ภูเตาโปง ป่าชุมชนบ้านบุ่งกุ่ม, เฟซบุ๊ก เขาศูนย์แคมป์ปิ้ง Khao Soon Camping, kuannokten.com, เฟซบุ๊ก จุดชมวิวควนนกเต้น @พัทลุง, เฟซบุ๊ก TAT Loei Office