ได้รับเสียงตอบรับดีทีเดียวค่ะ สำหรับ "งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว" ที่จัดขึ้น ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ถึง 11 มีนาคม 2561 (วันอาทิตย์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 10.30-21.00 น. วันศุกร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 10.30-22.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 9-11 มีนาคม 2561 งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว จะขยายเวลาปิดงาน จากเดิมเวลา 21.00 น. เป็นเวลา 23.00 น.
โดยมีคอนเซ็ปต์การจัดงานที่โดดเด่น เนรมิตบรรยากาศให้ย้อนกลับไปสมัยรัชกาลที่ 5 ทั้งซุ้มต่าง ๆ และการแต่งกายของคนร่วมงานก็พาให้ย้อนไปสู่โลกสมัยก่อนได้ไม่ผิดเพี้ยน กระปุกดอทคอมก็มีโอกาสไปร่วมงานมาแล้ว จึงอยากจะมาแบ่งปันมุมเด็ดห้ามพลาดในงานนี้ เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวไปเที่ยวกัน
ก่อนเข้างานอุ่นไอรัก คลายความหนาว เรามาเตรียมตัวให้พร้อมสักนิดค่ะ เป็นที่ทราบกันดีว่างานนี้มีการขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมงานแต่งกายด้วยชุดไทย เพราะฉะนั้นก็จัดเต็มกันมาได้เลยค่ะ เรามีเพื่อนแต่งชุดสวย ๆ เดินเที่ยวงานเพียบเลย
สำหรับใครที่ไม่มีก็แต่งกายด้วยผ้าไทยหรือชุดสุภาพมาก็ได้ค่ะ แต่ถ้าหากไม่มีจริง ๆ ที่ด้านหน้างานตรงทางเข้าก็จะมีซุ้มคัดกรองเครื่องแต่งกาย หากเจ้าหน้าที่เห็นว่าไม่เหมาะสมก็จะมีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนค่ะ กางเกงขาสั้น กระโปรงสั้น ยีนส์ขาขาด เสื้อแขนกุด เสื้อรัดรูป งดใส่สำหรับงานนี้ไปก่อนนะคะ ^^ แต่ถ้าได้เข้าไปในงานแล้ว อยากจะใส่ชุดไทยกับเขาบ้าง ในโซนสนามเสือป่า ก็จะมีบูธให้เช่าชุดไทยอยู่ค่ะ คนละ 250 บาท เช่าใส่ได้ทั้งวันเลย
ข้อต่อมาที่หลายคนสงสัย ก็คือต้องพกบัตรประชาชนไปด้วยหรือไม่ คำตอบคือต้องพกไปค่ะ เพราะจะได้คัดกรองบุคคลได้ง่าย และเป็นการป้องกันการก่อเหตุร้ายในงานด้วย แต่ถ้าใครลืมจริง ๆ ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ค่ะ แล้วดำเนินการตามที่เจ้าหน้าที่บอก
เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม ผ่านจุดคัดกรองมาได้แล้ว เรามาดูจุดห้ามพลาดและสิ่งที่น่าสนใจภายในงานกันค่ะ จะมีมุมไหนต้องไปถ่ายรูป ไปเช็กอินบ้าง ตามเราไปดูกัน
1. ภาพวาดริมกำแพง และป๊อปอัพโซนกรมประชาสัมพันธ์
2. เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์จำลอง
3. สวนดอกไม้หน้าพระบรมรูปทรงม้า และพระที่นั่งอนันตสมาคม
สีสันแห่งงานนี้ต้องยกให้กับสวนดอกไม้สวย ๆ หลากสีสันบริเวณด้านหน้าพระบรมรูปทรงม้า และพระที่นั่งอนันตสมาคม มีการนำดอกไม้นานาชนิด หลากหลายสายพันธุ์มาจัดตกแต่งให้เป็นสวนดอกไม้สวย ๆ บรรยากาศเหมือนสวนดอกไม้ในต่างประเทศเลยทีเดียว เพราะมีพระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งเป็นอาคารทรงยุโรปอยู่ด้านหลัง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีดอกไม้สีสันสดใสบานสะพรั่งละลานตา บอกเลยว่าควรเตรียมเมมโมรี่การ์ดมาเผื่อเยอะ ๆ เพราะยังมีโซนน่าถ่ายรูปอีกเพียบ และถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นตำรวจใส่ชุดโบราณประจำอยู่ตามจุดต่าง ๆ สามารถเข้าไปขอถ่ายรูปได้ค่ะ และถ้ามาตรงจังหวะก็จะได้เห็นการเปลี่ยนเวรด้วย
4. นิทรรศการรัชกาลที่ 5 ช่วงต้นถึงกลางรัชสมัย
และในอาคารเหล่านี้ก็จะจัดแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาให้เราได้ศึกษากัน ที่สำคัญทั้งด้านในและด้านนอกอาคารนั้นมีการออกแบบอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมด แล้วก็มีกิจกรรมให้ทำกันอย่างสนุกสนาน
5. สตูดิโอถ่ายภาพโบราณ
6. โซนนิทรรศการรัชกาลที่ 9 ในช่วงต้นถึงปลายรัชสมัย
โซนนิทรรศการรัชกาลที่ 9 จะอยู่ด้านในสุดของพระลานพระราชวังดุสิต หากหันหน้าเข้าพระที่นั่งอนันตสมาคม ก็จะอยู่ทางด้านขวามือ โซนนี้จะจัดแสดงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีนาข้าวจำลอง บ้านเรือนไทยจำลองให้ได้เดินเที่ยวชมและถ่ายรูป เหมาะมาก ๆ สำหรับการพาเด็ก ๆ มาเดินโซนนี้ เพราะการจัดนิทรรศการจะจัดแบบให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เชื่อว่าทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ๆ จะสนุกกับการเรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวง รัชกาลที่ 9
7. โซนอาหารอร่อยเด็ดกว่า 30 ร้านค้า
มีของกินให้ตะลุยเดินชิมแบบเลือกไม่ถูกเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นผัดไทย, ผัดหมี่โบราณ, ข้าวขาหมู, กระเพาะปลา, เปาะเปี๊ยะทอด, ขนมไชก้วย, ขนมเบื้องโบราณ, โรตีทอด, ลูกชิ้นปิ้ง, น้ำพริกผักต้ม, ส้มตำ, ข้าวจี่, ก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณ, ข้าวขาหมู, ข้าวเหนียวมะม่วง, ขนมข้าวเกรียบปากหม้อ, สาคูไส้หมู, มะม่วงน้ำปลาหวาน, ผลไม้ดอง-แช่อิ่ม, ขนมจีนน้ำยา-น้ำเงี้ยว, ขนมไหมทอง, นมโคสด, น้ำมะพร้าวสด, ผลไม้สด และอื่น ๆ อีกมากมาย เรื่องที่นั่งกินก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะมีทั้งโต๊ะ และลานให้นั่งกินกันอย่างสบายใจ อ่อย...อยากไปเที่ยวทุกวันเลย :)
8. ต้นกัลปพฤกษ์
9. ททท. เธียเตอร์
10. เวทีการแสดง
11. โซนเวิร์กช็อปงานฝีมือแบบชาววัง
เป็นโซนที่ฮอตมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าไปเย็นหน่อย ก็แทบไม่เหลือของให้ได้ลองทำกันแล้ว ในโซนนี้จะมีช่างงานฝีมือจากโรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิงและโรงเรียนช่างฝีมือในวังชายมาคอยสอนให้ลองทำงานศิลปะในราชสำนักด้านต่าง ๆ มีการจัดแสดงงานฝีมือประเภทต่าง ๆ อาทิ การร้อยดอกไม้สด การปักผ้าสะดึงแบบโบราณในราชสำนัก การปักพุ่มแบบโบราณ การทำเครื่องหอมโดยสาธิตการหยอดแป้งร่ำ การทำอาหารตำรับชาววัง งานแกะสลักผักและผลไม้ เป็นต้น
ในส่วนของกิจกรรมที่สาธิตและจัดจำหน่าย ได้แก่ ค้างคาวเผือก, ขนมเบื้องญวน, ขนมลูกชุบ, ทองม้วน, จีบตัวนก, จ่ามงกุฎ, ข้าวตู, ข้าวตังเมี่ยงลาว, สัมปันนี, หยกมณี, ข้าวห่อแปลงโฉม, สะเต๊ะลือ, ข้าวคลุกกะปิ, ข้าวมันส้มตำ ขนมจีนน้ำพริก ฯลฯ ซึ่งจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการทำกันไป ส่วนที่ให้ได้ลองทำกันก็มีมาลัยห่วงรัก มาลัยตุ้มชำร่วย ตัวกระแตเกาะกิ่งไม้ (กิจกรรมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกวัน และเสียค่าใช้จ่ายค่าอุปกรณ์ในการเรียนท่านละ 100 บาท) ผู้ที่สนใจจะต้องลงทะเบียนก่อนนะคะ บริเวณเรือนไทยหลังแรก พระลานพระราชวังดุสิตฝั่งพระที่นังอัมพรสถาน
12. ช้อปปิ้งสินค้าราคาย่อมเยาจากร้านค้าในพระบรมวงศานุวงศ์และร้านค้ารับเชิญ
1. บริเวณรอบพระลานพระราชวังดุสิต
- บริเวณหน้ารัฐสภา จำนวน 1 คัน
- บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล จำนวน 2 คัน
- บริเวณข้างวังปารุสกวัน จำนวน 1 คัน
- บริเวณริมคลองวัดเบญจมพิตรฯ จำนวน 2 คัน
2. บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต
- ฝั่งสวนอัมพร จำนวน 2 คัน
- ฝั่งสนามเสือป่า บริเวณปั๊ม ปตท. จำนวน 2 คัน, บริเวณซอกเรือนเพาะชำ จำนวน 1 คัน, บริเวณข้างโรงรถสารานุกรมไทย จำนวน 1 คัน
3. บริเวณที่จอดรถผู้เข้าร่วมงาน
- บริเวณสนามหลวง จำนวน 2 คัน
- บริเวณกองสลากเก่า จำนวน 1 คัน
นี่แค่น้ำจิ้มของงานนี้เท่านั้นนะคะ เพราะยังมีอีกหลายมุมสวย ๆ ที่ไม่อยากให้พลาด เรียกได้ว่าน่าสนใจทุกส่วนจริง ๆ ใครยังไม่ได้ไปเดินเที่ยวอย่าพลาดเชียวนะคะ สักครั้งในชีวิตไปสัมผัสกับความเป็นไทยกลางกรุงเทพฯ กัน :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เฟซบุ๊ก อุ่นไอรัก คลายความหนาว และ โรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิง